ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 123 ทุกคนต้องสร้างบ้าน
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 123 ทุกคนต้องสร้างบ้าน
บทที่ 123 ทุกคนต้องสร้างบ้าน
……….
บทที่ 123 ทุกคนต้องสร้างบ้าน
เย่ไฉกุ้ยแทบจะหัวเราะด้วยความโมโห
เขายืนเท้าสะเอว มองเย่จื้อผิงแล้วพูดว่า “ฉันว่าสมองนายน่าจะเลอะเลือนไปแล้ว ฉันเป็นลุงของหล่อน จะสั่งสอนหล่อนไม่ได้หรือไง?”
“มีลูกสาวคนเดียวก็เลี้ยงเป็นไข่ในหิน มีแต่นายเท่านั้นแหละที่จะทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ได้”
หลี่ชุ่ยชุ่ยปกป้องลูกสาว “จิ่นเป่า อย่าไปฟังเขานะลูก”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “หนูรู้ค่ะ ไม่สนใจคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรอก”
เย่ไฉกุ้ยโกรธจัดเดินจากไป
เขาตรงไปที่บ้านพี่ชายคนโต ลากเย่จื้อเฉียงมาระบายอารมณ์อย่างบ้าคลั่งเป็นเวลาครึ่งวัน
เย่จื้อเฉียงเกาหัวแกรกๆ “จิ่นเป่าคนนี้ก็ไม่รู้จักกาลเทศะจริงๆ หล่อนถูกพ่อตามใจจนเสียคนไปแล้ว”
“ในครอบครัวที่มีแต่ลูกชาย มีลูกสาวเพียงคนเดียวแบบนี้ ก็ต้องตามใจเหมือนไข่ในหินอยู่แล้ว”
“จริงๆ แล้วน้องรองไม่ต้องโกรธหรอก หล่อนไม่ได้ไร้มารยาทกับแค่ในครอบครัวเราเท่านั้น”
“หล่อนทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้กับคนนอกด้วย ทุกคนก็ชินกันไปแล้ว นายก็ควรจะเริ่มทำใจซะแต่เนิ่นๆ”
เย่ไฉกุ้ยมองเย่จื้อเฉียงอย่างงงๆ “ทำใจ? ฉันเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับถูกเด็กคนนี้สั่งสอน แล้วบอกให้ฉันทำใจ?”
“ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ นายจะทำใจได้เหรอ?”
หลี่กุ้ยฮวานั่งอยู่ข้างนอก คิดในใจว่าฝ่ายตนก็ต้องทำใจเร็วเหมือนกัน!
ตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว!
หลี่กุ้ยฮวาเดินเข้าไปในบ้าน “น้องรอง นายอย่าไปถือสาหล่อนเลย ไม่จำเป็นหรอก”
“ตอนนี้ครอบครัวหล่อนมีเงิน แถมยังเป็นหัวหน้าทีมอีก อีกอย่าง…”
“หล่อนก็เพิ่งร่วมมือกับทีมทำแผนเลี้ยงปลาในนาข้าวเสร็จ”
“หล่อนเป็นคนโปรดของหัวหน้าหมู่บ้าน ทะเลาะกับหล่อนไปก็ไม่มีประโยชน์”
หลี่กุ้ยฮวาก็คิดเช่นเดียวกัน เธอรอให้ลูกชายของตัวเองประสบความสำเร็จ
ส่วนตอนนี้… ก็ต้องอดทนไว้!
“ช่างเถอะ พวกคุณไม่เดือดร้อนอะไรนี่ ก็เลยทำตัวเฉยกันได้” เย่ไฉกุ้ยแค่นเสียง “ลองเป็นพวกคุณเจอเรื่องแบบนี้กับตัวคงโกรธจนด่าคนไปแล้ว”
“พี่ชาย ช่วยทำอาหารให้หน่อย ฉันกำลังต่อเติมบ้าน พรุ่งนี้เช้าจะได้รีบทำ”
“ฉันซื้อเนื้อมาเยอะ เรียกเย่จู๋ที่บ้านพี่มากินด้วยกันนะ”
หลี่กุ้ยฮวาไม่พอใจ “แล้วนายจะจ่ายค่าแรงให้ฉันไหม? ไม่จ่ายก็ไม่ต้องคุยกัน”
“ฉันทำงานน้อยลงหนึ่งวัน ก็ขาดไปแปดคะแนนแรงงานเชียวนะ!”
“ถ้าชดเชยให้ฉัน ฉันก็จะไปทำอาหารให้นาย”
“พี่สะใภ้ใหญ่ พวกเราเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ทำไมต้องมาคิดบัญชีกันด้วยล่ะ?” เย่ไฉกุ้ยโมโหมากขึ้น ครอบครัวนี้ไม่มีใครทำให้สบายใจเลยสักคน
ที่แท้ทุกคนในบ้านนี้ก็แอบคิดคำนวณผลประโยชน์กันอยู่
ญาติแบบนี้ไม่มีเสียยังดีกว่า!
ในที่สุดเย่ไฉกุ้ยก็ต้องไปขอความช่วยเหลือจากหลิวต้าเม่ยผู้เป็นแม่
พอหลิวต้าเม่ยได้ยินก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ การขยายบ้านเป็นเรื่องที่คนมีความสามารถเท่านั้นถึงจะทำได้
“ได้ ฉันรับรองว่าจะไป”
“พรุ่งนี้เช้าฉันจะเรียกหลี่ชุ่ยชุ่ยให้ไปกับฉันด้วย ลองฉันได้พูดแล้ว หล่อนไม่กล้าปฏิเสธหรอก”
“น้องชายสามของแกก็เป็นคนกตัญญู ถ้าฉันไปขอด้วยตัวเอง พวกเขาคงไม่ปฏิเสธ”
เย่ไฉกุ้ยพยักหน้า “ดีครับ ในเมื่อแม่พูดแบบนี้แล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ผมซื้อของกินมาเรียบร้อยแล้ว ต้องบอกให้พวกเขามาจัดการเร็วๆ นะครับ”
“ไก่กับเป็ดยังไม่ได้ฆ่าเลย ตอนเช้าต้องต้มน้ำถอนขนอีก ค่อนข้างยุ่งยากเลย”
หลิวต้าเม่ยโบกมือไม่ใส่ใจ “มีสามีภรรยาสองคนนั่นรวมกับฉันกับเฟินฟางของบ้านแกก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
ที่บ้านของเย่เสี่ยวจิ่น
เย่จื้อผิงสงสัย “จิ่นเป่า พ่อเห็นลูทำมาหลายวันแล้ว ทำไมถึงรีบทำล่ะ?”
“หนูอยากถมบ่อน้ำหน้าบ้านทั้งหมดให้เรียบ แล้วก็ตัดต้นไผ่ทางทิศตะวันออกของบ้านทิ้งด้วย”
“เพราะพวกเราจะสร้างบ้านหลังใหญ่ ต้องใช้พื้นที่เยอะ”
ลานบ้านของเย่เหล่าซานกว้างขวางมาก
เพื่อความสะดวกในการตากข้าว จึงมีลานบ้านทั้งด้านซ้าย ขวา และด้านหน้า
ทางด้านซ้ายติดกับลำธาร ซึ่งเย่เสี่ยวจิ่นได้จัดการปลูกสตรอว์เบอร์รีไว้บ้างแล้ว
แต่ก็ยังเหลือลานบ้านใหญ่อยู่
หลี่ชุ่ยชุ่ยถือจอบ รู้สึกงุนงงสงสัย “พวกเราจะสร้างบ้านเหรอ? ตอนนี้พวกเรายังไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านนี่…”
“อีกอย่าง พวกเราก็ไม่มีทั้งไม้และเงินจ้างช่างไม้”
“รอขายปลาได้ก่อน บางทีอาจจะสร้างบ้านได้เร็วขึ้น”
เย่จื้อผิงก็พยักหน้า “ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่มีไม้ให้ซื้อหรอก แถมไม่มีช่างไม้มาทำงานให้ด้วย ทุกคนถูกจ้างไปบ้านลุงรองของลูกหมดแล้ว”
“แต่ถ้าลูกจะปรับพื้นที่ลานบ้าน ทำความสะอาดสักหน่อยก็ได้นะ อย่างน้อยก็จะดูเป็นระเบียบขึ้น”
เย่เสี่ยวจิ่นรู้ว่าพ่อแม่จะไม่เชื่อ เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก
พอถึงตอนกลางคืน ก็วุ่นวายอีกนาน
บ้านของเธอดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีจริงๆ
กอไผ่ทางทิศตะวันออกถูกโค่นทิ้งหมดแล้ว เหลือแค่เล้าไก่และเล้าเป็ดที่ยังอยู่ตรงนั้น
“พรุ่งนี้ต้องย้ายพวกมันออกไปแล้ว” เย่เสี่ยวจิ่นลูบคางพลางพูดว่า “รอพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
หลี่ชุ่ยชุ่ยนั่งอยู่หน้าจักรเย็บผ้า “จิ่นเป่า อย่าไปวุ่นวายเลย บ้านเรายังอีกนานกว่าจะได้สร้างบ้านใหม่”
เย่เสี่ยวจิ่นปีนขึ้นเตียง “พรุ่งนี้แม่จะรู้ว่าหนูไม่ได้โกหก”
หลี่ชุ่ยชุ่ยมองดูเธอหลับไป แล้วส่ายหัวอย่างจนปัญญา
วันรุ่งขึ้น เป็นเช้าที่แจ่มใส
มีเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก ทำให้หลี่ชุ่ยชุ่ยตื่นขึ้นมาทันที
หล่อนรีบสวมรองเท้าไปเปิดประตู “แม่ มาแต่เช้าตรู่แบบนี้ มีเรื่องด่วนอะไรหรือคะ?”
“เมื่อวานเจ้ารองไม่ได้บอกพวกเธอหรอกหรือ? วันนี้บ้านพวกเขาจะขยายต่อเติมบ้าน เรียกเธอกับเจ้าสามให้ไปฆ่าไก่แต่เช้า ทำไมถึงเวลานี้แล้วยังนอนอยู่อีก?”
หลิวต้าเม่ยไม่พอใจอย่างมาก รู้สึกว่าหลี่ชุ่ยชุ่ยตั้งใจขี้เกียจ
“เธอรีบไปเรียกจื้อผิงให้ไปด้วยกันเร็ว! ช่างกำลังจะมาแล้ว อาหารเช้ายังไม่มีเลย จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
หลิวต้าเม่ยชักสีหน้ารังเกียจ เกือบจะชี้หน้าด่าหลี่ชุ่ยชุ่ยอยู่แล้ว
เย่จื้อผิงได้ยินเสียงจึงสวมเสื้อออกมา “แม่ครับ ไม่กี่วันมานี้ชุ่ยชุ่ยทำเสื้อผ้าทุกคืน ทำไมแม่ถึงปลุกหล่อนแต่เช้าแบบนี้ล่ะ?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยมองไปที่เย่จื้อผิง “บ้านพี่รองขาดคนฆ่าไก่ทำอาหาร”
“แม่ครับ เมื่อวานพวกเราบอกพี่รองไปแล้วว่าไม่ว่าง ถ้าแม่จะไปช่วยก็ไปเถอะ ผมมีงานในสวนผลไม้เยอะแยะ”
“ส่วนที่ฟาร์มไก่ช่วงนี้ก็มีลูกไก่เยอะมาก ชุ่ยชุ่ยงานยุ่งมากเลย”
หลิวต้าเม่ยแค่นเสียงในลำคอ “ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนี้อีกแล้วล่ะ? ไฉกุ้ยเป็นพี่รองของพวกแก เป็นญาติสนิทของพวกแกเชียวนะ”
“ในเวลาแบบนี้พวกแกไม่ไปช่วย จะหวังให้คนนอกมาช่วยเหรอ?”
“นี่มันเป็นสิ่งที่พวกแกควรทำอยู่แล้ว ยังจะมาอิดออดอยู่ตรงนี้อีก”
เย่จื้อผิงขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “งั้นถ้าวันนี้บ้านพวกผมเสียคะแนนค่าแรงไป 18 คะแนน พี่รองจะชดเชยให้พวกเราไหมครับ?”
หลิวต้าเม่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ในแววตามีความรู้สึกผิดอยู่บ้าง
น้ำเสียงของนางอ่อนลงเล็กน้อย “บ้านพี่รองของแกกำลังขาดเงินพอดี ทำไมเธอถึงได้คิดมากขนาดนี้ล่ะ? ยังไงการสร้างบ้านครั้งนี้ แกที่เป็นน้องชายก็ต้องให้ของขวัญอยู่แล้ว ถือว่าหักลบกันไปเลยแล้วกัน”
นางยิ้มพลางพูดว่า “ทำอาหารก็คงไม่ได้ทำหลายวันหรอก ตอนนี้บ้านพวกแกมีคนทำงานเยอะแยะ ไม่ขาดแรงงานหรอก”
“ต่อไปถ้าพวกแกสร้างบ้าน พี่ชายของพวกแกก็ต้องมาช่วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว
ยิ่งพูดมาก หล่อนกลัวว่าตัวเองจะโมโหขึ้นมา
เย่จื้อผิงคิดถึงเรื่องการสร้างบ้านในช่วงปลายปี เขาหันไปมองหลี่ชุ่ยชุ่ยแล้วถาม “ชุ่ยชุ่ย คุณคิดยังไง?”
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านนอก
คนกลุ่มคนหนึ่งแบกไม้มาอย่างรีบร้อน
“พวกคุณจะสร้างบ้านใช่ไหม? ทำไมยังไม่รีบจัดการอะไรอีก?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
บ้านเขาก็จะต้องสร้างเหมือนกัน ไปหาคนอื่นช่วยแทนเถอะค่ะแม่เฒ่า
ไหหม่า(海馬)
……….