ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 106 เย่ว่านหยวนยืนกรานจะแต่งงานกับหญิงม่าย
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 106 เย่ว่านหยวนยืนกรานจะแต่งงานกับหญิงม่าย
บทที่ 106 เย่ว่านหยวนยืนกรานจะแต่งงานกับหญิงม่าย
……….
บทที่ 106 เย่ว่านหยวนยืนกรานจะแต่งงานกับหญิงม่าย
เย่ไฉกุ้ยและเซี่ยวเฟินฟางสบตากัน
เซี่ยวเฟินฟางรีบยิ้มทันที “คุณเจ้าของร้าน พวกเรามาซื้อด้วยความจริงใจนะ บ้านพวกเราอยู่ไกลมากเลย ช่วยให้ราคาที่จริงใจกับพวกเราหน่อยได้ไหม”
“ถ้าดีจริง ฉันจะแนะนำให้คนในหมู่บ้านของเรามาซื้อด้วยนะ”
ผู้จัดการร้านถอนหายใจอย่างจนปัญญา “ผมแค่เป็นคนทำงานเท่านั้น รถพวกนี้เป็นของคนอื่นเอามาวางขาย ราคาก็เป็นคนอื่นกำหนดมาแล้ว ผมไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนราคาที่เจ้าของเขาตั้งไว้หรอกนะ”
“เอาอย่างนี้ ถ้าคุณซื้อรถใหม่ ผมอาจลดราคาให้คุณได้ไม่กี่เหมา”
สีหน้าของเย่ไฉกุ้ยเริ่มมืดลง รถใหม่ราคาหนึ่งถึงสองร้อย ลดแค่ไม่กี่เหมาจะมีประโยชน์อะไร?
“ช่างมันเถอะ พวกเราไม่ซื้อแล้ว”
เขาเอามือไพล่หลัง รีบจะเดินจากไป
เซี่ยวเฟินฟางรีบวิ่งตามออกไป “คุณจะทำอะไรน่ะ เราสัญญากับลูกชายไว้แล้วนะ ยังไงก็ต้องซื้อสักคันสิ? ถ้าไม่ไหวจริงๆ เราก็ซื้อรถมือสองราคา 40 หยวนก็ได้”
“ฉันเห็นว่ารถคันนั้นภายนอกดูไม่ค่อยใหม่ แต่อะไหล่ยังดีอยู่นะ”
ในที่สุดเซี่ยวเฟินฟางก็อ้อนวอนจนอีกฝ่ายยอมลดราคาให้ 1.2 หยวน แล้วซื้อรถมาจนได้
เซี่ยวเฟินฟางดีใจมาก เข็นรถไป “จักรยานคันนี้ดีจังเลย ดูสิ สะดวกมากเลยนะ”
“สะดวกก็สะดวก แต่ก็เสียเงินไปสามสิบแปดหยวนแปดเหมาแล้ว”
เย่ไฉกุ้ยรู้สึกเจ็บปวดใจ “ยัยคนสุรุ่ยสุร่าย คุณรีบเอารถกลับไปเถอะ”
“ไม่ซื้อเสื้อผ้าให้ลูกชายแล้วเหรอ?”
“ซื้ออะไรกัน? ยังมีเงินซื้ออีกเหรอ!”
“เสียเงินตั้งมากมายไปซื้อรถมือสอง ฉันนี่มัน…”
เย่ไฉกุ้ยรู้สึกเจ็บปวดใจจนแทบตาย
เขาไม่อยากพูดอะไรแล้ว พอพูดทีไรก็รู้สึกอยากด่าคนขึ้นมาทุกที
เซี่ยวเฟินฟางกลอกตาใส่ “จะมาอารมณ์เสียใส่ใครกัน? ตอนจ่ายเงินเมื่อกี้คุณก็เป็นคนจ่ายนะ”
“คุณดูสิ ขนาดบ้านหลี่ชุ่ยชุ่ยยังมีปัญญาซื้อรถใหม่ให้ลูกชายได้ พวกเราซื้อแค่รถมือสอง ยังจะมาทำหน้าตาแบบนี้อีก”
เย่ไฉกุ้ยปวดหัวจนทนไม่ไหว “พอเถอะๆ คุณอย่าพูดอีกเลย”
“ถ้างั้นคุณไปซื้อเลย ไม่ต้องสร้างบ้าน ไม่ต้องให้ลูกชายแต่งงานก็แล้วกัน”
“ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณเอาแต่ตามใจเขา ลูกชายอายุยี่สิบแล้วยังไม่มีความสามารถอะไรเลย ต่อไปคุณก็เลี้ยงดูเขาไปทั้งชีวิตแล้วกัน”
เซี่ยวเฟินฟางโกรธจนแทบคลั่ง “แกพูดอีกคำสิ!”
สามีภรรยาทะเลาะกันตั้งแต่อยู่บนถนน
เย่ว่านหยวนรอคอยอย่างมีความสุขอยู่ที่บ้าน
ที่บ้านของเขายังมีหญิงม่ายชื่อเซี่ยหลินอยู่ด้วย พวกเขาทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกัน
“เซี่ยหลิน เธอแต่งงานกับฉันเถอะนะ สภาพครอบครัวของฉันเป็นยังไงเธอก็รู้ดีอยู่แล้ว”
“วันนี้พ่อแม่ฉันไปซื้อรถให้ฉันในเมือง พรุ่งนี้ฉันจะขี่รถพาเธอไปเที่ยวเล่น”
“ถ้าเธอมาอยู่กับฉัน แล้วคลอดลูกชายตัวอ้วนๆ สักคน รับรองว่าพ่อแม่ฉันจะต้องชอบเธอแน่ๆ”
เซี่ยหลินแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ “พ่อแม่ของนายดูถูกฉัน”
“แล้วมันเป็นไงล่ะ? พ่อแม่ฉันฟังฉันทุกเรื่อง ดูสิ ฉันบอกอยากได้รถแค่คำเดียว พวกเขาก็ไปซื้อให้ในเมืองแล้ว”
“ถ้าฉันบอกว่าจะแต่งงานกับเธอ พวกเขาจะไม่ยอมได้ยังไง?”
เซี่ยหลินไม่เหมือนกับสาวที่ไม่เคยแต่งงานมาก่อน
หล่อนมีความเป็นผู้ใหญ่ และมีเสน่ห์อยู่หลายส่วน
เย่ว่านหยวนชอบผู้หญิงแบบนี้
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปบอกพ่อแม่ของคุณสิ ให้เอาสินสอด 18 หยวน 8 เหมามาสู่ขอที่บ้านฉัน”
“บ้านฉันไม่มีสินเดิมหรอกนะ ยังไงพวกคุณก็ไม่ต้องการอยู่แล้วใช่ไหม?”
“นอกจากนี้ต้องซื้อของขวัญมาให้ครอบครัวฉันด้วย อย่าให้มันดูขี้เหนียวล่ะ”
เซี่ยหลินนับนิ้วไปพลางคำนวณไป “คุณจะมาสู่ขอเมื่อไหร่ ฉันก็จะตกลงแต่งงานกับคุณตอนนั้นแหละ”
18.8 หยวนนั้นถือเป็นสินสอดราคาแพงลิบลิ่วสำหรับในชนบท
ยิ่งไปกว่านั้นหล่อนก็เป็นแม่ม่ายแล้วด้วย
“แพงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“คุณคิดว่ามันแพงเกินไปงั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ไปแต่งงานกับคนอื่นสิ”
เย่ว่านหยวนสามารถเอาเปรียบเซี่ยหลินได้ เขาจึงยิ่งชอบหล่อนมากขึ้น
“ได้ ฉันจะไปบอกพ่อแม่”
ตอนที่สามีภรรยาเย่ไฉกุ้ยกลับมาถึงบ้าน เซี่ยหลินก็กลับไปแล้ว
เย่ว่านหยวนนอนอยู่ในผ้าห่ม นึกถึงเซี่ยหลินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างลามก
“ลูกชาย พวกเรากลับมาแล้ว”
เย่ว่านหยวนรีบลุกขึ้นทันที “พ่อแม่ครับ ซื้อรถมาแล้วเหรอครับ?”
“ซื้อแล้วๆ รถราคา 40 หยวนเชียวนะ” เซี่ยวเฟินฟางอดพูดไม่ได้ว่า “มันแพงจริงๆ เลย”
เย่ว่านหยวนกระโดดลงจากเตียงแล้วรีบออกไปดู
ตอนที่เห็นรถเขาดีใจมาก แต่พอนั่งขึ้นไปกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เขาขมวดคิ้วมองดูจุดที่สีรถลอกแล้วพูดว่า “พวกคุณโดนหลอกตอนซื้อรถหรือเปล่า? รถคันนี้ดูเก่ามากเลยนะ”
“ก็เป็นรถมือสองนั่นแหละ รถใหม่ราคาตั้ง 200 หยวน ใครจะซื้อไหวล่ะ?” เซี่ยวเฟินฟางกลอกตาอย่างรำคาญ
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ แกก็ใช้มันไปก่อน รอให้แกมีเงินเองแล้วค่อยไปซื้อรถใหม่”
เย่ว่านหยวนโมโหทันที “เย่ฉางอันยังได้ขี่รถใหม่เลย แต่พวกคุณให้ผมขี่รถมือสอง?”
“ถ้าผมขี่รถแบบนี้ออกไป ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? คุณอยากให้ผมอับอายต่อหน้าลุงสามกับคนอื่นๆ ใช่ไหม?”
เซี่ยวเฟินฟางโกรธมาก “ถ้าแกไม่เอาก็ไม่ต้องเอา มีความสามารถขนาดนั้นก็ไปซื้อเองสิ รอแกแต่งงานเมื่อไหร่ พวกเราก็จะแยกครอบครัวกัน!”
เย่ว่านหยวนเห็นแม่โกรธจริงๆ ในฐานะลูกที่พึ่งพาพ่อแม่ เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ก็ได้ รถมือสองก็รถมือสอง พวกคุณเอาเงินที่เหลืออีก 20 หยวนให้ผมหน่อย”
เซี่ยวเฟินฟางเบิกตาโพลง “แกจะเอาเงินมากขนาดนั้นไปทำอะไร?”
“ผมจะไปสู่ขอเซี่ยหลิน ทางบ้านเขาเรียกสินสอด 18 หยวน 8 เหมา บวกกับค่าของขวัญแล้ว ยังไงก็ต้อง 20 หยวนใช่ไหมล่ะ?”
เย่ไฉกุ้ยหยิบไม้ไผ่ที่พื้นขึ้นมา แล้วฟาดใส่ตัวเย่ว่านหยวน
“ไอ้ลูกชาติหมา จะไปแต่งงานกับหญิงม่าย? อย่าได้คิดเชียว!”
“พ่อแม่ครับ ผมนอนกับหล่อนไปแล้ว ผมต้องรับผิดชอบสิครับ” เย่ว่านหยวนหลบหลีกพลางตะโกน “ถ้าเกิดหล่อนท้องลูกผมขึ้นมาล่ะ!”
เซี่ยวเฟินฟางโมโหจนทรุดลงนั่งกับพื้น “บรรพบุรุษไม่คุ้มครองแล้ว เลือกแต่งงานกับหญิงม่าย นี่จะเอาชีวิตฉันไปซะแล้ว”
เย่ไฉกุ้ยฮึดฮัด “งั้นก็รอให้หล่อนคลอดลูกชายก่อนค่อยว่ากันอีกที!”
เย่ไฉกุ้ยเองก็ยอมรับหญิงม่ายไม่ได้เหมือนกัน
ถึงอย่างไรครอบครัวของพวกเขาก็เป็นคนมีหน้ามีตาในหมู่บ้าน หากได้ลูกสะใภ้เป็นหญิงม่าย พวกเขาจะเอาหน้าตาไปไว้ที่ไหน?
ลับหลังแล้วไม่รู้ว่าชาวบ้านชาวเมืองจะนินทาพวกเขากันอย่างไรบ้าง
เย่ไฉกุ้ยคิดแล้วรีบออกไปตามหาพ่อแม่ทันที
หลิวต้าเม่ยได้ยินเรื่องนี้ จึงรีบเรียกลูกชายคนโตและคนที่สามมาทันที
หลี่กุ้ยฮวาและหลี่ชุ่ยชุ่ยก็มาถึงบ้านของหลิวต้าเม่ยแล้ว
คนอื่น ๆ ยังคงมีสีหน้างุนงงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เย่ฉู่เฉียงนั่งอยู่ตรงที่นั่งหัวโต๊ะ จิบน้ำแล้วพูดว่า “วันนี้ที่เรียกพวกเธอมา ก็เพื่อถามว่าบ้านใครมีเด็กสาวที่หน้าตาดีสักหน่อยที่จะแนะนำให้กับว่านหยวนได้บ้าง”
“ตอนนี้ว่านหยวนไปพัวพันกับหญิงม่ายคนหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป หน้าตาของตระกูลเย่เราก็จะหมดสิ้น”
“พวกเธอลองคิดหาวิธีกันดู”
หลี่กุ้ยฮวากลอกตา แอบหยิกเย่จื้อเฉียงทีหนึ่ง “แต่งงานกับหญิงม่ายนี่ ไม่อายเลยหรือไง”
“ถึงตอนนั้นอย่าบอกว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันนะ จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเหวินชางบ้านเรา”
“ใช่ไหมล่ะ จื้อเฉียง?”
เย่จื้อเฉียงถูกบีบจนเจ็บ “เหลวไหล แต่งงานกับหญิงม่าย เป็นเรื่องที่ยังไงก็รับไม่ได้”
“ตระกูลเย่ของเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน”
หลี่ชุ่ยชุ่ยอดขำไม่ได้ มองไปที่เย่จื้อผิง
เย่จื้อผิงส่ายหน้า คิดในใจว่าเย่ว่านหยวนมีสภาพแบบนั้น ได้แต่งงานกับหญิงม่ายก็ถือว่าดีแล้ว
ถึงอย่างไรตอนนี้ชื่อเสียงของว่านหยวนก็แย่ขนาดนั้น มีลูกสาวบ้านไหนที่จะยอมแต่งงานกับเขาล่ะ?
“จื้อผิง เธอคิดยังไง?” เย่ฉู่เฉียงถาม “เย่จวินลูกชายของเธอก็กำลังหาคู่อยู่ไม่ใช่เหรอ? มีสาวๆ ที่เหมาะกับว่านหยวนไหม?”
“พ่อแม่ พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ลูกชายของผมยังไม่ได้หาคู่เลย บ้านเรายากจนเกินไป จะไปทำร้ายลูกสาวบ้านอื่นได้ยังไง?”
“เรื่องนี้อย่าถามพวกเราเลย พวกเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”
เย่จื้อผิงเคยเป็นห่วงเรื่องในครอบครัวมาก แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
หลี่ชุ่ยชุ่ยยิ้มน้อยๆ แล้วพูดว่า “พ่อแม่คะ พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก เรื่องนี้ให้พี่ชายรองตัดสินใจเองดีกว่า”
หลี่กุ้ยฮวาตบมือ “ใช่แล้ว เรื่องในครอบครัวก็ต้องแก้กันเอง พวกเราไม่ควรยุ่งเกี่ยว”
“ถ้าว่านหยวนจะแต่งงานจริงๆ ก็แยกครอบครัวออกไปสิ”
“น้องรอง ว่านหยวนของนายไม่มีเงินสักแดง ถ้านายไม่ดูแลเขา แล้วเขาจะเอาอะไรไปแต่งงาน?”
หลี่กุ้ยฮวาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
เย่ไฉกุ้ยโมโหขึ้นมา “ถ้าฉันไม่อับจนปัญญาจริงๆ ฉันจะมาขอความช่วยเหลือจากพวกคุณเหรอ?”
เขาไม่เห็นพวกนั้นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
“แย่แล้ว แย่แล้ว” เซี่ยวเฟินฟางวิ่งเข้ามาในบ้านอย่างรีบร้อน “เมื่อกี้ฉันไปให้อาหารไก่ พอหันหลังกลับมา ว่านหยวนก็ขโมยเงินฉันไป 20 หยวน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนแล้ว!”
เย่ไฉกุ้ยรู้สึกราวกับสมองจะระเบิด
เขาเซถลาไปก้าวหนึ่ง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปยึดโต๊ะไว้ ไม่เช่นนั้นเขาคงล้มลงไปแล้ว “ไอ้ลูกชาติชั่วนี่ รีบไปตามหามันที่บ้านเซี่ยเดี๋ยวนี้!”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กรรมของบ้านรอง มีลูกชายแต่ลูกทำตัวเหลวไหลไม่เอาถ่าน ปู่ย่าเห็นแบบนี้แล้วยังจะลำเอียงเข้าข้างลูกชายหลานชายอยู่อีกไหมคะ
ไหหม่า(海馬)
……….