ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 105 เหอชุนเซิงวางแผนให้เซี่ยวเยว่
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 105 เหอชุนเซิงวางแผนให้เซี่ยวเยว่
บทที่ 105 เหอชุนเซิงวางแผนให้เซี่ยวเยว่
……….
บทที่ 105 เหอชุนเซิงวางแผนให้เซี่ยวเยว่
มีต้นกล้าอีกจำนวนมากถูกนำมาที่สวนผลไม้
เย่เสี่ยวจิ่นชมเชยหลินลี่ลี่เป็นพิเศษ เพราะหล่อนเพาะต้นกล้าออกมาได้ดีมาก
ดินที่ใช้เพาะต้นกล้าก็ผสมมูลวัวอย่างละเอียด
อาจเป็นเพราะอายุมากกว่าเย่จู๋เล็กน้อย จึงมีประสบการณ์มากกว่า
“พี่ลี่ลี่ ต่อไปเรื่องการเพาะต้นกล้า ฉันขอมอบให้พี่กับพี่สาวดูแลนะ”
“หัวหน้าทีมเย่…” หลินลี่ลี่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย “จริงๆ แล้วฉันทำได้แค่นี้เท่านั้น… อย่างอื่นฉันไม่เก่งหรอก”
“ไม่หรอก ฉันเห็นพี่เพาะต้นกล้าได้ดีมากนะ”
ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับเรื่องการเพาะต้นกล้า
ที่สำนักงานทีมหมู่บ้าน
เหอชุนเซิงนั่งอยู่ในห้องพูดคุยกับซุนจ่างซุ่น
กัวชิงซงก็ยังคงอยู่ด้วยเช่นกันในวันนี้
แต่คราวนี้เหอชุนเซิงไม่ได้ไปทำให้ตัวเองอับอายในสวนผลไม้อีกแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นคนรักหน้ารักตา หากถูกเย่เสี่ยวจิ่นชี้หน้าด่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาจะยังเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อไปได้อย่างไร?
“ในเรื่องปลูกข้าวของพวกคุณ ผมมีคำแนะนำเพียงเท่านี้”
ซุนจ่างซุ่นจดทุกอย่างไว้ “อาจารย์เหอ คุณมีประสบการณ์จริงๆ สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญ”
เหอชุนเซิงรู้สึกว่าได้กู้หน้ากลับมาได้บ้างหลังจากที่เสียหน้าไปเมื่อวาน
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ นึกถึงคำสั่งของคนในครอบครัว
“ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอร้องคุณผู้ใหญ่บ้าน”
ซุนจ่างซุ่นนั่งตัวตรง พอรู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร
“คุณก็รู้ว่าน้องสาวภรรยาของผมเป็นคนมีการศึกษา กลับมาในฐานะยุวปัญญาชนคนหนึ่ง ตอนนี้มีคนมากมายที่คิดจะสอบเข้าเรียนเพื่อออกไปได้ทะเบียนบ้านในเมือง แต่น้องสาวภรรยาของผมกลับทำตรงกันข้าม หล่อนรักหมู่บ้านนี้”
เหอชุนเซิงยิ้มเล็กน้อย “ครั้งนี้เสี่ยวเยว่รู้ตัวแล้วว่าทำผิด พวกเราได้สอบถามจนแน่ใจแล้วว่าหล่อนถูกคนอื่นยุยง และด้วยความที่อายุยังน้อย จึงถูกหลอกลวง”
“พูดง่ายๆ คือหล่อนก็เป็นเหยื่อคนหนึ่ง คุณคิดว่าจะให้โอกาสหล่อนแก้ตัวได้ไหม?”
ซุนจ่างซุ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าสิ่งที่เหอชุนเซิงพูดมาก็มีเหตุผล
เขาเองก็ไม่อยากให้คนมีความสามารถต้องสูญเปล่า
แต่ผลกระทบมันดูแย่เกินไป
“อาจารย์เหอ ไม่ใช่ว่าผมไม่มีน้ำใจนะ แต่ตอนนั้นเรื่องนี้ถูกนำไปถึงระดับอำเภอแล้ว ทั้งอำเภอได้รับการวิพากษ์วิจารณ์”
“จริงๆ แล้วผมตัดสินใจเองไม่ได้ ถ้าคุณกลับไปที่สำนักงานอำเภอ คุณลองไปพูดดูดีไหม?”
ประเด็นนี้ถูกเตะกลับไปให้เหอชุนเซิงอีกครั้ง
แน่นอนว่าเหอชุนเซิงไม่สามารถไปพูดได้ ถ้าเกิดมีคนสงสัยว่าความคิดของเขามีปัญหาล่ะ?
เขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญที่ถูกว่าจ้างมา ไม่มีตำแหน่งประจำ
ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชเป็นที่ต้องการมาก เขายังไม่โง่พอที่จะฆ่าตัวตาย
“ท่านผู้ใหญ่บ้าน ผมไม่ได้บอกให้คุณดึงหล่อนกลับมาเป็นหัวหน้าทีมสักหน่อย แค่ให้หล่อนทำงานเป็นเสมียนหรือนักบัญชีในทีมก็ได้ หล่อนมีความรู้มากมาย”
“ให้คนมีการศึกษาไปทำงานในไร่ มันเป็นการใช้คนผิดที่จริงๆ”
ซุนจ่างซุ่นฟังคำพูดของเขาแล้วตอบว่า “ได้ ถ้ามีตำแหน่งว่าง ผมจะจัดการให้หล่อน”
เหอชุนเซิงยิ้มเล็กน้อย “ดีครับ งั้นผมก็ขอฝากน้องสาวไว้กับท่านผู้ใหญ่บ้านด้วยนะครับ”
พูดจบ เหอชุนเซิงก็กลับบ้านไป
กัวชิงซงพูดขึ้นมาจากด้านข้าง “ถ้าให้ผมพูด คนที่มีจิตสำนึกไม่ดีแบบนี้ ไม่ควรให้โอกาสได้ทำงานอีก ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ใช้อำนาจในทางที่ผิดได้ทั้งนั้น”
“คุณคงไม่คิดว่าหล่อนจะเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ หรอกนะ? แล้วถ้าเริ่มต้นแบบนี้ คนอื่นๆ จะคิดยังไง?”
“ฉันรู้” ซุนจ่างซุ่นถอนหายใจ “แต่หล่อนก็มีความรู้จริงๆ นะ ให้หล่อนปลูก…”
“เฮ้อ ถ้าหล่อนไม่ก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ฉันก็คงไม่ต้องลำบากใจขนาดนี้”
ซุนจ่างซุ่นมักจะชื่นชอบและให้ความสำคัญกับคนมีความรู้เป็นพิเศษเสมอ
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ให้เย่เสี่ยวจิ่นที่เป็นเด็กอายุแค่สามขวบเป็นหัวหน้าทีมหรอก
เขาไม่สนใจเรื่องภายนอก แต่ให้ความสำคัญกับคนที่มีความสามารถเป็นหลัก
“คุณลองดูว่ามีตำแหน่งเล็กๆ ที่ไหนบ้าง แล้วจัดการให้หล่อนหน่อย”
กัวชิงซงแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ “กลุ่มของพวกเขาขาดหัวหน้ากลุ่มสตรีคนหนึ่ง ถ้าหล่อนยินดี ก็ให้หล่อนไปทำตำแหน่งนั้นแล้วกัน”
หัวหน้ากลุ่มสตรีของหมู่บ้านชงเทียนไม่ได้มีอำนาจอะไรมากนัก
ปกติก็แค่จัดการเรื่องของผู้หญิงในหมู่บ้าน และช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ของหมู่บ้าน
แค่ทุกครั้งที่มีการประชุม ก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อย
ตลอดทั้งปีก็พอจะมีเงินได้บ้างเล็กน้อย
“งั้นก็ให้หล่อนทำตำแหน่งนั้นแล้วกัน”
เซียวเย่ยังคงรอคอยข่าวดีเรื่องการกลับเข้ารับตำแหน่งเดิมอย่างเต็มไปด้วยความหวัง
ไม่คิดว่าสุดท้ายจะได้เป็นแค่หัวหน้ากลุ่มสตรีที่มีอำนาจนิดหน่อย
หล่อนรู้สึกผิดหวังจริงๆ
เหอชุนเซิงก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน “เสี่ยวเยว่ สถานการณ์ของเธอค่อนข้างพิเศษ เราต้องประเมินความสามารถของเธอก่อน ถึงจะจัดสรรงานให้เธอได้”
“เป็นเพราะเรื่องของเธอไปถึงที่ทำการอำเภอแล้ว เธออย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ”
เซี่ยวเย่ปิดหน้า ดวงตาแดงก่ำ “ฉันเองก็ถูกหลอกเหมือนกันนะ”
“ฉันรู้ แต่ว่า…แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์มันเป็นแบบนี้” เหอชุนเซิงเริ่มหมดความอดทน “ถ้าเธอไม่เต็มใจก็ช่างมันเถอะ”
หลินเซี่ยงชุนกลับรีบพูดว่า “รับสิ ทำไมจะไม่รับล่ะ มีตำแหน่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลยนะ เสี่ยวเยว่ เธออย่าเพิ่งร้อนใจนะ ถ้าเธอผ่านการประเมิน พี่เขยก็จะจัดการให้เธอเอง”
เซี่ยวเย่ก็รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่พี่เขยช่วยต่อรองมาให้หล่อน
เหอชุนเซิงพยักหน้า “เธอต้องทำงานให้ขยันขึ้น และมีทัศนคติที่ดีขึ้น อย่างมากก็อีกครึ่งปี ฉันจะช่วยหาเส้นสายจัดการให้”
เซี่ยวเย่คิดในใจว่าคนในหมู่บ้านไม่ชอบหน้าหล่อนแล้ว
หล่อนจะไปขยันขึ้นได้อย่างไร ก็เหมือนเอาหน้าไปแนบก้นเย็นๆ นั่นแหละ
แต่ปากก็ยังพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว”
ท้องฟ้ายังคงแจ่มใสเหมือนเดิม
ในขณะนี้เซี่ยวเฟินฟางและเย่ไฉกุ้ยกำลังเดินเที่ยวอยู่ในเมืองอำเภอ
สามีภรรยาคู่นี้ถือเงินมาซื้อของในเมืองไม่น้อย
เซี่ยวเฟินฟางถือถุงผ้า พูดอย่างจริงจัง “พวกเราต้องไปที่ร้านสหกรณ์ ซื้อผ้าดีๆ สักหน่อย แล้วตัดเสื้อผ้าให้ว่านหยวน”
“คนอาศัยเสื้อผ้า ม้าอาศัยอาน สุภาษิตนี้พูดได้ดีจริงๆ”
“ฉันคิดว่าถ้าว่านหยวนได้แต่งตัวดีหน่อย เขาก็คงไม่แพ้คนอื่นหรอก”
เย่ไฉกุ้ยพยักหน้าพลางตอบรับ “ไปดูจักรยานก่อนดีกว่า”
“ลูกชายของคุณตอนนี้สนใจแต่จักรยานแล้ว ถ้าคุณไม่ซื้อกลับไปให้เขา คืนนี้คงไม่ต้องกินข้าวเย็นแล้วล่ะ”
เซี่ยวเฟินฟางพยักหน้า “แน่นอนสิ”
สามีภรรยาสอบถามข้อมูลกันเล็กน้อย
แล้วก็ไปที่ร้านขายจักรยานแถวนั้น
ตอนนี้คนที่มีกำลังซื้อจักรยานได้มีไม่มากนัก ในเมืองส่วนใหญ่ก็มีแต่พนักงานไปรษณีย์ที่ขี่จักรยานกันเยอะหน่อย
สำหรับคนทั่วไป นอกจากจะเป็นข้าราชการ ครู หรืออาชีพแบบนั้น ถึงจะได้ขี่จักรยานไปทำงาน
พอมาถึงหน้าร้าน
สามีภรรยามองดูร้านแล้วก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“พวกเราจะเข้าไปไหม?”
เย่ไฉกุ้ยจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง “คุณนี่นะ ทำตัวเป็นผู้หญิงขี้กลัวไปได้ กลัวอะไร? พวกเราพกเงินมาตั้งเยอะ คุณยังกลัวว่าคนอื่นจะไล่พวกเราออกมาอีกเหรอ?”
เขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใด แค่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งเท่านั้นเอง
เซี่ยวเฟินฟางเห็นเขาเข้าไปแล้ว ก็รีบตามเข้าไปด้วย
คนในร้านมองดูคู่สามีภรรยาเซี่ยวเฟินฟาง
แม้เสื้อผ้าจะสะอาด แต่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนในเมือง
“พวกเราอยากดูจักรยาน ลูกชายจะแต่งงานแล้ว อยากได้คันหนึ่ง”
เจ้าของร้านพาพวกเขาไปดู ในร้านมีให้เลือกไม่มากนัก
เซี่ยวเฟินฟางเห็นจักรยานเรียงกันเป็นแถวเงาวับ อดใจไม่ไหวลูบดู “จักรยานคันนี้ดูดี ดูเหมือนกับที่ฉางอันขี่เลย ดีพอๆ กันเลย”
พนักงานขายเข้ามาใกล้ๆ “มีรสนิยมดีจังครับ นี่เป็นยี่ห้อเฟิ่งหวง คุณรู้จักใช่ไหม?”
“นี่เป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดเลยนะครับ ร้านของเรามีแค่สามคันนี้เท่านั้น”
“ด้านหลังยังมียี่ห้อหย่งจิ่วกับเฟยเกอ ราคาประมาณ 200 หยวนต่อคัน”
เซี่ยวเฟินฟางรู้สึกเหมือนหัวใจจะกระโดดออกมาจากลำคอ “200 หยวนเชียวหรือ?”
หล่อนตกใจจนชักมือกลับมาทันที
ของแพงขนาดนี้ หล่อนไม่กล้าแตะต้องอีกแล้ว
เย่ไฉกุ้ยเบิกตากว้าง “จักรยานนี่ทำมาจากอะไร? ทำไมถึงแพงขนาดนี้? หลอกกันหรือเปล่า?”
“สามยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อที่ดีที่สุดของประเทศ! ขี่ออกไปแล้วมีหน้ามีตาที่สุด”
“แถมคุณภาพดี ถ้าเสียก็เอามาให้พวกเราซ่อมได้”
“ขี่ออกไปรับรองว่าจะเป็นที่สะดุดตาที่สุดในหมู่บ้าน”
เซี่ยวเฟินฟางรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ๆๆ แพงเกินไปแล้ว! ต่อให้พวกเราไม่กินไม่ดื่ม ก็ต้องเก็บเงินเกือบปีเลยนะ”
เจ้าของร้านยิ้มเล็กน้อย พาพวกเขาไปอีกด้านหนึ่ง “ทางนี้เป็นยี่ห้อทั่วไป แต่ก็เป็นจักรยานดีๆ ทั้งนั้น”
“ทางนี้ราคา 180 ทางนี้ 160 และตรงประตูนี้…”
“คันนี้ราคา 150 หยวน”
เซี่ยวเฟินฟางและเย่ไฉกุ้ยเหงื่อแตกพลั่ก
“ไม่มีคันที่ถูกกว่านี้อีกแล้วเหรอ?”
เจ้าของร้านพยักหน้า “มีครับ ที่ร้านเรามีจักรยานมือสองฝากขาย ใช้งานได้ดีเหมือนกัน”
“ลองดูสิครับ ใช้งานได้ไม่ต่างจากของใหม่เท่าไหร่ ราคาตั้งแต่ 20 ถึง 150 หยวน พวกนี้ราคา 20 หยวนทั้งหมด ลองขี่ดูได้นะครับ”
เซี่ยวเฟินฟางมองจักรยานมือสองราคา 20 หยวน “ดูเก่าและพังมากเลยนะ”
จริงๆ แล้ว 20 หยวนก็เป็นราคาสูงสุดในใจของหล่อนแล้ว
อย่างมากที่สุดก็แค่ 30 หยวน ไม่สามารถมากไปกว่านี้ได้อีก
ไม่อย่างนั้นลูกชายก็จะไม่มีทางสร้างบ้านได้
เย่ไฉกุ้ยเห็นรถราคา 40 หยวน ซึ่งดูใหม่กว่าเยอะทีเดียว
“พวกราคา 40 หยวนนี่เป็นยี่ห้อรองๆ ทั้งนั้น แต่ก็ดีนะ พวกคุณดูสิ แทบไม่ต่างจากรถใหม่เลย”
เย่ไฉกุ้ยเลียริมฝีปาก “30 หยวนขายไหม?”
พนักงานขายหัวเราะเบาๆ “ไม่ขายครับ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คิดว่าจะได้กลับมาตำแหน่งเดิมง่ายๆ เหรอเซี่ยวเยว่ ประวัติการทำงานเป็นแบบนั้นน่ะ
ได้มาเปิดหูเปิดตาในเมืองแล้วรู้สึกอย่างไรคะ จะซื้อจักรยานราคาเท่าไหร่ให้ลูกชายดี
ไหหม่า(海馬)
……….