ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 102 ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าฉันโกรธขึ้นมา คุณอาจจะร้องไห้
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 102 ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าฉันโกรธขึ้นมา คุณอาจจะร้องไห้
บทที่ 102 ผู้เชี่ยวชาญ? ถ้าฉันโกรธขึ้นมา คุณอาจจะร้องไห้
……….
บทที่ 102 ผู้เชี่ยวชาญ? ถ้าฉันโกรธขึ้นมา คุณอาจจะร้องไห้
“อาจารย์เหอ คุณคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ? ที่อื่นๆ ที่ก้าวหน้าเขาก็ทำกันแบบนี้ใช่ไหม?”
เหอชุนเซิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างดื้อดึงว่า “แน่นอนว่าใช่ มันไม่ใช่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอะไรนี่”
เขาพูดแบบนี้ก็เพื่อจะดูถูกเย่เสี่ยวจิ่น
แต่ไม่คิดว่า
ซุนฉางซุ่นกลับพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนก็ทำกันแบบนี้ ผมก็นึกว่าความคิดจิ่นเป่าล้ำเกินไปเสียอีก”
“ดูเหมือนว่าพวกเราไม่ได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จึงไม่รู้สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ภายนอกแล้ว”
“ใช่ครับ” กัวชิงซงก็พยักหน้าเห็นด้วย
เหอชุนเซิงถูกบังคับให้เยี่ยมชมสวนผลไม้จนครบ และยังได้เห็นภาพที่น่าตกใจของการแขวนยาให้กับต้นไม้ใหญ่
เขายิ่งเงียบลงไปอีก
ไม่รู้ว่าควรชื่นชมเย่เสี่ยวจิ่นว่าฉลาดเกินคน หรือควรเยาะเย้ยเธอว่าเพ้อฝันดี
เย่เสี่ยวจิ่นอยู่ในสวนผลไม้ กำลังปลูกต้นกล้าผลไม้ร่วมกับทุกคน
เธอไม่สนใจเหอชุนเซิงเลยสักนิด
“หัวหน้าเย่ ทำไมคุณไม่ไปอยู่กับผู้เชี่ยวชาญล่ะ?”
“ใช่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญที่มาจากข้างนอกน่าจะมีความคิดก้าวหน้ากว่านะ”
“พี่เขยของเซียวเยว่คนนั้นเขามีท่าทีไม่ดีหรือ?”
ทุกคนไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เสี่ยวจิ่นถึงกลับมาทันที
เย่เสี่ยวจิ่นก็ไม่ได้ปิดบังอะไร “หนูไม่อยากสนใจคนที่สมองถูกผ้ารัดเท้าพันไว้หรอกค่ะ”
หยางเจวียนหัวเราะออกมาทันที “จิ่นเป่า เธอไปเรียนคำด่าแบบนี้มาจากไหนเนี่ย? ทำไมฉันคิดไม่ถึงว่าจะต้องด่าคนแบบนี้นะ? นี่มันไม่ใช่การบอกว่าสมองคนเราไม่พัฒนาหรอกเหรอ? สนุกจังเลย”
เย่จื้อผิงที่อยู่ข้างๆ หน้าดำเป็นก้นหม้อไปแล้ว
เย่เสี่ยวจิ่นย่นจมูก “ดีแล้วค่ะ ทุกคนจะได้รู้ว่าหนูไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องได้ง่ายๆ แบบนี้จะได้ลดปัญหายุ่งยากของหนูไปได้เยอะเลย”
เย่จื้อผิงถอนหายใจ
แต่เขาก็รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นตั้งใจจะหาเรื่องจิ่นเป่าอยู่แล้ว
“ช่างเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ได้สุภาพกับลูกเหมือนกัน ด่าไปแล้วก็ด่าไปเถอะ”
เหอชุนเซิงเยี่ยมชมเสร็จแล้วก็กลับไปที่บ้านตระกูลเซียว
เซียวเยว่และหลินเซี่ยงชุนวันนี้ไม่ได้ออกไปยุ่งอะไร แต่กลับอยู่บ้านจัดเตรียมอาหาร
ในเมื่อว่าที่ลูกเขยคนเก่งมาเยี่ยม พวกเขาต้องทำอาหารดีๆ ต้อนรับให้ดี
หลินเซี่ยงชุนกำลังต้มซุปไก่ ใส่เกลือนิดหน่อย “อาเยว่ ไปเอาหัวไชเท้าที่บ้านอารองของเธอมาหน่อย”
“ถ้าเอาหัวไชเท้ามาต้มในซุปไก่ มันจะทำให้อร่อยขึ้น”
เซียวเยว่รีบไปทันที
เซียวเสวี่ยอดขำไม่ได้ “แม่ ทำไมต้องยุ่งวุ่นวายขนาดนี้ด้วย? บ้านเรามีแม่ไก่แก่แค่ตัวเดียว ฆ่าไปแล้วไม่กลัวพ่อจะว่าเหรอ?”
หลินเซี่ยงชุนยิ้ม “เฮ้ ลูกเขยคนดีมาเยี่ยมทั้งที จะให้เขาไม่ได้กินเนื้อสัตว์เลยได้ยังไง?”
“บ้านเราจะละเลยลูกเขยแบบนั้นไม่ได้นะ”
“เธอนี่ ทำตัวให้มันดีหน่อยสิ ดูชุนเซิงสิ ออกจะยอดเยี่ยมขนาดนั้น”
“วันนี้ผู้ใหญ่บ้านยังมาเชิญเขาไปเป็นที่ปรึกษาด้วยตัวเอง ทั้งพ่อเธอและฉันต่างก็ได้หน้าได้ตากันทั้งนั้น”
คนในตระกูลเซียวล้วนรักหน้ารักตากันทั้งนั้น
“แม่ ฉันจะบอกอะไรให้” เซียวเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา มีท่าทีไม่ค่อยดีนัก “ฉันได้สั่งชุนเซิงเป็นพิเศษแล้วว่าให้ไปที่สวนผลไม้ แล้วต้องให้เย่เสี่ยวจิ่นคนนั้นได้รับบทเรียนอย่างหนักเลยทีเดียว”
“นังนั่นกล้าขี่หัวครอบครัวเราทำตัวอวดเบ่งนักใช่ไหมล่ะ คราวนี้รับรองว่าต้องเสียหน้าต่อหน้าผู้ใหญ่บ้านและเลขาฯ แน่นอน”
หลินเซี่ยงชุนแค่นเสียงหึ ดวงตาเต็มไปด้วยความดูแคลน
“นังนั่นน่ะ แค่ได้ประโยชน์จากน้องสาวเธอเท่านั้นแหละ”
“เธอให้ชุนเซิงสั่งสอนมันก็ได้ แต่ต้องช่วยน้องสาวเอาตำแหน่งหัวหน้าทีมกลับมาให้ได้ด้วยนะ”
“เธอก็รู้ว่าน้องสาวเธอถือศักดิ์ศรียิ่งชีพ ทนไม่ได้กับความอัปยศแบบนี้หรอก”
เซียวเสวี่ยพยักหน้า ท่าทางภูมิใจเล็กน้อย “แน่นอนอยู่แล้ว น้องสาวของฉันมีฉันกับพี่เขยคอยดูแลอยู่นี่คะ การจะกลับเข้ารับตำแหน่งเดิมก็ขึ้นกับคำพูดแค่คำเดียวของชุนเซิงเท่านั้นเอง ปล่อยให้คนตระกูลเย่หลงละเลิงไปสักพักเถอะ พรุ่งนี้ก็จะเปลี่ยนคนแล้ว”
เซียวเยว่ถือหัวไชเท้ากลับมา พอได้ยินคำพูดนี้ตรงประตู ก็ยิ้มแย้มทันที
“พี่สาว ฉันรู้ว่าเธอดีกับฉัน”
“ช่วงนี้ฉันทุกข์ใจมาก ยังต้องถูกเย่เสี่ยวจิ่นคนนั้นเยาะเย้ยอีก”
“ตอนดึกๆ ฉันแอบร้องไห้หลายครั้งเลยนะ”
เซียวเสวี่ยลูบไหล่เซียวเยว่ “วางใจเถอะ มีพี่สาวอยู่นี่”
ตอนนั้นเอง มีเสียงฝีเท้าดังมาจากประตู
เหอชุนเซิงกลับมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เซียวเสวี่ยรีบออกไปต้อนรับ ส่วนเซียวเยว่ก็ยิ้มแย้มต้อนรับเช่นกัน
“พี่เขย เป็นยังไงบ้าง? ชินกับชีวิตในหมู่บ้านหรือยัง?”
“แม่ของฉันตั้งใจต้มไก่ให้คุณเป็นพิเศษ คุณรีบไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
“อีกสักพักก็จะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว”
เซียวเสวี่ยไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับเสื้อนอกจากเหอชุนเซิง
เหอชุนเซิงฝืนยิ้ม ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจเสียหน้าต่อหน้าครอบครัวของคู่หมั้นได้
“ทุกอย่างราบรื่นดี ผู้ใหญ่บ้านและเลขาฯ ต้อนรับผมอย่างดีเลย”
“ผมไปดูที่สวนผลไม้มาแล้ว และก็เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วย”
“ผมดุหล่อนต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน จนหล่อนโกรธแล้วเดินหนีไปเลย”
เซียวเยว่อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง รู้สึกว่าได้ระบายความแค้นออกไป “พี่เขย คุณเก่งจริงๆ”
“ขอบคุณที่ช่วยแก้แค้นให้ฉันนะคะ พี่สาวดูสิ พี่ได้พี่เขยที่ดีมากเลย ต่อไปฉันก็อยากหาคู่ครองที่เก่งแบบนี้บ้าง”
เห็นเซียวเยว่สาวสวยวัยแรกรุ่นยิ้มหวานเอาอกเอาใจ เหอชุนเซิงก็รู้สึกพอใจมาก
เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
หลินเซี่ยงชุนถือชามตะเกียบมาที่โต๊ะ “ใช่แล้ว เธอก็รู้นี่ เธอควรเรียนรู้จากพี่สาวเธอทุกอย่างนะ”
“ในบรรดาพี่น้องสามคนของพวกเธอ พี่สาวเธอมีความคิดเป็นของตัวเองที่สุด”
เซียวเสวี่ยยิ้มอย่างพอใจ “ก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“อีกสองสามวัน รอให้พี่เขยไปพูดดีๆ กับผู้ใหญ่บ้านให้หน่อย ตำแหน่งหัวหน้าทีมของเธอก็คงจะได้กลับมาในไม่ช้าล่ะมั้ง?”
“ใช่ไหม ชุนเซิง?”
เหอชุนเซิงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ เขาหัวเราะแห้งๆ “แน่นอนอยู่แล้ว”
เซียวเยว่ยิ่งรู้สึกดีใจมากขึ้น
อีกด้านหนึ่ง
หลี่ชุ่ยชุ่ยทำงานที่ฟาร์มไก่เสร็จแล้ว จึงกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้าน
พอดีเจอหยางเจวียนกำลังเก็บผักกูดอยู่ข้างทาง
“พี่เจวียน กลับด้วยกันไหม?”
“ได้สิ” หยางเจวียนถือของพลางเดินไปกับหลี่ชุ่ยชุ่ย
หลี่ชุ่ยชุ่ยมีท่าทางกังวลใจ “ฉันได้ยินมาว่าวันนี้ผู้ใหญ่บ้านกับเลขาฯ พาผู้เชี่ยวชาญไปที่สวนผลไม้”
“ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นบอกว่าตัวเองเป็นพี่เขยของเซียวเยว่ เขาจะมาทำอะไรจิ่นเป่าของฉันหรือเปล่านะ?”
หยางเจวียนยิ้ม “เธอมาถามฉันก็เพราะเรื่องนี้สินะ ทำไมไม่ไปถามจื้อผิงกับจิ่นเป่าของเธอล่ะ?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันกลัวว่าพวกเขาจะรายงานแต่เรื่องดีๆ ไม่บอกเรื่องร้ายๆ”
หยางเจวียนรีบปลอบใจ “เธอวางใจได้เลย ฉันสืบมาแล้ว เจ้าเหอชุนเซิงนั่นตั้งใจไปหาเรื่องจิ่นเป่าจริงๆ ว่ากันว่าเขาไม่พอใจมากที่เซียวเยว่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง”
พอได้ยินแบบนี้ หลี่ชุ่ยชุ่ยก็เดาได้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ
หล่อนขมวดคิ้วด้วยความกังวล “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจิ่นเป่าของเราเลย น่าสงสารเด็กตัวเล็กๆ แค่นี้ ต้องมาถูกรังแก”
“รู้งี้วันนี้ไม่ให้หล่อนไปสวนผลไม้ก็ดี จะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!”
“เธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ” หยางเจวียนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกทะเลาะกันก็จริง แต่จิ่นเป่าอารมณ์ดีมากเลย เพราะว่า…”
“ไอ้เหอชุนเซิงนั่นโดนจิ่นเป่าด่าเละเทะต่อหน้าคนเยอะแยะเลย”
หยางเจวียนพูดถึงเรื่องซุบซิบด้วยท่าทางตื่นเต้น “ฉันได้ยินมาแค่ประโยคเดียว จิ่นเป่าของเธอชี้หน้าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นแล้วพูดว่า—”
“บ้านแกไม่มีกระจกเหรอ ถ้างั้นก็ฉี่แล้วส่องดูตัวเองซะสิ”
“ฮ่าๆๆ…” หยางเจวียนตบขาดังเพียะพลางหัวร่องอหงาย “ฉันล่ะชื่นชมจิ่นเป่าของเธอจริงๆ หล่อนเก่งมากเลย!”
หลี่ชุ่ยชุ่ยเบิกตาโพลง “จิ่นเป่าของฉันพูดแบบนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่บ้านและคนอื่นๆ เลยเหรอ?”
“ใช่แล้ว เธอไปถามจื้อผิงของเธอดูสิ เขาน่าจะเห็นทุกอย่างแล้วนะ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
งานเข้าแล้วเจ้าคนแซ่เหอ คนที่ไม่เก่งจริงมันก็จะลำบากทีหลังแบบนี้แหละ
คุณแม่ไม่ต้องห่วงจิ่นเป่าหรอกค่ะ ห่วงคนที่โดนจิ่นเป่าด่าเถอะ
ไหหม่า(海馬)
……….