ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน - ตอนที่ 4 ฝันประหลาดมักเป็นลางบอกเหตุ
- Home
- All Mangas
- ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน
- ตอนที่ 4 ฝันประหลาดมักเป็นลางบอกเหตุ
〝ไว้เจอกันเน้อ! คุณโอตาคุ!!!〞
〝อย่ามัวแต่เล่นจนมาซ้อมไม่ทันหล่ะคุณโอตาคุ ฮ่าฮ่าฮ่า!!!〞
〝อะ อา ขอบใจ——〞
ผ่านมาแล้ว 1 สัปดาห์ที่ทุกคนถูกส่งมาต่างโลก หลังจากเหตุการณ์ที่กรถูกเสือประจาน บรรยากาศรอบตัวของกรก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดังเช่นเหตุการณ์ที่มีนักเรียนชายหญิงมาทักทายกร แล้วกรเองก็โบกมือลาแล้วตอบกลับไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อซักครู่
นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?
คิดไปเองรึเปล่าว่าทุกคนทักเราเหมือนคนปกติ… แต่จะไม่ปกติก็ตรงที่เรียกว่า『คุณโอตาคุ』นั่นหล่ะ… อย่างน้อยๆก็เรียกฉันด้วยชื่อเล่นซักหน่อยเถอะ…
แต่ถึงอย่างงั้น น้ำเสียงก็ไม่ได้มีการประชดประชันแฝงอยู่เลย…. รึว่าเพราะเหตุการณ์ครั้งก่อนทุกคนเลยรู้สึกสงสารงั้นเหรอ? แหม่ ไม่อยากจะคิดแบบนั้นเลยแฮะ น่าสงสารตัวเองจริงๆ
รึจะเป็นไอ้นั่น…. ไอ้『ปรากฏการณ์สะพานแขวน』
ที่ว่า พอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้ใจเต้นกับเพศตรงข้ามแล้วเข้าใจผิดว่าตกหลุมรักนั่นหน่ะ แต่ในกรณีนี้คงไม่ใช่ตกหลุมรัก แต่เป็นรู้สึกผิดซะมากกว่าละมั้ง
…..แต่ดูแล้วทุกคน(หรือบางคน)นี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่นา งั้นฉันจะไม่คิดมากก็แล้วกัน
เนื่องด้วยเวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวไปซ้อมช่วงเช้ากันหลังจากทานอาหารเช้า เลยมีเวลาจิปาถะนิดหน่อย ขณะที่ทุกคนอยู่ในช่วงพักผ่อน บางครั้งก็จะมีคนมาทักกรเช่นนี้ แล้วกรที่กำลังคิดไปเรื่อยเปื่อยเองก็ถูกรินเข้ามาทักเช่นกัน
〝อาทิตย์นึงแล้วสินะ เร็วจังเลย〞
〝อืม… ก็ว่างั้นแหละ〞
〝รู้สึกเหมือนว่าทุกคนจะเข้าหากรมากขึ้นนะ 〞
〝ก็… นั่นสินะ คงดีแล้ว….มั้งนะ〞
〝ต้องดีอยู่แล้ว ไม่สิ! ดีที่สุดเลยหล่ะ!!!〞
รินที่ตอบกรด้วยเสียงแข็งขัน ทำให้กรไหล่กระตุกเพราะตกใจไปนิดหน่อย แล้วหลังจากนั้นโชต ชาญและอลิซที่อยู่ด้วยกันก็เข้ามาทักกรเช่นกัน
〝หลังจากตอนนั้นเนี่ย นายเหมือนเป็นคนดังขึ้นมาเลยนะเฟ้ย!〞
〝แต่ผมว่าดังแบบแปลกๆมากกว่า〞
〝เอ๋〜 ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา แต่แบบนี้คงใกล้ถึงเวลาที่ท่านหัวหน้าของฉันจะกลับมาผงาดแล้วสินะฮ่าๆๆๆ!!!〞
〝ผงาดบ้านเธอหน่ะสิ… ฉันไม่ใช่ผู้กล้าโล่ที่มีชีวิตแสนลำเค็ญซะหน่อย〞
〝มาร์ชเมลโล่แช่ตู้เย็นงั้นเหรอ? ฟังดูนะอร่อยจังเลยเนอะ〜〞
〝ไหงฟังผิดเป็นแบบนั้นไปได้ฟะ!!! ยัยติ๊งต๊องตะกละตะกลาม!!!〞
〖ห๊ะห่ะห๊ะห่ะห๊ะ!!!!〗
แล้วทั้งกลุ่มก็พูดคุยและหัวเราะเฮฮาร่วมกันอย่างสนุกสนาน เป็นบรรยากาศอันอบอุ่นเสียจนไม่นึกว่า ทั้งหมดเพิ่งผ่านสถานการณ์ตึงเครียดจากการมาต่างโลกกะทันหันกันมา บรรยากาศนั้นทำให้ทุกคนที่ดูอยู่รอบๆอมยิ้มขึ้นมาได้เลยทีเดียว
❖❖❖❖❖
หลังจากนั้นก็เป็นเวลาสำหรับการฝึกฝน ในช่วงเช้านั้นทุกคนจะถูกแบ่งกลุ่มไปฝึกกันตามอาชีพที่ถูกแสดงในหน้าต่างสเตตัสของตัวเอง ส่วนฉันที่ช่องอาชีพยังว่างอยู่ก็ได้ไปฝึกร่วมกับพวกนู้นพวกนี้ไปเรื่อย เพราะเห็นคุณฮันซี่บอกว่าที่ช่องอาชีพยังว่าง อาจเป็นเพราะยังไม่มีอาชีพที่เข้ากันกับฉันได้ เลยให้ลองฝึกมันซะทุกอย่างเผื่อจะเจออาชีพที่เข้ากันได้บ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอ่ะนะ
แล้วหลังจากทานอาหารเที่ยงคุณฮันซี่ก็จะมาสอนวิชาดาบและวิชามือเปล่าให้กับทุกคนอีกครั้ง เพราะในเวลาสู้จริงอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้ใช้เวทย์และอาวุธของตัวเองไม่ได้ จึงต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน ….เป็นการจัดตารางฝึกที่ดีจริงๆ
แต่ที่น่าแปลกคือเจ้าพวกนี้มันดักฝึกตามได้เฉยเลยเนี่ยสิ… คนไทยนี่ยังไงก็ได้จริงๆ
และการฝึกที่ว่ามานี้เกิดขึ้นทุกวันจนถึงหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ….เวลานี่ผ่านไปเร็วชะมัด แต่ถึงอย่างงั้นช่องอาชีพของฉันก็ยังว่างอยู่ดี สกิลก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเลย ทุกคนก็เหมือนกัน
ส่วนเลเวลก็อัพขึ้นมานิดหน่อย แค่ฝึกเนี่ยเลเวลก็อัพได้สินะ แต่ยังไงก็คงขึ้นยากกว่าไปตบมอนสเตอร์อยู่แล้วหล่ะน่ะ เอ๋? สเตตัสของฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้างหน่ะเหรอ?
ข้อมูลสเตตัส
『อุษณกร วัชรวิรุฬห์ 』เพศ ชาย อายุ 17 เผ่าพันธุ์ มนุษย์
อาชีพ ว่าง เลเวล 3
ฉายา 〘การใช้ชีวิตที่ผิดพลาด〙
《พลังโจมตี》 70 《พลังป้องกัน》 58
《พลังเวทย์》 34 《ความต้านทานเวทย์》 58
《ความว่องไว》 46 《พละกำลัง》 70
ฝึกมาสัปดาห์นึงแล้วแต่สเตตัสก็ยังดูกากเหมือนเดิมแหล่ะ น่าเศร้าใจชะมัด.. แล้วถ้าคิดว่า〝สเตตัสสูงขึ้นขนาดนี้ก็ดีแล้วนี่〞แล้วละก็คิดผิดแล้วหล่ะ ทำไมหน่ะเหรอ? ก็ลองเปรียบเทียบสเตตัสของรินที่เลเวลเท่ากัน กับของฉันดูสิ…
ข้อมูลสเตตัส
『ไอริน ศิลปการสกุล 』เพศ หญิง อายุ 17 เผ่าพันธุ์ มนุษย์
อาชีพ จอมเวทย์ เลเวล 3
ฉายา 〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙, 〘จอมเวทย์ต้นกำเนิด〙
《พลังโจมตี》 460 《พลังป้องกัน》 432
《พลังเวทย์》 430 《ความต้านทานเวทย์》 388
《ความว่องไว》 432 《พละกำลัง》 262
〝…………………..〞
ใบ้แดก……
ไม่มีคำไหนจะเหมาะกับสภาพของฉันในตอนนี้มากกว่าคำนี้อีกแล้ว…
อะไรกันฟะความแตกต่างนี่…. ช่องว่างนี่…. โลกนี้มันยังมีระบบวรรณะอยู่รึไงฟะ!
ถ้าเป็นงั้นฉันก็อยู่ต่ำสุดเลยหน่ะสิ! ความรู้สึกต่ำต้อยนี่มันอะไรก๊าน!!!! (แล้วถ้าจะขอดูของพวกโชตละก็ขอทีเถอะ…… แค่นี้ไมเกรนก็ขึ้นสมองแล้วนะเฟ้ยยย…..)
ไม่ไหวแล้ว….. เหนื่อยชะมัด….. อยากเอาปิ๊ปคลุมหัวจัง…..
หลังจากนั้นการฝึกฝนช่วงเช้าและการทานอาหารกลางวันก็จบลง พอจะเริ่มการฝึกในช่วงบ่ายต่อฮันซี่ก็ออกมาพูดด้านหน้าทุกคนคล้ายกับที่ออกมาแนะนำตัวครั้งแรก
〝พวกเจ้าทุกคนช่วยเงียบแล้วฟังทางนี้ด้วย!!!〞
เสียงที่ดูหนักแน่นของฮันซี่ยังคงน่าเกรงขามเช่นเคย ประกอบกับการฝึกที่ผ่านมาของเขาก็คงมีผลบ้างเช่นกันทำให้ทุกคนทำตามคำสั่งของฮันซี่เป็นอย่างดี นั่นทำให้เหล่านักเรียนที่กำลังคุยกันเจ๊าะแจ๊ะเงียบลงในทันทีที่เขาเริ่มพูด
〝อะแฮ่ม!!! ก่อนอื่นก็ขอขอบใจพวกเจ้าทุกคนที่ตั้งใจฝึกฝนกันมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เท่าที่ข้าดู สเตตัสและความสามารถของพวกเจ้าทุกคนก็สูงมากพอที่จะล่ามอนสเตอร์ระดับกลางได้สบายๆเลยหล่ะ เพราะงั้นละก็พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเจ้าทุกคนไปลองสู้กับมอนสเตอร์แถวๆชานเมืองดูละกัน!!!〞
โอ้คุณฮันซี่ครับ… ลืมไอ้โอตาคุสุดกระจอกคนนี้ไปรึเปล่าครับเนี่ย? ฉันยังไม่พร้อมเลยนะเฟ้ยทั้งสเตตัสและร่างกาย… จิตใจของฉันก็ด้วย…
แล้วไหงเจ้าพวกนี้ทุกคนมันถึงดูตื่นเต้นกันจังฟะ!? เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังหดหู่กันอยู่เลย ปรับตัวกันเร็วไปแล้วเฟ้ย!!!
แต่ก็แน่หล่ะเจ้าพวกนี้มันสเตตัสยังกะสัตว์ประหลาดกันทุกคนเลยนี่หว่า… พูดไปแล้วก็เจ็บจิ๊ดเลยนะเนี่ย…
〝เช่นนั้น… เพื่อเป็นการจบหลักสูตรเบื้องต้น ข้าจึงได้จัด การจับคู่ประลองเล็กๆ ขึ้น เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ของพวกเจ้าทุกคน และก็เพื่อศึกษาการเคลื่อนไหวของพวกพ้องตัวเองไปในตัวด้วยเลย….〞
ไอ้คุณฮันซี่คร้าบ!!! แค่จะพาไปสู้กับมอนสเตอร์ยังไม่พอ นี่ยังจะให้ฉันไปประลองกับไอ้พวกยอดมนุษย์พวกนี้อีกงั้นเร้อ? จะฆ่ากันรึยังไง!!!
อีแบบนี้มันไม่ต่างกับเอาเรือพายไปสู้กับเรือรบ…. เอากบไปสู้กับชาวนา…. เอาคุณตาไปไฝว้กับไคจูร่างสุดยอดเลยนะเฟ้ย! ตายหยั่งเขียดแน่ๆเลยฉัน
ส่วนไอ้พวกนี้ก็ยิ่งดูตื่นเต้นกันเข้าไปอีก… ไอ้พวกบ้านี่.. ไม่เข้าใจหัวอกฉันบ้างเลย!!!
〝เอาหล่ะ!!! ถ้าเช่นนั้นใครที่จับคู่กันได้แล้วก็มาตรงกลางลานกว้างนี้ได้เลย ข้าจะเป็นคนให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้เอง การประลองจะใช้เพียงดาบไม้เท่านั้น โอ๊ะ!!!..แล้วก็ห้ามใช้เวทย์มนต์ด้วยหล่ะ และการต่อสู้จะจบลงเมื่ออีกฝ่ายขัดขืนไม่ได้หรือเสียอาวุธในมือเท่านั้น ห้ามทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตเด็ดขาด…….〞
เอาละสิ… ในกรณีที่เจอคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอเกินไป จนออมมือแล้วก็อาจจะตายได้อย่างฉันเข้าเนี่ยจะทำไงฟะ ใครจะรับผิดชอบเนี่ย….
เฮ้อ〜 รู้งี้ทำประกันชีวิตไว้ดีกว่า เอ๊ะ!? แต่โลกนี้มันไม่มีนี่หว่า
ในขณะที่กรคิดเรื่องไร้สาระไปเรื่อย ทุกคนก็เริ่มหาคู่ประลองของตัวเองกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะจับคู่กับเพื่อนของตัวเองทั้งนั้น แล้วเพื่อนสนิททั้งสี่ก็เรียกสติของกรกลับมาสู่ความเป็นจริง
〝แล้วเราจะเอาไงดีหล่ะ…..〞
〝ไม่ต้องมาเอาไงเลยเว้ย ไอ้โชต!!! เอ็งไม่เห็นรึไงว่าสาวๆเขาแย่งกันจับคู่กับแกจนจะประลองกันเองอยู่แล้วหน่ะ! 〞
〝อ้าว!? งั้นเหรอ?〞
ขณะที่โชตถามขึ้นมาในกลุ่มแบบนั้น ก็มีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งปล่อยรังสีอำมหิตใส่กันแล้วตะโกนใส่กันประมาณว่า〝โชตต้องคู่กับฉันๆๆๆ!!!!〞อยู่ใกล้ๆกับกลุ่มของกร
ฮึ่ย! อยากต่อยไอ้หมอนี่ชะมัด ไอ้พวกเนื้อหอมไปตายให้หมดเลยไป๊!!!!
〝ส่วนผมจับคู่กับเพื่อนร่วมชั้นแล้วหล่ะนะ แล้วเธอหล่ะอลิซ?〞
〝ฉันเองก็จับคู่กับเพื่อนร่วมชั้นแล้วเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะกร…〞
〝ทะ ทำไมถึงต้องขอโทษฉันด้วยหล่ะ?〞
〝ก็….นอกจากพวกเรา ดูเหมือนกรจะไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยนี่นา…..〞
ฉึก!!!!!!!
อ้ากกก!!!!! อะไรกัน! ความรู้สึกที่เหมือนกับโดนมีดปอกมะละกอปักเข้ากลางขั้วหัวใจนี่! ไอ้เรื่องน่าเศร้านั่นฉันเองก็รู้อยู่หรอก รู้อยู่เต็มอกเลยด้วยเฟ้ย!
เพราะงั้น….อย่าพูดแทงใจดำฉันด้วยสีหน้าสงสารสุดๆ แบบนั้นจะได้ม้ายยยยยย!
แล้วกรก็กลับมานั่งคุกเข่าในท่า ORZ อีกเหมือนเคย แต่หลังจากนั้นรินก็นั่งยองลงใกล้ๆกับกรด้วยท่าทางเรียบร้อยราวกับเทพธิดา แล้วก็พูดกับกรว่า….
〝งั้นกร…เอ่อ มาจับคู่กับฉันมั้ย….〞
เทพธิดาชัดๆ!!!! เทพธิดาลงมาโปรดแล้ว!!!!
〝จะ จะดีเหรอ? กับฉันเนี่ย〞
〝อื้ม! ดีสิ!!! ก็กรไม่มีคนอื่นอีกแล้วนี่นะ! 〞
ฉึก!!! ฉึก!!! ฉึก!!!
อีกแล้ว!!!! ไอ้คำพูดแทงใจดำนี่! อลิซก็ว่าไปอย่าง แต่ริน…..อย่าพูดแบบนั้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มจะได้ม้ายยยย ทั้งที่บนหน้าก็บอกว่าไม่ได้คิดร้ายแท้ๆ ร้ายบริสุทธ์เลยนะเธอเนี่ย
แต่ว่าคิดในแง่บวก… รู้สึกว่ารินจะมีอาชีพเป็นจอมเวทย์ ถ้างั้นความชำนาญในด้านดาบคงน้อยแน่ๆ ถึงจะฝึกมาตลอดก็เถอะ ฉันเองก็ยังมีสุดยอดการประมวลผลอยู่ แล้วถึงความต่างเรื่องสเตตัสจะกว้างก็เถอะ แต่รินก็เป็นผู้หญิงบอบบาง ฉันคงมีโอกาสชนะเยอะขึ้นแน่ๆ เพราะจะให้แพ้ผู้หญิงมันก็น่าสมเพชเกินไป งั้นนี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วก็ได้
〝งะ งั้นก็เอาแบบนั้นแหล่ะฝากตัวด้วยหล่ะ ฉันจะพยายามเต็มที่เลย〞
〝อะ อืม ฉันเองก็จะไม่ออมมือเหมือนกัน〞
โอ้! ดูมุ่งมั่นดีนี่นา แต่ก็ดีแล้วล่ะนะ
แล้วกรที่ยังไม่เข็ดหลาบกับความคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้น ก็ต้องมารู้สึกเสียใจภายหลังในหลายๆความหมายอีกครั้ง….
❖❖❖❖❖
การประลองผ่านไปเรื่อยๆจนใกล้จะครบทุกคู่แล้ว ผลการแข่งขันของพวกกรคือ โชต อลิสและชาญชนะทั้งหมด แล้วในตอนที่เหลืออีก 2 คู่ก่อนจะถึงรอบของกรและริน กรก็ถามรินขึ้นมา…
〝จะว่าไปทุกคนเนี่ยสุดยอดเลยนะ ทั้งที่เพิ่งจะจับดาบได้แค่สัปดาห์เดียว แต่จากมุมมองของมือสมัครเล่นอย่างฉันก็รู้เลยว่า ฝีมือการใช้ดาบของพวกนั้นยังกับนักรบคร่ำศึกยังไงอย่างงั้นแหละ〞
〝เอ๋!!! นี่นายไม่รู้เหรอ? ที่ทุกคนทำแบบนั้นได้ก็เพราะฉายา〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙ต่างหากหล่ะ〞
〝หะ…..หา!!!! ว่ายังไงนะ!!!! 〞
ไอ้ฉายาสุดเท่นั่นนะเหรอ โกหกน่า….. ไอ้เราก็นึกว่าฉายามันมีไว้โชว์เฉยๆ มีคุณสมบัติพิเศษด้วยงั้นเรอะ!
แล้วรินก็เปิดคำอธิบายฉายาของตัวเองให้กรดู
〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙
《 คำอธิบาย : สุดยอดผู้กล้าขั้นสุดยอดผู้ก้าวข้ามขีดจำกัด เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับพรจากพระเจ้า มีผลทำให้สามารถใช้อาวุธทุกชนิดในการต่อสู้ได้อย่างชำนาญ ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย 》
ห๊า!!!!!!!!!!!
อีกแล้ว!!!!! แค่ไอ้พวกสกิลโคตรโกงนั่นยังไม่พอ ขนาดฉายายังมีผลพิเศษขนาดนี้เลยเหรอฟ่ะเนี่ย? แล้ว 『สุดยอดผู้กล้าขั้นสุดยอดผู้ก้าวข้ามขีดจำกัด』งั้นเหรอ? จะอวยกันออกหน้าไปแล้ว…
แล้วมีอธิบายว่าเป็นพรของพระเจ้าด้วย! หรือว่าไอ้พระเจ้านั่นจะลืมให้ฉันกัน? นี่มันอะไรกันฟะไอ้แก่เสเพลนี่!!!!
งะ งั้นของฉันหล่ะ! ไอ้〘การใช้ชีวิตที่ผิดพลาด〙ของฉันมันทำอะไรได้บ้าง!!!
〘การใช้ชีวิตที่ผิดพลาด〙
《 คำอธิบาย : ยังหวังอะไรจากชีวิตสุดบัดซบนี่อีกงั้นเหรอ…. 》
〝………………… 〞
อะไรกันฟ้า!!!!! ไหงของฉันมันน่าหดหู่เป็นแบบนี้! ไม่มีคุณสมบัติพิเศษอะไรเลย แถมไอ้ที่เขียนอยู่นี่มันไม่ใช่คำอธิบายแล้วโว้ย!!! คำด่าชัดๆเลย แช่งกันอีกต่างหาก
ไอ้ฉายาไร้สาระนี่มันอะไรวะเนี่ย!!!!
อะ เอาเถอะ… ถึงบ่นไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นหล่ะ… รู้สึกสงสารตัวเองชะมัดเลย…..
แต่เดี๋ยวก่อนสิ!!! ไอ้ฉายา〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙นี่ รินเองก็มีนี่หว่า… ถ้างั้นหรือว่า!?
〝คะ คุณรินครับ… อย่าบอกนะว่าเธอเองก็ทำแบบนั้นได้ ? 〞
〝ก็…..พอทำได้อยู่หรอกนะ—— กะ กร เป็นอะไรไป!!! 〞
รินยังพูดไม่ทันจบ กรก็ลงไปนั่งคุกเข่าในท่า ORZ ซะแล้ว ดูเหมือนมันจะเป็นท่าประจำตัวของกรไปแล้ว
จบแล้ว….. ไม่มีทางเลยชนะเลยเฟ้ย ถึงรินจะเป็นผู้หญิงบอบบาง แต่กลับมีไพ่ตายแบบนี้ซ่อนอยู่ แล้วยังมีช่องว่างของสเตตัสนั่นอีก ฉันนี่มันเซ่อชะมัด น่าจะรีบเอะใจแต่แรก———
〝เอาหล่ะการประลองจบลงแล้ว!!! ผู้ชนะ คือ ผู้กล้าเชษฐ์ !!!〞
〝โอ้ววววววววววว!!!!!!!!〞
เสียงประกาศจบการประลองของฮันซี่ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของกร และเมื่อเสียงโห่ร้องยินดีของผู้ชมจบลงฮันซี่จึงได้พูดต่อ
〝และต่อไปขอเชิญชมการประลองคู่สุดท้าย ผู้กล้าไอริน และ ผู้กล้าอุษณกร ออกมาข้างหน้า!!!〞
ห๋า!!! ตาเราแล้วงั้นเหรอฟะ เร็วชะมัด กะทันหันไปแล้ว!!! ยังทำใจยอมรับความจริงไม่ได้เลย!!!
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้ามาตรงกลางสนามประลอง หันหน้าเข้าหากันและยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นของตัวเอง ซึ่งหากกันราวๆ 5 เมตร
〝เอ่อ…ผู้กล้าอุษณกรสินะ【แย่ละสิ ลืมเรื่องสเตตัสเจ้านี่ไปซะสนิท….】〞
เฮ้ยๆ ถึงพูดในลำคอแบบนั้นฉันก็ได้ยินนะเฟ้ย เพราะมีสุดยอดการประมวลผลไงหล่ะ……
แต่เดี๋ยวสิเฮ้ย!!!!! นี่ลืมฉันไปจริงๆเหรอฟะเนี่ย น่าจะจำฉันได้ตั้งแต่ที่ตีกันครั้งก่อนแล้วไม่ใช่รึไงฟะ! นี่ฉันจืดจางขนาดนั้นเลยเหรอ? จะไร้ความรับผิดชอบไปแล้ว…
แล้วไอ้ที่เหงื่อตกทั้งที่ยิ้มใส่ฉันอยู่นี่หมายความว่าไงฟะ! ทำตัวยังกะไอ้พระเจ้าเลยนี่หว่า นี่พวกเอ็งเป็นผู้ใหญ่แน่เหรอ? เอาความเคารพของฉันคืนมาเลยนะ!!!!
〝เอ่อ…ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ แต่ผมว่าถ้าเกิดประลองกันทั้งๆแบบนี้ อุษณกรอาจจะบาดเจ็บหนักได้นะครับ〞
ในขณะที่กรกำลังคิดแบบนั้นอยู่ ก็มีคนพูดขึ้นมาขัดจังหวะ คนๆนั้นก็คือชาญนั่นเอง
〝กะ ก็จริงนะ ละ แล้วเธอมีวิธีงั้นเหรอ?〞
〝ครับผม…. แต่ขออนุญาติใช้เวทย์ได้รึเปล่าครับ〞
〝อะ โอ้ ก็เอาสิพ่อหนุ่ม…〞
โอ้! พระผู้ช่วยอยู่ใกล้แค่นี้เอง…. แล้วทำไมคุณฮันซี่ต้องพูดตะกุกตะกักด้วยฟะ!
แถมพอรู้ว่ามีวิธีแก้ก็โล่งอกซะออกนอกหน้าเชียวนะ…
ในขณะที่กรกำลังหงุดหงิดอยู่นั้น ชาญก็เริ่มการร่ายเวทย์…
【อำนาจของสหายแห่งเราเอ๋ย!!! จงสถิตย์ขึ้นมาด้วยพลังอันมากล้นของเราด้วยเถิด!!! 】
【Status Sharing!!!】
หลังจากนั้นแสงอันอบอุ่นที่มีสีเขียวอ่อนๆ ราวกับสีของป่าอันเขียวขจีก็เข้าโอบล้อมกรและริน
นะ นี่มัน รู้สึกเหมือนพลังมันเพิ่มขึ้นมาเลย คงไม่ใช่ว่ารู้สึกไปเองนะ…
〝เวทย์สเตตัสแชร์ริ่งนี่หน่ะ จะทำการรวมสเตตัสของเป้าหมายสองคนขึ้นไปมาเฉลี่ยกันแล้วทำให้กลายเป็นสเตตัสของทั้งสองคนนั้นเป็นเวลา 10 นาที ….เท่านี้ก็สามารถสู้ได้อย่างยุติธรรมแล้วครับ〞
〝โอ้!!! สุดยอดไปเลย ….ยอดเยี่ยมมากเจ้าหนุ่มแว่น!〞
โอ้ว!!! เป็นเวทย์ที่สุดยอดไปเลย แบบนี้มันถือว่าโกงไหมนะ แต่ช่างเถอะ อย่างน้อยก็ลดช่องว่างของสเตตัสมาได้หล่ะนะ… กู๊ดจ๊อบมาก ชาญเอ๋ย!
ขณะที่กรคิดแบบนั้นก็ยื่นมือที่กำอยู่แล้วเอานิ้วโป้งออกมา เป็นสัญลักษณ์บอกว่า〝ทำได้เยี่ยมมาก〞ซึ่งชาญก็หันกลับมาทำแบบเดียวกัน แล้วก็เดินออกไปจากลานประลอง
〝งั้นก็ทั้งสองคนก้าวมาข้างหน้า !!! เตรียมพร้อม……..〞
จากนั้นกรและรินก็กำด้ามของดาบไม้ไว้แน่นอยู่ในท่าเตรียม ในขณะเดียวกับที่ฮันซี่ยกมือขึ้นเตรียมให้สัญญาณเริ่มการประลอง
〝เริ่มได้ !!!!!!!!!〞
หลังจากที่ฮันซี่สับมือลง ทั้งสองคนก็ถีบพื้นจนใบหญ้าที่อยู่ใต้เท้าของตัวเองปลิวว่อน แล้วก็พุ่งเข้าหากันด้วยความรวดเร็ว….
.
.
สุดยอด!!!!!! รินเนี่ยแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? ไม่สิ… เป็นเพราะฉายา〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙สินะ แต่ถึงอย่างงั้นก็สุดยอดอยู่ดี…
หลังจากประกาศเริ่มการประลองก็ผ่านมาได้ซักพักแล้ว รินนั้นเป็นฝ่ายเริ่มจู่โจมกรก่อน กรที่รู้การโจมตีนั้นได้ก่อนด้วยสุดยอดการประมวลผล ก็เอาดาบมารับไว้แล้วปักป้องออกไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับทำการเคาน์เตอร์การโจมตีนั้นกลับ แต่รินก็หลบการโจมตีนั้นโดยการดีดตัวไปข้างหลังแบบฉิวเฉียด แล้วกรก็พุ่งเข้าไป แล้วแกว่งดาบเข้าไปที่บริเวณสีข้างของรินอย่างรวดเร็ว แต่รินที่เพิ่งดีดตัวหลบการโจมตีของกรพ้นก็ไม่ได้เสียจังหวะลงแม้แต่น้อย ซ้ำยังรับการโจมตีของกรได้สบายๆ แล้วก็ปัดการโจมตีนั้นออกไปได้อย่างง่ายดาย การผลัดกันรุกผลัดกันรับของทั้งคู่จึงยังดำเนินต่อไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะรู้ผล
เพราะมีสุดยอดการประมวลผล ถึงทำให้มองเห็นเคลื่อนไหวของรินออกหมดแล้ว ฉันเองก็เคลื่อนไหวได้อย่างที่ใจคิดแท้ๆ แต่ทำไมถึงโจมตีไม่โดนตัวเลยซักนิดนะ
หรือว่าเพราะใช้อาวุธสู้กันงั้นเหรอ? เพราะอีกฝ่ายใช้อาวุธได้ขอเพียงแค่สัมผัส ระบบก็จะจัดการการต่อสู้ให้เอง ถ้าเป็นงั้นถึงฉันจะไม่มีทางแพ้ แต่ก็ไม่มีทางชนะเหมือนกันล่ะสิ
เอ๊ะ!? งั้นถ้าฉันใช้มือเปล่าโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะสู้หล่ะ? แต่ลองดูก็ไม่เสียหายหรอกเนอะ
หลังจากที่กรคิดแบบนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปปะทะกับรินอีกครั้ง แล้วก่อนที่ใบดาบของทั้งสองจะปะทะกันจนเกิดเสียงดัง กรก็ปล่อยมือทั้งสองออกจากด้ามดาบของตัวเอง แล้วก็คว้าข้อมือด้านขวาของรินที่ถือดาบอยู่ไว้แน่น โดยกะแรงไม่ให้เธอเจ็บ ดาบของรินจึงฟันโดนแต่ดาบไม้เปล่าๆของกร เลยทำให้รินร้อง〝ห๊ะ!!!〞ออกมาด้วยความตกใจ และดูเหมือนสิ่งที่กรคิดนั้นจะถูก เพราะการจู่โจมแบบฉับพลันที่ไม่นับเป็นการโจมตี จากการใช้มือเปล่าคว้านั่น ไม่ได้ทำให้รินปัดป้องมือเขาออกไปก่อนที่จะถึงตัวเอง หลังจากที่กรคิดว่ารู้ผลแล้วและเพื่อให้แน่ใจในชัยชนะของตน ก็ยกมือของรินที่ตัวเองจับอยู่ขึ้นเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวไว้ แต่เพราะจังหวะที่เข้าปะทะกัน กรดันไม่ได้ใช้การโจมตีด้วยดาบอย่างที่ว่าไป จึงทำให้คุณสมบัติพิเศษของฉายา〘ผู้กล้าไร้พ่าย〙ไม่ทำงาน รินที่เกิดเสียจังหวะจากการปะทะกันนั้นก็เซไปด้านข้าง และแรงที่เกิดจากการล้มนั่นก็ดึงกรที่กำลังจับข้อมือของรินอยู่ให้ล้มลงไปด้วยกัน
ตุ๊บ!!!!!!
อึก! นี่มันเกิดอะไรขึ้นฟะ อยู่ดีๆสุดยอดการประมวลก็ลดประสิทธิภาพลง เหมือนวูบไปเฉยๆซะงั้นแหล่ะ
ว่าแต่ฉันล้มอยู่ใช่ไหมเนี่ย? มือซ้ายฉันก็คงจับมือขวาของรินไว้อยู่ แล้วทำไมมือขวาถึงได้สัมผัสอะไรนุ่มๆ อยู่กันเนี่ย รู้สึกดีจัง… แถมขนาดยังพอดีมือจนน่าตกใจอีก? แล้วนี่ฉันกำลังทับใครอยู่กันละเนี่ย?
หลังจากที่คำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว กรที่เริ่มรู้สึกตัวก็พยุงตัวเองขึ้นจากท่านอนคว่ำอยู่แล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดขีด…….
กรในตอนนี้นั้นกำลังนอนคร่อมอยู่บนตัวของริน และในขณะเดียวกันมือซ้ายของกรก็จับข้อมือขวาของรินไว้แน่นในตำแหน่งที่อยู่สูงกว่าศีรษะของรินที่อยู่ในท่านอนหงาย ส่วนมือขวาของกรก็กำลังจับหน้าอกของริน ซ้ำยังเผลอไปคลึงมันเข้าโดยที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยซักนิด และพอมองไปที่ใบหน้าของริน จะเห็นได้ชัดเลยว่าใบหน้าของเธอกำลังแดงก่ำจนถึงหูเพราะความเขินอาย เผยอริมฝีปากออกมาเล็กน้อยเพราะความตกใจ แถมมีน้ำตาปริ่มออกมาเล็กน้อยด้วย หากมองจากสายตาของบุคคลที่ 3 แล้วละก็ มันเหมือนกับว่ากรกำลังจะทำมิดีมิร้ายริน… ไม่สิกำลังจับกดรินอยู่ยังไงอย่างงั้นเลย
ชะ ฉันนั่งทับรินอยู่งั้นเหรอเนี่ย? งะ งั้น สัมผัสอันแสนวิเศษเมื่อกี้นี้ก็!!!?
〝ระ ริน คือว่า…. ฉันขอโท——〞
〝กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
เพี๊ยะ!!!!!!!!
เสียงที่รินใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของกร ดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของเจ้าตัว รินที่ตะโกนออกไปแบบนั้นก็เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกของตัวเอง พลางน้ำตาไหลโชก ร้องสะอึกสะอื้นแล้ววิ่งออกไปจากลานประลองด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อจนฝุ่นตลบ
หลังจากนั้นที่ฉันถูกมือซ้ายที่ว่างอยู่ของรินตบหน้าเข้า ตัวฉันก็กระเด็นไปชนกับรั้วของลานกว้างเข้าให้…
คนเราเนี่ยกระเด็นไปได้ไกลเหมือนกันแฮะ หรือว่าเพราะครบ 10 นาทีแล้วเลยกลับมามีสเตตัสเหมือนเดิมแล้วสินะ ฮะฮ่ะ… ความต่างของสเตตัสนี่มันน่ากลัวจริงๆ——
หลังจากนั้นสติของกรก็ขาดหายไป
〝เอ่อ….. แบบนี้จะถือว่าใครเป็นฝ่ายชนะงั้นเหรอ ?〞
ฮันซี่พูดแบบนั้นออกมาในขณะที่ทั่วทั้งลานประลองยังคงตกตะลึงในหลายๆความหมายกับการต่อสู้ของรินกับกร แล้วผลสุดท้ายการประลองก็ถูกตัดสินให้เป็นผลเสมอไป
❖❖❖❖❖