ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน - ตอนที่ 37 ท้องฟ้ามักจะสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะเข้ามา
- Home
- All Mangas
- ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน
- ตอนที่ 37 ท้องฟ้ามักจะสงบก่อนที่พายุลูกใหญ่จะเข้ามา
❖❖❖❖❖
〝อืม〜〞
แสงอาทิตย์อุ่นๆ ยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างชั้นสองเข้ามากระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มตื่นขึ้นจากภวังค์ แต่เพราะกำลังถูกความสบายเพราะนอนหลับนานกว่า 8 ชั่วโมงกดทับไว้อยู่เด็กหนุ่มจึงครางออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายเพราะไม่อยากลุกจากเตียงทันทีนั่นเอง และถึงแม้ก่อนหน้านี้ 10 นาที นาฬิกาปลุกจากสมาร์ทโฟนของเขาจะดังไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมลุกจากเตียงแต่อย่างใด
〝กร!!! 7 โมงครึ่งแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก! 〞
เสียงของหญิงสาวผู้เป็นแม่ตะโกนขึ้นไปยังห้องที่อยู่บนชั้นสอง หรือก็คือห้องของกรด้วยน้ำเสียงดุดัน เพื่อเรียกให้ลงมาเตรียมตัวไปโรงเรียนโดยเร็ว
〝งือ〜 ขออีกซัก 12 ชั่วโมงครับแม่〞
〝ปกติมันต้องขอ 5 นาทีไม่ใช่เหรอ!!!!! แล้วขอตั้ง 12 ชั่วโมง คิดจะหลับจนถึงเย็นเลยรึไงกันยะ!!!! 〞
〝คุณแม่รับมุขได้สวยครับ… ครอก〜〞
และต่อให้ท่านแม่ผู้บังเกิดเกล้าตะโกนขนาดไหน ฉันก็ไม่คิดที่จะลุกออกจากที่นอนเลยซักนิด
พอตบมุขคุณแม่เสร็จ ฉันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมโปง แล้วกลับไปนอนต่อในทันที อา…. สุขสุดๆ
〝สวัสดีค่ะคุณน้า! ขออนุญาตนะคะ! 〞
〝โอ๊ะริน! เข้ามาก่อนสิ! 〞
〝ค่ะ! 〞
เสียงแหลมเล็กของเด็กผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน ดังมาจากทางประตูหน้าบ้าน
ฟังจากน้ำเสียง ก็รู้แล้วว่ากระตือรือร้นสุดๆ
อ่อ… รินเองสินะ
ตอนนี้เธอคงกำลังสวมชุดนักเรียนปกกะลาสี สีขาว สวมกระโปงยาวถึงเข่าสีเทา ซึ่งก็คือเครื่องแบบนักเรียนโดยทั่วไปของประเทศไทยนั่นแหล่ะ
แล้วพอคุณแม่อนุญาต รินก็เปิดประตู แล้วเดินเข้ามาในทันที… ถ้าถามว่าเข้ามาทำไมหล่ะก็ ก็เข้ามาปลุกฉันนี่แหล่ะนะ
ถึงจะรู้สึกผิดก็เถอะ แต่ตอนนี้ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ใครซักคน (เตียงกับผ้าห่ม) ของฉันมันมีมากกว่าเธอนะริน… เพราะงั้นขอโทษทีเน้อ
〝ทานข้าวเช้ารึยังจ๊ะ? 〞
แล้วพอรินรีบเดินเข้ามาในครัว ก็พบกับแม่ของกรที่กำลังสวมผ้ากันเปื้อนดูเข้ากันกับใบหน้าที่ยังสาวของเธอ
อนึ่ง ตอนนี้แม่ของกรกำลังผัดข้าวผัดด้วยกระทะกับทอดไข่ดาวไปพร้อมๆ กันอย่างคล่องแคล่ว ทั้งยังสามารถถามรินได้โดยไม่เสียสมาธิเลยแม้แต่น้อย
〝ทานมาเรียบร้อยแล้วค่ะ! ว่าแต่กร… คงเหมือนเดิมสินะคะ〞
〝เฮ้อ! ตามนั้นเลยจ๊ะ〞
คุณแม่ครับ ถอนหายใจใส่แบบนี้มันไม่ดีนา… เขาบอกว่าถอนหายใจหนึ่งครั้ง ความสุขจะหายไปหนึ่งครั้งเชียวนะ
〝ต้นเหตุก็เพราะลูกเองไม่ใช่รึไง! ให้ตายสิเจ้าลูกบ้ามุดถุงยางมาเกิดนี่ ซักวันจะจับยัดใส่กระสอบทรายแล้วเอาไปถ่วงอ่าวไทยให้ได้เลยคอยดู!!! 〞
〝หนะ นั่นกรได้ยินนะคะนั่น! 〞
ใช่เลยหล่ะ! ได้ยินเต็มสองรูหูเลยหล่ะ เพราะมีสุดยอดการประมวลผล ยังไงหล่ะ!!!
ว่าแต่ท่านแม่ครับ แบบนั้นมันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ… นี่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวของคุณเลยนะครับ!
….แล้วทำไมถึงอ่านใจผมออกหล่ะครับเนี่ย?
〝หึหึ! ก็กะให้ได้ยินนั่นแหล่ะ! เตรียมใจไว้ได้เลยไอ้ลูกชาย!!! 〞
〝อือ〜〞
คุณแม่ของกรตะโกนขู่อีกครั้งราวกับกำลังต่อว่าเด็กอนุบาลอยู่ยังไงอย่างงั้น และแน่นอนว่ากรตอบกลับมาด้วยเสียงครางเหมือนเดิม
〝ริน ฝากเป็นทัพหน้าเหมือนทุกทีด้วยนะ! 〞
〝ค่ะ! ไว้ใจได้เลย〞
พอคุณแม่บอกรินแล้วกำมือชูนิ้วโป้งเพื่อให้กำลังใจเหมือนทุกที คุณรินก็ทำการเดินจ้ำอ้าว ๆ ขึ้นมาชั้นสอง…
ขึ้นมาถึงหน้าห้องแล้ว… เร็วแฮะ! ก็มาปลุกทุกวันนี่นา …สกิลคงเต็มหลอดแล้วมั้งเนี่ย
อืม… คำพูดเมื่อกี้สื่อให้เห็นถึงความขี้เกียจของตัวเองเลยแฮะ แต่ฉันเหนื่อยกว่าคนอื่นง่ายนา… ต้องใช้พลังงานไปกับสุดยอดการประมวลผลนี่นา… เพราะงั้นขอทีเถอะ ถือว่าเป็นรางวัลของความพยายามไง!
แล้วอีกอย่าง ประตูห้องของฉันล็อคอยู่นะ เพราะงั้นเลิกหวังได้เลยริน
คลิ๊ก!
〝เข้าไปแล้วนะ! 〞
หลังจากที่เสียงปลดล็อดกลอนประตูจากภายนอกเงียบไปซักพัก รินก็ตะโกนเรียกเขาจากตรงประตูในทันที
เออ… ลืมไป… ยัยนี่ปั้มกุญแจสำรองไว้แล้วนี่หว่า
〝ตื่นได้แล้——〞
〝ไม่เอา! 〞
ยังไม่ทันที่รินจะพูดจบ กรก็รีบตัดบททันที รินที่อยู่ตรงประตูก็ถอนหายใจออกมาครั้งนึงเบาๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหากรที่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง แล้วก็ยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างเตียง
〝จะสายแล้วนะกร! 〞
〝อลิซสายกว่าฉันอีก ไปปลุกยัยนั่นก่อนสิ…〞
〝วันนี้อลิซมีซ้อมตอนเช้า เธอไปโรงเรียนก่อนแล้ว〞
บ้าชิบ! ทางหนีทางแรกหายไปแล้ว
〝ชิ! 〞
〝ยะ อย่าเดาะลิ้นแบบนั้นสิ! 〞
ช่วยไม่ได้… ถ้างั้นก็มีแต่ต้องดันทุรังท่าเดียว
〝ถึงงั้นก็ไม่เอาอยู่ดี!!! 〞
〝นะ นายเนี่ยน้า! ถ้างั้นคราวนี้… ฉันเองก็ต้องใช้วีธีรุนแรงแล้วเหมือนกันนะ〞
〝โห๋! รินนะเหรอรุนแรง น่ากลัวจังแฮะ〞
〝อย่ามาหยอกนะ! ——ยะ ย้า! 〞
รินทำแก้มป่องอย่างน่ารักน่าชังใส่ฉันที่พูดประชดออกไปเล่นๆ แล้วเธอก็จับการดึงผ้าห่มที่คล้ายโดมโดยมีฉันอยู่ข้างในออกมาทั้งอย่างงั้นเลย
ว่าแต่…
〝เดี๋ยวสิเฮ้ย! นี่ก็ดึงเหมือนทุกทีไม่ใช่รึไง! 〞
〝นายก็ไม่ยอมออกมาเหมือนกับทุกทีนั่นแหล่ะ! 〞
〝ดื้อชะมัดเลย! 〞
〝หนอย นายก็เหมือนกันแหล่ะ! 〞
แต่แน่นอนว่าแรงของผู้ชายอย่างฉันต้องมากกว่าผู้หญิงบอบบางอย่างรินแน่นอน เธอเลยดึงไม่ออกซักที
แต่ถึงจะดึงออกไม่ได้ แต่แบบนี้มันจะไปนอนได้ยังไงกัน!
〝งั้นก็ช่วยไม่ได้! 〞
〝อึก! คราวนี้จะใช้ไม้ไหนอีกหล่ะ〞
พอกรพูดแบบนั้นออกมา รินก็ทำท่าทางระวังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกทีที่กรพูดแบบนั้นออกมา เขาก็จะทำเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงทุกครั้ง และแน่นอนว่าครั้งนี้เองก็เช่นกัน
ชึบ!
〝เอ๋! 〞
กรปล่อยผ้าห่มที่กำลังดึงอยู่แล้วถีบตัวเองออกจากเตียงไปอยู่ข้างหลังริน เนื่องจากว่าพอกรปล่อยผ้าห่ม รินที่กำลังดึงอยู่ก็ต้องเสียหลักแล้วล้มไปข้างหลังตามแรงปฏิกิริยาที่กรดึงผ้าห่มตามกฎข้อที่ 3 ของนิวตัน แต่กรก็คาดไว้แล้วจึงเข้าไปรับได้ทัน โดยการใช้มือทั้งสองข้างพยุงไหล่ของริน
รินที่รู้สึกตัวอีกทีก็โดนกรจับได้ ก็กลับหน้าแดงออกมาเพราะถูกการจู่โจมอย่างกระทันเข้าไป แต่ก็เป็นแบบนั้นได้เพียงครู่เดียว เพราะต่อจากนั้น….
〝กร! ขะ ขอบคุณนะ〞
〝อ่าห้า! นี่ไม่ใช่เวลามาขอบคุณหรอกนะ… เพราะของจริงมันต่อจากนี้ไปต่างหาก〞
〝ว่าไงนะ! ——ห๊ะ ๆ ๆ ๆ ยะ หยุดก่อน ห๊ะ ๆ ๆ ๆ 〞
จากนั้นฉันก็ทำการจักจี้ที่เอวของรินอย่างต่อเนื่องในทันที นั่นเลยทำให้รินบิดตัวไปมาอย่างน่ารักน่าชังราวกับลูกแมวที่โดนลูบไล้ไปทั่วตัว แล้วก็หัวเราะเสียงแหลมออกมาพร้อมๆ กันด้วยหล่ะ
เอ๋! นี่เป็นการลวนลามทางเพศอย่างนึงงั้นเหรอ? ใครสนเรื่องนั้นกันหล่ะ เพราะการนอนมันสำคัญกว่านี่นา แถมนี่หน่ะยังแค่เริ่มเองนะ…
〝ว้าย!! 〞
กรผลักรินให้ล้มลงไปกับเตียง (-///-) จากทางด้านข้างอย่างกระทัน นั่นเพราะรินกำลังเสียสมาธิอยู่ด้วยนั่นแหล่ะเลยไม่ได้ระวังตัวเลยซักนิด แต่ถึงกรจะผลักอย่างกระทันหันก็ไม่ได้ทำให้รินบาดเจ็บเลยซักนิดเดียว นั่นเพราะมีฟูกซ้อนอยู่บนเตียงชั้นนึงแถมยังใช้แรงผลักไม่มากอีก
〝ดะ เดี๋ยวสิกร! คิดจะทำอะไร〞
〝หุหุ! ทำอะไรงั้นเหรอ? นี่มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่นา〞
รินถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงและใบหน้าแดงระเรื่อ กรจึงตอบกลับไปพร้อมกับหายใจเข้าออกแรงๆ พร้อมกับทำมือขยุมขยัมทั้งสองข้างราวกับพวกโรคจิต แล้วก็เดินเข้าเข้าไปใกล้รินที่นอนราบบนเตียงทั้งๆ แบบนั้น
〝มะ ไม่ได้นะ! ตอนนี้ยังไม่พร้อม… ไม่สิ! ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้… แต่ตอนนี้มันยังเช้าอยู่… มะ ไม่ใช่แล้ว!!! นี่ฉันพูดอะไรออกมาเนี่ย! 〞
〝ไม่เป็นไร เพราะจากนี้ จะได้อยู่ด้วยกันอีกยาวเลยหล่ะ… จนกว่าจะถึงเย็นเลย หุหุหุ! 〞
〝มะ ไม่น้า!!!! 〞
แต่ถึงรินจะตะโกน แต่เธอก็ไม่ได้รีบวิ่งออกจากเตียงไปแต่อย่างใด จนเหมือนกับว่าเธอจำยอมยังไงอย่างงั้นเลย แล้วพอกรเดินเข้าไปจนถึงขอบเตียง มือทั้งสองข้างของเขาก็คืบคลานเข้าไปหารินที่นอนอยู่บนเตียงอย่างช้าๆ แล้วจากนั้น…
ฟุบ!
〝ไม่ได้น้า!!!! อะ อ้าว!? 〞
พอรินรู้สึกตัวอีกที เธอก็ถูกมัดด้วยฟูกหนา 3 นิ้วเป็นม้วนโดยมีเชือกไนลอนมัดอยู่โดยรอบอีกชั้นนึงอย่างหนาแน่น โดยโผล่ออกมาได้แค่ศีรษะกับขาท่อนล่างเท่านั้นเอง นั่นเลยทำให้รินสบถออกมาด้วยน้ำเสียงโล่งอกปนเสียดาย? เพราะเข้าใจผิด
〝ไงหล่ะ! ก็แค่เซ็ทฟูกกับเชือกให้ยาวออกมาพอดึงได้ทันทีไว้ล่วงหน้าอะน่ะ… พอเธอนอนปุ๊บก็รวบเชือกแล้วก็มัด ใช้เวลาราวๆ 1.8 วินาทีก็เสร็จแล้ว… สุดยอดปะล่ะ〞
〝เอ๋!!!!!!!!!!! 〞
เป็นไงหล่ะ ตกใจมากหล่ะสินะกับแผนการอันชาญฉลาดของฉันหน่ะ… แต่ทำไมรู้สึกเหมือนเธอจะตกใจในเรื่องอื่นมากกว่าเนี่ย แถมทำหน้าเสียดายด้วย…
〝นั่นสินะ… งั้นแผนนี้ขอใช้ชื่อว่า 『ขนมโตเกียวสอดไส้รินที่เพิ่งพลาดท่าเพราะโดนฉันจักจี้』ก็แล้วกัน 〞
〝ยาวไปแล้วนะนั่น!!! 〞
โอ๊ะ! ตบมุขได้สวยเลยนี่นา ที่โยนมุขไปเนี่ยไม่สูญเปล่าแล้วสินะ
แถมรินยังอยู่ในฟูกอีก แบบนี้เหมือนกับมุกในแก๊งสามช่าเลยนี่หว่า… ตลกดีเหมือนกันแฮะ
〝งือ〜ตกใจหมดเลย นึกว่านายจะทำอะไรฉันซะอีก〞
〝หืม? 〞
พอกรได้ยินรินพูดแบบนั้นออกมาด้วยใบหน้าเขินอาย เขาก็เข้าใจเหตุผลที่รินตกใจเพราะเรื่องอื่นได้เสียที แล้วยังคิดที่จะแกล้งรินเพิ่มอีกต่างหาก
〝อะไรกันครับคุณไอริน… นี่อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องแบบนั้นอยู่หน่ะ〜〞
〝มะ ไม่ใช่อย่างงั้น! 〞
จากนั้นกรก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้รินจนแทบจะชนกันเพื่อแกล้งเธอ พร้อมกับใช้คำพูดหยอกล้อเสริมเข้าไปอีก จนหน้าของรินที่โผล่ออกมาแค่ศีรษะแดงไปจนถึงหูด้วยความเขินอาย แล้วก็พยายามมุดหน้าลงไปในฟูกอย่างน่ารักน่าชังราวกับเต่าที่หดหัวเข้าไปในกระดอง แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จเพราะกรได้มัดมันเสียแน่นพอที่เธอจะหลุดออกมาไม่ได้โดยง่าย
〝เห๋! แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยหล่ะคร้าบ〜〞
〝กะ ก็นายบอกว่าจะอยู่ด้วยกันจนถึงเย็น… ชะ ฉันก็…〞
〝หึหึ! ฉันแค่กะจะให้เธอนอนอยู่เงียบๆ เป็นเพื่อนแค่นั้นเอง ฉันจะนอนหลับสงบๆ ยังไงหล่ะ…. นี่คิดไปไกลขนาดไหนครับเนี่ยแม่คู๊ณ〞
〝กะ ก็เพราะพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้นนั่นแหล่ะ! 〞
รินทำแก้มป่องมองมาทางฉันด้วยสีหน้าเขินอายอีกครั้ง ทั้งที่หน้าแทบจะติดกัน เธอก็เลยหันหลบตาไปอีกทางในทันที
〝เอ๋ เอ๋ เอ๋? แต่เธอก็คิดถึงเรื่องแบบนั้นก่อนเลยนี่นา 〞
〝ระ เรื่องนั้นมัน! 〞
จากนั้นกรก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆ หูของรินเพื่อพูดหยอกล้อใส่เธออีกครั้ง
〝ริน… ลา-มก-จัง〞
〝งึ้ย! 〞
กรพูดแบบนั้นข้างๆ หูของรินที่ยังอยู่ในม้วนฟูก จนทำให้รินร้องเสียงแปลกๆ ออกมา เพราะสัมผัสกับลมที่ออกมาจากปากของกรในตอนที่พูดประโยคหยอกล้อที่แรงเกินไป จนเธอต้องเขินอาย รู้สึกจั๊กจี้และเสียวสันหลังวาบไปเลยทีเดียว
ฟิ้ว!
〝!!! 〞
ชั่วพริบตาที่รินร้องเสียงแปลกๆ ออกมา กรก็สัมผัสได้ถึงวัตถุเรียวยาวพุ่งตรงมายังบริเวณศีรษะของตน เขาจึงจัดการคว้ามันด้วยมือขวาทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่ขว้างมันมาใส่ แถมยังรับจากข้างหลังทั้งที่ไม่ได้มองอย่างสมบูรณ์แบบ
แล้วพอกรนำวัตถุที่อยู่ในมือมาดูด้วยความสงสัย ก็ปรากฏว่ามันคือ ตะหลิว จึงสร้างความสงสัยให้กับทั้งกรและรินเป็นอย่างมาก จนทั้งสองคนถึงกับเอียงคอสงสัยและมีเครื่องหมายคำถามลอยขึ้นมาอยู่บนหัวเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วพริบตาอีกครั้ง ที่กรสัมผัสได้ถึงจิตต่อสู้อันรุนแรงมาจากข้างหลังจนตัวเขาสั่นเทิมไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัวที่เขาเจอมาตลอด 17 ปี ซึ่งบุคคลที่ว่านั่นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก…
〝คุ… คุณแม่คร้าบ! 〞
〝อาหารเช้าเสร็จแล้วนะจ๊ะ! ว่าแต่ว่า….〞
〝อึ๋ย! 〞
หม่อมแม่ของกรมองมาทางเขาด้วยสายตารุนแรงในหลายๆ ความหมาย จนตอนนี้กรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกบที่โดนงูจ้องจนขยับไม่ได้ยังไงอย่างงั้นเลย
〝แกล้งรินของแม่หนักไปแล้วมั้งเนี่ย〞
〝อึก! คนที่สอนผมให้ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยไม่สนเงื่อนไขอื่นก็คือแม่ไม่ใช่เหรอครับ! 〞
〝เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน! 〞
〝อะ เอาแต่ใจจังนะครับผม〞
อนึ่งตอนนี้กรกำลังนั่งอยู่ขอบเตียงและใช้มือทั้งสองข้างตั้งการ์ดป้องกันแม่ของตัวเองอยู่ ด้วยสัญชาตญาณที่แม้จะเห็นแม่ตัวเองภายนอกเป็นสาวสวยงามสง่ามีราศี กำลังยิ้งอยู่อย่างร่าเริง แต่ด้วยออร่าไม่ธรรมดาที่แผ่ออกมา (จากที่กรจินตนาการไปเอง) เลยตั้งท่าแบบนั้นออกมาโดยที่ไม่ต้องคิด
ก็นะ… ถึงที่แม่สอนมาจะเป็นคติสำหรับการใช้ชีวิตจริงๆ ก็เถอะ แต่ในความหมายเชิงปฏิบัติแล้วมันโหดสุดๆ ไปเลยหล่ะ
ประมาณว่า ถ้าอยากจะสอบได้ที่ 1 ก็ต้องอ่านหนังสือแบบไม่หลับไม่นอน 3 วันให้ตายไปข้าง… หรือถ้าอยากจะชนะการแข่งวิ่งร้อยเมตรก็ใส่แรงจนสุดตั้งแต่ต้นยันจบไปเลย!
ประมาณนี้แหล่ะครับท่านผู้ชม… แล้วถามว่าเคยลองทำไหมนะเหรอ…. จะเหลือเหรอครับ… แล้วผลลัพธ์หน่ะเหรอ
ต้องขออนุญาตใช้คำว่า 〝หลังเสร็จภารกิจ ก็อ้วกแตกทุกรอบ〞เลยหล่ะครับ… ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมก็อยากจะตบมุขแม่เหมือนกันนะว่า 〝อย่าสอนเรื่องแบบนี้ให้เด็กสิฟ่ะครับ! 〞อยู่เหมือนกัน
ไม่ต้องสนความเสี่ยง… ไม่ต้องสนเวลาที่เสียไป… ไม่ต้องสนผลลัพธ์ที่ตามมา… ถ้าเจอทางที่จะเล่นเกมได้แต้มมากที่สุดก็เลือกทางนั้นไปเลยไม่ต้องคิด…
จะว่าไปแล้วนี่ก็คงเป็นสาเหตุนึงที่ฉันเป็นไอ้บ้าก็ได้หล่ะมั้ง… ก็ถูกเสี้ยมสอนมาตั้งแต่เด็กนี่นา… แถมพ่อก็ไม่ได้คัดค้านวิธีของแม่อีก เฮ้อ!
〝คิดอะไรระหว่างที่คุยกับคุณแม่สุดที่รักกันหา! ไอ้ลูกชายตัวดี!!!!!! 〞
〝อย่ามาอ่านใจกันสิคร้าบบบบ!!!!!!! 〞
ชิ้ง!
พอฉันต่อล้อต่อเถียงกลับไป มือซ้ายของคุณแม่ก็ดันมีทัพพีมาอยู่ในมือซ้ายอย่างเร็วเลย มองไม่ทันด้วย ยังกะมายากลแหน่ะ! สัตว์ประหลาดชัดๆ เลยครับคุณแม่!
แล้วก็ยังไม่จบ… เพราะแน่นอนว่าคุณแม่ของกระผมต้องทำการขว้างมันมาทางผมอีกครั้งอยู่แล้ว ฉันเลยกระโดดลงมาจากเตียงแล้วก็โยนตะหลิวทิ้งไปบนพื้น (เด็กดีอย่าเลียนแบบนะครับ)
และก็แน่นอนว่าหนนี้ฉันก็รับไม่พลาดเหมือนเคย… แล้วแม่ก็โยนมาทางนี้อีกอันนึงด้วยช้อน… และช้อนอีกอันนึง… และอีกอันนึง… และอีกอันนึง… และอีกอัน—— เดี๋ยวสิเฮ้ย! นี่เยอะไปแล้วครับเจ๊
〝การคิดเรื่องอื่น ทำให้เสียสมาธินะเจ้าลูกชาย! 〞
〝หนอย! ก็บอกว่าอย่ามาอ่านใจไงครับ! 〞
〝เอาเถอะ เดี๋ยวก็จบแล้ว! 〞
〝อึ๋ย! คราวนี้จะมาไม้ไหนอีกหล่ะครับเนี่ย! 〞
ฉันตบมุขคุณแม่กลับไป แบบเดียวกับที่รินเคยพูดใส่ก่อนหน้านี้
และไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น แม่ของผมก็ขว้างอาวุธลับมาทางผมในทันที แล้วพอผมคว้ามันตามปกติ ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ยังหลงเหลือจากการใช้งานของตะหลิวที่เพิ่งคว้างมา…
เดี๋ยวสิ! นี่เอาตะหลิวที่เพิ่งใช้เสร็จมาโยนใส่ลูกชายสุดที่รักงั้นเหรอครับ! แม่ตูโหดสลัดมาก!
แล้วก็เป็นไปตามที่แม่คาดไว้! ผมรีบโยนตะหลิวที่ยังร้อนนี้ทิ้งทันทีเนื่องจากปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ของร่างกายและเสียสมาธิไปพริบตานึง แล้วตอนนั้นเองที่แม่ผมอาศัยจังหวะเข้าประชิดตัวจนได้แล้วเอาช้อน (ที่ไม่รู้งัดออกมาจากไหนอีกเหมือนเคย) มาชี้เข้าที่หว่างคิ้วของผมพร้อมกับเท้าสะเอวและประกาศชัยชนะของตนอย่างภาคภูมิ
〝ครั้งที่ 2,485… หนนี้แม่ชนะแล้วนะ! 〞
〝อือ〜แพ้แล้ว! 〞
กรบ่นแบบนั้นในลำคอเบาๆ แต่แน่นอนว่าแม่ของเขาที่ประชิดตัวอยู่ต้องได้ยินแน่นอน เธอจึงสับหัวกรเบาๆ ครั้งนึง พอกรลูบหัวของตัวเองเบาๆ กลับ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นราวกับบรรยากาศเมื่อครู่เป็นแค่เรื่องในจินตนาการไปเลย
〝ว่าแต่หนนี้โหดไปหน่อยรึเปล่าครับเนี่ย… ใช้ตะหลิวที่กำลังร้อนแบบนี้หน่ะครับ? 〞
แต่ถึงจะบอกว่ากรเป็นฝ่ายปราชัยก็ตาม แต่เรื่องที่ถูกขว้างด้วยตะหลิวที่กำลังร้อนใส่ก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ กรจึงกอดอกเพื่อขอให้แม่ตัวเองอธิบายในจุดนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็คล้ายๆ กับทุกทีที่ผ่านมา
〝เอ๋ๆ! พูดอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย〞
〝มามุขนี้อีกแล้ว… แต่พูดไปก็เหมือนข้ออ้างเปล่าๆ คราวนี้ผมยอมจบเรื่องเองก็ได้〞
พอคำถามที่ถามอย่างจริงจังถูกตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ แล้ว ก็เลยทำให้กรหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็คิดอยู่ในใจอย่างหน่ายๆ ว่า เอาเถอะ ก็เหมือนทุกทีนี่นา! เลยถอนหายใจด้วยความคิดแล้วก็ปล่อยผ่านเรื่องนี้อย่างง่ายดายเหมือนกับที่คุณแม่ของกรทำ
〝ต้องแบบนี้สิลูกแม่! 〞
คุณแม่ของกรเองก็ตอบกลับกรเพื่อที่จะจบบทสนทนาอันยืดยาวนี่เสียที แล้วก็เข้าไปกอดลูกชายตัวเองอย่างแนบแน่น เลยทำให้กรคิดอยู่ในใจว่า ให้ตายสิ! แต่เพราะเขาก็โตเป็นหนุ่มแล้ว กรเลยหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเขินอายจากการที่ถูกแม่ของตัวเองกอด แต่ซักพักก็ถูกเสียงของบุคคลที่สามซึ่งนั่งคุดคู้อยู่บนเตียงของกรดึงกลับมาสู่ปัจจุบันกาล ด้วยน้ำเสียงที่ราวกับจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ
〝นะ นี่! ถ้าจบแล้วก็… ปล่อยฉันเถอะนะ… 〞
อ่อ… ริน ลืมไปซะสนิทเลย…
ขอโทษครับ…
❖❖❖❖❖
หลังจากศึกย่อมๆ ในห้องนอนของกรจบลง กรที่ปลดปล่อยรินออกจากพันธนาการ (ฟูกนอน) แล้ว ก็รีบแจ้นไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเวลารวมแค่ 7 นาทีเศษเท่านั้น ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นผลมาจากการเข้าค่ายนักศึกษาวิชาทหารที่กรกำลังเรียนอยู่ในปีที่ 2 ซึ่งก็ผ่านค่ายพักแรมแบบที่ว่ามาแล้ว 2 ครั้ง จนติดเป็นนิสัย
การเข้าค่ายของนักศึกษาวิชาทหารในประเทศไทย แม้จะมีการฝึกในช่วงกลางวันหนักแค่ไหน แต่เวลาพักผ่อนที่น้อยนิดอยู่แล้วก็ไม่ได้ถูกเพิ่มขึ้นมาตามความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวันแต่อย่างใด รวมถึงเวลาอาบน้ำด้วยเช่นกัน จากการที่ต้องเข้าค่ายเป็นคณะใหญ่กับโรงเรียนอื่นรวมแล้วกว่า 500 คน เวลาอาบน้ำก็ยิ่งน้อยลงเพราะถูกหารด้วยจำนวนห้องน้ำที่มีจำกัด แต่ถึงจะใช้ห้องอาบน้ำรวมก็มีเวลาแค่ 10 นาทีในการทำภารกิจดังกล่าว เท่านั้นตามที่ถูกกำหนดโดยครูฝึก
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฝึกบริหารเวลา และใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด กรที่เข้าใจแบบนั้นจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใดกับเรื่องฝึก ทั้งยังติดเป็นนิสัยไปอีกด้วย บวกกับนิสัยโอตาคุที่ไม่อยากเสียเวลาฟาร์มเวลแม้วินาทีด้วยแล้ว เลยทำให้กรใช้เวลาได้แบบคุ้มสุดในเวลาอันน้อยนิดนั่นเอง
ขณะนี้ทั้งสามคน อันประกอบไปด้วยกร รินที่อยู่ในชุดนักเรียนมาตรฐานของโรงเรียนมัธยมปลายใกล้บ้าน กับคุณแม่ของกรที่อยู่ในชุดลำลองหลังจากถอดผ้ากันเปื้อนแล้วกำลังนั่งเข้าหากันโดยมีโต๊ะยาวสำหรับ 6 คนอยู่ตรงกลาง โดยกรและรินนั่งข้างๆ กัน ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นแม่ของกร
〝เฮ้อ! 〞
รินถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ ในขณะที่ตักข้าวผัดใส่จานให้กับกร
〝โทษทีนะริน… 〞
〝ไม่ต้องมาขอโทษเลย! 〞
กรร่างกระตุกเล็กน้อยเพราะถูกดุ ก่อนที่จะรับจานที่รินส่งมาให้อย่างรู้สึกผิด
〝กะ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา… ก็นี่หน่ะ——〞
〝ค่าๆ! เพราะเป็น 『การฝึกควบคุมและเพิ่มความเสถียรในการใช้งานสุดยอดการประมวลผล』…. ใช่ไหมล่า! 〞
〝อึก! 〞
เพราะฉันกำลังถูกรินดุอยู่ จังหวะการพูดเลยติดขัดไปหน่อย… รินก็เลยพูดแทรกได้
แถมที่พูดออกมานั่นยังแทงใจดำกระผมอีกแหน่ะ…
อย่างที่รินบอกนั่นแหล่ะ… ที่พวกเราสามคนทำทุกเช้านั่น เหตุผลกว่า 80% นั่นเป็นเพราะทั้งหมด คือ การฝึกควบคุมสุดยอดการประมวลผลนั่นเอง
ทำไมถึงต้องฝึกงั้นเหรอ… ก็เพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้ควบคุม สุดยอดการประมวลผลให้อยู่ในอำนาจจิตใจยังไงหล่ะ… พอคุ้นชินกับมันในระดับนึง ก็จะควบคุมมันได้มากขึ้นเช่นกัน… ก็ไอ้ความสามารถนี้หน่ะตอนแรกมันเป็นความสามารถที่อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจนี่นา…
ถ้าไม่ฝึกควบคุมล่ะก็ ตอนเดินบนถนนที่คนพลุกพล่าน ฉันคงไม่พ้นต้องอาเจียน… ไม่สิ จริงๆ แล้วก่อนนห้านี้ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาแล้วตั้งหลายครั้งแหล่ะนะ… เพราะงั้นแหล่ะถึงต้องฝึก
แล้ว กว่าจะควบคุมไม่ให้ตาลายเวลาสวนกับคนเยอะๆ นี่ก็ล่อไปซะเกือบปีเชียวนะ… ลำบากโคตรเลยหล่ะ …
ก็เหมือนกับการฝึกกล้ามเนื้อกับสมาธิ… ยิ่งฝึกนานละบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ…
แล้วคงสงสัยกันสินะ… ว่าทำไมถึงต้องเป็นตอนตื่นนอน
ก็อย่างว่า… คติของแม่คือ 〝ใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยไม่สนเงื่อนไขอื่น〞เป็นการกระทำที่บ้าดีเดือดจริงๆ เลยให้ตายสิ…
อย่างที่เคยบอก… สุดยอดการประมวลผลมันใช้การเผาผลาญพลังงานมากกว่าคนปกติ… ก็แน่นอนอยู่แล้วหล่ะ ฉันถึงได้เป็นคนนอนเยอะ แม่ก็เลยอาศัยจุดนี้แหล่ะ…
อย่างจะนอนต่อก็ใช้สุดยอดประมวลผลเอาชนะให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องนอน…. (โชคยังดีที่ไม่ทำแบบนี้ในตอนก่อนนอนนะครับผม)
แต่ถึงแบบนั้น นอกจากเช้าวันหยุดแล้ว ฉันแพ้ตลอดเลยหล่ะ… เพราะฉันเองก็มีความรับผิดชอบเหมือนกันน้า…
เพราะถึงจะตื่นสายแต่ก็ยังอยู่ในเวลาที่ไปโรงเรียนทัน (น่าจะนะ) แถมยังมีรินมาเป็นกำลังเสริมอีก ถึงจะมารับหน้าก่อนทุกครั้งก็เถอะ… เลยไม่อยากให้เธอโดดคาบแรกไปด้วยหน่ะ
ทำไมถึงกลับคำพูดตอนแรกที่ทำคนอื่นลำบากงั้นเหรอ? แหมๆ ตอนนั้นมันเบลอๆ อยู่นี่นา… คนเพิ่งตื่นนะเฟ้ย ใครก็คิดที่จะนอนต่อโดยไม่สนอินทร์สนพรหมทั้งนั้นแหล่ะคร้าบ!!!
ว่ากันว่ามนุษย์ที่เอาชนะแรงดึงดูดจากเตียงหลังตื่นนอนได้ก็คือยอดมนุษย์เชียวนะ นับได้ว่าเป็นชัยชนะของมนุษย์ชาติได้เลย… ฉันในตอนนี้ยังทำเรื่องยิ่งใหญ่แบบนั้นไม่ไหวหรอก…
และแน่นอน ที่รินไม่เตือนฉันในเชิงว่า 〝เลิกทำอย่างนี้ซักที 〞ก็เพราะว่า เธอเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยอยู่แล้ว…
แล้วรินยังอาสามาช่วยเองด้วยนะ… ถึงผลลัพธ์จริงๆ เธอจะไม่ค่อยมีส่วนช่วยเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ไม่กล้าบอกอ่า… สงสารรินจะตายชัก
แต่ถึงจะไม่ได้มีวิธีฝึกแค่วิธีนี้วิธีเดียวก็เถอะ… แต่ยังไงแม่ก็คงใช้วิธีนี้อยู่ดีนั่นแหล่ะ…
แล้วถึงจะบ่นนู่นบ่นนี่… แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้กังวลว่าผมจะไปสายเลยซักนิด….
เพราะแบบนี้แหล่ะ… ถ้าไม่เรียกว่าเป็นเรื่องช่วยไม่ได้แล้ว จะเรียกว่าอะไร——
〝แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกันนะ! 〞
〝อึก! 〞
กรทั้งสะอึกและร่างกระตุกเป็นครั้งที่สอง ต่อหน้ารินที่ดุเขาราวกับเด็กๆ กรจึงทำได้แค่ก้มหน้ามองจานข้าวผัดและรู้สึกผิดต่อการกระทำอันหยาบคายก่อนหน้าของตัวเองเพียงเท่านั้น
เพราะถึงจะบอกว่าเป็นการฝึก แต่ที่กรทำกับรินมันก็เกินไปจริงๆ ไม่ต่างกับที่แม่ของกรขว้างตะหลิวที่กำลังร้อนใส่เลย จะว่าเป็นกรรมตามสนองก็ได้ กรในตอนนั้นถึงรู้สึกว่าไม่ใช่ความผิดของแม่ฝ่ายเดียวและปล่อยผ่านเรื่องดังกล่าวไป
〝ขะ ขอโทษ… ไหว้หล่ะ สำนึกผิดแล้วคร้าบ! จะให้ทำอะไรก็ยอม… ยกโทษให้ทีเถอะนะ!!! 〞
เพราะเห็นว่าควรจะขอโทษอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียทีกรก็รีบพนมมือขอขมารินตามที่พูดในทันที ด้วยสีหน้าที่จริงจัง และน้ำเสียงที่ฟังดูรู้สึกผิดแบบสุดๆ ออกไป
แต่ปฏิกิริยาที่กรได้กลับมาจากรินกลับเป็นสิ่งที่น่าตกใจกว่า… นั่นเพราะรินหัวเราะเบาๆ ในจมูกดัง หึ! แล้วทำหน้าเหมือนกับจะบอกว่า เสร็จล่ะ! กลับมา นั่นเลยทำให้กรเข้าใจได้ในทันทีว่านั่นหมายความว่ายังไง
〝สัญญาแล้วนะ! 〞
〝สะ เสร็จกัน! 〞
จังหวะที่กรขอขมาออกไปแบบนั้น ชะตากรรมของกรก็ตกเป็นของรินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว…
〝จะกลัวไปทำไมเล่าไอ้ลูกชาย… รินไม่ใช่คนโหดร้ายแบบนั้นซักหน่อย… อย่างมากก็คงแค่ถูกสั่งให้นั่งคุกเข่าในท่าเบญจางคประดิษฐ์ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง〞
〝อึ๊ย! 〞
กรอุทานออกมาด้วยเสียงแปลกๆ แล้วก็เขยิบตัวถอยห่างจากรินด้วยสัญชาตญานในทันที เพราะสำหรับกรที่สมองทำงานได้รวดเร็วกว่าคนอื่น จนเรียกได้ว่ากระแสของเวลาความคิดของกรเดินช้ากว่าคนปกติหลายสิบเท่า การถูกจับไปนั่งเป็นเวลานาน ๆ ก็คือการทรมานที่ทารุณจิตใจอย่างหนักหน่วงราวกับถูกจำคุกนาน 10 ปีก็ไม่ปานนั่นแล
〝จะว่าไปแล้วคุณน้าเองก็ด้วยนะคะ! เรื่องที่โยนตะหลิวใส่กรหน่ะ… ถึงกรจะไม่คิดอะไร แต่ฉันคิดว่าแบบนั้นมันเกินไปจริง ๆ นะคะ〞
〝อึ๊ย! 〞
แต่เจ้าของสัญญาอย่างรินก็รีบปฏิเสธออกมาก่อน แล้วคราวนี้คนที่โดนดุก็เป็นแม่ของกรแทนจนร้องแปลกๆ ออกมาและทำท่าทางเหมือนกับกรไม่มีผิด จนตอนนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าใครกันแน่ที่อายุมากกว่ากัน
〝เถอะน่าริน! เรื่องนั้นก็ถือว่าหายกันกับที่ฉันทำกับเธอไง? นะ! 〞
จากมุมมองของกรแล้ว การที่แม่ของเขาทำการโจมตีอย่างหนักหน่วงใส่ตน เป็นสิ่งที่ถูกคำนวณมาแล้วว่าจะไม่ทำให้กรได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นฟกช้ำแต่อย่างใด เพราะจะว่าไปแล้ว กรที่มีสุดยอดการประมวลผลสามารถรับสัมผัสได้เร็วกว่าคนอื่นหลายเท่า เขาจึงใช้เวลาในการคว้าและขว้างตะหลิวทิ้งเพียงไม่ถึง 0.5 วินาทีด้วยซ้ำ เลยไม่ทำให้เกิดแผลพุพองแต่อย่างใด
คราวนี้กรจึงเป็นฝ่ายรีบแก้ต่างให้กับบุพการีของตนบ้าง อย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ทว่า…
〝ไม่ได้นะคะ! ยังไงแบบนั้นมันก็เกินไป…〞
แต่ดูเหมือนหนนี้ รินจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทั้งกรและแม่ของเขา ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเพิ่งผ่านการออกกำลังมาอารมณ์เลยยังคุกกรุ่นอยู่ก็เป็นได้
〝…แล้วเรื่องฝึกหน่ะ หนูคิดว่าจนถึงตอนนี้ก็มากเกินไปแล้วด้วย… น่าจะถึงเวลา——〞
〝ไม่ได้หรอก〞
แต่พอรินที่อยู่ในอารมณ์เดือดปุดๆ พูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของแม่กรที่พูดแทรกขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง ราวกับเป็นคนละคนกับหญิงสาวขี้เล่นก่อนหน้า
〝กรหน่ะ… พิเศษ รินเองก็รู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอจ๊ะ? 〞
〝ระ เรื่องนั้นทราบดีค่ะ… กรหน่ะสุดยอด… แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะนะคะ…〞
แล้วรินที่โวยวายมาซักครู่ก็เงียบลง เพราะหาคำพูดมาใช้โต้กลับไม่ได้ก็ต้องยอมแพ้ไปโดยปริยาย
〝น่าๆ ถึงเจ้าลูกชายจะวิเศษวิโสยังไง… แต่ก็ยังเป็นไอ้บ้าอยู่ดีนั่นแหล่ะ… เพราะงั้นถ้าไม่ฝึกให้เชื่อง ซักวันต้องไปไล่งับชาวบ้านแน่เลย ห๊ะห๊ะห้า! 〞
〝เดี๋ยวๆ! ผมไม่ใช่หมานะครับแม่! 〞
ด้วยคำพูดล้อเล่นเช่นเคยของแม่กรเลยทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง กรที่ตบมุขนั่นกลับไปเองก็เพื่อการนี้ด้วยเช่นกัน
〝ถึงต้องให้รินช่วยดูแลกรด้วยยังไงหล่ะ! 〞
〝นะ นั่นก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ〞
〝เพราะลูกชายน้าเป็นแบบนี้… เพราะมีความสามารถแบบนี้อยู่กับตัว ตอนที่เผลออาจจะไม่สามารถควบคุมพลัง แล้วก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดหรืออะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ถึงต้องมีไอรินอยู่ด้วยไง… เพราะน้าเองก็อยู่กับเขาไม่ได้ตลอดไปนี่น๊ะ〞
〝….คุณแม่〞〝คะ คุณน้าคะ〞
ในทันทีที่คุณแม่ของกรพูดเรื่องจริงจังออกมากลางโต๊ะอาหาร เลยทำให้เกิดบรรยากาศเดธแอร์ขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ กรเองก็หยุดเคี้ยวอาหารโดยที่ไม่รู้ตัว ส่วนรินก็ได้แต่ก้มหน้ากับคำพูดของแม่กร
เป็นอย่างที่คุณแม่ว่า… ถ้าเกิดวันนึงเราต้องอยู่เพียงลำพังขึ้นมา…
ไม่ไหวหรอก… นึกภาพตัวเองที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีคุณแม่ไม่ได้เลยแฮะ
ถึงจะเป็นคุณแม่แบบนั้นก็เถอะ… แต่ก็ไม่มีผู้ใหญ่ที่รู้จักใจดีไปกว่าแม่อีกแล้ว…
ถึงจะเป็นเรื่องของอนาคต… แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมา…. ตอนนั้นเราจะทำยังไง——
〝เพราะงั้นถ้าทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แล้วมีหลานให้แม่อุ้มเร็วๆ ก็จะดีใจมากเลยหล่ะ! อะแฮะ! 〞
〝〝หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 〞〞
บรรยากาศซึ้งกินใจเมื่อครู่ ถูกเป่าให้หายไปในพริบตาที่แม่ของกรพูดโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงหยอกๆ พร้อมกับเอากำปั้นข้างขวาเขกที่ศีรษะของตัวเองและแลบลิ้นออกมาอย่างจงใจ แต่ว่านั่นกลับทำให้ทั้งสองมีปฏิกิริยากลับในหลายๆ ความหมาย
〝พะพะพะพะพะพะพะ พูดเรื่องอะไรกันคะเนี่ย!!! ระระระ เรื่องแบบนั้นไม่เห็นเกี่ยว!!! แถมมัน… มะ มันยังไม่ถึงเวลาด้วย! 〞
〝นะ นึกว่าจะพูดเรื่องอะไรซะอีก〞
〝กะกะกะ กร! ใจเย็นเกินไปหน่อยแล้วมั้ง! 〞
ต่างกับรินที่โหวกเหวกออกมา กรกลับตอบกลับคำพูดของแม่ตัวเองด้วยอารมณ์ปกติที่เขินอายเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นใบหน้าของกรก็ยังแดงกว่าปกติโขอยู่ดี
〝นี่มันสมัยไหนแล้วจ๊า! แม่ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าทั้งสองคนจะวู้ฮู้หรือสะบาระเห้ กันหน่ะ! 〞
〝ไปเอาศัพท์เพี้ยนๆ นั่นมาจากไหนกันครับนั่น! ว่าแต่แม่ที่ไหนสนับสนุนให้ลูกทำเรื่องอย่างว่าก่อนวัยอันควรกันหน่ะครับ! 〞
〝ก็แม่คนนี้นี่แหล่ะ〞
〝ยะ ยอมแพ้แม่คนนี้จริงๆ เลยให้ตายสิ! 〞
กรที่เอาแต่ตบมุขแม่ตัวเอง ก็ไม่ได้สังเกตเลยว่า รินนั่นเขินอายจนควันออกหู แล้วก็เอาศีรษะไปแนบกับโต๊ะอาหารเพราะหมดแรงไปเสียแล้ว
〝แต่ถ้ารินไม่รีบหล่ะก็… อาจจะโดนอลิซโฉบไปก่อนก็ได้นา〞
〝หวะ หวาหวาหวาหวา…..〞
แล้วคุณแม่ที่ยังไม่หยุดล้อเล่นก็ยังคงแกล้งรินต่อ จนกรรู้สึกจากใจเลยว่า นิสัยเสียที่ชอบแกล้งคนอื่นนั้นมาจากเธอคนนี้แน่นอน รินที่โดนแม่ของกรแกล้งก็เรียกได้ว่าแทบจะสลบคาโต๊ะ ก็ได้กรช่วยพยุงขึ้นมา เพราะทานอาหารหมดแล้ว จากนั้นจึงเตรียมตัวที่จะเดินทางไปโรงเรียน
พอกรรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันเสร็จเรียบร้อยก็ดันเก้าอี้กลับเข้าที่ พร้อมกับดึงสติของรินด้วยการจิ้มที่แก้มและตบที่ไหล่ของเธอเบาๆ รินที่ตื่นขึ้นมาก็ทำหน้าแดงแก้มป่องใส่ทั้งสองคน ก่อนที่จะออกไปรอที่หน้าประตูบ้าน
〝รีบไปรีบกลับหล่ะพ่อตัวยุ่ง! 〞
〝คร้าบๆ! 〞
พอทั้งสองคนพนมมือและทักทายแม่ของกรตามมารยาท แม่ของกรก็รับไหว้แล้วก็โบกมือให้ทั้งสองคน ก่อนที่กรและรินจะเดินทางไปโรงเรียนด้วยกันเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา…
❖❖❖❖❖