ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน - ตอนที่ 27 มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง มีครั้งที่สองก็ต้องมีครั้งที่สาม
- Home
- All Mangas
- ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน
- ตอนที่ 27 มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง มีครั้งที่สองก็ต้องมีครั้งที่สาม
【ไอ้หนู เจ้าเชื่อในเรื่องของโชคชะตาหรือชะตากรรมบ้างหรือเปล่า? 】
……………
อะไรอีกหล่ะเนี่ย? ภาพหลอนก่อนตายอีกแล้วงั้นเหรอ?
ไม่สิ… นี่มันมีแต่เสียงไม่ใช่เหรอ แต่เดี๋ยว…. ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นซะที่ไหนกันเล่า!!
ในขณะที่สติของกรกำลังดำดิ่งลงสู่หลุมลึกไร้ก้นบึ้งเพราะผ่านความตายมาแล้วอยู่นั้น กลับมีชายวัยกลางคนเอ่ยถามกรขึ้นมาในสถานการณ์แปลกๆ นี่ ด้วยคำถามที่ไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ กรจึงทำได้แค่มึนงงกับมันเท่านั้นเอง
【เชื่อหรือเปล่า? 】
ถามซ้ำอีกแล้ว! ที่ไม่ตอบไม่ใช่เพราะไม่ได้ยินเฟ้ย! แต่เพราะตกใจอยู่ต่างหาก…
…ว่าแต่ นี่เรากำลังจะตาย…. หรือคงตายไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่ใช่รึไง?
เรานี่ก็ยังมีอารมณ์มาตบมุขอีกนะ น่าโมโหกับตัวเองจริงๆ นี่หรือว่าจะชินกับความตายเข้าให้แล้ว…. หวา〜 ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็น่ากลัวพิลึกเลยนี่หว่า
【เชื่อ-รึ-ป่าว〜? 】
เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ตอบก็ได้!!! หยุดลากเสียงแบบนั้นทีเถอะได้โปรด…
เอ่อ….ถ้าตอบตรงๆ หล่ะก็…. ฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่หน่ะ
【โอ้! งั้นหรอกเหรอ ทำไมหล่ะ? 】
….ผลลัพธ์จากเหตุการณ์ต่างๆ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระทำที่ตัวเราเป็นคนก่อ ซึ่งมีเหตุมีผลเป็นของตัวมันเองทั้งนั้น
ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ จะมีปัจจัยภายนอกมาเอี่ยวเป็นส่วนใหญ่ จนเรียกไม่ได้ว่าเป็นการกระทำของตัวเองก็เถอะ แต่ถึงแบบนั้นตัวเราก็ยังมีสิทธ์ที่จะไม่ทำตามนั้นอยู่เหมือนกัน
….แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คงจะทำให้คนที่เลือกทางนั้นเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือขวางโลกไปเลยหน่ะนะ
ถ้าโชคชะตาที่นายหมายถึง มันคือการไม่สามารถควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองและต้องยอมปล่อยมันไปตามกระแสสังคม หรือตามที่ฟ้ากำหนด หรืออะไรเทือกๆ นั้นหล่ะก็… ชะตากรรมแบบที่ว่ามามันคงจะยากที่คนส่วนใหญ่จะฝืนมันหน่ะนะ
ไม่สิ… คิดว่าคนส่วนใหญ่คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำเรื่องที่ตัวเองคิดจะทำกันหรอกนะ เพราะงั้นเลยทำให้ทุกคนเชื่อว่าโชคชะตาเป็นสิ่งที่ขัดขืนไม่ได้ไป
ในส่วนของเรื่องนั้น สำหรับฉันหน่ะนะ….. ตั้งแต่ที่ทำการจุติครั้งแรก แล้วฝืนพรหมลิขิตที่เรียกว่า『ความตาย』มาแล้ว 2 ครั้ง ฉันก็เลิกเชื่อเรื่องแบบนั้นไปแล้วหล่ะ….
ก็นะ… ส่วนนึงก็เป็นเพราะ ฉันต้องการจะใช้ตัวเองเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยนั่นแหล่ะ
แต่ถึงแบบนั้น….. ตลอดมาตั้งแต่ก่อนจะจุติฉันก็ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนั้นอยู่แล้วหล่ะนะ
เพราะถึงรอบข้างจะนินทาว่าร้ายยังไง… ฉันก็จะหน้าด้านใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ดีนั่นแหล่ะ….
【 แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่า การที่เจ้าคิดแบบนั้นเอง ก็อาจจะเป็นเพราะถูกใครบางคนสั่งการณ์ก็ได้…… 】
!!!!!!!!!
หมายความว่ายังไง?
【…..ไม่คิดบ้างเหรอว่าชีวิตของเจ้าตลอดมาเอง ก็อาจจะถูกใครซักคนบงการมาตลอดก็ได้เหมือนกันหน่ะ? 】
อืม…. ถึงมาถามคำถามแนวปรัชญากับฉันคนนี้ไปก็เท่านั้นแหล่ะ
ถึงจะไม่เข้าใจที่นายพูด แต่ถ้าเป็นแบบที่นายว่ามาจริง… ตัวฉันในตอนนี้เองก็อาจจะพูดเพราะถูกสั่งการณ์อยู่ก็ได้สินะ หรือไม่งั้นความคิดของฉันตอนนี้เองก็อาจจะเป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขั้นมา…..
เฮ้อ! ให้ตายสิ… ไม่ถนัดกับเรื่องยุ่งยากจริงๆ ด้วยนะฉันเนี่ย
ไอ้เรื่องยุ่งยากพรรค์นั้น ฉันไม่เคยเก็บมาคิดให้รกสมองหรอกนะ….
ขอบอกไว้เลย…. ต่อให้ใครกำลังบ่งการณ์ฉันอยู่ หรือที่กำลังคิดอยู่นี่จะไม่ใช่ฉันก็ตาม
แต่ตัวฉันก็คือตัวฉันอยู่ดี…. ทุกๆ อย่างนั่นแหล่ะ….
ตัวฉันที่เป็นเพื่อนกับอลิซ ริน โชต ชาญและศร….
เป็นน้องของพี่มารี…. เป็นโอตาคุ…. ชื่นชอบเกมและอนิเมะ….
เป็นคนที่ผ่านการตัดสินใจว่าจะยืนหยัดขึ้นมาด้วยตัวเองจากความตายตรงทางตันที่เป็นกับดักนั่น….
เป็นคนที่ชนะการต่อสู้สุดดุเดือดเลือดพล่านกับเจ้าเคลเบรอส….
เป็นคนที่ช่วยเด็กผู้หญิงจากเงื้อมมือของมอนสเตอร์….
ช่วยเอาตราทาสของเธอคนนั้นออกให้ และสัญญากับเธอว่าจะปกป้องด้วยชีวิต….
สุดท้ายก็ทุ่มเทจิตวิญญาณจนมอดไหม้เพื่อโค่นบอสมังกรห้าหัว….
เพื่อปกป้องมีอา…. เพื่อปกป้องผู้หญิงที่ตัวเองรัก…. ทั้งหมดที่ว่ามาก็คือตัวฉัน!
ไม่เห็นต้องคิดให้ยุ่งยากเลยด้วยซ้ำว่าตัวเราเป็นยังไงกันแน่….
เพราะทั้งหมดที่ว่ามา…. มันก็คือตัวฉันทั้งนั้นเลยไม่ใช่รึไง?
นี่แหล่ะคือ…. คำตอบของฉันหล่ะ!
.
.
【 หึ! …ถึงจะบอกว่าตัวเองไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยังสาธยายออกมายาวเป็นหางว่าวเชียว… เป็นอย่างที่คิด… เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยซักนิด…】
『ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย』งั้นเหรอ? พูดยังกับรู้จักฉันดีเลยแหน่ะ แถมพูดเหมือนกับตอนจุติครั้งแรกที่เป็นตัวฉันตอนเด็กด้วย….
นี่หรือว่าคราวนี้…. นายจะเป็นตัวฉันตอนแก่กัน!!!!
【ตลกน่าไอ้หนู! มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง】
ก็… นั่นสินะ
ช่วยไม่ได้นี่นา… ก็ตัวฉันช่วงนี้เจอแต่เรื่องที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้รุมเร้าเข้ามาตลอดเลยนี่นา จะมีตัวเองจากอนาคตมาให้กำลังใจก่อนตายบ้างก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่นา
เดี๋ยวดิ… ถ้าเราตายตอนนี้ แล้วตัวเราตอนผู้ใหญ่มันจะมาจากไหนกันหว่า อ่อ… เข้าใจหล่ะ เพราะงั้นถึงเป็นไปไม่ได้หล่ะสินะ
【หัวไวดีเหมือนกันนี่ไอ้หนู】
แต่ตัวฉันตอนเด็กมันบอกว่าฉันหัวช้าแหน่ะ….
แต่ถึงอย่างงั้น…. ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนเคยได้ยินเสียงนาย ไม่สิ… รู้สึกเหมือนเคยเจอนายมาก่อนเมื่อนานมาแล้วกันนะ…
ทั้งที่ถ้ามีสุดยอดการประมวลผลก็จะไม่มีทางลืมได้แท้ๆ …. เหมือนกับตอนที่ลืมเรื่องของศรกับพี่มารีไม่มีผิด
【ก็ไม่แปลกหรอกนะไอ้หนู…. ก็พวกเราเคยเจอกันมาก่อนจริงๆ นี่นา แถมไม่นานมานี้เราก็เพิ่งพบกันด้วยนะ】
เอาจริงดิ! ที่ไหน? เมื่อไหร่กัน?
【น่าเสียดาย…. ตอนนี้ตัวตนของข้า ยังไม่สมควรให้เจ้าได้รับรู้…】
เห๋! อย่างกไปหน่อยเลยน่า… ฉันบอกใครไม่ได้หรอกนะ
…ก็ตายไปแล้วนี่นา ห๊าห่ะห่ะ!!! เพราะงั้นก็บอกมาซะดีๆ เถอะ
【เพราะงั้นถึงบอกเจ้าไม่ได้ยังไงหล่ะ…. เพราะอีกไม่นาน เจ้าก็คงจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน】
ฟื้น? ระ… หรือว่าจะหมายถึง…. ฉันจะจุติอีกครั้งงั้นเหรอ?
【……ก็ประมาณนั้นแหล่ะ ดีใจรึเปล่าหล่ะ? 】
แน่นอนอยู่แล้ว!!! ไม่มีข้อโต้แย้งซักนิดเลยว่ามันไม่ดีหน่ะ!
เพียงแต่แค่สงสัยหน่ะว่า… มันจะโชคดีเกินไปแล้วมั้ง ที่ตายตั้ง 3 ครั้งแล้วก็ฟื้นขึ้นมาได้ตั้ง 3 ครั้งเนี่ย
【『ทุกอย่างมักมีเหตุผลในตัวของมันเองทั้งสิ้น』…เจ้าเป็นคนพูดเองไม่ใช่รึ …แต่โทษทีนะไอ้หนู ข้าบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นไม่ได้…】
อีกแล้วงั้นเหรอ…. นายนี่ยังกับเคลเบรอสเลยนะ
…เดี๋ยวก็เรียกนายว่าเคลเบรอสสองซะเลย———
วูม!!!
!!!!!!
และหลังจากที่กรสนทนากับชายวัยกลางคนปริศนามานานพอสมควร ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างไหลผ่านเข้ามาในสติของเขาอย่างกระทันหัน ทั้งยังสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มจะแสบตาอีกต่างหาก
】ถึงเวลาปิดโผแล้วงั้นสินะ…【
จะไปซะแล้วเหรอ? ไม่สิ… ฝ่ายที่ไปน่าจะเป็นทางนี้แทนซะมากกว่าหล่ะมั้ง
【 ก็ตามนั้นแหล่ะไอ้หนู…. อา…ข้าเองก็พูดไม่ค่อยเก่งซะด้วย แต่หลังจากนี้เจ้าจะต้องเผชิญกับอันตรายมากยิ่งกว่านี้แน่นอน…. คำเดียวที่จะบอกเจ้าได้ก็มีเพียงแค่คำอวยพรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น…
…..พยายามเข้าหล่ะ ไว้เจอกัน…. ไอ้หนู!!! 】
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ขอบคุณมากสำหรับคำอวยพร….
หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ…. ในเร็วๆ นี้———
วิ้ง! ————
แล้วจากนั้นสติของกรก็ขาดหายไปอีกครั้ง รวมถึงความทรงจำจากการสนทนาอย่างสนิทสนมกับชายวัยกลางคนปริศนานี้ก็เลือนลางลงไปพร้อมๆ กับตัวกรที่กำลังจะตื่นขึ้นมารับแสงอรุณ เสมือนกับมันเป็นเพียงแค่ความฝันจากการหลับลึกจนสมองไม่ได้จดจำไว้เท่านั้นเอง
❖❖❖❖❖
〝!!!! 〞
หลังจากที่กรหมดสติไป จนถึงกับไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนั้น พอรู้สึกตัวอีกทีและลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย ก็ต้องตกใจกับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาในทัศนวิสัยอย่างกระทันหันจนต้องปิดตาลงไปอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ปรับตัวกับแสงได้เขาจึงลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ก่อนที่จะยันตัวเองขึ้นมาจากท่านอนราบ แล้วนั่งกับพื้นในท่าเหยียดขาตรงทั้งสองข้างด้วยความรวดเร็ว
〝กร? 〞
〝!!!! 〞
และทันทีที่กรยันตัวเองมาอยู่ในท่านั่งเรียบร้อยแล้ว ก็มีเสียงของเด็กสาวเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงแปลกใจเล็กน้อย ดังขึ้นมาทางด้านขวาของเขาเพียง 1 ฝ่ามือเท่านั้นเอง
〝มีอา! ค่อยยัง———!!!!!! 〞
ฟุบ!
แล้วกรก็ตอบกลับเด็กสาวที่เรียกหาเขาในทันที แต่ยังพูดไม่ทันจบเด็กสาวคนนั้นหรือก็คือ มีอา ก็พุ่งตัวเข้ามากอดตัวเขาทั้งน้ำตา จากด้านหน้าอย่างกระทันหันจนกรตั้งตัวไม่ทันไปเสียแล้ว
〝เดี๋ยวๆ ๆ มีอา! ปล่อยนะเฟ้ย! มันอึดอัด———〞
〝ไม่เอา!!!!!! ไม่ปล่อยอีกแล้ว!!!! …..จะไม่ยอมให้นายไปไหนอีกแล้ว!!!!!!!! 〞
〝!!!!!!!! 〞
แล้วมีอาก็ตะโกนออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังลั่น มันทั้งหนักหน่วงและสั่นระริกจนทำให้ตัวกรกระตุกเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันมีอาก็เอาใบหน้าของตัวเองที่มีแต่น้ำตาไหลออกมาตลอดจนขอบตาแดงก่ำนั่น ซุกลงไปที่อกของเขาอย่างแรงพร้อมๆ กับใช้มือทั้งสองข้างกำเสื้อโค้ทสีดำของกรอย่างแรงทั้งที่ตะโกนแบบนั้นไปด้วย
มีอา… เถียงเราเนี่ยนะ!?
เดี๋ยวสิ… คาแรคเตอร์ของเธอต้องเป็นพวกขี้เกรงใจ&ไร้เดียงสาไม่ใช่เหรอ?
ไม่สิ… ปัญหาไม่ใช่เรื่องนั้นซักหน่อย
ก็รู้อยู่หรอกว่ายัยนี่ เป็นพวกดื้อดึงพอสมควร… แต่ไอ้ที่ตะคอกใส่เรานี่เป็นครั้งแรกแน่นอน….
〝………〞
〝ขอร้องหล่ะ อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ!!! ฉันหน่ะ…. ไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว!!!!! 〞
〝……..ขอโทษ〞
งั้น… เองหรอกเหรอ…
….เรานี่มัน ….บ้าชะมัดเลย
ความรู้สึกของความสูญเสียหน่ะ…. ทั้งเราทั้งมีอาเข้าใจมันดีอยู่แล้วแท้ๆ
มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ก็จริงอยู่…. แต่ถึงแบบนั้น…. เราก็ไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของมีอาเลยซักนิด———
〝สัญญาก่อน!!! 〞
〝เอ๋!? 〞
〝อย่าทำแบบนั้นอีกนะ!!! 〞
〝มะ…ไม่ได้หรอกเฟ้ย! ก็บอกแล้วนี่ ว่าจะปกป้องเธอด้วยชีวิตหน่ะ เพราะงั้น—— อึก! 〞
แล้วจากนั้นมีอาก็เถียงกรกลับเป็นชุด กรก็เถียงมีอากลับเช่นกัน เพียงแต่…. พริบตาที่กรบอกปฏิเสธในประโยคล่าสุดนั้น รูม่านตาของมีอาก็ขยายใหญ่ขึ้นบวกกับตาดำที่เล็กลง พร้อมๆ กับเงยหน้าขึ้นมาจนใบหน้าบริเวณที่ถูกผมปรกเกิดเงาขึ้นมาจนดูน่ากลัว (แบบสุดๆ) กรที่เห็นแบบนั้นก็ไม่พ้นต้องตัวกระตุกอย่างแรงเพราะความกลัวอีกครั้ง จนถึงกับกลืนน้ำลายเลยลงคอเสียงดังทีเดียว
〝………..จะ—สัญ—ญา—ไม๊คะ? 〞
แล้วมีอาก็ฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย ทั้งที่ยังคงใบหน้า (น่ากลัวสุดๆ) แบบเดิมเอาไว้อยู่ จนกรเริ่มรู้สึกสยองขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว
หน่ะ… น่ากลัวสลัดเลย!!!!! แม่จ๋า ช่วยลูกด้วย!!!!!!!!!
ไม่ออมมือให้ซักหน่อยเลยเหรอ… บ้าชัดๆ ปกติเธอไม่ใช่คนแบบนี้นี่หว่า?
แล้วฉันเป็นหัวหน้า ไม่สิ…. ควรจะเรียกว่าเป็นเจ้านายเลยด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงต้องกลัวมีอาด้วย อุหวา… ความกลัวมันมีเหตุผลซะที่ไหนกันเล่า!!!
แต่ตัวกระผมเพิ่งฟื้นขึ้นมาจากความตายนะขอรับ! น่าจะปราณีกันนิดนึง… เป็นสาวยันรึไงกันครับคุณเธอ?
〝ขะ…เข้าใจแล้วครับ เข้าใจแล้ว!!! สัญญา… สัญญาเลยครับ จะไม่ทำอีกแล้ว!!! 〞
〝อื้ม! ดีมาก…….〞
แล้วมีอาก็เว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนที่จะพยักหน้าให้กรแรงๆ ครั้งนึงพลางพูดแบบนั้นไปด้วย
〝ถ้างั้นก็….. ยินดีต้อนรับกลับมานะกร…. ดีใจมากเลยหล่ะ ที่นายยังมีชีวิตอยู่〞
แล้วมีอาก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นยิ้มแย้มแบบแจ่มใสเช่นเดิม จากนั้นก็ฉีกยิ้มออกมาเสียจนกว้างอย่างร่าเริง ทั้งยังหน้าแดงขึ้นมาหน่อยๆ ในขณะที่พูดแบบนั้นไปด้วย
กรที่เห็นแบบนั้นก็คิดขึ้นมาว่า มีอาที่พูดแบบนั้นด้วยใบหน้าที่เฉิดฉายช่างดูน่ารักและเจิดจ้ายิ่งนัก (จนนึกว่าเป็นคนละคนกับเมื้อกี้) พลางหน้าแดงขึ้นมาหน่อยๆ เพราะทานความโมเอะของเธอคนนี้ไม่ไหวไปพร้อมๆ กัน
〝อะ…. อื้ม! 〞
อา… ต้องใบหน้ายิ้มแย้มแบบนี้สิ ถึงจะเหมาะกับเธอหน่ะมีอา
น่ารักจริงๆ เลยน้าให้ตายสิ〜
อืม… แต่จะว่าไปแล้ว… ถึงเมื่อกี้นี้จะน่ารักแบบโคตรๆ ก็เถอะ….
……แต่มีอาตอนโกรธเนี่ย…. น่ากลัวชิบเลยฟ่ะ….
แล้วกรก็ตอบกลับมีอาไปแบบเขินๆ พลางคิดแบบนั้นอยู่ในใจไปพร้อมกันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ….
❖❖❖❖❖
หลังจากที่กรฟื้นขึ้นมา และพูดคุยสัพเพเหระกันพอหอมปากหอมคอกับมีอาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรก็รีบลุกขึ้นแล้วไปตรวจสอบไอเทมดรอปจากบอสมอนสเตอร์ที่เป็นมังกรห้าหัวนั่นเป็นอันดับแรกในทันที
เรื่องไอเทมที่ดรอปได้นั้นก็มีลักษณะคล้ายๆ แบบเดิม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะกรปรับอัตราการดรอปไอเทมให้ทุกอย่าง 100% นั่นแหล่ะ ผลล้พธ์ก็คือ ตรงจุดที่มังกรสลายไปได้เกิดเนินเขาสีทองอร่ามขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งสูงมากกว่าครั้งของเคลเบรอสเสียอีก
ส่วนเรื่องของรายละเอียดไอเทมแต่ละชิ้น ก็มีลักษณะเหมือนๆ เดิม นั่นคือ มีไอเทมระดับ S ขึ้นไปมากมายหลายชนิด อาทิเช่น ดาบ คฑา ขวาน ค้อน ฯลฯ ชุดเกราะ รวมถึงเกราะเบาออกศึกที่มีระดับอย่างต่ำคือ S เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นก็ยังมีตำราสกิลและไอเทมวัสดุระดับสูงเช่นเคย
ถ้าจะหาความแตกต่างของไอเทมดรอปในครั้งนี้กับครั้งก่อนหล่ะก็ คงจะเป็น เหรียญทองคำขาวที่อยู่กระจายกระจายไปทั่วเนินสมบัตินั่นแหล่ะที่แปลกตาสำหรับพวกกร ถึงจะถามมีอาไป เธอก็ไม่มีข้อมูลเพราะอาศัยอยู่บนเขาตลอด เคลเบรอสเองก็อยู่แต่ในดันเจี้ยน แถมข้อมูลที่เขียนในหน้าต่างของสกิลตรวจสอบก็มีเขียนแค่ว่า】เป็นเหรียญทองคำขาวบริสุทธิ์ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก….【เท่านั้นเอง นอกจากนั้นก็มีโพชั่นระดับสูงที่ช่วยฟื้นพลังเวทย์ ยาแก้สถานะผิดปกติและโพชั่นสำหรับเพิ่มบัฟสเตตัสและสกิลด้านต่างๆ มากมายซึ่งให้ผลลัพธ์สูงพอสมควร กรจึงคิดแบ่งพวกนี้ไว้ทดลองใช้บางส่วน
และไอเทมที่สำคัญที่สุดที่กรและมีอาเฝ้ารอมานานนั่นก็คือ『วัตถุดิบอาหาร』นั่นเอง ตัวกรเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเขาไม่ได้กินอาหารมาสัปดาห์นึงเต็มๆ แต่ที่ไม่หิวเลยนั่นเป็นเพราะการพัฒนาร่างจากการจุตินั่นแหล่ะ เลยทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นานโดยไม่ต้องกินอาหาร ซึ่งเรื่องที่ว่ามานี้กรก็เพิ่งจะมาสังเกตุและทำการตรวจสอบจนรู้เหตุผลในตอนที่เจอวัตถุอาหารนี้เอง เพราะตลอดมาตั้งแต่ที่เจอกับมีอาก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทานอะไรเลย แต่ส่วนใหญ่ที่ทานจะเป็นการนำไอเทมดรอปเช่น『ไข่ของเกรทแอนท์』มาปิ้งหรือใช้ความร้อนทำให้สุกแล้วค่อยทานกัน แต่รสชาติมันห่วยเกินบรรยายถึงขนาดที่มีอาที่เป็นคนไม่เลือกกินเพราะเคยเป็นทาสมาก่อนยังทนได้ยากเลย แล้วตัวมีอาเองก็ใช้พลังเวทย์ในการดำรงชีวิตมากกว่าอาหารอย่างที่เคยบอกไปแล้ว เพราะงั้นทั้งคู่จึงกินมันแค่วันละครั้งเท่านั้นเอง แม้จะช่วยให้อยู่ท้องแต่ก็รู้สึกแย่สุดๆ กับมื้ออาหารที่รอคอยมาทั้งวัน นั่นเลยทำให้ทั้งคู่ดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมาเลยทีเดียวเมื่อมีวัตถุดิบอาหารดรอปออกมา
นอกจากนั้นก็มีแต่พวกแร่หายากที่ระดับสูงกว่าที่ดรอปจากเคลเบรอส และคราวนี้ก็มีไอเทมจำพวก สูตรการสร้างอาวุธ เครื่องป้องกันหรือเครื่องประดับอยู่ด้วย ส่วนวัสดุที่ต้องใช้ก็อยู่ในขุมทรัพย์ที่กองเป็นพะเนินนั่นแหล่ะ แม้จะคิดว่าโชคดีจริงๆ ที่มีไอเทมออกมาเยอะและสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเองได้มากขนาดนี้ แต่ตัวกรที่ตรวจสอบไอเทมทุกอย่างและเก็บพวกมันทั้งหมดไว้ในดูอัลไดเมนชั่นริงเรียบร้อยแล้ว ก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองเพิ่งผ่านการจุติครั้งที่ 3 ไป ก็เลยเลือกที่จะตรวจสอบพลังใหม่ของตัวเองก่อนที่จะเลือกปัจจัยภายนอกอย่างไอเทมดรอป กรที่คิดได้แบบนั้นก็นั่งขัดสมาธิลงกับพื้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับมีอาแล้วก็เริ่มทำการตรวจสอบทันที…
.
.
ก็นะ… ถึงไอเทมดรอปมันจะออกมาเยอะมากกว่าที่คิดก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วหล่ะน่ะ…
แถมพวกตำราคราฟของที่ต้องการวัสดุระดับสูง ก็ดรอปออกมาพร้อมกันอยู่แล้วด้วย ยังกับจัดมาให้เป็นคอมโบยังไงอย่างงั้นเลยแฮะ….
แต่คิดว่าเรื่องนั้นค่อยทำหลังจากตรวจสอบสเตตัสใหม่หลังจุติจะดีกว่า… นั่นเพราะพวกไอเทมนั่นมีส่วนช่วยมากโขก็จริง แต่ตัวเราที่เป็นคนใช้พวกมันหน่ะ ย่อมต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้มากกว่าอีกจริงไหมหล่ะ?
เพราะงั้นฉันถึงรีบเปิดหน้าต่างสเตตัสของตัวเองออกมาอย่างไม่ลังเลเลย ส่วนผลลัพธ์นะเหรอ…..
ข้อมูลสเตตัส
『อุษณกร วัชรวิรุฬห์ 』เพศ ชาย อายุ 17 เผ่าพันธุ์ เทพเจ้า
『อาชีพ』 เลเวล 1
เทพนักดาบ (Full) ผู้ใช้ปืนขั้นสุดยอด (Full) จอมเวทย์ผู้เหนือล้ำ (Full)
『ฉายา』
【ทั่วไป】〘การใช้ชีวิตที่ผิดพลาด〙,〘ราชาผู้พิชิต〙,〘นักดาบไร้พ่าย〙,〘เทพนักแม่นปืน〙,〘จอมเวทย์บรรพบุรุษ〙
【จุติ】〘จุติแบบพิเศษขั้นสุดยอดที่หาได้ยากยิ่ง〙,〘จุติยักษาแบบพิเศษขั้นสุดยอด〙,〘จุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง〙
【เฉพาะตัว】〘Give me Your Everything? 〙 ,〘กฎของชั้นก็คือกฎของนาย กฏของชั้นก็คือกฏของชั้น〙,〘ผู้ก้าวล้ำสรรพสิ่ง〙,〘จิตวิญญานเหล็กกล้า〙,〘เหนือฟ้าใต้หล้า ทนทานทุกสิ่ง〙,〘กายาเหล็กไหล〙,〘แขนยักษาแห่งการทำลายล้าง〙,〘Ogre Armor Form〙, 〘ออร่าแห่งทวยเทพ〙,〘ผู้หยั่งรู้〙,〘Sacred God Armor Form〙
《พลังโจมตี》 1,102,365 《พลังป้องกัน》 1,559,612
《พลังเวทย์》 1,521,365 《ความต้านทานเวทย์》 1,576,115
《ความว่องไว》 1,258,615 《พละกำลัง》 1,588,315
เฮ้อ!!! 〜
แล้วพอกรเห็นหน้าต่างสเตตัสใหม่ของตัวเอง กรก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ พลางยกมือขึ้นมาเกาหัวแรงๆ พร้อมกันด้วยใบหน้าหน่ายๆ มีอาที่นั่งพับเพียบอยู่ใกล้ๆ จึงเอียงคอสงสัยการกระทำแปลกๆ นั่นของกรอย่างเลี่ยงไม่ได้
อะ… เอาเถอะ นี่มันครั้งที่ 3 แล้วนี่นะ ถ้ายังไม่ชินอีก ก็ต้องเรียกว่าเป็นคนปรับตัวไม่เก่งเอาซะเลยนั่นแหล่ะ
เรื่องสเตตัสที่เลเวลแค่ 1 แต่ก็ยังมากกว่า 1 ล้านเนี่ย…. เอาว่ะ ยังอยู่ในการคาดการณ์อยู่เลยไม่ตกใจเท่าไหร่
แต่ที่ตกใจมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องของเผ่านี่แหล่ะ… 『เทพเจ้า』เลยนะเฟ้ย! เทพเจ้าหน่ะ
นี่มันคนละโคกกับ『ยักษา』ในตอนแรกเลยไม่ใช่รึไงกันฟ่ะ ไม่เข้าใจหลักการของมันจริงๆ …. ตารางการอัพเกรดมั่วไปหมดแล้วเฟ้ย!!!
และแม้กรจะยังไม่เข้าใจเหตุผล แต่ก็ใช้นิ้วจิ้มไปที่ฉายา〘จุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง〙ในทันที เพราะคิดว่าถ้าจะหาเหตุผลที่เป็นแบบนั้น ก็ต้องเริ่มที่ฉายาหมวดการจุตินี่นั่นเอง
〘จุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง〙
《คำอธิบาย : ฉายาของผู้ที่ผ่านเงื่อนไขการจุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง โดยการได้รับพลังเทพจากการถ่ายโอนเข้าร่างกายโดยตรง มีผลทำให้สเตตัสพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างยิ่งยวดตามเงื่อนไขที่ผ่านการตรวจสอบ เพิ่มสเตตัสด้านพลังเวทย์และความต้านทานเวทย์เป็นพิเศษ ได้รับสกิลต้นฉบับที่ไม่เหมือนใครมาครอง รวมถึงความสามารถเฉพาะของเผ่าเทพก็เช่นกัน สุดท้ายคือขีดจำกัดของสกิลและเวทย์มนต์ที่มีในครอบครอง (เฉพาะสายปกติ) จะถูกปลดล็อคจากระดับสูงสุดจาก ขั้นสูง ไปเป็น ขั้นเทพเจ้า》
เอ่อ…. จะว่าเข้าใจหรือ…. ไม่เข้าใจดีหว่า…
ไม่สิ…. เข้าใจอยู่แล้วเฟ้ย!!! งั้นเหรอ…. ที่เราได้รับพลังเทพมา คงจะเป็นเพราะไปถ่ายโอนพลังเวทย์ให้มีอาโดยตรง ด้วยการไป….
จะ… จะจะจะ จูบเธอนั่นแหล่ะ! รู้สึกเหมือนทำอะไรผิดไปเลยแฮะ แถมมีอาที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังเอียงคออยู่อีก
รู้สึกผิดสุดๆ ไปเลย…. ขอโทษด้วยนะคร้าบบบ!!!!!
ตะ… แต่เรื่องนั้นเอาไว้ขอโทษทีหลังก็แล้วกัน…..
แล้วในส่วนของคำอธิบาย…. ก็เหมือนกับของฉายา〘จุติยักษาแบบพิเศษขั้นสุดยอด〙นั่นแหล่ะ
แต่ที่รู้สึกติดใจก็คงเป็น ตรงที่บอกว่าขีดจำกัดสกิลและเวทย์มนต์ถูกปลดล็อคนั่นแหล่ะ…. แต่เดี๋ยวลองดูหน้าต่างนี้ให้หมดก่อนค่อยไปดูสกิลเหมือนทุกทีจะดีกว่า เพราะงั้นก็ดูอันต่อไปเลยก็แล้วกัน…..
〘ออร่าแห่งทวยเทพ〙
《คำอธิบาย : ฉายาของผู้ที่ผ่านเงื่อนไขการจุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งชนะการต่อสู้สุดท้ายมาได้โดยใช้ออร่าเป็นตัวแปรหลัก มีผลทำให้สามารถสร้างออร่าซึ่งเป็นสกิลเฉพาะของเทพเจ้า แต่มีระดับสูงกว่าออกมาใช้งานได้ สามารถประยุกต์ใช้ได้ตามแต่ความชำนาญและเลเวลของผู้ใช้ ซึ่งการใช้ผลพิเศษนี้จะไม่เสียพลังเวทย์แต่อย่างใด นอกจากนี้บริเวณที่ถูกคลอบคลุมโดยออร่าดังกล่าวจะมีคุณสมบัติลดความเสียหายทางเวทย์มนต์ลงเหลือเพียงครึ่งเดียว *ผลพิเศษนี้ไม่มีคำร่าย จึงต้องสั่งใช้งานจากการนึกคิดเท่านั้น 》
อะ… อะไรว่ะเนี่ย…. 〘กายาเหล็กไหล〙เวอร์ชั่นต้านเวทย์รึไงฟ่ะเนี่ย!?
ถึงจะต้องสั่งใช้งานก็เถอะ… แต่เห็นบอกว่าไม่ต้องใช้เวทย์นี่หว่า… อีแบบนี้ก่อนสู้ก็คลุมมันก่อนทั้งร่าง ก็ไม่แตกต่างจาก〘กายาเหล็กไหล〙ที่เป็นสกิลติดตัวซักนิดเลยไม่ใช่เรอะ!!!
นี่มันเทพสมชื่อจริงๆ เลยพับผ่าสิ…. ว่าแต่ การใช้งานจะสูงขึ้นตามความชำนาญงั้นเหรอ ไม่เข้าใจตรงนี้นี่แหล่ะ… แต่มีบอกว่าขึ้นอยู่กับการประยุกต์——
เดี๋ยวดิ…. หรือว่า…. จะทำแบบนั้นได้ด้วย….
ซู่ม!!!
〝โอ้! อย่างที่คิดไว้เลยแฮะ!!! แต่ว่า……〞
แล้วพอกรตรวจสอบคำอธิบาย ก็พบความเป็นไปได้อย่างนึงขึ้นมาว่า เจ้าออร่าที่ว่าอาจจะสามารถใช้สร้างสิ่งของหรืออุปกรณ์ขึ้นมาจากจินตนาการได้เช่นเดียวกับออร่าสีทองจากสกิล『จิตวิญญานเหล็กกล้า』นั่นเอง
กรจึงไม่รอช้าที่เริ่มจินตนาการถึง มีดพกที่มีใบดาบยาวประมาณ 12 เซนติเมตรอยู่ในหัว ก่อนที่จะสั่งใช้งานสกิลด้วยการนึกคิด แล้วก็เป็นอย่างที่คาด พอกรจินตนาการเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อย ที่ฝ่ามือของกรก็มีออร่าสีขาวบริสุทธิ์ส่องประกายงดงาม ซึมออกมาจากภายในฝ่ามือของเขาออกมา แล้วก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างของมีดพกตามที่จินตนาการไว้ เพียงแต่…..
〝กร! นั่นมันคือ… ส้อม… งั้นเหรอ? 〞
〝อึก! 〞
แล้วมีอาที่เห็นกรทำอะไรแปลกๆ อีกก็เอียงคอสงสัยอย่างน่ารักน่าชังเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ นั่นเลยทำให้กรรู้สึกเขินอายจนร่างกระตุกอีกครั้งเลยทีเดียว
บ้าชิบ…. พูดไม่ออก….
แล้วไหงมันถึงกลายเป็น…. จะว่าไงดีหล่ะ เหมือนมีหนวดปลาหมึกสีขาวยึดอยู่กับด้ามแทนใบมีด แถมยังยั้วเยี้ยยึกยือ ไปมาอีกต่างหาก… สยองวุ้ย!
ใครจะไปบอกได้ว่าไอ้นี่เป็นมีดกันฟ่ะเนี่ย… ว่าแต่มีอา… เธอมองยังไงให้ไอ้นี่มันเป็นส้อมกันฟ่ะเนี่ย?
เรื่องจินตนาการถึงรูปร่าง เราไม่มีทางพลาดเรื่องนั้นอยู่แล้ว… ก็แหม ขนาดไอพ่นยังสร้างออกมาได้เลยนี่นา ถึงจะชั่วคราวก็เถอะ…
คิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่เลเวลกับคุณสมบัติของสกิลนั่นแหล่ะ… เพราะถึงจะสร้างออกมาได้ แต่ก็ไม่เสถียรเท่าออร่าสีทอง แล้วจากที่ดู…. เราก็พอสัมผัสได้อยู่ว่าระดับของสกิลต่างกันอย่างสิ้นเชิง..
ก็แหม… ไอ้ออร่าสีขาวนี่หน่ะ มันสร้างออกมาได้ทั้งที่ไม่เสีย MP เลยนะเฟ้ย ข้อจำกัดก็มีแค่เลเวลแค่นั้นเอง…
แตกต่างจากออร่าสีทองของ『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ที่ต้องบาดเจ็บสาหัสจนเกือบตาย…. แต่พอมานึกดูเนี่ย มันก็ต้องบาดเจ็บจนตายก่อนไม่ใช่รึไงฟ่ะถึงจะใช้งานได้ แถมมีเงื่อนไขนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด… ยุ่งยากชิบเลย!
เพราะข้อจำกัดต่างกันขนาดนี้สินะ… เลยทำให้ผลลัพธ์ออกมายังกับอยู่คนละมิติ…
แต่แหม…. จากที่ว่ามา สกิลที่มีเงื่อนไขน้อยกว่า ก็มีประสิทธิภาพน้อยกว่าตามเนี่ย… ก็ยังให้ความรู้สึกว่าระบบยังมีสมดุลอยู่… ถ้าไม่ติดว่าคนที่ได้เป็นฉันที่มีสกิลโกงๆ อยู่ก่อนแล้วหน่ะนะ….
ถ้างั้นก็ช่างมันแล้วกัน… ถ้าตายแล้วไม่ได้อะไรสิ มันถึงจะน่าโมโห (ถึงจะไม่ได้อยากตายก็เถอะ) !!!
งั้น….. ฉายาใหม่ที่ได้มา ก็เหลือแค่สองอันนี้สินะ….
〘ผู้หยั่งรู้〙
《คำอธิบาย : ฉายาของผู้ที่ผ่านเงื่อนไขการจุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายสามารถคาดคะเนการโจมตีได้แม่นยำ 100% เท่านั้น (โดยไม่นับการโจมตีที่จงใจโดน) มีผลทำให้ได้รับสกิลเนตรแบบพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่มีทางเลียนแบบได้ *ผลพิเศษนี้ไม่มีคำร่าย จึงต้องสั่งใช้งานจากการนึกคิดผ่านระบบสกิลเท่านั้น **ความสามารถขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง โดยไม่อิงจากสเตตัสใดๆ ของผู้ใช้ทั้งสิ้น 》
〘Sacred God Armor Form〙
《 คำอธิบาย : ฉายาของผู้ที่ผ่านเงื่อนไขการจุติเทพเจ้าแบบพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง มีผลทำให้ได้รับสกิลเฉพาะตัวแบบพิเศษ ซึ่งมีผลทำให้ความต้านทานเวทย์เพิ่มขึ้นมหาศาลในเวลาจำกัด 》
อา… อย่างที่คิดเลยแฮะ ไอ้ฉายา〘Sacred God Armor Form〙เนี่ยดูยังไง มันก็เกราะยักษาเวอร์ชั่นเทพเจ้าชัดๆ เลย…. นี่แสดงว่าเราจะมีเกราะสองแบบเลยสินะ… ไม่สิ ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นซะที่ไหนเล่า…
ส่วนไอ้ฉายา〘ผู้หยั่งรู้〙นี่… อธิบายความสามารถแปลกๆ อีกแล้ว สกิลเนตรอย่างงั้นเหรอ ไม่เข้าใจเลยเฟ้ย!
แถมไอ้บรรยากาศแบบนี้…. เหมือนกับตอนที่อ่านสกิล『ตั้งค่าขั้นกลาง (ต้นฉบับ) 』กับ『Ogre Arm (ต้นฉบับ) 』เปี๊ยบเลย
แถมมีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นสุดยอดสกิลเหมือนกันซะด้วยสิ…. เออ… ลางสังหรณ์เรายิ่งแม่นๆ กับเรื่องแบบนี้อยู่ด้วย…..
ไม่มีฉายาอื่นให้ดูแล้วด้วยสิ…. ช่วยไม่ได้ ถ้างั้นต่อไปก็ดูหน้าต่างสกิลเลยแล้วกัน….
สกิล
『สกิลโจมตี』
【วิชาดาบ】เฮอริเคนแสลช (ต้นฉบับ) , มัลติไพล์แอตซอลต์ (ต้นฉบับ)
【วิชาดาบคู่】คอมบิเนชั่นคอมโบ (ต้นฉบับ)
【วิชามือเปล่า】วันพ้านนนนช์ (ต้นฉบับ)
『สกิลป้องกัน』
『เวทย์มนต์』
【เวทย์ทั่วไป】เวทมนต์น้ำระดับเทพเจ้า, เวทมนต์ลมระดับเทพเจ้า, เวทมนต์ไฟระดับเทพเจ้า, เวทมนต์ดินระดับเทพเจ้า, เวทมนต์น้ำแข็งระดับเทพเจ้า, เวทมนต์สายฟ้าระดับเทพเจ้า, เวทมนต์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเทพเจ้า, เวทมนต์รักษาระดับเทพเจ้า, เวทมนต์แปรธาตุระดับเทพเจ้า, เวทมนต์ไร้ธาตุระดับเทพเจ้า, เวทมนต์พันธะระดับเทพเจ้า, เวทมนต์พฤกษาระดับเทพเจ้า, เวทมนต์วิญญาณระดับเทพเจ้า, เวทมนต์โลหะระดับเทพเจ้า, เวทมนต์สนับสนุนระดับเทพเจ้า
【เวทย์พิเศษ】ออร่าเทพเจ้า (ต้นฉบับ) , แสงแห่งการชำระล้าง (ต้นฉบับ)
『สกิลเสริมพลัง』เพิ่มพลังกาย,เพิ่มพลังเวทย์, เคลื่อนไหวความเร็วแสง (ต้นฉบับ) , Ogre Arm (ต้นฉบับ) , ปักษาสวรรค์ (ต้นฉบับ)
『สกิลติดตัว』ดูดซับทุกสิ่ง??? (ต้นฉบับ) , โจมตีอย่างแม่นยำ (ต้นฉบับ) , เรียกหน้าต่างสเตตัส, เข้าใจภาษาขั้นเทพเจ้า, เร่งการฟื้นฟูพลังเวทย์ขั้นเทพเจ้า, เร่งการฟื้นฟูบาดแผลขั้นเทพเจ้า, เติบโตยิ่งยวดขั้นเทพเจ้า, ตาเหยี่ยวขั้นเทพเจ้า, มองเห็นในที่มืดขั้นเทพเจ้า, ก้าวไร้เสียงขั้นเทพเจ้า, ลบตัวตนขั้นเทพเจ้า
『สกิลสายผลิต』ผลิตยาขั้นเทพเจ้า, ผลิตอาวุธขั้นเทพเจ้า, สร้างแบบอาวุธขั้นเทพเจ้า, ดัดแปลงคุณสมบัติแร่ขั้นเทพเจ้า
『สกิลพิเศษ』ตั้งค่าขั้นกลาง (ต้นฉบับ) , ตรวจสอบขั้นเทพเจ้า, ตั้งปาร์ตี้ขั้นเทพเจ้า, Ogre Armor Form (ต้นฉบับ) , Sacred God Armor Form (ต้นฉบับ) , เนตรทวิกาล (ต้นฉบับ)
〝อีหยังว่ะ!!! 〞
〝กะ… กร!!! อะไรล่ะนั่น… หมายความว่ายังไงเหรอ? 〞
〝ปะปะปะ เปล่า… ไม่มีอะไร แค่ตกใจนิดหน่อยหน่ะ ฮะฮ่ะ ฮะฮ่ะ….〞
แล้วกรที่เห็นหน้าต่างสกิลใหม่ของตัวเองก็ต้องตกใจตามสเต็ปเดิม เพียงแต่คราวนี้เขาตกใจมากจนเผลอหลุดภาษาถิ่นออกมาด้วย มีอาที่ได้แต่งงงวยยิ่งกว่าเดิมจึงถามกรไปแบบนั้น กรเลยรีบตอบเธออย่างกระวนกระวายและรวดเร็ว ทั้งยังหัวเราะออกมาแห้งๆ ราวกับจะกลบเกลื่อนเรื่องเมื่อครู่ไปพร้อมกันยังไงอย่างงั้นเลย
แย่หล่ะ… มีอาคงไม่มองเราเป็นตัวประหลาดไปแล้วหรอกนะ บ้าชิบ… วิถีชาวบ้านนี่มันน่ากลัวจริงๆ!!!
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน…. แต่นี่มันน่าตกใจมากเลยนะเนี่ย ระดับของสกิลทุกอย่างถูกปรับให้เป็นระดับเทพเจ้าหมดเลยจริงด้วย!!!
แถมยังมีเวทย์มนต์ชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกตั้ง 4 ชนิด…. แล้วยังมีสกิลต้นฉบับเพิ่มเข้ามาตั้ง 3 สกิล….
และที่ต่างจากครั้งก่อนๆ คือครั้งนี้ มีสิ่งที่เรียกว่า【เวทย์พิเศษ】แสดงผลออกมาด้วย… แล้วดูเหมือนไอ้ออร่าเทพเองก็ถูกจัดอยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน
แต่เรื่องนั้นตอนนี้เฉยๆ แล้วหล่ะ…. แล้วถ้าถามว่าทำไมฉันไม่สาธยายเหมือนทุกทีหน่ะเหรอ….
ก็เพราะตอนนี้ตัวฉันกำลังเพ่งสมาธิไปยังสกิล『เนตรทวิกาล (ต้นฉบับ) 』อยู่ยังไงหล่ะ… ดูยังไง นี่ก็เป็นสกิลที่ได้รับจากฉายา〘ผู้หยั่งรู้〙แหงๆ เลย…
จริงๆ แล้วควรตรวจสอบจากบนลงมาล่างตามปกติอยู่หรอก แต่ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉันมันทำงานเข้าให้แล้วเนี่ยสิ….
เพราะงั้นละก็…. ขอดูไอ้สกิลที่น่าจะเป็นตัวปัญหาที่สุดนี่ก่อนเลยแล้วกัน!
『เนตรทวิกาล (ต้นฉบับ) 』
《 คำอธิบาย : เป็นสกิลจากการได้รับฉายา〘ผู้หยั่งรู้〙 มีผลทำให้************************************************************** *อนึ่ง ความสามารถขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง โดยไม่อิงจากสเตตัสใดๆ ของผู้ใช้ทั้งสิ้น **วิธีใช้ สั่งใช้งานสกิลด้วยความคิดเท่านั้น โดยเพ่งสมาธิและถ่ายพลังเวทย์ไปยังบริเวณตรงหว่างคิ้วทั้งสองของตัวเอง 》
อึก! มาอีกแล้วๆ ๆ ๆ ๆ มาอีกแล้วโว้ยครับผม!!!!!
ไอ้คำอธิบายที่มีแต่เครื่องหมายดอกจันยาวเป็นหางว่าวจุฬา… สกิลที่ไม่แสดงผลออกมาอีกแล้ว!!!!
เหมือนกับสองครั้งที่แล้วไม่มีผิด… มันต้องให้เราลองดูเองเท่านั้นสินะ…
บ้าชิบ…. ดูเหมือนลางสังหรณ์บ้าๆ ของเราจะเป็นของจริงซะแล้วแฮะ….
แต่ก็นะ…. มันไม่มีทางเลือกนอกจากลองใช้ดูนั่นแหล่ะ
จะกลัวไปทำไมกันเล่าอุษณกรเอ๋ย… บนโลกนี้ไม่มีสกิลที่ทำให้ตัวเองแย่หรอกจริงไหม? …..หวังว่าจะเป็นอย่างงั้นนะ…. เพราะงั้นก็….. ลองใช้ดูเลยแล้วกัน!!!!!!
วูม!!!
〝กร! ตรงหน้าผาก… มีอะไรก็ไม่รู้ออกมาด้วย!!!! 〞
〝!!!!!!!! 〞
แล้วจากนั้นกรก็ทำการเพ่งสมาธิและถ่ายพลังเวทย์ไปยังจุดที่สกิลบอกในทันทีที่ตัดสินใจได้แบบนั้น ผลลัพธ์ก็คือตรงหน้าผากของกร มีสัญลักษณ์คล้ายกับดวงตาสีทองอร่ามนูนออกมาส่องแสงประกายระยิบระยับแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด นั่นเลยทำให้มีอาที่อยู่ข้างๆ ตกใจแบบสุดๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจแต่อย่างใด ทั้งยังเขยิบเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูอาการ? ของกรอีกต่างหาก ส่วนกรที่ทำการใช้สกิลไปเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องตกใจกับผลลัพธ์ของมันเป็นอย่างมาก….
.
.
สุดยอด!!!!!!!!!! สุดลูกหูลูกตาจริงๆ เลยแฮะ ไอ้ดันเจี้ยนชั้นนี้หน่ะ!!!
โอ๊ะ! มองเห็นดอกไม้ที่อยู่ห่างออกไปด้วย…. เกือบ 50 กิโลเชียว!!!!
งั้นเองหรอกเหรอ! ไอ้สกิลนี่… เป็นสกิลที่ใช้มองระยะไกลงั้นสินะ!!!
แต่พลังของมันเหนือล้ำกว่าสกิล『ตาเหยี่ยว』แบบไม่ติดฝุ่นเลย…. เพราะถึงตอนนี้จะถูกเพิ่มระดับเป็นขั้นเทพเจ้าแล้วก็เถอะ แต่ก็มองได้ไกลสุดแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรกับอีก 100 เมตรกว่าๆ เท่านั้น
แถมความละเอียดก็ยัง…. สูงโคตร!!! มากกว่าที่ดวงตาปกติของมนุษย์จะมองเห็นซะอีก! ถึงเราจะไม่ใช่มนุษย์แล้วก็เถอะ!!!
〝เป็นยังไงบ้าง…. โอเครึเปล่า!? 〞
〝ไม่เป็นไรๆ! ไอ้สกิลนี่หน่ะสุดยอดไปเลยหล่ะ มองได้ไกลตั้งขนาด—— พรวด!!!!! 〞
〝กร!!! เป็นอะไรรึเปล่า!? 〞
แล้วพอกรเห็นพลังของสกิลที่สุดยอดขนาดนั้นเข้า ก็ทำหน้าดีใจสุดขีดเพราะได้สกิลที่มีประโยชน์สุดๆ มา มีอาที่เขยิบเข้ามาใกล้จึงเอ่ยถามกรเหมือนเคย กรที่ได้ยินมีอาถามมาจึงชี้นิ้วไปยังจุดที่ตัวเองมองเห็นดอกไม้แล้วก็ค่อยๆ หันมามองมีอาช้าๆ แต่ก็ตรงพบกับภาพที่น่าตกใจตรงหน้า…..
นั่นก็เพราะ…. มีอาที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา….. อยู่ในสภาพโป๊เปลือยอย่างสมบูรณ์แบบ! โดยที่ไม่มีอะไรปิดบังเลยแม้แต่อย่างเดียว พอกรเห็นแบบนั้นเข้า โลหิตสีแดงฉานก็พวยพุ่งออกมาจากรูจมูกราวกับเป็นน้ำจากสายดับเพลิงเลยทีเดียว
เห็น!!! เห็นหมดแล้วคร้าบบบบบบบ!!!!!!
อ๊ปไป ไม่สิ… เนินเขาลูกใหญ่สีขาวผ่องนวลน่าดึงดูด ที่มีลูกสตรอเบอร์รี่เม็ดเล็กๆ วางอยู่บนนั้นทั้งสองลูกหน่ะ….
ว้ากกกกก!!!! แล้วตรูจะบรรยายออกมาทำไมกันฟ่ะเนี่ย!!!!
〝มีอา!!!! ถอดเสื้อทำม้ายยยยย!!!!!! เสื้อคลุมหล่ะเฟ้ย! เอาเสื้อคลุมมาใส่เดี๋ยวนี้!!!! 〞
〝จะจะจะ ใจเย็นๆ ก่อนกร!!!!! พูดอะไรหน่ะกร สะสะสะ เสื้อคลุมนี่ ฉันก็ใส่อยู่นี่ไง!!! 〞
〝เอ๋!!! ….เอ๋————————!!!!!!!!!! 〞
และพอกรตะโกนลั่นเพื่อบอกให้มีอาใส่เสื้อคลุมโดยด่วนเพราะหาเหตุผลอย่างอื่นไม่ออกนอกจากว่าเธอจะถอดมันเอง? จากนั้นกรก็หลับตาลงปี๋ (แต่ก็เหลือบมองนิดหน่อย…. นิดหน่อยจริงๆ นะคร้าบบบ) พร้อมๆ กับใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่ของมีอาแล้วเขย่าไปมาจนเธอพูดติดๆ ขัดๆ และพอได้คำตอบที่คาดไม่ถึงสวนกลับมา เลยทำให้กรตกใจจนร้องเสียงหลงออกมาเสียจนยืดยาวเลยทีเดียว
โกหกน่า!!! ก็เห็นๆ อยู่ว่าไม่ได้ใส่… อย่ามาโกหก———
อะเด๋!? แต่มือทั้งสองข้างที่เราจับมีอาอยู่ก็สัมผัสได้ถึงเนื้อผ้าอยู่นี่หว่า…..
เดี๋ยวก่อนสิ… ถ้างั้น…. หรือว่า….
.
.
.
สกิลนี่…. มองทะลุได้!?
ใช่เลย!!! ดูยังไงมันก็ต้องเป็นแบบนั้นแหงแซะเลย!!!!
เกรียนโคตร!!!! ยังกับพวกถ้ำมองไม่มีผิดเลย…
ไปมองร่างเปลือยของมีอาที่ทำหน้าไร้เดียงสามาให้ แถมยังเป็นห่วงเราเนี่ยนะ…. ตูนี่มันเลวจริงๆ!!!
ปัดโถ่ว้อยยย!!!! รู้งี้มองนานกว่า——— ไม่ใช่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ!!!!!!!!!!!!!!
ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!!
ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ตู้ม!!! ——————
แล้วจากนั้น กรก็ไม่พ้นที่จะถูกความหื่นกระหายเข้าปกครองความคิดชั่วขณะนึง เขาจึงหันหน้าไปด้านตรงข้ามกับที่มีอาอยู่ และดีดตัวออกห่างจากมีอาไปประมาณห้าเมตร… นั่งอยู่ในท่ากราบแบบเบญจางค์ประดิษฐ์ ก่อนที่จะจัดการลงทัณฑ์ตัวเองด้วยการเอาหัวเขกพื้นอย่างต่อเนื่องทั้งที่อยู่ในท่านั่งแบบเทพบุตร จนพื้นที่เป็นจุดกระทบเกิดรอยแตกลึกลงไปเกือบสองเมตร ทั้งยังเกิดรอยแตกระแหงไปทั่วอีกต่างหาก
〝กร!!!!!!! 〞
〝เดี๋ยวๆ ๆ ๆ ๆ!!!!!!!!! อย่าเพิ่งเข้ามา ขอฉันสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนี้ซักพัก!!!!! 〞
〝ถะ…ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะ แต่พยายามเข้านะ!!!! 〞
โถ่ มีอา!!! อย่ามองฉันเป็นคนดีแบบนั้นสิ!
แถมยังให้กำลังใจฉันคนนี้อีกงั้นเหรอ…. รู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิมอีกนะเนี่ย
อ๊ะ!!! น้ำตา? ไหลออกมาเมื่อไหร่ฟ่ะเนี่ย!?
แล้วนี่มันเป็นน้ำตาแห่งความสุขหรือรู้สึกผิดกันฟ่ะ———
กริ๊ง!!!
【ยินดีด้วย! คุณผ่านเงื่อนไขในการได้รับฉายาใหม่แล้ว!!! 】
〝! 〞
แล้วจากนั้น ก็มีเสียงกระดิ่งดังขึ้นมาในสติของกร ตามมาด้วยเสียงประกาศที่ไม่ทราบเพศ ซึ่งเป็นเสียงเดียวกับที่ประกาศตอนเลเวลอัพนั่นเอง แต่กรก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนักเพราะกำลังลงโทษตัวเองอยู่ แต่ประโยคต่อไปของคำประกาศก็ต้องทำให้กรรู้สึกผิดต่อมีอาและเกิดหงุดหงิดให้กับระบบอีกครั้งนึง….
【『อุษณกร วัชรวิรุฬห์ 』ได้รับฉายา….. 〘ไอ้หื่น〙แล้ว!!! 】
〝ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! ขอโทษครับ!!! —————————〞
กรที่ได้ยินคำประกาศจบแล้ว ก็จัดการเอาหัวตัวเองเขกที่พื้นหนักมากยิ่งกว่าเดิม ทั้งยังเร็วกว่าเดิมอีกต่างหาก โดยที่ยังไม่ได้รู้ความสามารถทั้งหมดของ『เนตรทวิกาล (ต้นฉบับ) 』เลยด้วยซ้ำ แต่กรก็ยังคงทำการลงโทษตัวเองอย่างต่อเนื่องอยู่แบบนั้นนานกว่า 10 นาทีเลยทีเดียว….
❖❖❖❖❖