ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน - ตอนที่ 13 ความต่างชั้นของพลัง ความรู้สึกของจิตใจ และสวิทซ์
- Home
- All Mangas
- ชีวิตบัดซบเพราะถูกส่งมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้สุดโหดไปตบเกรียน
- ตอนที่ 13 ความต่างชั้นของพลัง ความรู้สึกของจิตใจ และสวิทซ์
〖หึหึ… ดูเหมือนจะรู้ถึงพลังของข้าแล้วสินะเจ้าหนู〗
〝กรอด !!!!!!!!!〞
และในขณะที่กรกำลังตกใจอย่างสุดขีดกับสเตตัสที่แสดงอยู่ตรงหน้า เคลเบรอสก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ยังสบายๆเช่นเคย แถมน้ำเสียงยังมีอาการดูถูกเล็กน้อยอีกต่างหาก นั่นทำให้กรเริ่มที่จะทนฟังไม่ได้ ทั้งยังโมโหขึ้นมาจนต้องกัดฟันแน่นเลยทีเดียว
เวรเอ๊ย!!! แบบนี้ก็หมายความว่าถ้าสร้างความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้งได้ไม่ถึง 12 ล้าน ก็จะโจมตีมันไม่เข้าเลยงั้นเหรอ
ไม่สิ… คิดว่าเดิมทีสเตตัสพลังป้องกันไม่น่าจะคำนวณแบบนั้นนี่นา เพราะไอ้ที่สู้ด้วยในตอนที่อยู่จุดหนีนั่น พลังของฉันมีไม่พอที่จะมะลวงพลังป้องกันแน่ๆ แต่ก็ยังโค่นพวกนั้นได้……
กริ๊ง!!!
แล้วเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในสติของกร แล้วหน้าต่างนูเมรัลดิสเพลย์ซึ่งเป็นหน้าต่างช่วยคำนวณก็มาปรากฏตรงหน้าของกร พร้อมกับแสดงผลลัพธ์ที่ยิ่งทำให้กรหดหู่ยิ่งกว่าเดิม
【คำเตือน! บอสมอนสเตอร์ข้างหน้ามีระดับสูงเกินไป ไม่สามารถหลบหนีได้!
ความเป็นไปได้ที่จะหลบหนี คือ 0.000014%
ความเป็นไปได้ที่จะชนะในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตรงหน้านั้น คือ 0.00000047%
สามารถถ่วงเวลาได้นานที่สุด 10 นาที 12 วินาที
ดาเมจขั้นต่ำที่ใช้สร้างความเสียหายได้ คือ 7,132,458 จุด…………. 】
โอ้ว!!!! รู้ใจกันจริงๆนะเนี่ย…
แต่เดี๋ยวดิ… โอกาสชนะต่ำโคตรเลย แทบจะหมดหวังเลยไม่ใช่รึไงเนี่ย? แต่ถึงไม่มีนูเมรัลดิสเพลย์ฉันก็ยังพอคิดเองได้อยู่หรอกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้….
แล้วยังยื้อการต่อสู้ได้แค่ 10 นาทีเอง แบบนี้ทางเลือกที่ว่าเอาตัวรอดจนกว่าจะครบ ชั่วโมงครึ่งก็หายไปแล้วอ่ะดิ!?
แล้วดาเมจขั้นต่ำที่ใช้เพื่อสร้างความเสียหายก็มีคำนวณออกมาให้ด้วย …เป็นอย่างที่คิดจริงๆว่าสเตตัสป้องกันที่แสดงอยู่นั่นไม่ใช่ดาเมจขั้นต่ำที่ต้องใช้จริงๆ….แต่ว่าไอ้ที่เขียนอยู่เนี่ย มันต้องใช้ตั้ง 7 ล้านเชียวนะเฟ้ย แล้วจะเอาอะไรไปสู้กันว่ะเนี่ย!!!
〖แค่เห็นสเตตัสของข้าก็ยืนแข็งทื่อซะแล้วเหรอ….ทั้งที่ยังไม่ได้แสดงเวทย์มนต์กับสกิลให้ได้ชมเลยแท้ๆเชียว…〗
〝วะ…ว่าไงนะ!!!!〞
เวทย์มนต์งั้นเหรอ!? สกิลงั้นเหรอ!? จะบ้ารึไงแค่สเตตัสก็กินขาดขนาดนี้แล้วแท้ๆ!!!
แต่ก็นะ……ถ้าเอาจริงๆ ถ้าเกิดมันยังใช้กรงเล็บฟันมาเรื่อยๆฉันก็พอหลบได้อยู่แล้ว เพราะสเตตัสของฉันตอนนี้มันก็เกิน 1 ล้านไปแล้วเหมือนกันนี่นา ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่มีปัญหา
〖ดูเหมือนจะพอรู้แล้วสินะ…..ใช่แล้ว ถึงแม้สเตตัสของเราจะห่างกันมาก แต่เจ้าเองก็มีความสามารถปริศนาที่ข้าไม่เข้าใจอยู่ ทั้งยังทักษะและไหวพริบนั่นอีก ถึงข้าจะไม่แพ้เจ้า แต่ก็คงชนะเจ้าไม่ได้เช่นกัน…〗
〝อย่ามาอ่านใจกันสิฟะ เจ้าหมานี่!!! แล้วก็อย่าพูดเหมือนกับว่าทำอะไรฉันไม่ได้สิฟ่ะ มันขนลุก!〞
〖เพราะเจ้าแข็งแกร่งยังไงหล่ะเจ้าหนู… เพราะงั้นข้าคงออมมือไม่ได้แล้วหล่ะ…〗
คิดจะประชดกันรึไงฟะเจ้าหมาบ้านี่….
แต่เดี๋ยวดิ… งั้นที่พูดแบบนี้ก็หมายความว่ามันจะเอาจริงแล้วหน่ะสิ!!!
เฮ้ยๆ….ไอ้ตอนแรกเนี่ยก็คิดอยู่หรอกว่าซวยจริงๆแล้ว…..แต่ตอนนี้นี่มันซวยโคตระของความซวยเลยไม่ใช่รึไงวะเนี่ย…
แม้กรในตอนนี้จะมีแต่ความคิดหดหู่อยู่ในหัว แต่ก็ยังคงอยู่ในท่าเตรียมพร้อมเสมอและยังคงใช้สุดยอดการประมวลผลอย่างต่อเนื่องพร้อมกับลับประสาทสัมผัสให้คมกริบอยู่ตลอด แม้จะคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงคิดหาทางแก้ปัญหาโดยยังคงมีความหวังกับ 0.00000047% นั่นอยู่
〖รับมือซะ ไอ้หนู!!!〗
ในขณะเดียวกับเคลเบรอสที่พูดแบบนั้นออกมา หนึ่งในหัวของเคลเบรอส นั่นก็คือหัวซ้ายของมันก็ได้อ้าปากออกมาจนเห็นเขี้ยวอันน่าเกรงขามทั้งยังมีขนาดใหญ่นั่นชัดเจน ราวกับต้องการจะกลืนกินกรที่กำลังยืนสับสนอยู่ยังไงอย่างงั้น แล้วจากนั้นเคลเบรอสก็ตะโกนชื่อสกิลนั่นออกมา…..
【ตัดสายลม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!】
โฮรกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!!
หลังจากหัวซ้ายที่กำลังอ้าปากอยู่นั่นส่งเสียงคำรามออกมาด้วยเสียงที่ดังจนถึงขนาดทำให้ทั่วทั้งห้องโถงสั่นไหวอีกครั้งหยุดลง และแม้จะเป็นการโจมตีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่กรก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรพุ่งเข้ามาทางที่ตนยืนอยู่ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อจากสัญชาตญาน ทั้งยังมีจำนวนเยอะมากอีกต่างหาก เขาจึงไม่รอช้าที่จะหลบการโจมตีเหล่านั้น
〝เวรแล้วไหมหล่ะ!!!【เคลื่อนไหวความเร็วแสง!!!!!!!!】〞
แล้วกรก็พุ่งหลบการโจมตีที่มองไม่เห็นนั่นไปทางขวาได้อย่างฉิวเฉียดเช่นเคย แต่ทว่า….
ฉั๊ว!!! ฉั๊ว!!! ฉั๊ว!!!
〝อึก!!!〞
ตุ๊บ!!!
แล้วกรก็โดนการโจมตีปริศนานั่นเข้าไปถึงสามครั้งเต็มๆที่สีข้างด้านซ้ายที่นึง ลำตัวด้านหน้าและหลังอย่างละที่เข้าไป การโจมตีนั่นสร้างบาดแผลลึกกว่า 3 เซนติเมตรให้กับจุดที่โดนเลยทีเดียว เห็นชัดเลยว่าถ้ากรไม่มีสเตตัสมากมายแบบนี้ ตัวเขาคงแหลกเป็นชิ้นๆจากการโจมตีปริศนานี่ไปแล้ว แล้วการโจมตีนั่นก็ทำให้กรที่กำลังอยู่ในท่าพุ่งตัวเสียจังหวะจนล้มลงจนกลิ้งไปกับพื้นเลยทีเดียว
〝บะ บ้าหน่ะ!!! ก็ฉันหลบมันไปแล้วนี่นา!!!〞
〖น่าเสียดายนะไอ้หนู เพราะว่าสกิล『ตัดสายลม』ของข้านั้นสามารถติดตามเป้าหมายได้ ทั้งยังสามารถกลบร่องรอยได้อย่างสมบูรณ์อีก〗
〝!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〞
บ้าหน่ะ!!!!! …..ติดตามเป้าหมายได้ด้วยงั้นเหรอ!!!
แถมยังตรวจจับร่องรอยไม่ได้อีก งั้นที่สัมผัสการเสียดสีกับอากาศไม่ได้เป็นเพราะงี้เองสินะ
เวรเอ้ย… มีสกิลโคตรโกงแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ? แต่เวลาในตอนนี้มันไม่มีไว้ให้หาสกิลอื่นมาสู้แล้วนะสิ!!! รู้งี้หาสกิลโกงๆมาใส่ไว้บ้างดีกว่า อยากเขกกะโหลกตัวเองที่ติดประมาทชะมัด!
แถมสกิลที่ได้มาตอนเปลี่ยนอาชีพเป็น『นักลอบสังหาร』เองก็ใช้ไม่ได้กับสิ่งที่มีระดับใกล้เคียง เท่ากับหรือว่าสูงกว่าตัวเองได้เลย…..
〝เวรเอ๊ย!!! แล้วทำไมฉันถึงโดนการโจมตีแค่ 3 ครั้งเองหล่ะฟะ!!!!〞
〖สงสัยต่อไปเหอะไอ้เด็กบ้า…ข้าไม่บอกแกหรอก!!! ห๊ะห๊ะห้า〗
〝กรอด!!!! อย่ามากวนประสาทน่า!!!!〞
เพราะถูกตอกกลับด้วยคำพูดแบบเดียวกับที่เคยพูดไป เลยทำให้กรหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่เพราะบาดแผลที่ได้รับจากสกิลนั่นค่อนข้างสาหัสเอาการ เลยทำให้กรไม่มีแม้แต่แรงจะตะโกนเลยด้วยซ้ำแต่กรเองก็รู้ว่าหากปล่อยให้อาการแย่ลงก็มีแต่จะเพิ่มความเสี่ยงในการต่อสู้มากเท่านั้น จึงไม่รอช้าที่จะใช้เวทย์รักษากับตัวเอง
【ทไวไลท์ฮีลลิ่ง!!!!!!!】
หลังจากที่กรพูดแบบนั้นก็มีแสงสีส้มคล้ายกับพระอาทิตย์ยามเย็นก่อนตกดินเข้าโอบล้อมตัวกรแล้วบาดแผลทั้งหมดก็เริ่มสมานตัวและปิดสนิทอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้นเอง แม้ปกติเวทย์รักษาจะต้องใช้เวลานานมาก แต่เพราะสเตตัสพลังเวทย์ของกรนั้นมีมากเกิน 1 ล้านไปแล้ว นั่นจึงช่วยให้เวลาใช้สกิลในระดับที่ต่ำกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่ควรเป็นนั่นเอง
〖โอ้ว!!! น่าตกใจยิ่งนักเจ้าหนู! แกเป็นนักดาบไม่ใช่รึ? แต่กลับสามารถใช้เวทย์รักษาได้ถึงระดับกลางเชียวรึนี่….〗
〝เรื่องของฉันน่า!!!!!〞
〖งั้นเหรอ!!! แกนี่แข็งแกร่งอย่างที่ข้าคิดไว้เลย มันต้องให้ได้แบบนี้สิ……〗
นี่คิดจะหยามกันรึไงฟะ… ตอนที่รักษานั่นก็อีกทั้งที่จะโจมตีเข้ามาก็ได้แท้ๆแต่กลับไม่ทำ
แถมยังพูดจากวนประสาทฉันอีกต่างหาก…..
〖ถ้างั้น ต่อไปก็……〗
ในขณะที่เคลเบรอสพูดแบบนั้นปากของหัวที่อยู่ตรงกลางก็อ้าขึ้นมากว้างแบบเดียวกับตอนที่หัวซ้ายเตรียมใช้สกิล นั่นเลยทำให้กรกลับมาระวังตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งเตรียมที่จะถีบพื้นดีดตัวหลบได้ในทันทีอีกต่างหาก แล้วจากนั้น….
【กรดเดือดหลอมละลาย!!!!!!】
พรวด!!!!!
〝!!!!!!!!!?〞
หลังจากที่พูดชื่อสกิลจบ ที่ปากของหัวตรงกลางก็มีของเหลวสีเขียวอ่อนเป็นเนื้อเดียวทั้งหมด พุ่งออกมาครอบคลุมพื้นที่เหนือหัวของกรเป็นวงกว้างเหมือนกับโดมของสนามกีฬาในร่มเลยทีเดียว
ฟิ้ว!!!!!
แต่กรที่ตั้งท่าเตรียมหลบหลีกอยู่ก่อนก็พุ่งตัวไปข้างหน้าโดยเว้นระยะไม่ให้ใกล้กับเคลเบรอสก็หลบได้อย่างสวยงาม ขณะที่คิดว่าเจ้าสกิลนี้มันมีไว้ทำไมอยู่นั้น ก็เหลือบตาหันกลับไปมองยังที่ๆตัวเองเคยอยู่ แล้วก็พบกับภาพที่น่าเหลือเชื่อเข้า…
ฉ่าาาา!!!!!
〝เฮ้ยๆ….เอาจริงเหรอเนี่ย!?〞
ภาพที่อยู่ตรงหน้าของกรก็คือ ของเหลวสีเขียวอ่อนนั่นกำลังย่อยสลายพื้นที่ที่กรเคยเหยียบอยู่นั่น ทั้งยังทำให้พื้นทั้งหมดกลายเป็นควันลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ และเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า พื้นของห้องโถงที่มีความทนทานขนาดการโจมตีของเคลเบรอสยังทำอะไรไม่ได้ เมื่อโดนของเหลวนั่นเข้าไปก็ถึงกับหลอมละลายไปอย่างรวดเร็วแล้วนั้นก็ทำให้กรต้องตัวสั่นเทิ้มอีกครั้ง
〖ยังหรอกน่าไอ้หนู ทีเด็ดหน่ะต่อจากนี้ไปต่างหาก……〗
และไม่ทันให้กรได้พักหายใจ หัวสุดท้ายซึ่งก็คือหัวทางขวาก็เตรียมใช้สกิลสุดท้าย กรที่เห็นแบบนั้นก็ถอยร่นไปทางด้านหลังเยื้องไปทางซ้ายเพื่อเว้นระยะห่างจากเคลเบรอสให้มากขึ้น
【เพลิงทมิฬ!!!!!!!!!!!!!!!!】
ซู่ม!!!!!
หลังจากที่เอ่ยชื่อสกิลเสร็จก็มีเปลวเพลิงสีดำสนิทจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากทั่วทั้งร่างของเคลเบรอส และแค่นั้นยังไม่พอมันยังเข้าไปโอบล้อมบริเวณที่กรยืนอยู่อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก แล้วจากนั้นก็มีเปลวเพลิงขนาดใหญ่เป็นทางยาวพวยพุ่งเข้ามาทางกรจากปากที่กำลังอ้าอยู่ของหัวขวาสุดของเคลเบรอส
ฟุ่บ!!!!!
〖!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〗
แต่กรก็ไม่รอช้า ในขณะที่เปลวเพลิงกำลังพุ่งเข้ามาเป็นทางยาวจากปากของเคลเบรอส กรก็ยื่นมือซ้ายที่มีความสามารถในการ『ดูดซับทุกสิ่ง』อยู่ออกมา เพราะเป็นการกระทำอันแปลกประหลาดที่ยากจะเข้าใจ หนนี้จึงเป็นเคลเบรอสที่ต้องตกใจกับท่าทางของกรเสียเอง ส่วนกรเองนั้นก็คิดว่าหากเอาแต่หลบไปแบบนี้ยังไงก็เอาตัวรอดไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยจึงควรโต้กลับไปบ้างในสิ่งที่พอทำได้ เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรจะให้เสียอีกแล้ว กรจึงได้เลือกทางที่คิดว่าจะพอโต้กลับได้บ้าง นั่นก็คือการกลืนกินพลังเวทย์ของบอสมอนสเตอร์มานั่นเอง แต่ความจริงมันกลับไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น………
〝อะ อะไรกันเนี่ย〞
นั่นก็เพราะเปลวเพลิงนั่นกรไม่สามารถดูดกลืนเข้ามาได้ทั้งหมดนั่นเอง แม้ส่วนเกินจะไม่เข้าปะทะกับกรโดยตรงเพราะกระจายออกไปด้านข้างก็ตามที แต่ก็ยังคงมีแรงกระแทกอยู่มากเช่นกัน และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากที่กรดูดกลืนมาไม่หมด กรจึงตัดสินใจหาจังหวะเพื่อหลบเปลวเพลิงนั่นเสียดีกว่า แต่พอกรออกมาจากการปะทะได้นั้น เปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามานั่นกลับเข้าโอบล้อมตัวกรอย่างรวดเร็วจนกรหลบไม่พ้น เนื่องด้วยพื้นที่ๆที่มีจำกัดกับเรี่ยวแรงเองก็เริ่มหมดลงไปแล้วด้วย นั่นเลยทำให้กรโดนเปลวเพลิงนั่นเข้าไปเต็มๆ
〝อ้ากกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร้อนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
แล้วกรก็ล้มลงในท่าคุกเข่าพลางร้องโหยหวนออกมาเพราะอาการปวดแสบปวดร้อนจากการถูกเปลวเพลิงที่มีความร้อนสูงเข้าโจมตี แต่เปลวเพลิงนั่นก็ห้อมล้อมตัวกรได้เพียง 20 วินาทีเท่านั้น นั่นก็เพราะแม้จะไม่ตั้งใจ แต่สกิล『ดูดซับทุกสิ่ง』นั้น ยังคงทำงานอยู่นั่นเอง
แฮ่ก!!! แฮ่ก!!! แฮ่ก!!! แฮ่ก!!! แฮ่ก!!! แฮ่ก!!!
แล้วกรก็นั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นพลางหายใจหอบออกมาอย่างแรง และในขณะที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยแผลไหม้จากความร้อน กรจึงได้รีบใช้เวทย์รักษาในทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่ทว่า….
〝ทะ ทำไม!? เวทย์รักษาถึงใช้ไม่ได้ผลกัน!?〞
เพราะเวทย์ที่กรใช้นั้นไม่สามารถรักษาแผลไหม้ได้ ไม่สิ…มันบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการปวดแสบปวดร้อนนี้ไม่ได้เลยซักนิด จึงทำให้กรสงสัยขึ้นมาอย่างหนัก
ตึง!
ตึง!
ตึง!
〖โอ๊ะโอ๋…ข้าลืมบอกไปเสียสนิท… ว่า『เพลิงทมิฬ』ของข้านั้น สามารถทำให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายติดสถานะผิดปกติได้หนึ่งอย่างตามที่ต้องการ…จะบอกให้เอาบุญก็ได้ ว่าข้าทำให้เจ้าติดสถานะ『ฟื้นฟูไม่ได้』หน่ะ〗
〝วะ ว่ายังไงนะ!!!!〞
เสียงของฝีเท้าที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆเนื่องจากเคลเบรอสเดินเข้ามาประชิดตัวของกรที่กำลังหายใจหอบอยู่ก็ยังคงท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเช่นเคย ทั้งน้ำเสียงที่พูดทำลายความหวังอันริบหรี่ของกรออกมาแบบนั้นก็มีความหน่ายปนอยู่เช่นกัน แม้กรจะไม่สบอารมณ์แต่ตัวเขาก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย นั่นเลยทำให้เขาเจ็บใจเข้าไปใหญ่
〖น่าเสียดายยิ่งนักเจ้าหนู ….เจ้าหน่ะแข็งแกร่ง แต่ว่าความแข็งแกร่งนั่นก็ไม่เพียงพอที่จะล้มข้าได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะ…..〗
〝อึก!!!!!!!〞
〖ถึงข้าจะรู้สึกเห็นใจก็เถอะนะ… แต่ข้าคงเอาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วละทิ้งหน้าที่ไม่ได้หรอก….เพราะงั้นข้าคงต้องปิดฉากการต่อสู้นี้เสียแล้วหล่ะ…〗
〝!!!!!!!!!!!!?〞
แย่แล้วคราวนี้แย่ของแท้เลยหล่ะ…
เวรแล้วไง! ทำไงดีหล่ะทีนี้ ทางหนีถูกปิดตายทั้งหมดเลย….ไม่มีทางหนีรอดเลยซักนิด ถ้าเป็นข้างนอกก็ว่าไปอย่าง แต่ที่เราอยู่มันเป็นห้องโถงปิดตายไร้ทางออก———
〖..ขอบใจมากจริงๆเจ้าหนู …แกทำให้ข้าประหลาดใจได้หลายครั้งทีเดียว……. 〗
เพราะกำลังอยู่ในสถานการณ์คับขันถึงขีดสุดเลยทำให้ความคิดของกรเริ่มจะไม่ปะติดปะต่อกันเสียแล้ว แต่เพราะเคลเบรอสพูดออกมาแบบนั้น เลยทำให้กรดึงสติของตัวเองกลับมาเผชิญกับความเป็นจริงตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
〖งั้นก็……ลาก่อน〗
【ตัดสายลม!!!!】
ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!! ฟิ้ว!!!
〝คะ 【เคลื่อนไหวความเร็วแสง!!!!!!!!】〞
และเหมือนครั้งที่แล้ว หัวซ้ายของเคลเบรอสก็อ้าปากออกมาในขณะที่ประกาศใช้สกิล และสายลมจำนวนมากก็พุ่งตรงมายังที่ๆกรนั่งอยู่นั่น แต่กรก็ยังใช้แรงที่เหลือในการลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและถีบพื้นออกไปทางด้านขวาของตน
ฉั๊ว!!! ฉั๊ว!!!
〝อ้ากกกกกก!!!!!!!〞
แต่แม้จะหลบพ้นทั้งหมด กรก็ยังคงโดนการโจมตีปริศนาเข้าไปจังๆถึง 2 ทีอยู่ดี ทั้งที่บริเวณขาซ้ายและบริเวณกระดูกสะบักด้านซ้าย การโจมตีนั่นทำให้กรได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว และในขณะที่กรกำลังพุ่งตัวไปกำลังโดนการโจมตีนั่นจนลอยอยู่กลางอากาศอยู่นั้น
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
ตู้ม!!!!!!!!
〝อั๊กกกก!!!!!!!〞
เคลเบรอสก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอย มันวิ่งตรงเข้ามาในขณะที่กรลอยคว้างอยู่ในอากาศอย่างรวดเร็ว และก็ใช้หัวทั้ง 3 กระแทกเข้าไปที่ตัวกร แม้จะเป็นการโจมตีที่ไม่ใช้สกิลเลยก็ตาม แต่นั่นเพราะสเตตัสที่มีมากกว่า 10 ล้านนั่น เลยทำให้การโจมตีจังๆโดยตรงเพียงครั้งเดียวนั่น เป็นการโจมตีที่รุนแรงถึงขนาดทำให้ตายในทันทีได้เลย แถมการกระแทกนั่นยังทำให้อาวุธเพียงหนึ่งเดียวของกรแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกต่างหาก แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือการพุ่งของมันยังไม่จบ เพราะมันยังคงพุ่งต่อไปจนกระทั่งพากรที่กำลังถูกชนอยู่อัดเข้าไปที่ผนังของห้องโถงอีกต่างหาก นั่นเลยทำให้กรถึงกับกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว แล้วพอเคลเบรอสผละออกมา กรที่โดนอัดจนตัวติดผนังก็ค่อยๆร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงลงมาที่พื้น
ยะ แย่แล้ว
มองไม่เห็นทางรอดเลยซักนิด….อีแบบนี้ไม่รอดแหงๆ นี่ตูจะตายอีกแล้วงั้นเหรอเนี่ย
ทั้งที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมีชีวิตรอดด้วยตัวเองแล้วแท้ๆ…แต่นี่มันยังไม่เริ่มเลยไมใช่รึไงกัน!
บ้าชะมัด….อยากฆ่าตัวเองทิ้งซะจริง เรานี่มันไม่ได้เรื่องเลย!!!!
ถ้าคิดดีๆก็น่าจะรู้ไม่ใช่รึไงว่ามันเป็นห้องบอสหน่ะ! แล้วก็ต้องคิดที่จะเตรียมแผนรับมือไว้ก่อนด้วย!!!
เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยประมาทง่ายๆได้ซักทีวะ
เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยคิดเข้าข้างตัวเองซักทีวะ!!!
เวรเอ้ย!!! …อ่อนหัด แกมันอ่อนหัดจริงๆ อุษณกร!!!
แค่ได้พลังโกงๆมานิดหน่อยใช่ว่าจะแข็งแกร่งจนสู้ได้กับทุกอย่างซะหน่อย …ฉันนี่มันหย่อนยานจริง!!!! ไม่ได้มีการวางแผนรับมือล่วงหน้าหรือหาทางหนีทีไล่ไว้เลย เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่แพ้นั่นแหล่ะ ปัดโถ่ว้อยยยย!!!!!!!
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
ในขณะเดียวกับที่กรมีความคิดมากมายพรั่งพรูออกมาเพราะรู้สึกได้ถึงความตายอันน่าหวาดหวั่นนั่นอีกครั้งอยู่นั้น เคลเบรอสก็เดินออกไปในทิศตรงข้ามของกร ราวกับจะบอกว่าการต่อสู้ได้จบสิ้นลงแล้วพร้อมกับพูดประโยคนึงขึ้นมา
〖ลาก่อน…. อย่าโกรธเคืองข้าเลยหล่ะ……〗
〖…เพราะว่าเจ้ามัน อ่อนแอเกินกว่าจะสู้ด้วยตัวคนเดียว นั่นแหละ! 〗
〝………………〞
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
กรที่ได้ยินคำพูดเชิงดูถูกนั่นเข้าไปแต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย นั่นเลยทำให้เคลเบรอสคิดว่ากรได้หมดใจสู้และได้ทิ้งความหวังที่จะมีชีวิตรอดไปแล้ว จึงเดินต่อไปยังทิศทางตรงข้ามของกรอย่างไม่ลังเลอีก แต่ทว่า…..
แกร็ก!!!
〖!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〗
แต่เพราะมีเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อยในทิศทางที่กรนอนอยู่ เคลเบรอสที่คิดว่ากรได้แน่นิ่งไปแล้วจึงเกิดอากาศตกใจเล็กน้อย นั่นเพราะคิดว่าการโจมตีอย่างต่อเนื่องของตนไม่มีทางที่กรจะรอดได้ก็ด้วย และถึงจะยังมีสติแต่ต้องไม่มีแรงที่จะขยับได้แล้วแน่นอน เคลเบรอสจึงหันหน้ากลับไปดูอย่างรวดเร็วราวกับจะสะบัดหน้าไปมองยังไงอย่างงั้น แต่ทว่า…..
ตู้ม!!!!!!!!
〖อ๊อกกกกกก!!!! อะ อะไรกันนน!!!!!?〗
แล้วเคลเบรอสที่ยังหันหน้ากลับไปมองได้ยังไม่ถึงครึ่งก็ถูกการโจมตีปริศนาเข้าอย่างกระทันหันเข้าไปที่ใบหน้าของตัวที่อยู่ด้านซ้ายอย่างจัง การโจมตีนั่นหนักหน่วงมากถึงมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบเคยเจอมาเลยทีเดียว นั่นทำให้เคลเบรอสตกใจและได้รับความเสียหายอย่างมาก จนถึงกับกระอักออกมาเลยทีเดียว
ฟิ้ว!!!!
ตู้ม!!!!!!!!
และเพราะการโจมตีปริศนาที่สุดแสนจะรุนแรงนั่น ทำให้เคลเบอรอสที่ถูกการโจมตีนั่นเข้าอย่างจังถึงกับลอยกระเด็นไปอย่างรวดเร็วจนไปกระแทกเข้ากับประตูทางเข้าของห้องบอสเลยทีเดียว และแม้ประตูนั่นจะไม่เกิดรอยร้าวขึ้นมาก็ตาม แต่ก็ทำให้เคลเบรอสบาดเจ็บหนักได้พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเพิ่งจะเคยโดนการโจมตีกระทันหันที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แถมการโจมตีนั่นยังสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ เคลเบรอสจึงรีบหาต้นเหตุของการโจมตีนั้นทันที
ซู่มมมม!!!!!!!!!!
〖จะ….เจ้า!!!!!!!!!!?〗
และที่กำลังยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเคลเบรอสก่อนที่จะถูกโจมตีนั่นก็คือ กรที่อยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยฟันและไฟไหม้เต็มตัว กำลังอยู่ในท่ายื่นหมัดขวาที่มีควันพวยพุ่งออกมาจากการที่เข้าโจมตีเคลเบรอสด้วยความเร็วที่สุดยอดนั่น กำลังเล็งมามาทางเคลเบรอสนั่นเอง ดูจากท่าทางนั่นก็รู้ได้เลยว่าการโจมตีอันรุนแรงนั่นของกรมาจากการใช้หมัดล้วนๆ ดูจากสภาพบาดแผลภายนอกแล้วเขาไม่น่าจะยืนขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ แต่ที่น่าตกใจมันไม่ใช่แค่นั้น นั่นก็เพราะ รอบตัวของกร มีออร่าสีทองส่องประกายงดงามกำลังโอบล้อมร่างกายของกรนั่นอยู่ต่างหากที่น่าตกใจยิ่งกว่า
〝ถูกอย่างที่แกพูด….เคลเบรอส……ตัวฉันนั้นอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียว….
แต่นั่น……คือขีดจำกัดทางความคิดของแกไม่ใช่ฉัน!! ที่ฉันยังอ่อนแอหน่ะ
เป็นเพราะมัวแต่ยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเพราะใช้ความรู้สึกและอารมณ์เป็นที่ตั้งต่างหาก…..〞
ใช่แล้ว……ความรู้สึกหน่ะเป็นสิ่งที่ทิ้งไปไม่ได้ซักหน่อย… ต่อให้มันเป็นสิ่งที่สร้างความทรนงจนเหลิงและความประมาทให้กับตัวเองจนนำไปสู่ความตายเหมือนตอนนี้ก็ตาม
นั่นเพราะถ้าทำแบบนั้นไป ก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง….. สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปหน่ะสิ เรื่องแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก…
คำถาม…… งั้นจะจัดการกับความรู้สึกที่มาขัดแข้งขัดขานี่ยังไงดี?
คำตอบมันก็ง่ายๆ….
แปร๊ก!!!!!!
แล้วเสียงที่เหมือนกับสวิทซ์ไฟที่ได้ถูกปิดลงอย่างแรง ก็ดังขึ้นในสติของกร
〝….เพราะงั้น…..ก็แค่ปิดมันลงซะก็พอ สวิทซ์ที่ใช้บงการความรู้สึกทั้งหมดนั่นหน่ะ!〞
กรที่พูดแบบนั้นทำสายตาที่เฉียบคมพร้อมกับจิตสังหารอันรุนแรงที่ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าเอามาจากไหน ส่งไปยังเคลเบรอสที่ยังคงนอนอยู่เพราะการโจมตีด้วยหมัดลุ่นๆของกร ความกดดันที่รุนแรงนั่นทำให้เคลเบรอสกระตุกไปชั่วขณะนึงเลยทีเดียว เคลเบรอสจึงจ้องกลับไปด้วยแรงกดดันอันมหาศาลเสียยิ่งกว่าตอนแรก แต่กรที่จ้องสายตาของเคลเบรอสนั่นกลับตรงๆก็ไม่ได้มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เคลเบรอสที่มองไปในดวงตาของกร ที่ตอนนี้มืดสนิทไร้ซึ่งแสง ไม่มีสิ่งใดสะท้อนออกมาราวกับหลุมดำที่จะดูดกลืนผู้ที่จ้องมองให้ตกสู่ห้วงแห่งความหวาดกลัวได้เลยทีเดียว
〖เจ้าหนู!!!! เจ้าเป็นใครกันแน่!!!!?〗
เสียงของเคลเบรอสนั้นสั่นเล็กน้อย เพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า กับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของกรโดยสิ้นเชิง รวมถึงออร่าสีทองที่โอบล้อมกรอยู่ด้วยเช่นกัน ก็เลยถามออกไปแบบนั้นโดยไม่กังวลเรื่องศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย
ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!
แล้วพอเคลเบรอสถามออกมาแบบนั้น กรก็เดินเข้ามาทางเคลเบรอสด้วยท่าทางสบายๆ โดยที่ไม่สนเลยว่าสภาพร่างกายของตัวเองบอบช้ำขนาดไหน ราวกับจะเยาะเย้ยเคลเบรอสในตอนแรกยังไงอย่างงั้น แล้วก็ตอบกลับเคลเบรอสออกไปด้วยเสียงโทนเดียวที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
〝คนที่จะอัดแกให้หมอบ…..ยังไงหล่ะ!〞
แล้วกรก็ตอบกลับเคลเบรอสออกไปด้วยคำพูดที่แสนเย็นชาและแววตาอันว่างเปล่าอย่างที่สุดนั้น ทำให้คราวนี้เคลเบรอสเริ่มที่จะเป็นฝ่ายหวาดกลัวกรขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว สาเหตหนึ่งนั่นเป็นเพราะใบหน้าของกรที่พูดแบบนั้นออกมามีรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายแสยะออกมาอย่างน่ากลัว แต่เรื่องนี้เจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
❖❖❖❖❖