จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 212
บทที่ 212 : เกือบเผยตัวตน (2)
”เจ้าคือใคร?”
ในขณะที่บ้านสกุลหลานกำลังสงสัยว่าเหตุใดสตรีผู้นี้ถึงได้ต้องการพบไป๋หยาน พวกเขาก็เห็นว่าสายตาของนางกำลังเล็งไปที่ไป๋เสี่ยวเฉิน อีกทั้งสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป
“ไป๋เสี่ยวเฉิน”
หลานเสี่ยวหยุนตกใจจนหน้าถอดสีนางดึงไป๋เสี่ยวเฉินมาหลบด้านหลัง ก่อนจะจ้องเขม็งไปที่หญิงสาวผู้มาเยือนบ้านนางด้วยเจตนาไม่ดี
“น้าเสี่ยวหยุนไม่ต้องห่วงเฉินเอ๋อหรอก” ไป๋เสี่ยวเฉินตบหลังหลานเสี่ยวหยุน ทีท่าของเขาราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ๆ จากนั้นเขาก็หันไปมองมู่ชิงเกอ “เจ้ามีอะไรกับหม่ามี้ของข้า ?”
”เจ้าเป็นบุตรชายของไป๋หยานกระนั้นหรือ?”
มู่ชิงเกอหัวเราะเยาะไม่น่าแปลกใจที่นางจะเกลียดเด็กคนนี้เอามาก ๆ
ปรากฎว่าเด็กคนนี้เป็นลูกนอกคอกของไป๋หยานเด็กที่ไป๋หยานให้กำเนิดทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน !
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานส่งสัญญาณทางสายตาให้กับตงรั่วหลานเนื่องจากหลานหยูบุตรชายของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นยามนี้เขาจึงต้องสั่งตงรั่วหลานแทน
ตงรั่วหลานเข้าใจได้ทันทีนางพยักหน้าให้ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลาน ก่อนจะถอยกลับไป
”แม่นาง”ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานกล่าว พร้อมกับหันไปมองมู่ชิงเกอ ด้วยสีหน้าเฉยเมย “หากเจ้ามาที่นี่ในฐานะแขก บ้านสกุลหลานของข้าก็ยินดีต้อนรับ แต่หากเจ้ามาด้วยเจตนาประสงค์ร้าย ข้าเกรงว่าบ้านสกุลหลานของข้าคงไม่สามารถต้อนรับเจ้าได้ ”
ก่อนที่มู่ชิงเกอจะทันกล่าวคำหญิงสาวในอาภรณ์สีเขียวที่อยู่ข้างหลังนางก็ตะโกนออกมาว่า “เจ้าเป็นผู้ใด กล้าดีอย่างไร เจ้าไม่คู่ควรที่จะสนทนากับเจ้าหุบเขาของข้า ? เรียกไป๋หยานออกมาเดี๋ยวนี้ !”
เดิมทีพวกเขายังพยายามคาดเดาฐานะของมู่ชิงเกอ ทว่าตอนนี้พวกเขาได้ยินถ้อยคำของสตรีในชุดเขียว พวกเขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวเบื้องหน้ามิใช่ธรรมดา
”ท่านยาย”ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินเห็นหญิงในชุดเขียวตะโกนใส่หน้าตาทวดของเขา ใบหน้าที่น่ารักของเด็กน้อยพลันปรากฏแววโกรธเกรี้ยวขึ้นมาเล็กน้อย
”ท่านพ่อท่านแม่ของยายไม่ได้สอนให้ท่านให้ความเคารพผู้อาวุโสและรักเด็กบ้างเลยหรือ หม่ามี้ของเฉินเอ๋อสอนเฉินเอ๋อมาตั้งแต่ยังเล็กว่า เราต้องมีเมตตากับผู้อาวุโส ยายไม่ละอายใจบ้างหรือที่ตวาดข่มขู่ท่านผู้เฒ่าน่ะ ?
ประกายตาของหญิงชุดเขียววาวโรจน์ด้วยความโกรธนางพุ่งร่างเข้าไปยืนเบื้องหน้าไป๋เสี่ยวเฉิน ด้วยหมายจะตบหน้าไป๋เสี่ยวเฉิน
”เฉินเอ๋อระวัง !” หลานเสี่ยวหยุนดึงตัวไป๋เสี่ยวเฉินเข้าสู่อ้อมแขนทันที ขณะเดียวกันก็ยกมือขึ้นป้องฝ่ามือของหญิงสาวชุดเขียว
แววตาของไป๋เสี่ยวเฉินเย็นชาลงเขาจ้องมองมือที่กำลังลดลงเรื่อย ๆ นัยน์ตาใสสะอาดของเขาแวววาวด้วยประกายแสงสีแดง
”เมี้ยว!”
ขณะนี้ไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็นว่าชายเสื้อของไป๋เสี่ยวเฉินเผยอขึ้นทั้งที่ไม่มีลม นัยน์ตาคู่นั้นของเด็กน้อยไม่ได้แลดูไร้เดียงสาเฉกเช่นเคย ทว่ากลับกลายเป็นดวงตากระหายเลือดราวกับสัตว์ร้าย
ทว่าทุกอย่างกลับถูกแมวน้อยเข้ามาขัดจังหวะ!
เสี่ยวมี่กระโจนเข้าใส่หญิงชุดเขียวทันทีส่งผลให้นางเกือบจะล้มลงกับพื้น จากนั้นกรงเล็บอันแหลมคมของเสี่ยวมี่ก็ตรงเข้าข่วนแก้มของนางจนเลือดไหลรินอย่างรวดเร็ว
”เมี้ยว!”
ครั้นเห็นเสี่ยวมี่ปรากฏตัวไป๋เสี่ยวเฉินก็ผละออกจากอ้อมแขนของหลานเสี่ยวหยุน จากนั้นก็วิ่งไปที่เสี่ยวมี่
ทันทีที่เขาวิ่งไปถึงเสี่ยวมี่เขาก็เอ่ยถามด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ?”
”นายหญิงเกรงว่าท่านจะสร้างปัญหา เลยให้ข้าติดตามท่านมา” เสี่ยวมี่ลดเสียงลง “นอกจากนี้ นายหญิงไม่ได้บอกรึว่า ท่านไม่ควรทำเช่นนี้นอกบ้าน มิเช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วตัวตนของท่านในฐานะสัตว์อสูรย่อมจะถูกเปิดเผย”
ไป๋เสี่ยวเฉินยังมิใช่สัตว์อสูรโดยสมบูรณ์หากแต่เขาเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์อสูร อย่างไรก็ตาม ความสามารถของเขาก็แข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรอื่น ๆ อีกทั้งเขายังสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้นับแต่มีวัยเพียงแค่หนึ่งเดือน
และหากมีข่าวแพร่กระจายออกไปว่ามีสัตว์อสูรที่สามารถแปลงร่างได้แน่นอนว่าผู้คนจำนวนมากมายในแผ่นดินนี้จะแห่มาช่วงชิงตัวเขา !
ไป๋เสี่ยวเฉินลดศีรษะลงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อน ๆ ว่า “พอข้าเห็นน้าเสี่ยวหยุนพยายามยกมือขึ้นปกป้องข้า ข้าก็แทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ … ”
โชคดีที่เสี่ยวมี่เข้ามาทันเวลาหาไม่แล้วในวันนี้ ตัวตนที่แท้จริงของเขาจะต้องถูกเปิดเผยเป็นแน่ !
***จบบท เกือบเผยตัวตน (2) ***