จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 200
บทที่ 200 : ข้าเต็มใจเป็นศิษย์ของท่าน
ไป๋หยานยิ้มอย่างไรเสียเด็กก็ยังเป็นเด็ก…
“เฉินเอ๋อไม่ค่อยมีเพื่อนหากเป็นไปได้ เจ้าก็พักที่นี่เป็นเพื่อนเขาดีหรือไม่ ?”
หนานกงซุ่นมองไป๋หยานอย่างไม่อยากเชื่อ “ข้า … สามารถอยู่ที่นี่ได้จริงหรือ ?”
“หากเจ้าอยากอยู่ที่นี่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถมัดตัวเจ้าออกไปได้” ไป๋หยานลุกขึ้นอย่างแช่มช้า จากนั้นก็เดินมายืนหน้าหนานกงซุ่นพร้อมรอยยิ้ม “นอกจากนี้ เจ้ายังมีความสามารถไม่เลวเลยทีเดียว เพียงความสามารถของเจ้าถูกฝังลึกไว้หลายปี ข้าอยากรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า เจ้ายินดีหรือไม่ ?
สายตาหนานกงซุ่นเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข“แน่นอน ข้าอยากอยู่ที่นี่”
”เฉินเอ๋อ”ไป๋หยานลูบศีรษะไป๋เสี่ยวเฉิน “เจ้าพาเขาไปพักผ่อนก่อน แม่ยังมีเรื่องต้องทำ นอกจากนี้ … ”
ครั้นนางพลิกฝ่ามือในมือของนางพลันปรากฏขวดยาขวดหนึ่ง นางยื่นขวดยาให้กับหนานกงซุ่น
“ยานี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในของเจ้าได้หลังจากที่เจ้าหายดีแล้ว ข้าจะให้เจ้าเริ่มการฝึก”
หนานกงซุ่นมองยาอายุวัฒนะที่ไป๋หยานยื่นมาให้ตรงหน้านัยน์ตาของเขาแดงก่ำ เขากำขวดเคลือบที่บรรจุยาไว้แน่น ขณะเงยหน้าขึ้นด้วยแววตามุ่งมั่น
”ท่านอาจารย์ในวันหน้า ข้าจะต้องไปถึงจุดสูงสุด และข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง !”
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือในกาลข้างหน้าคำปฏิญาณของหนานกงซุ่นก็เป็นจริง ในที่สุดเขาก็บรรลุเป้าหมายสูงส่งของตน และเขาก็ไม่เคยลืมบุคคลที่ช่วยพลิกชะตาชีวิตของเขาเลย
”หนานกงซุ่นข้าจะพาเจ้าไปดูห้องพัก” ไป๋เสี่ยวเฉินดึงตัวหนานกงซุ่นอย่างตื่นเต้น ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว
ไป๋หยานมองตามร่างของเด็กทั้งสองที่วิ่งจากไปนางอดมิได้ที่จะหัวเราะ
“สายตาของแม่นางไป๋หยานนั้นดีมากเลยทีเดียว”แววตาของชายชราแลดูซับซ้อน “อัจฉริยะอย่างที่ข้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน”
ไป๋หยานรับน้ำชาที่สาวใช้นำมาบริการพลางจิบเบา ๆ “ดูเหมือน เจ้าจะสังเกตเห็นเช่นกันว่า เด็กคนนั้นมีความภาคภูมิ อีกทั้งยังต้องเป็นคนพิเศษในวันหน้า อัจฉริยะเช่นนี้ ข้าจะไม่รับเขาเป็นศิษย์ได้อย่างไร ?”
ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนั้นยังมีอายุพอ ๆ กับไป๋เสี่ยวเฉินบุตรชายของนาง นางมักจะใจอ่อนให้กับเด็ก ๆ ในวัยนี้
“ไม่ว่าในภายหน้าเขาจะเป็นคนพิเศษหรือไม่นั่นก็เป็นเรื่องยากที่จะตัดสิน เพราะมิใช่เพียงตัวเขา แต่หมายรวมถึงว่าเขาต้องได้รับการฝึกฝนจากอาจารย์ที่มีความสามารถด้วย” ชายชราเอ่ยเบา ๆ “ข้าเห็นว่าความแข็งแกร่งของเด็กคนนี้ต่ำมาก เช่นนั้นข้าจึงคิดว่าเขาละทิ้งพรสวรรค์ตนเองมานานหลายปีแล้ว”
ไป๋หยานยิ้ม
ก็น่าที่จะเป็นเช่นนั้น! นับแต่หนานกงซุ่นเกิด มารดาเขาก็ตายจาก เขาถูกรังแกกลั่นแกล้ง ทั้งไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอน ต่อให้เป็นคนมีพรสวรรค์มากเพียงใด ย่อมต้องถูกฝังจมลึกจนหมดสิ้น
”เจ้าคิดจะขโมยเขาไปจากข้าใช่หรือไม่ล่ะ?” ไป๋หยานเงยหน้าขึ้นมองชายชราผู้ซึ่งกำลังกุมมือตนเองอยู่
”ข้าไม่ปฏิเสธว่าเขามีพรสวรรค์ หากแต่ข้าไม่มีพลัง หรือแม้แต่เวลามากพอที่จะฝึกฝนเด็กคนนั้นแล้ว สำหรับข้าสิ่งเดียวที่ข้าสนใจก็คือนายน้อยของข้า แม่นางไป๋หยาน หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับนายน้อยระหว่างการรักษา ท่านไม่อาจหนีความรับผิดชอบครั้งนี้ได้ !”
เมื่อชายชรากล่าวเช่นนั้นเสี่ยวมี่ก็เดินนำไป๋จั่นเผิงผู้ซึ่งยามนี้เดินได้อย่างคล่องแคล่วเข้ามา
ฝีเท้าของไป๋จั่นเผิงว่องไวราวลมพัดเขาแลดูไม่อ่อนแอเฉกเช่นเคย
”นายน้อย!” ชายชรารู้สึกดีใจอย่างมาก เขาก้าวเข้าไปหานายน้อยอย่างรีบเร่ง ใบหน้าของเขาตื่นตะลึง “นายน้อย ท่านเป็นอย่างไรบ้าง ?”
ไป๋จั่นเผิงพยักหน้าเล็กน้อย“พลังฉีที่เหลืออยู่ภายในร่างของข้าถูกทำลายสิ้นแล้ว”
ข่าวดีนี้กระแทกใจของชายชรากระทั่งเขาสับสนไปหมด ก่อนหน้านี้เขามองไป๋หยานในแง่ร้าย ทว่าตอนนี้เขาเชื่อแล้วว่าไป๋หยานต้องการรักษานายน้อยของเขาอย่างจริงใจ
”แม่นางไป๋หยาน”ชายชราหันกลับมาคำนับให้นางด้วยความเคารพ “ข้าขออภัยที่หยาบคายกับท่าน ขอบคุณที่ช่วยชีวิตนายน้อยของข้า หากมิใช่เพราะท่านแล้ว นายน้อยคง… ”
***จบบทข้าเต็มใจเป็นศิษย์ของท่าน***