จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 192
บทที่ 192 : เจ้าหุบเขาเพลงพิณ (2)
อ๋องคังก็เป็นเพียงบุรุษคนหนึ่งเขาอาจจะเพิกเฉยต่อสตรีในอาณาจักรหลิวฮั่วได้ เพราะสาว ๆ ที่นี่ต่างไม่มีค่าพอ
ทว่าเจ้าหุบเขาเพลงพิณนั้นต่างกันว่ากันว่าเจ้าหุบเขาเพลงพิณ มู่ชิงเกอ นั้นเป็นสตรีที่ทั้งสวยทั้งมากความสามารถ หากเจอกับสตรีงามพร้อมเช่นนั้น คงไม่มีผู้ใดกล้าเฉยเมยใส่
เมื่อถึงเวลานั้นไป๋หยานจะต้องน้ำตาตก หากต้องแข่งขันกับมู่ชิงเกอ อ๋องคังย่อมสนใจสตรีเช่นมู่ชิงเกออย่างแน่นอน และเขาย่อมต้องทิ้งไป๋หยาน !
“ข้ายอมให้ไป๋หยานมาเป็นชายาอีกคนของข้าก็ได้…”หนานกงอี้กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หากแต่ข้าไม่อนุญาตให้ลูกสารเลวของนางเข้ามาในตำหนักของข้าเป็นแน่ !”
ไป๋รั่วยิ้มเป็นรอยยิ้มที่มิอาจหยั่งรู้ “สวามี พระองค์วางใจได้ พี่สาวของหม่อมฉัน นางเป็นคนฉลาด นางย่อมจะรู้ว่าสิ่งใดดีที่สุดสำหรับนาง แม้อ๋องคังอาจจะแข็งแกร่ง แม้นางจะมีหอบุปผาอยู่ในกำมือ ทว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนไม่อาจเทียบกับบุตรชายของเราได้”
“ในวันที่หลินเอ๋อถือกำเนิดเหล่าสรรพสัตว์ในโลกนี้ต่างน้อมนมัสการเขา เขาเป็นคนพิเศษ แม้แต่อ๋องคังเองในกาลข้างหน้าก็ต้องโดนเขาเหยียบย่ำเป็นแน่ !” ไป๋รั่วแหงนเงยหน้าน้อย ๆ นัยน์ตาของนางยังเปล่งประกายอ่อนโยน
สีหน้าของหนานกงอี้ดูดีขึ้นอีก“หากนางฉลาดจริง เหตุใดนางจึงปฏิเสธที่จะเป็นสนมของข้า ทว่ากลับเลือกอ๋องคังแทนเล่า ?”
ต่อให้อ๋องคังมีพลังมากเพียงใด? ทว่าสุดท้ายโลกใบนี้ก็จะเป็นของบุตรชายข้า ! เมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะไม่ให้เขาได้มีที่ยืนเลยทีเดียว
“สวามี”ไป๋รั่วหัวเราะเบา ๆ “นั่นเป็นเพราะ ก่อนหน้านี้พระองค์ไม่รักนาง นางย่อมเลือกอ๋องคัง หากพระองค์แสร้งทำเป็นว่าชอบนาง หม่อมฉันแน่ใจว่านางจะต้องโผเข้าสู่อ้อมแขนของพระองค์ในทันที ”
“ไป๋หยานฉลาดมากจริงๆ หากแต่ความยโสโอหังของนางก็ทำให้ข้ารักนางไม่ลง”
อย่างดีที่สุดเขาก็เพียงปรารถนาจะชื่นชมเรือนร่างงดงามของนางเท่านั้น เขาไม่มีทางรักนางได้เป็นแน่
ไป๋รั่วถอนหายใจออกมาช้าๆ ด้วยความโล่งอก นางเกรงว่าหากหนานกงอี้ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของไป๋หยาน เขาจะตกหลุมรักไป๋หยานอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เช่นนั้นนางจึงจงใจกล่าววาจาเช่นนั้น
นางอยู่กับหนานกงอี้มานานนางย่อมรู้ดีว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทใด ! หากทำให้เขาเข้าใจว่าไป๋หยานหยิ่งยโสทระนงตน แน่นอนว่าเขาไม่มีวันที่จะรักไป๋หยานได้ตลอดชั่วชีวิต
“รั่วเอ๋อเจ้าควรพักผ่อนก่อนดีกว่า ไว้ข้าจัดการเรื่องนี้เอง” หนานกงอี้ปลอบประโลมไป๋รั่ว “ข้าให้สัญญากับเจ้า วันใดที่ข้าได้ไป๋หยานมาเป็นชายารอง วันนั้นข้าจะยกหอบุปผาให้เจ้าเป็นผู้จัดการ ”
ไป๋รั่วลดระดับสายตาลงเพื่อซ่อนเร้นความยินดีในแววตา นางกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “สวามี โลกของหม่อมฉันก็คือพระองค์ ไม่ว่าจะหอบุปผา หรือสิ่งใดก็ตามแต่หม่อมฉันไม่สนใจเลย”
ในโลกนี้สิ่งใดจะยอดเยี่ยมไปกว่าการที่สตรีแสดงความรักโดยการบอกว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่นางต้องการ นอกจากคำบอกรักจากเขา
หนานกงอี้จับมือชายาของเขาแน่นด้วยความประทับใจ“รั่วเอ๋อ สิ่งใดที่ข้าได้ลั่นวาจาออกไปแล้ว ย่อมไม่คืนคำ เจ้ารอวันที่จะได้เป็นนายหญิงของหอบุปผาเถิด !”
“แต่หากพี่สาวของหม่อมฉันไม่ยินยอมล่ะ…”ไป๋รั่วกัดริมฝีปากอย่างสิ้นหวัง
หนานกงอี้หัวเราะ“ในโลกนี้ สามีเป็นใหญ่เสมอ ในเมื่อนางเป็นชายาของข้าแล้ว ข้าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ”
หลังจากจบคำหนานกงอี้ก็ปล่อยมือไป๋รั่ว เขาช่วยปัดผมที่รุ่ยร่ายลงมาละหน้าผากให้นาง
“ข้าจะไปเตรียมจดหมายส่งถึงหุบเขาเพลงพิณอีกไม่นานเราก็จะได้อยู่ร่วมกัน ข้า,เจ้ารวมถึงพี่สาวของเจ้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”
หนานกงอี้ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหอบุปาจะตกอยู่ในกำมือเขา หรือเป็นเพราะเขาจะได้ครอบครองสตรีที่งดงามเช่นไป๋หยานกันแน่ จึงทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเช่นนี้ เขาหัวเราะร่า พร้อมกับเดินตรงไปที่ประตู
***จบบท เจ้าหุบเขาเพลงพิณ (2)***