จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 191
บทที่ 191 : เจ้าหุบเขาเพลงพิณ (1)
”รั่วเอ๋อ…”หนานกงอี้ ถอนหายใจ พลางกอดชายาของเขาอย่างปวดร้าวใจ “เจ้าไม่พอใจที่ข้าไม่ให้ยาอายุวัฒนะแก่เจ้าหรือไม่ ?”
ไป๋รั่วหลบตาลงพลางกล่าวว่า“พระองค์เป็นทั้งสามีเป็นทั้งสวรรค์ของหม่อมฉัน เพื่อให้พระองค์สุขสบายแล้ว ต่อให้รั่วเอ๋อต้องแลกด้วยชีวิตก็พร้อมยอมทำ แค่ยาเม็ดระดับสี่นั่นจะมีค่าอะไรกัน ?”
ครั้นได้ยินถ้อยคำจรรโลงใจของชายาหนานกงอี้ก็ยิ่งสำนึก “รั่วเอ๋อ ข้า…หนานกงอี้ช่างโชคดีจริง ๆ ที่มีชายางามพร้อมเช่นเจ้า เจ้ามั่นใจได้เลยว่า ตลอดชั่วชีวิตนี้ข้าจะอยู่กับเจ้า”
”สวามี”ไป๋รั่วกุมมือหนานกงอี้แน่น “ในเมื่อพี่สาวของหม่อมฉันมิใช่คนไร้ประโยชน์อีกต่อไปแล้ว เช่นนั้นเหตุใดพระองค์ไม่แต่งนางมาเป็นชายารองเล่าเพคะ ?”
หัวใจของหนานกงอี้เต้นไม่เป็นจังหวะเขาจ้องมองไป๋รั่วผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง “เจ้าอยากให้ไป๋หยานมาเป็นชายารองของข้าจริงกระนั้นหรือ ?”
หากไป๋หยานมาเป็นผู้หญิงของเขาได้จริงนั่นหมายความว่าหอบุปผาย่อมจะตกอยู่ในมือของเขาเช่นกัน
มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะปฏิเสธสิ่งดีๆ เช่นนี้ได้ !
”สวามีตราบใดที่พระองค์ต้องการ รั่วเอ๋อก็ยินดี”
-อ่านได้ที่ wwwcat2auto.com
ขนตาของไป๋รั่วสั่นไหวเล็กน้อยหยาดน้ำตาคลอหน่วย น้ำเสียงของนางช่างน่าสงสารยิ่งนัก หากเป็นก่อนหน้านี้หนานกงอี้จะต้องสาบานว่าไม่มีวันรับไป๋หยานเข้าตำหนักอย่างเด็ดขาด
ทว่าตอนนี้ใบหน้าที่หล่อเหลาราวภาพวาดของหนานกงอี้กลับปรากฏความลังเล
”รั่วเอ๋ออ๋องคังนั้นแข็งแกร่งมาก แม้กระทั่งเสด็จพ่อของข้าก็ยังกลัวเขา ข้าเกรงว่าไม่เป็นการง่ายนัก หากจะแย่งไป๋หยานมาจากเขา”
ไป๋รั่วเห็นหนานกงอี้สนใจไป๋หยานจริงๆ นางก็รู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย แต่ในเมื่อนางกล่าวออกไปแล้วย่อมไม่อาจกลับคืนคำ
”สวามีหม่อมฉันได้ยินมาว่า หุบเขาเพลงพิณ กำลังตามหาใครบางคน … และคนผู้นั้นก็คืออ๋องคัง !”
นางกัดริมฝีปากพลางเอ่ยออกมาเบาๆ
”หุบเขาเพลงพิณ?” หนานกงอี้ขมวดคิ้ว
รั่วเอ๋อไปเกี่ยวข้องกับหุบเขาเพลงพิณได้อย่างไร?
ครั้นเห็นแววตาสงสัยของหนานกงอี้ไป๋รั่วก็รีบเอ่ยอธิบายด้วยเสียงนุ่ม ๆ ว่า “สวามี หม่อมฉันได้พบกับคนจากหุบเขาเพลงพิณโดยบังเอิญ พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของอ๋องคัง นั่นคือสาเหตุที่พวกเขามาไถ่ถามหม่อมฉันเพื่อขอข้อมูล…หากแต่เป็นเพราะหม่อมฉันต้องการให้น้องสาวของหม่อมฉัน ไป๋จื่อ ได้แต่งงานกับอ๋องคัง เช่นนั้นหม่อมฉันจึงไม่บอกตัวตนของอ๋องคังแก่พวกเขา”
แววตาของเขาหนานกงอี้เปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง”เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดกำลังตามหาอ๋องคัง ?”
”เจ้าหุบเขาเพลงพิณ!” แววตาของไป๋รั่วเปล่งประกาย “สวามี หากพระองค์ส่งจดหมายไปยังหุบเขาเพลงพิณ เพื่อแจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับอ๋องคัง เมื่อถึงเวลานั้น หม่อมฉันแน่ใจว่าไป๋หยานคงยากที่จะสามารถเป็นชายาของอ๋องคังได้”
หนานกงอี้มองไป๋รั่วเงียบๆ “ถึงแม้ว่าหุบเขาเพลงพิณนั้นจะแข็งแกร่ง ทว่าก็แข็งแกร่งกว่าหอบุปผาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอก”
”สวามี”ไป๋รั่วพยายามยันตนเองขึ้นพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน “พระองค์ลืมไปแล้วหรือว่าทันทีที่ไป๋หยานรู้ว่าเราคบกัน นางปฏิบัติกับหม่อมฉันเช่นไร ? หากนางรู้ว่าเจ้าหุบเขาเพลงพิณสนใจอ๋องคัง ด้วยนิสัยของพี่สาวหม่อมฉัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นางจะต้อง ต่อสู้แย่งชิงอ๋องคังเป็นแน่”
แท้ที่จริงสิ่งที่ไป๋หยานกระทำกับไป๋รั่วในครานั้น หนานกงอี้ล้วนได้รับฟังมาจากไป๋รั่วแต่เพียงฝ่ายเดียว และเขาก็เลือกที่จะเชื่อนาง เขาคิดเสมอว่าเมื่อครั้งที่อยู่บ้านสกุลไป๋ ไป๋หยานเป็นผู้รังแกไป๋รั่ว
หลังจากคิดอยู่เพียงครู่หนานกงอี้ก็เข้าใจความนัยที่ไป๋รั่วกล่าวมา “อ้อ ! เจ้าต้องการให้อ๋องคังกับไป๋หยานผิดใจกัน และแยกทางกันใช่หรือไม่ ?”
***จบบทเจ้าหุบเขาเพลงพิณ (1)***