cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

จับพลัดจับผลูมาเป็น ‘ภรรยา’ ของศัตรูหัวใจ - ตอนที่ 7-8

  1. Home
  2. All Mangas
  3. จับพลัดจับผลูมาเป็น ‘ภรรยา’ ของศัตรูหัวใจ
  4. ตอนที่ 7-8
Prev
Next

Ch.4 – ตอนที่ 7-8 ต้องมาถูกไอ้เจ้าศัตรูหัวใจอุ้มด้วยท่าอุ้มเจ้าสาวแบบนี้ ให้ฉันตายๆ ไปอีกซักรอบเถอะ!

Translator : Akanirawan / Author

 

ตอนที่ 7 ต้องมาถูกไอ้เจ้าศัตรูหัวใจอุ้มด้วยท่าอุ้มเจ้าสาวแบบนี้ ให้ฉันตายๆ ไปอีกซักรอบเถอะ! (1/2)

หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก ซูเจี๋ยนชะงักค้างเพราะความอึ้งไปตั้งแต่ได้ยินคำ ‘ชอบฉันไง’ จากอันอี่เจ๋อแล้ว ส่วนฝ่ายอันอี่เจ๋อ ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากนั้นกล่าวคำนั้นออกมา สีหน้าของเขาก็กลายเป็นเงียบขรึมเย็นชา ดูเหมือนจะหงุดหงิดขุ่นเคืองขึ้นมา

ซูเจี๋ยนเองย่อมไม่มีอารมณ์จะไปใส่ใจเขา เพราะตอนนี้ทั้งคู่มาถึงหอฌาปนกิจเรียบร้อยแล้ว

โถงไว้อาลัยของบ้านเขาหาเจอได้ง่ายมาก และเพราะขาของเขานั้นเดินไม่สะดวก ซูเจี๋ยนจึงได้แต่นั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น ให้อันอี่เจ๋อพาเขาเข้าไปช้าๆ แขกที่อยู่ในโถงไว้อาลัยนั้นล้วนแต่เป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับครอบครัวของซูเจี๋ยนที่สุด ยังมีเพื่อนร่วมงานสองสามคนที่ค่อนข้างสนิทกับซูเจี๋ยน และเพื่อนเก่าสมัยเรียนกลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ตอนนี้ พวกเขาแต่ละคนต่างก็มีสีหน้านิ่งขรึมหดหู่ พวกพี่น้องที่สนิทกับซูเจี๋ยนมากหน่อยก็ถึงกับมีดวงตาแดงก่ำกันแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใด คือครอบครัวของเขา ทั้งพ่อแม่ทั้งน้องชาย พอซูเจี๋ยนเข้ามา ก็เห็นว่าพวกเขาล้วนมีคราบน้ำตานองหน้ากันหมดแล้ว

ซูเจี๋ยนได้แต่กำที่วางแขนของเก้าอี้รถเข็นไว้แน่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

หลังทั้งกลุ่มโน้มกายลงคารวะเป็นการไว้อาลัยแล้ว ทุกคนก็ทยอยเข้ามากล่าวคำอำลาต่อร่างของซูเจี๋ยนกันทีละคน จนถึงรอบของซูเจี๋ยน ในที่สุดซูเจี๋ยนก็ได้เห็นสภาพของตัวเองที่นอนอยู่ในโลงศพ ได้ยินมาว่าเพราะอุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ร้ายแรงจนเกินไป ร่างเดิมของเขาจึงถูกทำลายอย่างรุนแรงจนมีสภาพน่าสยดสยองมาก โชคดีที่ศพนี้ได้ผ่านการจัดการจากคนแต่งหน้าศพมาแล้ว ยามนี้ร่างของเขาที่นอนอยู่ตรงหน้าจึงยังดูหล่อเหลาเหมือนเคย หากมองเผินๆ ก็ดูเหมือนกับกำลังนอนหลับอย่างสงบอยู่เท่านั้น

นี่ก็คือเขา! นี่ก็คือซูเจี๋ยนเองไง! เห็นชัดๆ ว่าฉันยังไม่ตายซะหน่อย ฉันยังอยู่ดีตรงนี้ไง! ซูเจี๋ยนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวจนเหมือนใจจะขาด ความรู้สึกนี้ช่างทรมานจนไม่อาจทนรับได้ เขายื่นมือออกไปหาร่างที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ จิตวิญญาณก็อยู่ที่นี่แล้ว ใครจะรู้ ถ้าแตะลงไปบนผิวเนื้อแล้ววิญญาณอาจจะกลับเข้าร่างได้ก็เป็นได้ กลับเป็นตัวฉันคนเดิมอีกครั้ง แค่ได้กลับเข้าร่าง ฉันก็จะได้เป็นคนเดิมแล้วไม่ใช่เหรอ? พระเจ้า พระอัลเลาะห์ พระตถาคตเจ้า ทุกพระองค์ขอรับ! ถ้าหากว่าพวกท่านพอจะมีเวลาว่างสักครู่ ก็ได้โปรดสำแดงฤทธิ์ออกมาหน่อยเถอะ ขอแค่ให้ผมได้กลับเป็นคนเดิมได้ ขอแค่ให้พ่อแม่ผมไม่ต้องโศกเศร้าเสียใจขนาดนี้ ผมพร้อมจะยอมทุกอย่าง แม้ว่าต่อจากนี้ผมต้องเป็นไอ้ขี้แพ้ไปตลอดชีวิต ผมก็ยินดี!

ทันใดนั้นเสียงอุทานแผ่วเบาก็ดังขึ้นรอบด้าน ซูเจี๋ยนที่เหม่อลอยขาดสติไป พลันรู้สึกได้ว่ามือของตัวเองถูกคว้าจับไว้แน่น หลังจากได้สติกลับคืนมาแล้ว เขาก็พบว่ายามนี้ทุกคนกำลังมองเขาด้วยแววตาตื่นตระหนก กลายเป็นว่าเขายื่นมือออกไปโดยไร้สติ คิดจะแตะสัมผัสกับซากร่างที่เหลืออยู่ของตัวเองจริงๆ ก่อนจะถูกอันอี่เจ๋อเอื้อมแขนจากด้านหลังมาคว้ามือเขาไว้ได้ทัน

ซูเจี๋ยนจิตใจยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นแค่คนนอก ย่อมไม่มีใครอนุญาตให้เขาแตะซากสังขารที่เหลืออยู่ตรงหน้านี้แน่ แต่หากการที่จิตวิญญาณและร่างกายได้สัมผัสกันแล้วทำให้เขาได้กลับเข้าร่างเดิมได้จริงๆ ล่ะ? ถ้าเขาไม่ทดลองดูแล้วจะรู้ได้ยังไงกัน?

ซูเจี๋ยนรู้แค่ว่าเขาจะยอมถอยไม่ได้แล้ว เพราะหากว่าหลังจากนี้ ซากสังขารของเขาผ่านการฌาปนกิจไปแล้ว ถึงตอนนั้นต่อให้มีวิธีการอื่น ก็ย่อมไร้ค่าโดยสิ้นเชิง!

อุตส่าห์ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่แล้ว ซูเจี๋ยนไม่ยอมกังวลอะไรให้มากความอีก เขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้! ซูเจี๋ยนสะบัดมืออันอี่เจ๋อออกอย่างแรง แล้วกระโจนเข้าใส่ซากร่างตรงหน้าอย่างกล้าหาญ พลางส่งเสียง ‘อ๊า!’ ออกมาพร้อมด้วยน้ำตาร่วงรินเป็นสาย

เพราะเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งซูเจี๋ยนยังทุ่มแรงกระโจนเข้าไปอย่างสุดกำลัง อันอี่เจ๋อและคนอื่นๆ ไม่อาจจะตอบสนองได้ทันเวลา จึงไม่มีใครหยุดเขาได้ ทำให้เขาจับมือของซากร่างตรงหน้าได้สำเร็จ หลังจากนั้นความโกลาหลวุ่นวายก็บังเกิด คนที่กรีดร้องก็กรีดร้องดังลั่น คนที่ด่าทอก็ด่าทอไม่หยุดปาก ส่วนคนที่คว้าจับเขาได้ก็รีบดึงตัวเขาออกไปห่างๆ ทว่าซูเจี๋ยนกลับไม่รับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้แม้แต่น้อย

สิ่งเดียวที่เขารับรู้ได้ก็คือ—— มือที่ได้สัมผัสนั้นเย็นเยียบอย่างยิ่ง นอกจากความเย็นเยียบแล้วก็ไม่มีความรู้สึกอื่นใดแม้แต่น้อย

จิตวิญญาณของเขาก็ได้สัมผัสกับร่างกายตัวเองแล้ว ทว่าทุกอย่างก็ยังสงบนิ่งอยู่เช่นเคย เขายังนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นของตัวเอง ซากศพก็ไม่มีทีท่าว่าจะเด้งผึงขึ้นมาแต่อย่างใด

ซูเจี๋ยนพลันรู้สึกสิ้นหวังถึงขีดสุด

เขากลับไปไม่ได้แล้วจริงๆ!

เขาไม่รู้ว่าระหว่างตกตายไปอย่างเงียบงัน กับฟื้นตื่นขึ้นมาเป็นภรรยาของคนอื่น ทั้งยังไม่อาจแสดงออกว่ายอมรับหรือจดจำความสัมพันธ์ใดๆ กับเพื่อนหรือครอบครัวของตัวเองได้ ที่แท้แล้ว แบบไหนเลวร้ายกว่ากันแน่

ดังนั้น ยามที่อันอี่เจ๋อจ้องมองอีกฝ่าย ที่เขามองเห็นก็คือหญิงสาวผู้มีสีหน้าสิ้นหวังเหม่อลอย แววตาขมขื่นโศกเศร้า ทั้งยังมีน้ำตาสองสายไหลรินลงมาจากดวงตาแดงก่ำ……

อันอี่เจ๋ออึ้งงันไป คิ้วเข้มกลับไปขมวดเข้าหากันแน่น ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด เด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติผู้ตายที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พลันเอ่ยปากถามขึ้นมาเสียก่อน : “สวัสดี เอ่อ ขออนุญาตนะครับ คุณเป็นแฟนของพี่ชายผมเหรอ”

แน่นอนว่า คนถามก็คือน้องชายของซูเจี๋ยนนั่นเอง

ซูเจี๋ยนจ้องมองเจ้าเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง น้องชายของเขา ‘ซูเจี๋ย’ ปีนี้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีที่สอง แม้ว่าทุกๆ วันพวกเขาจะชอบโต้เถียงแย่งกันดึงดูดความสนใจจากแม่เหมือนเด็กๆ แต่อันที่จริงแล้ว ซูเจี๋ยนรักน้องชายคนนี้มาก ระหว่างพี่น้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดอย่างแท้จริง ตอนนี้ ดวงตาของเจ้าเด็กซูเจี๋ยนี่แดงก่ำราวกับตากระต่าย มองแวบเดียวก็รับรู้ได้ว่าต้องผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงจนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด ซูเจี๋ยนรู้ดี เพราะคิดว่าเขาตายไปแล้ว น้องชายจึงได้โศกเศร้าเสียใจขนาดนี้ ตอนนี้ตัวเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าน้อง ไม่สิ นั่งอยู่ตรงหน้าน้องแล้วต่างหาก แต่กลับไม่อาจแสดงตัวออกไปได้ว่าเป็นเขาเอง สภาพการณ์เช่นนี้ อยากให้ขมขื่นมากเท่าไหร่ก็ขมขื่นได้มากเท่านั้น อยากให้ย้อนแย้งมากเท่าไหร่ก็ย้อนแย้งได้มากเท่านั้น!

เพียงแต่คำถามของซูเจี๋ยนี้ช่างยากจะตอบกลับอยู่บ้าง ลักษณะอาการที่เขาแสดงออกในยามนี้ เห็นชัดๆ ว่าดูคล้ายคนที่เศร้าโศกเพราะคู่รักของตัวเองตายไป ทว่าปัญหาใหญ่ก็คือ ตอนนี้ที่ด้านหลังเขายังมีสามีตัวจริงยืนจังก้าอยู่ หากลำพังแค่ซูเจี๋ยนคนเดียว เขาก็คงสามารถโกหกออกมาสักหลายประโยคเพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์ให้แนบเนียนได้บ้าง แต่ตอนนี้ ถ้าภรรยาที่แต่งงานหมาดๆ ได้แค่เดือนเดียวกลับมาพูดว่าตัวเองเป็นแฟนสาวของคนอื่นต่อหน้าต่อตา กลับไปอันอี่เจ๋อจะไม่บีบคอเขาตายหรือ?

ขณะที่เขายังตกอยู่ในห้วงภวังค์ เสียงทุ้มของอันอี่เจ๋อก็พลันดังขึ้นจากทางด้านหลัง : “ไม่ใช่”

————————–

ตอนที่ 8 ต้องมาถูกไอ้เจ้าศัตรูหัวใจอุ้มด้วยท่าอุ้มเจ้าสาวแบบนี้ ให้ฉันตายๆ ไปอีกซักรอบเถอะ! (2/2)

ซูเจี๋ยนชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบผงกศีรษะรับ : “อื้ม ไม่ใช่จริงๆ นั่นแหละ”

“อ้อ งั้นเองสินะครับ แน่นอนอยู่แล้วล่ะ เป็นผมเข้าใจผิดไปเอง” ซูเจี๋ยเอ่ยคำขอโทษออกมาเบาหวิว มุมปากกดคว่ำลง น้ำเสียงแหบแห้งมีเพียงความขมขื่นแฝงอยู่หนาแน่น

ซูเจี๋ยนพลันรู้สึกสงสารจนไม่อาจทนมองขึ้นมาทันที จึงโพล่งออกไปประโยคหนึ่ง : “อย่ากังวลไปเลย ชาติหน้าพี่ชายนายต้องหาพี่สะใภ้คนสวยนิสัยดีมาแต่งด้วยได้แน่นอน!”

ซูเจี๋ย : “…….”

……………………………….

หลังร่วมพิธีศพแล้ว อันอี่เจ๋อก็ค่อยๆ เข็นรถพาซูเจี๋ยนออกมานอกโถงไว้อาลัยอย่างช้าๆ ซูเจี๋ยนกวาดตามองดูใบหน้าโศกเศร้าตรอมใจของพ่อแม่และน้องชาย จากนั้นก็มองดูร่างตัวเองที่อยู่กลางห้องโถง ในหัวอกพลันปวดร้าวทรมานขึ้นมา : จากวันนี้เป็นต้นไป บนโลกนี้ก็ไม่มี ‘เขา’ อยู่อีกแล้ว! นับแต่นี้เป็นต้นไป เขาก็ไม่ใช่ ‘เขา’ คนนี้อีกแล้ว!

ตั้งแต่นี้ไป ผู้ชายตัวโตที่แสนดีและรักครอบครัวอย่างเขาก็ได้แต่ต้องหาทางเอาตัวรอดต่อไปในสถานะของหญิงสาวคนหนึ่ง แถมยังเป็นภรรยาของศัตรูหัวใจของเขาเองด้วย!

ดวงตาของซูเจี๋ยนที่แดงเรื่ออยู่แล้วกลายเป็นยิ่งแดงก่ำหนักกว่าเก่า

ฝั่งซูเจี๋ยนทางนี้ก็ได้แต่กล้ำกลืนความโศกเศร้าและคร่ำครวญต่อโชคชะตาอันอาภัพของตัวเองอยู่เงียบๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่อาจห้าม ส่วนทางฝ่ายอันอี่เจ๋อที่อยู่ด้านข้างนั้น ก็ทำสีหน้าเรียบเฉยมองดูหญิงสาวตรงหน้าร่ำไห้จนดวงตาแดงก่ำเหมือนกระต่ายตัวน้อยๆ ไปอีกครั้ง

จนแล้วจนรอด อันอี่เจ๋อก็ทนมองต่อไปไม่ได้ จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมายื่นส่งให้

เห็นสิ่งที่ถูกยื่นมาตรงหน้าตัวเอง ซูเจี๋ยนก็เหม่อลอยแข็งค้างไปครู่หนึ่ง จนเมื่อตระหนักได้ว่าเจ้าสิ่งนั้นคืออะไร ซูเจี๋ยนก็ต้องสละเวลาที่โศกเศร้ามาทอดถอนใจอย่างปลงๆ : ยังมีผู้ชายที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าอยู่อีก! อันอี่เจ๋อนี่ช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

ขมขื่นก็ส่วนขมขื่น ยังไงซูเจี๋ยนก็ยังยื่นมือไปดึงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาแบบไม่ให้เสียน้ำใจอยู่ดี หลังจากนั้นก็เอามาปิดหน้าตัวเอง ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงสั่งน้ำมูกฟืดใหญ่ดังลั่นออกมา

มุมปากของอันอี่เจ๋อพลันกระตุกขึ้นอย่างเงียบงัน

ซูเจี๋ยนสั่งน้ำมูกจนจมูกปลอดโปร่งเกลี้ยงเกลาด้วยความใสซื่อจริงใจอย่างมาก เมื่อเห็นอันอี่เจ๋อจ้องมองมา ก็ใช้สายตาว่างเปล่าจ้องตอบกลับไป จากนั้นก็คีบผ้าเช็ดหน้าส่งให้อย่างเรียบง่าย : “ขอบใจนะ นี่ของคุณ คืนให้แล้ว”

อันอี่เจ๋อรับผ้าเช็ดหน้าแล้วโยนเข้าไปในถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ อย่างไม่ลังเลทันที

ซูเจี๋ยนมองดูเขาเดินร่วมทางไปด้วย จู่ๆ ลมหายใจก็ติดขัดขึ้นมา เพราะก่อนหน้านี้ร้องไห้มากเกินไป เขาจึงไม่อาจห้ามอาการสะอึกสะอื้นไว้ได้

อันอี่เจ๋อชำเลืองมองหยดน้ำตาที่เกาะพราวอยู่กับขนตางอนยาวของอีกฝ่าย ถามขึ้นเสียงเข้มลึก : “นี่เธอร้องไห้เพราะอะไร”

ซูเจี๋ยนสะอื้นฮัก กล่าวตอบเสียงแผ่ว : “ผู้ชายคนนี้น่าสงสารเกินไป ทั้งที่หล่อเหลาดูดีมาก แต่กลับต้องตายเร็วขนาดนี้ แม้แต่สะใภ้ก็ยังไม่ทันหาให้ครอบครัวด้วยซ้ำ ฉันรู้สึกเสียใจไปกับเขา”

เห็นได้ชัดว่าอันอี่เจ๋อไม่เชื่อถือคำตอบประเภทนี้ เขาถามขึ้นอีกครั้ง : “เธอไม่รู้จักเขามาก่อนจริงๆ เหรอ”

ซูเจี๋ยนพูดปดด้วยใบหน้าใสซื่อจริงใจ : “ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนจริงๆ”

อันอี่เจ๋อแค่นเสียงออกมาเบาๆ : “ไม่ใช่เธอบอกว่าจำอะไรไม่ได้เลยหรอกเหรอ แล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าเธอเคยรู้จักเขามาก่อนรึเปล่า”

รู้อย่างนี้แล้วนายจะมาถามฉันทำไมอีก! ซูเจี๋ยนก่นด่าอย่างโมโหโทโสอยู่ในใจ ลอบชูนิ้วกลางให้อีกฝ่ายอย่างเงียบงัน

ตรงข้ามกับอันอี่เจ๋อที่จ้องมองเขาแน่วนิ่ง จ้องเอาๆ อยู่อย่างนั้นเป็นนาน แล้วจู่ๆ ก็ยื่นนิ้วมาปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มให้เขาอย่างนุ่มนวล

“พวกผู้หญิงนี่เจ้าน้ำตาจริงๆ”

รอจนตระหนักได้ว่าเมื่อครู่อันอี่เจ๋อเพิ่งปาดเช็ดน้ำตาให้เขาไป ซูเจี๋ยนก็รู้สึกเหมือนมีเสียงระเบิดดังก้องในหัว

แม่งเหอะ! ต้องมาถูกไอ้ศัตรูหัวใจบัดซบนี่เช็ดน้ำตาให้ด้วยท่าทางเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ ให้ฉันตายไปอีกรอบให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยเถอะ!

ในใจของซูเจี๋ยนมีแต่ความขุ่นแค้นโศกสลดอย่างไร้ขีดจำกัด ทว่าเบื้องหน้ากลับแสดงออกมาได้เพียงความขมขื่นทุกข์ตรมตามประสาหญิงสาว ผลลัพธ์ที่ได้คือความขุ่นเคืองที่แสดงออกมาครั้งนี้ สภาพที่เผยให้เห็นก็คือ ซูเจี๋ยนคนงามที่ไม่เพียงแต่มีดวงตาแดงก่ำ แม้กระทั่งใบหูน้อยๆ ก็แดงฉานไปด้วยแล้ว

จนถึงตอนที่อันอี่เจ๋อกำลังจะมาอุ้มเขาลงไป ความขุ่นแค้นโศกสลดของซูเจี๋ยนก็พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด แม้ว่าก่อนหน้านี้อันอี่เจ๋อจะโอบเอวเขาพาขึ้นลงเช่นกัน แต่เมื่อครู่สิ่งที่ในใจเขากำลังกังวลและตึงเครียดก็มีเพียงเรื่องที่จะได้พบเจอครอบครัวแล้วก็ซากร่างของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจเรื่องรอบตัวเลยแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากได้สติกลับคืนมาแล้วแบบนี้ เมื่อค้นพบว่าอันอี่เจ๋อกำลังจะอุ้มเขาขึ้นมาในอ้อมแขน ซูเจี๋ยนก็ตื่นตระหนกหวาดผวาไปในฉับพลัน

“ฉัน ฉันว่าฉันไปเองดีกว่า!”

“แน่ใจนะว่าเธอไปเองได้”

“ได้!”

ซูเจี๋ยนอาศัยอันอี่เจ๋อช่วยพยุงกาย แล้วจึงดิ้นรนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ ทว่าเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ก้าวขาไม่ออกแล้ว

เวรเถอะ! ทางนี่มันยาวขนาดนี้ได้ยังไง!

ซูเจี๋ยนขะมักเขม้นคำนวณพลังงานที่ต้องใช้และท่วงท่าที่จะขยับตัวต่อไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อจะได้ไม่ต้องล้มทรุดลงตอนก้าวขาให้อับอายขายขี้หน้า ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จู่ๆ ก็รู้สึกเบาหวิวไปทั้งร่าง ถูกคนอื่นยกเอวอุ้มขึ้นมาเสียแล้ว

จวบจนตระหนักได้ว่าตัวเองถูกอันอี่เจ๋ออุ้มขึ้นมาด้วยท่วงท่าอุ้มเจ้าสาวในตำนาน ความรู้สึกในใจซูเจี๋ยนก็ทะลุขีดจำกัดของคำว่าขุ่นแค้นโศกสลดไปไกลแล้ว : “ปล่อยฉันลง! ปล่อยฉันลง! ฉันจะเดินเอง!”

“ตะโกนอีกทีฉันจะโยนเธอลงไป”

ถูกวางลงอย่างนุ่มนวลกับถูกโยนโครมลงไปอย่างไร้ปราณีนั้นย่อมเป็นสองทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซูเจี๋ยนจึงเลือกปิดปากฉับอย่างชาญฉลาด

หลังจากนั้นก็ได้แต่คร่ำครวญกระซิกๆ อยู่ในใจ : ถึงขนาดต้องมาถูกไอ้เจ้าศัตรูหัวใจนี่ยกอุ้มขึ้นมาด้วยท่าเจ้าสาวแบบนี้แล้ว ไม่สู้ให้ฉันตายไปอีกรอบให้มันจบๆ ไปเลยเถอะ!

——————

ได้รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 7-8"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved