cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

จับพลัดจับผลูมาเป็น ‘ภรรยา’ ของศัตรูหัวใจ - ตอนที่ 16

  1. Home
  2. All Mangas
  3. จับพลัดจับผลูมาเป็น ‘ภรรยา’ ของศัตรูหัวใจ
  4. ตอนที่ 16
Prev
Next

Ch.8 – ตอนที่ 16 ในเมื่อซูเจี๋ยนคนก่อนเป็นคนเตรียมอาหาร ย่อมไม่อาจทำตัวผิดแปลกจนเกินไปเพื่อไม่ให้ถูกเปิดโปง

Translator : Akanirawan / Author

 

ตอนที่ 16ในเมื่อซูเจี๋ยนคนก่อนเป็นคนเตรียมอาหาร ย่อมไม่อาจทำตัวผิดแปลกจนเกินไปเพื่อไม่ให้ถูกเปิดโปง (1/1)

วันถัดมาเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี

เพราะเมื่อคืนก่อนเข้านอนแต่หัวค่ำ ซูเจี๋ยนจึงตื่นเช้ากว่าที่เคย แต่พอออกมาจากห้อง ก็พบว่าอันอี่เจ๋อไม่ได้อยู่ในบ้านแล้ว

หรือว่าเจ้าคนผู้นี้ออกไปที่ทำงานแต่เช้าตรู่เพื่อเข้างานก่อนเวลาไปแล้ว?

ซูเจี๋ยนเพิ่งจะครุ่นคิดสงสัย จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก จากนั้นก็มองเห็นอันอี่เจ๋อในชุดออกกำลังกายเดินเข้ามาในห้อง

ซูเจี๋ยนลูบๆ ผมตัวเองให้เป็นทรงเล็กน้อย เอ่ยปากทักทายเขาอย่างตะกุกตะกักอยู่บ้าง : “ไปวิ่งมาเหรอ”

อันอี่เจ๋อทำเสียง ‘อืม’ ในลำคอเป็นเชิงตอบรับทีหนึ่ง วางห่อของในมือลงบนโต๊ะอาหาร จากนั้นก็หันมามองซูเจี๋ยน : “มื้อเช้า”

เอ๋? ซูเจี๋ยนเขย่งขากระย่องกระแย่งเข้าไปใกล้ๆ เปิดห่อของออกดู ของที่บรรจุอยู่ข้างในนั้นดูค่อนข้างเป็นมื้อที่หรูหราใช้ได้เลยทีเดียว

เจ้าคนแซ่อันนี่ก็มีน้ำใจดีเหมือนกันนี่นา ซูเจี๋ยนรู้สึกพึงพอใจขึ้นมา

ทั้งสองนั่งหันหน้าเข้าหากัน แล้วเริ่มลงมือทานมื้อเช้า แสงอาทิตย์เจิดจ้าสาดส่องเข้ามา อาบย้อมทั่วบริเวณให้สว่างขึ้นด้วยแสงอบอุ่นนวลตา

ต่างคนต่างลงมือทานเงียบๆ ไม่ได้คิดจะพูดคุยอะไรกัน ซูเจี๋ยนไม่มีอะไรจะพูด ส่วนอันอี่เจ๋อ ซูเจี๋ยนก็รู้สึกว่าเจ้าคนๆ นี้มีอาการกล้ามเนื้อใบหน้าตายด้านตลอดเวลาอยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่จะพูดน้อยเป็นกิจวัตร

ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นอันอี่เจ๋อที่เปิดปากพูดขึ้นก่อน : “ขายังเจ็บอยู่รึเปล่า”

“อ๋า?” ซูเจี๋ยนงงงันไป : “ก็ไม่ได้เจ็บมาตั้งนานแล้วล่ะ”

อันอี่เจ๋อกล่าวเสริม : “ฉันหมายถึงขาข้างขวา”

“ขาขวา?” ซูเจี๋ยนเหม่อลอยอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงเข้าใจว่าที่อีกฝ่ายถามถึงคือขาข้างที่ล้มกระแทกพื้นเมื่อคืน พอนึกได้ก็ตอบไปด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย : “อ๋อ นั่นก็ยิ่งไม่เป็นไรเข้าไปใหญ่ แค่หกล้มเองนี่นา จะเป็นอะไรได้ยังไงล่ะ”

อันอี่เจ๋อ : “แต่ตอนนี้เธอเหลือขาที่เดินได้อยู่ข้างเดียวแล้ว ระวังอย่าให้ล้มอีก”

ซูเจี๋ยน : “……”

หลังกวาดอาหารมื้อเช้าลงไปจนเกลี้ยงแบบไม่พูดไม่จาแล้ว ซูเจี๋ยนก็นั่งลูบท้องตัวเองอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็เงยหน้ามองอันอี่เจ๋อ เห็นอีกฝ่ายยังทานไม่เสร็จ ซูเจี๋ยนก็เอนกายพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน กวาดตามองประเมินคนที่นั่งตรงข้ามอยู่เงียบๆ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น เฉพาะท่าทางการรับประทานบนโต๊ะอาหารของอันอี่เจ๋อก็ดูสุภาพเรียบร้อยมากแล้ว คำนั้นเรียกว่าอะไรนะ อ้อ! ‘สง่างามตามมารยาทชั้นสูง’ นั่นเอง คนๆ นี้ขนาดทานอาหารอยู่ก็ยังแสดงความสง่างามสูงส่งในบุคลิกตัวตนออกมาได้ ช่างดึงดูดสายตาซะจริงๆ ——ซะเมื่อไหร่กันเล่า! แม่มเหอะ! ก็แค่กินข้าวเองไม่ใช่รึไง อันอี่เจ๋อ นายไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ นั่งตัวตรงแน่วเกร็งแขนขยับมือไม้ซะยังกับว่ากำลังกินสเต็กหรูอยู่ในภัตตาคารตะวันตกงั้นแหละ!

ซูเจี๋ยนแอบค่อนแคะอันอี่เจ๋ออยู่ในใจแบบนี้พักใหญ่ ก่อนจะเปิดปากเอ่ยขึ้น : “อะแฮ่มๆ อี่….เอิ่ม…อ่า…เจ๋อ ฉันมีคำถามอยากถามคุณ”

อันอี่เจ๋อชำเลืองมองอีกฝ่าย : “ว่ามาสิ”

ซูเจี๋ยนกล่าวถามอย่างตรงไปตรงมา : “มื้อเที่ยงเราจะกินอะไรกันดี”

อันอี่เจ๋อ : “……”

ซูเจี๋ยนขมวดคิ้ว : “สั่งจากข้างนอกเข้ามาอีกเหรอ”

อันอี่เจ๋อ : “เธอไม่ชอบเหรอ”

ซูเจี๋ยน : “อาหารข้างนอกจะดีเท่าทำกินเองได้ยังไง”

“ก็จริง” อันอี่เจ๋อพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย ชายหนุ่มปรายตามองซูเจี๋ยน แล้วกล่าวต่อ : “ฉันเองก็ไม่ชอบสั่งอาหารข้างนอกเข้ามาเหมือนกัน เมื่อก่อนเธอก็เลยเป็นคนเตรียมอาหารทั้งหมด”

ซูเจี๋ยน : “……”

……………………………….

ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือซูเจี๋ยนรับปากว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องอาหารกลางวันเอง

สืบเนื่องจากความคิดที่ว่า ในเมื่อซูเจี๋ยนคนก่อนเป็นคนเตรียมอาหาร ตัวเองในยามนี้ก็ย่อมไม่อาจทำตัวผิดแปลกจนเกินไป เพื่อไม่ให้ถูกเปิดโปง

ดังนั้น หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว ซูเจี๋ยนก็โทรหาร้านขายวัตถุดิบในบริเวณใกล้เคียงแถวๆ นั้นเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร จากนั้นก็ใช้บริการให้พวกเขาขนของมาส่งถึงที่พัก

จนถึงเวลาสำหรับกลางวัน ซูเจี๋ยนก็ผลักประตูห้องหนังสือเข้าไป

อันอี่เจ๋อซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพลันชำเลืองมอง

ซูเจี๋ยนมองดูหนังสือในมืออีกฝ่าย พอจะมองประเมินได้จากรูปแบบตัวอักษรว่าไม่ใช่ภาษาจีนแน่นอน จึงโพล่งออกไป : “โอ้! อ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่เหรอ”

อันอี่เจ๋อพับปิดหนังสือในมืออย่างเป็นธรรมชาติ : “ภาษาฝรั่งเศส”

ซูเจี๋ยน : “…….”

อันอี่เจ๋อหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง : “ถึงเวลาแล้วเหรอ”

ซูเจี๋ยนผงกศีรษะรับ : “อืม ออกมากินข้าวเถอะ”

ทั้งสองทยอยเดินตามกันไปที่ห้องอาหาร ทว่า เมื่อเห็นมื้อกลางวันที่วางอยู่บนโต๊ะ อันอี่เจ๋อก็ต้องแข็งค้างไปทั้งร่างอย่างห้ามไม่ได้

ที่บนโต๊ะทานอาหารอันกว้างขวาง มองเห็นชามขนาดใหญ่สองใบวางไว้ในระนาบเดียวกันเป๊ะๆ ที่แช่น้ำร้อนอยู่จนเต็มด้านในชามก็เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเนื้อวัวตุ๋นยี่ห้อนายท่านคังที่ทุกคนรู้จักกันดีนั่นเอง

ซูเจี๋ยนกล่าวขึ้น : “รีบกินเร็วเข้าเถอะ เส้นกำลังอืดได้ที่พอดีเลย” เห็นว่าอันอี่เจ๋อยังไม่ยอมขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ก็เอ่ยสำทับไปอีกประโยค : “นี่รสดั้งเดิมเลยนะ คนประเทศเราชอบกินมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว!”

อันอี่เจ๋อ : “……”

……………………………….

ท้ายที่สุด อันอี่เจ๋อก็ได้แต่ทรุดกายนั่งลง แล้วคีบเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสดั้งเดิมเข้าปากเคี้ยวกลืนลงไปทีละคำ

ซูเจี๋ยนเห็นแล้วก็พึงพอใจมาก อารมณ์ดีขึ้นมาทันที หลังทานเสร็จก็ไม่ได้รีบร้อนกลับเข้าห้องไปเหมือนเคย กลับรั้งรออยู่ในห้องนั่งเล่น หาทางชวนอันอี่เจ๋อพูดคุยเข้าประเด็นที่ตัวเองสนใจ

ซูเจี๋ยนถามเลียบเคียงกับอันอี่เจ๋อ : “คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของฉันบ้างรึเปล่า”

อันอี่เจ๋อกล่าวตอบ : “ฉันรู้แค่ว่าเธอมาจากครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เธอเลี้ยงเธอมาตามลำพัง”

ไม่แปลกที่สาวน้อยซูจะถึงกับยอมรับการแต่งงานจอมปลอมครั้งนี้เพื่อแลกกับเงินมารักษาอาการป่วยแม่ตัวเอง ความรักความผูกพันระหว่างสายเลือดยากจะหักใจทอดทิ้ง ยิ่งมารดาของสาวน้อยซูคนนี้ยังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ดูแลเธอมาจนเติบใหญ่ เป็นที่คาดเดาได้ว่า วันเวลาเดือนปีที่ผ่านมาของคุณแม่ซูนั้นย่อมไม่ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อตอนนี้ ตนเองได้เข้ามาครอบครองร่างลูกสาวของอีกฝ่ายแล้ว ย่อมต้องใช้ฐานะของสาวน้อยซูช่วยเหลือเจือจานครอบครัว ประพฤติตนเป็นบุตรกตัญญูให้ถึงที่สุด ซูเจี๋ยนลอบปฏิญาณกับตนเอง

“งั้น ตอนนี้แม่ฉันก็อยู่บ้านตัวคนเดียวเหรอ? ไม่มีใครคอยดูแลเธอเลยเหรอ”

อันอี่เจ๋อขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบ : “จากที่เธอเคยบอก ดูเหมือนว่าจะมีคุณอาที่อายุน้อยกว่าคนหนึ่งคอยดูแลอยู่” [1]

“คุณอาที่อายุน้อยกว่า?” ซูเจี๋ยนอึ้งงันไป : “คุณแน่ใจนะ ไม่ใช่คุณอาที่เป็นญาติฝั่งแม่อะไรแบบนั้นเหรอ” [2]

อันอี่เจ๋อตอบเสียงเรียบ : “เธอเคยบอกว่า คุณอาที่อายุน้อยกว่าคนนี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าจะกลายมาเป็นพ่อเลี้ยงเธอในไม่ช้า”

หลังจากซูเจี๋ยนหายจากอาการตกตะลึงแล้ว ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง นี่นับว่าเป็นเรื่องดี ถึงอย่างไรคุณแม่ซูก็ป่วยหนักขนาดนั้น ย่อมต้องมีใครสักคนคอยช่วยดูแลอยู่ใกล้ๆ แม้ยามนี้เขาจะตัดสินใจแล้วว่าจะรับหน้าที่ลูกกตัญญูต่อจากสาวน้อยซู แต่หากจะให้กล่าวตามความเป็นจริง คุณแม่ซูคนนี้สำหรับเขาแล้วก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง หากจะให้เขาไปดูแลเอาใจใส่อีกฝ่ายได้อย่างรู้ใจเหมือนพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเองนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เมื่อมีคนคอยอยู่ข้างๆ และสามารถให้การดูแลคุณแม่ซูอย่างเหมาะสมได้ นี่ย่อมเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

ซูเจี๋ยนค้นเจอโทรศัพท์มือถือของสาวน้อยซูจากลิ้นชักข้างในห้อง หลังค้นดูรายชื่อติดต่อแล้ว ก็พบเห็นหมายเลขโทรศัพท์ใต้รายชื่อที่บันทึกไว้ว่า ‘หม่าม๊า’ ได้อย่างง่ายดาย หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ก็กดโทรหาเบอร์คุณแม่ซูทันที

“เฮ้! เจี๋ยนเจี่ยนเหรอ!” เสียงที่ปลายสายอีกฝั่งนั้นฟังดูอบอุ่นและดีใจมาก แต่กลับเป็น….เสียงของผู้ชายคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ซูเจี๋ยนเดาได้ว่านี่คงเป็นว่าที่พ่อเลี้ยงคนนั้นแน่นอน แต่ว่า สาวน้อยซูคนก่อนเรียกเขาว่ายังไงนี่สิ? ตอนนี้เขาไม่อาจใช้ข้ออ้าง ‘ความจำเสื่อม’ มาบอกปัดเรื่องราวได้ เพราะเขาไม่คิดจะให้คุณแม่ซูมารับรู้เรื่อง ‘ความจำเสื่อม’ ครั้งนี้ จะอย่างไรท่านก็อายุมากแล้ว ซ้ำยังป่วยหนัก ไม่อาจทนทานรับความตื่นตระหนกโศกเศร้าได้

ซูเจี๋ยนกลอกตาครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ รีบคิดหาวิธีการรับมือ ครู่เดียวก็จงใจกดเสียงต่ำถามออกไป : “นี่ใครพูด”

“นี่อาหลี่ของเธอเองไงล่ะ!” ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะขลุกขลักในลำคอ : “ยัยเด็กนี่ ฟังไม่ออกรึไง”

“อ้อ อาหลี่นี่เอง เมื่อกี๊ฉันยังฟังไม่ชัดน่ะ” ซูเจี๋ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย : “พอเสียงมันดังผ่านโทรศัพท์ฉันมาแล้วก็เหมือนจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”

เสียงคุณอาหลี่ที่ปลายสายยังดูอบอุ่นใจดีอยู่เช่นเคย : “เธอฟังไม่ออกก็ไม่แปลกหรอก เมื่อสองวันก่อนอาป่วย เป็นหวัดนิดหน่อย เสียงก็เลยยังแหบๆ”

“เป็นหวัดเหรอ แล้วกินยารึยังล่ะ อาหลี่ อาต้องดูแลสุขภาพดีๆ นะ!”

เสียงของคุณอาหลี่ดูตื่นเต้นดีใจมากอย่างเห็นได้ชัด : “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ก็แค่ไอไม่กี่ทีเท่านั้น เดี๋ยวกินยาหน่อยก็ดีขึ้นแล้วล่ะ ร่างกายอาเป็นยังไงเธอไม่รู้รึไง อาน่ะถึกทนจะตาย! เจี๋ยนเจี่ยน เธอก็อย่าได้กังวลไปเลย รู้มั้ย”

“อืม” ซูเจี๋ยนรับคำในลำคออย่างว่าง่าย จากนั้นก็ถามต่อ : “อาหลี่ แม่ฉันล่ะ”

“แม่เธอไปบ้านน้าหวัง เดี๋ยวอาจะไปตามมาคุยเดี๋ยวนี้แหละ….”

“ไอ๊ย์! อย่าๆๆ!” ซูเจี๋ยนหัวเราะแหะๆ ออกมาสองเสียง : “ไม่ต้องลำบากวิ่งไปตามหรอก ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไร แค่อยากถามว่าช่วงนี้ร่างกายแม่เป็นยังไงบ้าง”

“ดีมากเลยล่ะ ได้ฟอกไตตามกำหนดตลอด! พูดไปแล้วก็ต้องขอบคุณเสี่ยวอันมากจริงๆ! ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวอันล่ะก็ พวกเราจะไปหาเงินมากมายปานนั้นมาจากไหนได้ เพราะแบบนี้ไงแม่เธอถึงพูดอยู่ตลอดเลย ว่าเค้าโชคดีที่ลูกสาวเฟ้นหาลูกเขยมาให้ได้ดีจริงๆ!”

ฟังเสียงคุณอาหลี่ที่ปลายสายยกย่องเทิดทูนอันอี่เจ๋อเสียขนาดนี้ ซูเจี๋ยนก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดรำคาญขึ้นมาบ้างแล้ว ในใจก็ครุ่นคิด : คนเฒ่าคนแก่อย่างอาจะไปรู้อะไร ไอ้ที่อาคิดว่าลูกเขยคนนี้ดีนักดีหนาน่ะมันเรื่องโกหกทั้งเพ! ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวคนนี้ถูกเขาใช้งานอยู่ มีรึที่เขาจะยอมทำตัวใจกว้างแบบนี้!

คุยมาถึงตอนท้าย คุณอาหลี่ก็กล่าวขึ้นอย่างกระตือรือร้น : “นี่เจี๋ยนเจี่ยน เมื่อไหร่จะพาเสี่ยวอันกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างล่ะ แม่เธอบ่นคิดถึงเธอแล้วนะ!”

ซูเจี๋ยนได้แต่กัดฟันพยักหน้ารับ : “อืม ถ้ามีเวลาพวกเราจะกลับไปเยี่ยมนะ”

เชิงอรรถ

[1] คุณอาที่อายุน้อยกว่า ในที่นี้เป็นคำว่า 叔叔 (ชูฉู) – หมายถึงผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่าแต่อาจไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ได้

[2] คุณอาที่เป็นญาติฝั่งแม่ ในที่นี้คือคำว่า 舅舅 (จิ้วจิ๋ว) – หมายถึงน้องชายของแม่

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 16"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved