จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 275
บทที่ 275: บุกรังอสูร
ตอนนี้มีอสูรกายหลังค่อมโผล่มาสี่ตน จางปิงเฉียวนั้นใช่โกเล็มหินเพื่อเปิดเส้นทางให้กับทีม แน่นอนว่าโกเล็มไม่ได้ตรวจพบสิ่งใดเลยในขณะที่มันเดินเคลียร์เส้นทางไปเรื่อยๆ แต่ทว่ามู่หนิวเจียว โม่ฝานและเหล่าหมิงฉยวนนั้นเดินตามหลังมา ชัดเจนว่าอุโมงค์นี้ซึ่งไม่ได้กว้างนัก ถ้าหากว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา แน่นอนว่าจะต้องตรวจพบได้โดยง่ายดาย
แต่มันช่างน่าแปลกใจ เมื่อเถาวัลย์สีดําถูกเผาไหม้ไปจนหมดสิ้นแล้ว หลุมขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นตรงผนังของอุโมงค์ อสูรเวทเหล่านี้ใช้เถาวัลย์เพื่อปกปิดตนเองเอาไว้ไม่ให้เด็กๆเหล่านี้ตรวจสอบพบ
โชคดีอย่างมากที่จ้าวหม่าหยันสามารถใช้แสงพิสุทธิ์ได้ทันเวลา ถ้าหากว่าเขาช้ากว่านี้เพียงสองวินาที อสูรเวทตนนั้นคงจะได้กินอาหารมื้อเย็นเรียบร้อยและมู่หนิวเจี่ยวก็คงจะหายตัวไปจากทีม!
“มันคือทาสถ้ํา!” ชิงชิงตะโกนออกมาดังลั่น แน่นอนว่าความอัจฉริยะของเธอสามารถจดจําชื่อของอสูรได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่เห็นมันเพียงแว่บเดียว
อย่างไรก็ตามโม่ฝานไม่ได้สนใจสิ่งไร้สาระเหล่านั้น ในตอนนี้เปลวไฟของเขานั้นเปิดเผยตําแหน่งของมันเรียบร้อยแล้ว เขาไม่รีรอที่จะประเคนสายฟ้าให้กับอสูรเวทตัวนี้ต่อเพื่อเป็นของขวัญแรกพบ
อสรพิษสีม่วงถูกขว้างออกไปอย่างเกรี้ยวกราดพันรอบร่างกายของมัน กล้ามเนื้อทั้งหมดของทาสถกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อได้พบกับพลังของอสนีบาต
แบ่!!
เสียงร้องของมันคล้ายคลึงกับแกะแต่ทว่าแหลมกว่า เสียงของมันบาดหูและช่างไม่ชวนฟังอย่างยิ่ง
ทาสถ้ําอีกตัวกระโดดออกมาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว กระดูกชิ้นใหญ่ในมือของมันฟาดฟันมาทางโม่ฝาน เป้าหมายในการโจมตีครั้งนี้คือศีรษะ!
“สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มักจะโจมตีโดยการทุบตีร่างกายของศัตรูให้แหลกละเอียด ระวังกระดูกในมือของมัน ถ้าหากพลาดโดนเข้าไปหัวของนายจะเละเป็นโจ๊ก!” ชิงชิงร้องเตือนโม่ฝานอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเธอมีเวลาที่จะพูดมากขนาดนี้ ช่วยร่ายคาถาอะไรออกมาสักอย่างได้ไหม!” โม่ฝานบ่นออกมาอย่างรู้สึกปวดหัวกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างมาก
โชคดียังเป็นของโม่ฝาน มู่หนิวเจียวนั้นฟื้นคืนสติของเธอได้อย่างรวดเร็ว เธอร่ายคาถาธาตุลมไปที่โม่ฝาน เพื่อให้เขาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น
โม่ฝานกระโดดหลบอย่างฉับพลัน เขาหันกลับมามองจุดที่ถูกกระดูกท่อนยักษ์ฟาดลงไป หลุมลึกปรากฏตรงหน้า รางรถไฟทั้งหมดแตกละเอียด!
ในที่สุดโม่ฝานก็ได้เห็นรูปร่างของทาสถ้ําอย่างเต็มตา มันถือกระดูกท่อนใหญ่เอาไว้พร้อมกับร่างกายของ มันรูปร่างบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด ขาหลังทั้งสองข้างคดงอ ผิวหนังเต็มไปด้วยร่องรอยความเหี่ยวย่น สิ่งมีชีวิตเช่นนี้โม่ฝานรู้สึกว่ามันน่าขยะแขยงเกินกว่าจะรู้สึกหวาดหลัวเสียอีก!
ใครจะรู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดขนาดนี้อาศัยอยู่ในถ้ําแห่งนี้ อีกทั้งพละกําลังของมันยังมหาศาลอย่างมาก แขนของมันแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ กระดูกท่อนใหญ่ของมันเมื่อฟาดลงมาแล้วแทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้หลบด้วยซ้ํา
“หลบเร็ว!”
มู่หนิวเจี่ยวตะโกนบอกกับโม่ฝานเมื่อทาสถ้ํากําลังจะโจมตีอีกครั้ง
มีเถาวัลย์มากมายอยู่รอบๆบริเวณแห่งนี้ ซึ่งทําให้ธาตุพืชของเธอไม่สามารถทํางานได้อย่างเต็มที่ เธอจึงพยายามเรียกใช้เวทมนตร์พื้นฐานง่ายๆและใช้มันเพื่อขัดขวางทาสถ้ําตรงหน้าอย่างสุดกําลัง
เธอไม่เพียงแค่ต้องการโจมตีมันเท่านั้น เธอยังใช้เถาวัลย์รัดขาของมันเอาไว้และดึงมันขึ้นเพื่อแขวนอสูรตนนี้เอาไว้บนอากาศ ทาสถ้ําตัวนั้นที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกเถาวัลย์รัดขาเอาไว้และหัวของมันชี้ลงพื้นอย่างสมบูรณ์
ทาสถส่งเสียงแหลมบาดหูออกมาในขณะที่โบกกระดูกในมือของตนเองอย่างบ้าคลั่ง
มันมีเวลาได้ดิ้นรนเพียงชั่วขณะเท่านั้น สุดท้ายแล้วแส่สายฟ้าหนักหน่วงได้ฟาดลงบนร่างกายของมันอย่างไร้ปรานี
กลิ่นไหม้คละคลุ้งไปทั่วอุโมงค์ทันที เห็นได้ชัดว่าทาสถ้ํานั้นตายอย่างอนาถ กล้ามเนื้อทุกส่วนของมันกระทุกอย่างรุนแรง ผิวหนังทั้งหมดไหม้เกรียม มันถูกไฟช็อตตายอย่างน่าสังเวชและแขวนไว้บนอากาศอย่างโจ่งแจ้งอีกด้วย
คนที่โจมตีด้วยสายฟ้าเมื่อครู่นี้ไม่ใช่โม่ฝาน แต่เป็นนักเรียนที่ชื่อหมิงกง เขาใช้สายฟ้าระดับสามเพื่อจัดการกับอสูรตรงหน้า ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองอย่างมากในการโจมตีอสูรเวทซึ่งไร้ทางสู้แล้ว…
แบ่-บะ!! ทาสถ้ําทรุดลงพร้อมกับกรีดร้องอย่างหนักเมื่อเห็นว่าสหายของตนเองตายตกไปต่อหน้า
เสียงกรีดร้องของพวกมันดังก้องไปทั่วทั้งอุโมงค์ เป็นการยากที่จะบอกว่าพวกมันกําลังกลัวหรือว่าโกรธกันแน่ แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้พวกมันหยุดการโจมตีลงแล้ว
“แต่อสูรระดับทาสไม่กี่ตัว ไม่มีอะไรต้องกลัว เฮอะ เดินกันต่อได้แล้ว!” ลือเชิงเห่อกล่าวออกมาอย่างไม่แยแสเมื่อมองไปที่การต่อสู้เมื่อครู่นี้
ชางปิงเฉียวพยักหน้ารับ อย่างไรก็ตามเขาพลันเห็นดวงตาสีฟ้าคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในความมืดด้านหน้า
มันเริ่มต้นเพียงคู่เดียว แต่จากนั้นมันค่อยๆเพิ่มจํานวนขึ้นจนนับไม่ถ้วน จุดสีฟ้ามากมายปรากฏมันมากมาย จนทําให้คนที่เห็นฉากตรงหน้ารู้สึกขนลุก!
“บ้าเอ๊ย มันเรียกพวกมา!”
เสียงกรีดร้องเมื่อครู่นี้ได้ยินไปทั่วอุโมงค์อย่างแน่นอน
ซู่เซียวและข้าวหม่าหยันรีบร่ายแสงพิสุทธิ์ออกมาอย่างรวดเร็ว ภายในอุโมงค์สว่างขึ้นอย่างรวดเร็วและทุกคนได้เห็นว่ามีเถาวัลย์สีดํามากมายปกคลุมผนังของถ้ําไว้และในตอนนี้พวกมันทั้งหมดได้เปิดออกแล้ว รูมากมายปรากฏขึ้นบนกําแพงพร้อมกับอสูรเวทที่ยืนรอพวกเขาอยู่ด้านหน้า
ทาสถ้ําจํานวนมาก มากจนปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าทั้งหมด แววตาสีฟ้าเต้นระบําอย่างดุเดือด พวกมันกําลังโกรธจัดพร้อมกับท่อนกระดูกยักษ์ในมือที่ถือไว้อย่างมั่นคง เสียงร้องคล้ายกับแกะดังระงมไปทั่วบริเวณอย่างน่าสยดสยอง…
“เยี่ยม ตอนนี้พวกเราถูกล้อมไว้หมดแล้ว ถ้ํานี้เป็นรังของพวกมัน!!!” ซือต้าหลงตะโกนออกมา
ฉากเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขาด้วยเช่นกัน เถาวัลย์สีดําก่อนหน้านั้นหนาเกินไปจนไม่มีใครรู้ว่ามันกําลังซุกซ่อนอะไรไว้ข้างใน
“นี่คือรังของทาสถ้ําอย่างแน่นอน ชิ้นส่วนสีขาวที่เราเห็นคือเศษกระดูกที่พวกมันบดขยี้ทิ้งเอาไว้” จ้าวหม่าหยันร้องออกมาอย่างตรัสรู้
นักเรียนทั้งกลุ่มรู้สึกว่าเหงื่อเย็นเฉียบกําลังหลั่งออกมาที่แผ่นหลังของพวกเขา มีความเป็นไปได้สูงมากว่า พวกเขานั้นจะถูกบดขยี้จนกลายเป็นเศษผงขาวๆบนพื้นเช่นกัน!
ทาสถ้ํานั้นเต็มไปด้วยความฉลาดแกมโกงอย่างมาก พวกมันเฝ้ารอให้กลุ่มของนักเรียนเหล่านี้ถลําลึกเข้ามา ด้านในก่อนที่จะเปิดเผยตัวในภายหลัง ในตอนนี้พวกมันทั้งหมดได้ล้อมเหยื่อเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
“นักเวทธาตุไฟรีบจัดการกับเถาวัลย์ที่อยู่ด้านข้างของพวกเราให้หมดเร็ว ในตอนนี้เราถูกล้อมทั้งหน้าและหลังเอาไว้แล้ว เราไม่ควรจะถูกแนบข้างด้วยไม่ว่ากรณีใด!”
“ทุกคนรวมกลุ่มกันไว้ พวกเราจะต้องอยู่ใกล้กันให้มากที่สุด! รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย!!”