จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 258
บทที่ 258: เธอคือภรรยาหลวงของฉัน!
ภายในใจของเฉินหมิงเฉวียนเต็มไปด้วยความอัดอั้นมากมายอย่างท่วมท้นเขาไม่เข้าใจว่าถังขยะเดินได้ชิ้นนี้ทําไมจึงสามารถขโมยอสูรเงาออกไปจากพื้นที่ของเขาได้ อีกทั้งมันยังได้รับเลือกเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วย
ขณะที่โม่ผ่านกําลังถูกสอบปากคําจากซูเซียว เขารู้สึกอึดอัดและอยากจะเดินออกไปจากตรงนี้อย่างช่วยไม่ได้เช่นกัน
ถ้าหากเป็นเรื่องของความแข็งแกร่งแล้ว โม่ผ่านไม่แพ้ใครที่นั่งอยู่ตรงนี้แน่นอนแต่ประเด็นก็คือมันเป็นเขาที่ปกปิดความแข็งแกร่งของตนเองเอาไว้และเปิดเผยออกมาเพียงธาตุสายฟ้าและธาตุอัญเชิญเท่านั้น เช่นนี้เขาจึงรู้สึกว่าเกิดปัญหาเล็กน้อยที่บุคคลอื่นๆในทีมจะเห็นว่าเขานั้นไร้ความสามารถและยังไม่สามารถขยับธาตุอัญเชิญ ให้เข้าสู่ระดับมัชฌิมได้!
ลืมเรื่องงี่เง่านี้ไปเถอะ เมื่อถึงเวลานั้นล่ะก็! สายฟ้าของฉันน่ะสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว!”
“ลือเชิงเห่อ มิงคอก เซียวจนเหยู่และเซียวเฟิง พวกเธอสี่คนไปประลองในรอบนี้ ถ้าหากว่าสถาบันเมิงจู่จะมีความสามารถเล็กน้อยเช่นนี้ เพียงแค่พวกเธอสี่คนก็เพียงพอจะจัดการพวกเขาแล้วหละ” ลุยหมิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
กลุ่มที่ถูกส่งออกไปรอบแรกนั้นความแข็งแกร่งอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น ถ้าหากว่าสถาบันเมิงไม่สามารถรับมือกับกลุ่มแรกได้ไหวพวกเขาก็ควรจะลืมเรื่องการเอาชนะในรอบสองนี้ไปได้เลย
“อาจารย์ ให้ฉันไปเอง!” ในเวลานั้น เสียงหวานราวกับสวรรค์ดังขึ้นราวกับกระดิ่งที่สั่นจากฟากฟ้า
สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เสียงนั้นทันทีหญิงสาวราวเทพธิดายืนอยู่ภายใต้ร่มกันแดดของเธอ
ร่มกันแดดนี้ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควรและเธอยืนอยู่ที่มุมมืดของบันได เมื่อร่างกายของเธอปะทะกับแสงอาทิตย์ยามบ่ายที่สดใส ทําให้ความสวยของเธอยิ่งบานสะพรั่งออกไปอย่างไม่รู้จบทุกคนที่สาดสายตามามอง ล้วนแต่รู้สึกหายใจไม่ออก ความงดงามนี้เปรียบได้กับดอกบัวน้ําแข็งที่ให้ความรู้สึกเยือกเย็นและน่าหลงใหลเธอค่อยๆเดินออกมาจากที่นั่งของตนเองสะกดทุกสายตาให้เป็นหินอย่างช่วยไม่ได้ทุกคนที่อยู่ในสนามแห่งนี้รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาได้พบกับนางฟ้าประจํามหาวิทยาลัยจักรพรรดิแล้ว!
ขณะที่ขาของเธอกําลังเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและสง่าผ่าเผยแสงอาทิตย์ราวกับว่ากําลังวิ่งตามเธออย่างกระปรี้กระเปร่าหมอกจางๆรอบตัวของเธอระเหยกลายเป็นไอน้ําหายไปในอากาศรองเท้าบูทยาวสีขาวราวกับหิมะคู่สวยนั้นเข้ากันกับขาที่เรียวยาวของเธออย่างเหมาะเจาะเสื้อกันหนาวสีฟ้าขาวโอบล้อมร่างกายของเธอเอาไว้อย่างกระชับยิ่งทําให้เส้นโค้งเว้าต่างๆของเธอดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์เกินไป!
ทรวดทรงของเธอนั้นเกินกว่าใครจะหักห้ามใจได้ไหวเอวที่คอดเรียวเล็กบางจนทําให้ชายหลายคนอยากจะเอื้อมมือไปคว้าเอาไว้ยอดภูเขาใหญ่เด่นเป็นสง่าแสดงถึงความเป็นสตรีของเธอนั้นไม่ได้น้อยหน้าใครเช่นกันเมื่อมันรวมกับเอวเล็กๆของเธอแล้วยิ่งทําให้ทุกอย่างลงตัวอย่างอวบอิ่มอยู่ภายใต้เสื้อคลุมเหล่านั้น
รูปร่างของเธอนั้นโดดเด่นเกินกว่าผู้ใดทั้งหมด สิ่งผิวที่ละเอียดอ่อนนั้นกลับทําให้ผู้คนมากมายจับจ้องมันอย่างไม่ยอมวางตาใบหน้าที่ขาวสะอาดหมดจดเช่นนั้นราวกับว่าเธอกําลังเดินออกมาจากรูปภาพที่นักประพันธ์ภาพตั้งใจวาดมันอย่างสุดฝีมือไม่มีข้อบกพร่องอะไรเลยอยู่บนร่างกายของเธอ!ถ้าหากว่าต้องการหาสิ่งที่ผิดปกติบนใบหน้าของเธอแล้วคงจะมีเพียงอย่างเดียวก็คือความเย็นชาภายในดวงตาคู่สวยนั้น แต่อย่างไรก็มตามเมื่อมองโดยรวมแล้วความเย่อหยิ่งเช่นนี้กลับทําให้เธอดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น!
ผมสีเงินของเธอปลิวไสวเมื่อปะทะกับดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงเปลือกตาสะท้อนแสงไฟยิ่งทําให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้นไปอีกขณะนั้นเองสีผิวราวกับหิมะของเธอก็ยังสะท้อนแสงกับพระอาทิตย์อย่างสนุกสนานทําให้อารมณ์ของเธอนั้นยากที่จะคาดเดาอย่างมากเมื่อมองด้วยสายตาเช่นนี้แต่ทว่าสายตาของผู้ชมทั้งหมดตอนนี้พวกเขากําลังตักตวงช่วงเวลาเช่นนี้ไว้ให้มากที่สุดไม่มีใครกล้าที่จะกระพริบตาลงแม้แต่วินาทีเดียว พวกเขาไม่ต้องการที่จะพลาดความสวยงามนี้!!!
ขณะที่หญิงสาวเดินออกมา เธอไม่เพียงแต่ได้รับความสนใจจากคนในมหาวิทยาลัยของตนเอง แต่ทว่าเธอยังได้รับความสนใจจากอาจารย์และนักเรียนจากสถาบันอื่นอย่างท่วมท้น
ในคราวแรกทุกคนล้วนแต่คิดว่าหญิงสาวที่สวมใส่ชุดผ้าฝ่ายนั้นเป็นคนที่สวยงามที่สุดของมหาวิทยาลัยจักรพรรดิแต่ทว่าใครจะรู้ว่ามหาวิทยาลัยจักรพรรดิได้ซุกซ่อนหญิงสาวที่สวยงามราวกับเทพธิดาลงมาจุติเอาไว้เช่นนี้ซึ่งดูเหมือนว่าหญิงสาวที่เดินออกมาใหม่นี้จะยืนอยู่บนอันดับสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
“หนิงเซีย พวกเขาน่ะไม่มีความสามารถพอให้เธอต้องออกไปต่อสู้หรอก พวกเราสามารถดูแลพวกเขาได้!”ลือเชิงเห่อรีบทักทายเธอทันที รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาพยายามที่จะเอาอกเอาใจเธอ
หลังจากที่ได้เห็นท่าทางของลือเชิงเห่อแล้ว หญิงสาวที่ชื่อเฉาวหมิงเหยู่รู้สึกโกรธจัดทันที แน่นอนว่าเธอไม่ค่อยจะประทับใจต่อหญิงสาวที่เย่อหยิ่งตรงหน้านี้มากนัก
ความจริงแล้วสิ่งที่ลือเชิงเห่อกล่าวนั้นก็เป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมานักเรียนชายอีกสองสามคนบริเวณนั้นเดิมที่ต้องการที่จะกล่าวอะไรสักอย่างเช่นกันแต่เมื่อเห็นสีหน้าที่เย็นชาไม่ยอมเคลื่อนไหวเช่นนั้นพวกเขาจึงรีบเก็บงําความคิดของตนเองเอาไว้ที่เดิม
ถ้าหากว่าหญิงสาวมีเพียงแค่ความสวยงาม ความสามารถเดียวของเธอคนนั้นก็คือการเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ถ้าหากว่าไม่ต้องการที่จะประสบพบเจอกับผู้ชายที่ไร้ความสามารถหรือไก่อ่อนหญิงสาวผู้นั้นจําเป็นจะต้องแข็งแกร่งมากเสียยิ่งกว่าชายเหล่านั้นเพื่อให้พวกเขายอมสยบและไม่กล้าทําตัวไร้สาระต่อหน้าของเธอ!
แม้ว่าชื่อต้าหลง ลือเชิงเห่อและเหล่าหมิงฉยวนจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แต่เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับกัปตันมู่หนิงเซวียแล้วทุกสิ่งจําเป็นต้องถูกกดเก็บไว้ภายในอย่างไม่อาจเลี่ยง
“มู่หนิงเซวีย เธออยากจะลงสนามในรอบนี้จริงๆงั้นเหรอ?” ลียหมิงถามออกครั้งอย่างเขร่งขรึม
“อืม” มู่หนิงเซวียตอบออกมาเพียงแค่นั้นและเธอเดินไปที่เวทีประลองโดยไม่อธิบายอะไรทั้งสิ้น
ชายหนุ่มที่ชื่อเซียวจินเหยู่นั้นเป็นหนึ่งในสี่ที่จะต้องออกไปต่อสู้ในคราวนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างสนุกสนาน “ถ้าหากว่ามู่หนึ่งเซวียต้องการที่จะอุ่นเครื่องของเธอแล้วเช่นนี้ฉันก็คงจะทําอะไรไม่ได้นอกจากสละตําแหน่งของฉันให้เธอนั้นแหละนะ!แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เป็นเช่นนี้มันก็ยิ่งจะทําให้สถาบันเมิงงูไร้ที่ยืนมากยิ่งขึ้นไปอีกฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ใช่ ให้พวกมันได้เห็นว่าอัจฉริยะที่แท้จริงน่ะเป็นอย่างไร!” ลือเชิงเห่อกล่าวตอบ
นักเรียนจากสถาบันอื่นล้วนแต่งนงงเมื่อเห็นการแสดงออกจากทีมมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ์ หญิงสาวผมเงินคนนั้นคือกัปตันของพวกเขางั้นเหรอ?การแสดงออกที่นอบน้อมและไร้ความหยิ่งยโสนั้นคืออะไรกัน?
บ้าชะมัด! พวกเขาทั้งหมดต่อสู้มาอย่างเนิ่นนานในเช้าวันนี้ มันเป็นเพียงแค่ว่ากัปตันของทีมฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้แสดงตัวออกมาเท่านั้น ถ้าหากเป็นเช่นนี้พวกเขาทั้งหมดก็คงจะพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการประลองครั้งนี้แล้ว!
“บ้าเอ๊ย หญิงสาวคนนี้ราวกับหลุดออกมาจากความฝันของฉันเลย”
“หลังจากที่ฉันได้พบเธอแล้ว ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงคนอื่นเป็นแค่ก้อนเมฆที่ลอยไปมาอย่างไม่น่าสนใจ”
“นายหมายความว่าอะไรกัน! อะไรคือก้อนเมฆที่ลอยอยู่รอบตัวห้ะ?! ฉันจะฆ่านายแน่นอนในวันนี้!!!”
ทั่วทั้งสนามประลองเริ่มพูดคุยกันอย่างจอแจ เสียงดังราวกับแมลงหวี่ดังไปทั่วบริเวณอย่างช่วยไม่ได้ใครจะไปคาดคิดว่ากัปตันของมหาวิทยาลัยจักรพรรดิจะน่าหลงใหลได้มากมายถึงขนาดนี้?
ทางฝั่งของสภาบันเมิงจู่ สายตาของจ้าวหม่าหยันแทบจะแข็งเป็นหิน หัวใจของเขานั้นลอยไปที่อีกฝั่งแล้วอย่างแน่นอนเพียงแค่กายหยาบของเขาไม่สามารถทําได้เท่านั้น!
“บ้าไปแล้ว เราไม่ได้เจอกันมาปีกว่า เธอโตขึ้นและสวยขึ้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!” แม้แต่โม่ฝานที่ค่อนข้างเย็นชายังอดไม่ได้ที่จะพิมพ์ออกมาอย่างโง่งม
ถ้าหากว่านี่คือยุคโบราณกาล แน่นอนว่าจะต้องเกิดสงครามชิงนางขึ้นในพื้นที่อย่างไม่ต้องสงสัยเพียงแค่ความสวยงามของหญิงสาวเพียงผู้เดียวสามารถก่อให้เกิดสงครามได้อย่างไม่ยากเย็น!
เมื่อพูดถึงเรื่องราวในวัยเด็กที่เขากับมู่หนิงเซวียต้องการจะหนีตามกันไปในครั้งยังเยาว์โม่ฝานกับมู่หนิงเซวียนั้นไม่มีทางที่จะได้ออกมาเล่นหรือพบเจอกันเลยแม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนบ้านกันนี่คือหนทางเดียวที่ทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกันในคราวนั้น…
มู่หนิงเซวียนั้นสวยงามตั้งแต่เริ่มเป็นสาวแรกรุ่นแล้ว ซึ่งเมื่อเธอโตขึ้นกลับยิ่งสวยมากกว่าเดิมราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของศิลปินชื่อดังโม่ฝานรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ในวันนั้นเขาไม่ยอมตอบรับและหนีไปกับเธอในวันนี้เธอได้เติบโตและพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวแล้วใครกันล่ะที่สนใจเกี่ยวกับพ่อวัวอย่างเช่นมู่โจวอนอีก?
“ฮี เราไม่ได้มาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์แล้วหละ ฉันยอมสูญเสียทรัพย์สมบัติของฉันทั้งหมดเพื่อแลกกับหญิงสาวคนนี้เลยฉันตัดสินใจแล้ว ด้วยทุกสิ่งที่ฉันมี ฉันจะจัดการเธอคนนี้ให้ได้!” จาวหม่าหยันกล่าวออกมาราวกับสาบาน
“ฉะ ฉันด้วย ฉันชอบเธอมากจนกระทั่งสามารถทําลายการฝึกฝนของตัวเองได้!” จางปิงเชียวรีบตอบรับเช่นกัน
เปียงเหลิงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน หากเจินหมิงเฉวียนนั้นได้พบกับหญิงงาม เขาจะแสร้งทําเป็นไม่สนใจ แต่ทว่าในเวลานี้เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้เลย สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างกายของมู่หนิงเซวียอย่างไม่อาจละสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที!
“พวกนายทั้งหมดลืมเรื่องนี้ไปซะ…” โม่ผ่านกล่าวออกมาพร้อมกับเช็ดน้ําลายตัวเองเล็กน้อย
“ทําไม? หญิงสาวคนนั้นมีเจ้าของแล้วงั้นเหรอ?”เปียงเหลิงถามกลับ
“ใช่เธอเป็นภรรยาหลวงของฉัน!” โม่ผ่านตอบกลับด้วยสีหน้าที่จริงจัง