จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 253
บทที่ 253: เสริมความแข็งแกร่ง
โม่ฝานมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก เขาบรรจงจูบจทมิฬของเขาหนึ่งที่อย่างไม่รู้จะตอบแทนมันอย่างไร การที่เขาได้ครอบครองอุปกรณ์ที่สุดแสนจะวิเศษเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่น่าปลาบปลื้มใจอย่างมาก เรื่องเช่นนี้มันสุดยอดมากเกินไปแล้ว
หลังจากที่โม่ฝานเข้ามาในห้องของตนเอง เขาใช้สัมผัสวิญญาณเข้าไปตรวจสอบมันอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
มันคือแก่นแท้วิญญาณอย่างแท้จริง เป็นแก่นแท้วิญญาณระดับทั่วไป
แน่นอนว่าแก่นแท้วิญญาณระดับทั่วไปนี้ก็ยังคงมีค่าในตลาดอย่างมากด้วยเช่นกัน เพราะอุปกรณ์เวทละออง ราคาจําเป็นจะต้องใช้มันในการปรับแต่ง
ในขณะที่โม่ฝานกําลังไตร่ตรองว่าเขาจะใช้จทมิฬนี้หาเงินได้อย่างไรในอนาคต แต่เมื่อนั่งคิดไปมาเขากลับ ได้พบกับปัญหาที่ใหญ่มากกว่าเดิม!
ในขณะนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถหยิบจับเอาแก่นแท้จิตวิญญาณนี้ได้ด้วยซ้ํา!!!
“เฮเฮ้ ทมิฬ แกคิดจะทําอะไรน่ะ ล้อเล่นกับฉันงั้นเหรอ? ถ้าหากว่าฉันไม่สามารถเอาแก่นแท้จิตวิญญาณออกมาได้ ฉันก็จะไม่สามารถเข้าร่วมการประมูลได้ ถ้าฉันขายมันไม่ได้ ฉันก็จะไม่มีเงินนะ!” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
ตอนนี้เขาค้นพบทองคําอยู่ในขุมทรัพย์ แต่ทว่ากลับไม่สามารถหยิบฉวยได้ดั่งใจนึก แล้วเช่นนี้ขุมสมบัติตรงหน้านี้จะมีประโยชน์อะไรล่ะ?
โม่ฝานพยายามอยู่นานและสุดท้ายเขาก็ได้รู้ว่าเขาไม่สามารถหยิบจับมันออกไปจากจทมิฬนี้ได้เลย ถ้าหากเป็นเช่นนั้นการกลั่นแก่นแท้จิตวิญญาณระดับทั่วไปนี้คือของตกแต่งภายในของจทมิฬงั้นเหรอ?!
เป็นไปได้ไหมว่าเขานั้นเป็นเสือปืนไวเกินไป?
โม่ฝานยังคงรู้สึกไม่ยอมรับกับสถานการณ์ตรงนี้ เขาพยายามที่จะดื้อรั้นและตรวจสอบแก่นแท้จิตวิญญาณต่อไป
เช้านี้โม่ฝานไม่ได้เข้าร่วมรับประทานอาหารแต่อย่างใด เขาใช้เวลาทั้งหมดเพื่อจัดการทองคําที่เขาเก็บรวบรวมมาจากข้างถนนอย่างมุ่งมั่น
ความพยายามอย่างไม่ยอมลดละของโม่ฝานพยายามที่จะเคลื่อนย้ายมันออกไปจากสถานที่แห่งนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วแก่นแท้จิตวิญญาณดวงนี้ก็ยังคงไม่ยอมไปไหน มันเดินทางได้ไกลสุดเพียงเข้าไปในโลกวิญญาณของเขาเท่านั้น
ความรู้สึกของเขาในตอนนี้ราวกับว่าถูกประทับตราวิญญาณเข้าไว้ แก่นแท้จิตวิญญาณดวงนี้มีรอยประทับ… ใช่ มันกับเขาผูกพันธ์กันทางจิตวิญญาณอย่างแน่นหนา!
แต่คําถามก็คืออะไรคือสิ่งสําคัญเมื่อแก่นแท้จิตวิญญาณดวงนี้เข้ามาอยู่ในโลกวิญญาณของเขา?
หลังจากที่ตรวจสอบมันเป็นเวลานานแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรสักที โม่ฝานรู้สึกเบื่อหน่ายและจัดการย้ายแก่นแท้จิตวิญญาณเข้าไปอยู่กับเนบิวลาสายฟ้า
เนบิวลาสายฟ้าสีม่วงเริ่มแยกตัวออกกลายเป็นเกลียวขนาดใหญ่ราวกับกาแลกซี่กว้างใหญ่ มันส่องแสงสว่างวาบออกมาอย่างสุดลูกหูลูกตา
โม่ฝานนกําลังมองแก่นแท้จิตวิญญาณที่ค่อยๆถูกดูดเข้าไปด้านใน เขารู้สึกว่าเนบิวลาสายฟ้าค่อยๆดึงดูดแก่นแท้จิตวิญญาณเข้าไปด้านในอย่างลึกลับ
กว่าที่โม่ฝานจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เนบิวลาสายฟ้าเปล่งรังษีแม่เหล็กออกมาและดูดกลืนเอาแก่นแท้จิตวิญญาณเข้าไปทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ํา
“บัดซบ มันกินเข้าไปงั้นเหรอ!?!”
นั่นคือแก่นแท้จิตวิญญาณมูลค่ากว่าล้านหยวน! มันกล้าหาญมากเกินไปหรือเปล่าที่ดูดซับไปจนหมดเช่นนั้นหยามกันเกินไปแล้ว!
โดยปกติแล้วดวงดาวที่แสนจะเชื่อฟังของโม่ฝานกลับทําตัวดื้อรั้นขึ้นมาซะอย่างนั้น ทําไมมันจึงกล้าหาญที่จะดื้อรั้นกับเจ้านาย? อีกทั้งมันยังไม่ยอมคายแก่นแท้จิตวิญญาณออกมาอีกด้วย!!!
สถานการณ์ตรงหน้าทําให้โม่ฝานรู้สึกงงงวยโดยสมบูรณ์
เดิมที่เขาเพียงแค่ทดลองเล่นๆเท่านั้น แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะกลืนกินแก่นแท้จิตวิญญาณเข้าไปจริงๆ ดวงดาวที่ดูดซับพลังทั้งหมดเข้าไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางเนบิวลาของเขาเอง!
สถานการณ์เช่นนี้นั้นอยู่เหนือความรู้ในหัวของโม่ฝานอย่างมาก เขาเร่งรีบออกไปเพื่อค้นหาเฉียวอวฮัวอีกครั้งเพื่อที่จะถามคําถามให้คลายความข้องใจเหล่านี้ โม่ฝานคิดหวังว่าเขาคงเป็นเพียงผู้เดียวที่จะไขความสับสนทั้งหมดนี้ให้ตนเองได้
“ดวงดาวกลืนกินแก่นแท้จิตวิญญาณงั้นเหรอ?” อาวุโสผู้เชี่ยวชาญขยับแว่นของเขาเล็กน้อยพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้น
เฉียวอวฮัวเป็นผู้ที่ชื่นชอบคําถามบ้าๆบอๆเช่นนี้อย่างมาก ถ้าหากว่าเขาสามารถตอบมันได้แล้วล่ะก็มันจะหมายความว่าเขานั้นเป็นนักวิชาการที่ยอดเยี่ยมและเต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญ!
คําถามของโม่ฝานนั้นค่อนข้างจะซับซ้อน หนังสือจํานวนมากนั้นไม่ได้มีบันทึกอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แต่ทว่าอาวุโสชราผู้นี้นั้นนึกถึงตําราเล่มหนึ่งที่เขาเคยได้อ่านในอดีต เช่นนี้เขาจึงกระแอมสองถึงสองครั้งและเริ่มพูดถึงความสามารถของตนเองที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับคําถามสักเท่าไหร่ เมื่อเขาได้กล่าวออกไปอย่างพอใจแล้ว เขาจึงวกกลับมาและพูดถึงประเด็นที่โม่ฝานถามอีกครั้ง
“เธอควรจะรู้อยู่แล้วนะว่าแก่นแท้จิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่ง และช่วยเหลือการฝึกฝนของนักเวทได้เป็นอย่างดี การใช้งานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแก่นแท้จิตวิญญาณคือการนําไปสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์รักษา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เวทละอองดาราหรือเนบิวลา พวกมันทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีราคาที่สูงมาก อย่างไรก็ตามตั้งแต่ดั้งเดิมของมันนั้นแก่นแท้จิตวิญญาณไม่ได้ถูกใช้งานอย่างนี้ ก่อนที่ผู้คนจะนํามันมาปรับแต่งใส่ในอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้มันถูกใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังของเนบิวลา!” เฉียวอวฮัวค่อยๆอธิบายออกมา
“เสริมสร้างความแข็งแกร่ง? ความแข็งแกร่งอะไรกัน?” โม่ฝานรีบถามอย่างรวดเร็ว
“ฉันต้องตอบคําถามนี้ด้วยงั้นเหรอ? เอาล่ะ มันถูกใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของดวงดาวยังไงล่ะ! ไม่อย่างนั้นดวงดาวจะกลืนกินแก่นแท้จิตวิญญาณไปทําไม?” เฉียวอว์ฮัวบ่นออกมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“มันสามารถทําเช่นนั้นได้ด้วยงั้นเหรอ?”
“ใช่ ก่อนที่จะมีการประดิษฐ์อุปกรณ์เวทมนตร์ต่างๆนั้น แก่นแท้จิตวิญญาณถูกใช้ไปกับการทําอย่างนั้น ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก”
“ถ้าหากว่ามันเสริมสร้างความแข็งแกร่งของดวงดาวได้ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าเวทมนตร์ที่ถูกร่ายขึ้นมา ก็จะแข็งแกร่งมากตามไปด้วยเหรอ?” โม่ฝานยังคงถามอย่างกระตือรือร้น
“จะต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ถ้าหากว่าดวงดาวแข็งแกร่งขึ้น คาถาที่ถูกร่ายออกมาก็จะแข็งแกร่งตามไปเช่นกัน”
“ถ้าเช่นนั้น… นี่มันเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยไม่ใช่หรอ!?” โม่ฝานตะโกนออกมาอย่างมีความสุข
ถือได้ว่านี่คือข่าวดีที่เขาได้รับในวันนี้!
เหมือนครั้งที่ธาตุเงาของเขาตกอยู่ภายใต้อํานาจของค่ายกลเทพรัตติกาล หอกเงาทมิฬของเขาสามารถตรึง อสูรต้องสาประดับนักรบเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัด นี่คือผลพวงจากพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของดวงดาวนั้นมีความสําคัญอย่างแท้จริง!
เฉียวอวฮัวส่ายศีรษะพร้อมกล่าวต่อ “เมื่อครู่ฉันบอกว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรน่ะ”
“ทําไมล่ะ?” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างไม่เข้าใจความหมาย
“เป็นที่รู้กันดีว่าแก่นแท้จิตวิญญาณนั้นมีค่ามาก ถ้าหากว่าเธอนํามันไปประมูลล่ะก็นะ… แต่เธอคงไม่เข้าใจหรอกว่ามีคนมากเพียงใดที่ต้องการมัน ไม่ว่าระดับของมันจะอยู่ในระดับใดก็ตามมันคือสิ่งที่จําเป็นอย่างมากในการผลิตอุปกรณ์เวทละอองดาราหรือเนบิวลา ใครกันล่ะที่จะใช้สิ่งของล้ําค่าเช่นนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับดวงดาวของตนเอง? นักเวทระดับปฐมภูมินั้นมีดวงดาวทั้งหมดเจ็ดดวงใช่ไหมล่ะ? แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นจะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับดวงดาวทั้งหมดก่อนที่ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้น… ปัญหาก็คือใครกันล่ะจะโง่ทําเช่นนั้น? ไม่มีใครต้องการที่จะใช้แก่นแท้จิตวิญญาณที่ล้ําค่าเช่นนี้ให้เป็นอาหารกับดวงดาวทั้งเจ็ดหรอก อย่าลืมว่าพวกมันกินได้ทีละดวง” เฉียวอวี่ฮัวกล่าว
“เอ่…” หลังจากที่โม่ฝานได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ดูเหมือนว่าในตอนนี้เขาจะกลายเป็นนักเวทที่โง่เง่าที่สุดเสียแล้ว ก่อนหน้านี้เพียงห้านาที แก่นแท้จิตวิญญาณของเขาได้ถูกดูดกลืนไปแล้วโดยดวงดาวธาตุสายฟ้าดวงหนึ่ง…
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมการที่มันสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับดวงดาวได้ แต่กลับไม่ถูกใช้งานเช่นนั้นเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่สิ้นเปลืองและไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้าหากนํามันไปทําอย่างอื่นจะเป็นการมีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติมากกว่า ถ้าเสริมพลังให้ดวงดาวนั้นเปรียบได้กับเธอกําลังเผาเงินของตัวเองทิ้งไปน่ะนะ” เฉียวอวฮัวกล่าวต่อ
โม่ฝานพยักหน้ารับอย่างเข้าใจความหมาย
บ้าเอ้ย ถ้าหากว่าแก่นแท้จิตวิญญาณที่ถูกกลั่นออกมาโดยจทมิฬน้อยนี้ไม่สามารถนําออกมาประมูลได้ เช่นนั้นคุณสมบัติอย่างเดียวของมันก็คือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับดวงดาวระดับปฐมภูมิทั้งเจ็ด!
จะต้องใช้แก่นแท้จิตวิญญาณระดับทั่วไปถึงเจ็ดดวงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับดวงดาวทั้งเจ็ด มูลค่า ความเสียหายครั้งนี้เพียงพอที่จะทําให้เขาซื้อแก่นแท้จิตวิญญาณระดับนักรบได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้แม้ว่าคาถาของเขาจะถูกกดดันเอาไว้แต่พลังก็ยังคงมากล้นอย่างไม่อาจดูถูกได้อยู่ดี อย่างน้อยที่สุดไม่ว่าอย่างไรมันก็ยังคงเป็นเวทมนตร์ระดับมัชฌิม สิ่งที่เฉียวอวี่ฮัวพูดออกมาทั้งหมดนั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่คิดจะทําในสิ่งที่เขาทําอยู่ตอนนี้
“เฮ้อ มารอดูกันต่อไปแล้วกัน ถ้าหากว่าฉันไม่สามารถนํามันออกมาได้จริงๆล่ะก็… ฉันจะยอมให้ลูกน้อยของฉันกลืนกินเงินล้านเหล่านี้ลงไปอย่างสาสม!” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างหดหู
แม้ว่าการใช้มันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของดวงดาวก็ยังดีกว่าที่จะใช้มันเป็นของตกแต่งลอยเหนือแม่น้ําใสกระจ่างนั้น แต่ทว่าเมื่อโม่ฝานได้เห็นแก่นแท้จิตวิญญาณทีไร หัวใจของเขาจะรู้สึกกระสับกระส่ายและไม่เต็มใจที่จะใช้มันอย่างสูญเปล่าเช่นนี้อยู่ดี!