จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 247
บทที่ 247: วางใจได้
“เยี่ยม เยี่ยมเลย เยี่ยมมาก เป็นเรื่องที่ดีที่นายยอมรับ! นายฆ่านักเวทระดับมัชฌิมถึงสองคน อีกทั้งพวกเขายังเป็นนักเรียนของสถาบันเมิงจู่อีกด้วย! เท่านั้นยังไม่พอ นายยังอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงนี้ออกมาอีก โม่ฝาน… นายไม่มีวันจะหนีไปไหนได้อีกแล้ว ฉันรู้สึกว่านายนี่แหละคือ สมาชิกของวาติกันที่แท้จริง!!” หลัวซ่งกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเย็นชาพร้อมชี้ไปที่จมูกของโม่ฝาน
“วาติกันงั้นเหรอ?”
“โม่ฝานเป็นสมาชิกของวาติกันนี่เอง ถึงว่า… ฉันเห็นสัตว์ประหลาดน่าขยะแขยงพวกนี้มากมายในวงกตทมิฬ แต่ตอนนั้นฉันยุ่งมากเลยไม่มีเวลาที่จะสนใจมันเท่าไหร่!”
สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่โม่ฝานอย่างไม่วางตา พวกเขาสวมหมวกของวาติกันลงบนศีรษะของโม่ฝานอย่างมั่นเหมาะและไม่คิดที่จะถามไถ่หาเหตุผลใดๆ
หลักฐานคือมีศพและอสูรต้องสาปอยู่ที่นี่!
มันคือสิ่งที่โม่ฝานไม่อาจจะปฏิเสธได้!
พึ่บบบบบ!!
ในขณะที่ทุกคนกําลังต่อว่าโม่ผ่านอย่างรุนแรงฉับพลันเกิดเสียงหวีดดังลั่นอยู่บนอากาศ ธงที่อยู่ด้านบนสุดของอาคารระเบิดออกอย่างรุนแรงจากแรงลมกรรโชก
นักเรียนทั้งหมดเริ่มเงยหน้าขึ้นและเห็นปีกของอินทรีย์กําลังกางออกอย่างสง่าผ่าเผย
พวกเขาตรวจสอบสิ่งที่ตาเห็นอย่างระมัดระวัง จากนั้นทั้งหมดก็ตระหนักได้ว่านั่นคือบุรุษคนหนึ่งซึ่งสวมใส่ปีกของอินทรีย์คู่สวยไว้ที่หลังของเขา ขณะที่เขาเหินลงมาจากท้องฟ้าลงสู่พื้นด้านล่าง เสียงระเบิดดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหวทําให้ทุกคนล้วนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตื่นตกใจ
“นั่นมันเหยี่ยวรัตติกาลจากศาลเวทมนตร์!” ใครบางคนตะโกนขึ้นมาในขณะที่เขาจดจําได้อย่างแม่นยําว่าชายคนนี้มีชื่อเสียงอย่างมากภายใต้การนําของศาลเวทมนตร์
ภายในศาลเวทมนตร์นั้นมีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากมายและหนึ่งในนั้นคือเหยี่ยวรัตติกาลด้วย เขาคือบุคคลที่เต็มไปด้วยชื่อเสียงมากมาย!
เขานั้นเป็นอิสระเมื่ออยู่บนท้องฟ้า สายตาราวกับเหยี่ยวพิฆาต ศัตรูของเขาไม่เคยมีใครรอดพ้นไปได้แม้แต่คนเดียว!
“อสูรต้องสาปงั้นเหรอ?” เหยี่ยวรัตติกาลกล่าวออกมาพร้อมกับจับจ้องไปที่ร่างกายของอสูรต้องสาป
อย่างไรก็ตามเขาสามารถตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าอสูรต้องสาปตัวนี้ถูกทรมานจากพลังเวทธาตุเงา มันไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้จึงถูกตรึงไว้จนตายคาที่เช่นนี้
เหยี่ยวรัตติกาลนั้นมองไปรอบๆพร้อมกับเอ่ยปากออกมาอีกครั้ง “ใครคือโม่ฝาน?”
“โอ้ ท่านเหยี่ยวรัตติกาลมาได้เวลาพอดิบพอดี! นี่คือโม่ฝานเขาคือชายที่มาจากวาติกัน เขาสังหารนักเรียนไปสอง ” หลัวซ่งกระโดดออกมาด้านหน้าพร้อมตะโกนและชี้ไปที่โม่ฝาน
เจินหมิงเฉวียนและไปจ่านเฟิงเดินไปด้านข้างของอสูรต้องสาป เช่นนี้เขาจึงพุ่งเป้าหมายไปที่โม่ฝานด้วยเช่นกันว่าชายคนนั้นครอบครองอสูรน่าขยะแขยงตัวนี้
“หุบปาก!!” เหยี่ยวรัตติกาลคํารามออกมาอย่างชัดเจน เขารู้สึกรังเกียจบุคคลเหล่านี้อย่างมากแม้ว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ขณะนั้นขาของเขาก้าวเท้าออกและไปหยุดอยู่ตรงหน้าของโม่ฝาน ด้วยดวงตาคมปลาบคล้ายกับเหยี่ยวจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มตรงหน้าก่อนจะกล่าวว่า “โม่ฝาน ด้วยพลังของนายเพียงคนเดียวสามารถทําลายเครือข่ายของวาติกันได้อย่างราบคาบ! แม้ว่านายยังเด็ก แต่ความกล้าหาญของนายนั้นเป็นสิ่งที่ฉันไม่อาจมองข้ามได้เลย มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ!!”
หลังจากที่เขากล่าวประโยคเช่นนั้นออกมา ใบหน้าที่แสนเย็นชายังอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะแสดงให้ผู้ใดเห็น มือหนักๆของเขาวางบนไหล่ของโม่ฝานอย่างหนักแน่นเพื่อแสดงถึงความจริงใจและชื่นชมเด็กคนนี้อย่างแท้จริง
ประโยคที่เหยี่ยวรัตติกาลกล่าวออกมาเมื่อครู่นี้ทําให้นักเรียนที่อยู่รอบๆทั้งหมดอยู่ในสภาวะโง่งมทันที
ทําลายเครือข่ายของวาติกันทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวอย่างงั้นเหรอ?
มีสมาชิกจากวาติกันแอบเข้ามาปะปนกับนักเรียนภายในสถาบันเมิงจู่จริงๆงั้นเหรอ??
และพวกเขาทั้งหมดถูกจัดการโดยโม่ฝาน!?
“น่าเสียดาย มีนักบวชคนหนึ่งหนีไปได้” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างเขร่งครีม
“ไม่ต้องกังวลเลย ถ้าหากไม่ใช่เพราะนายกับฉือจ้าวติงที่ยอมสละชีพของตนเอง พวกเราก็คงไม่สามารถจัดการกับเครือข่ายวาติกันภายในนครเซี่ยงไฮ้นี้ได้แน่ วันนี้ฉันมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นตัวแทนของศาลเวทมนตร์ที่จะแสดงความขอบคุณในความกล้าหาญของนายจากใจจริง!” สายตาของเหยี่ยวรัตติกาลเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มอย่างยิ่ง
แม้ว่าภายในศาลเวทมนตร์จะมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสามารถจัดการกับกลุ่มวาติกันได้เลย แม้กระทั่งในตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถจับกลุ่มวาติกันมาลงโทษจากสถานการณ์ในเมืองบ่อได้ด้วยเช่นกัน
แต่ใครจะคาดคิดว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขาในคราวนี้จะสามารถจัดการกับดีคอนคราม และเครือข่ายสมาชิกทั้งหมดในนครเซี่ยงไฮ้ได้กันล่ะ? พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีสมาชิกของวาติกันมากมายหลบซ่อนอยู่ในนครกว้างใหญ่แห่งนี้ อย่างไรก็ตามการจับกุมคนจํานวนมากได้ในครั้งนี้มันจะเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับกลุ่มเป้าหมายของวาติกันได้อย่างยอดเยี่ยม!
“ผมแค่อยากจะแก้แค้นให้กับฉือจ้าวติง” โม่ฝานบ่นพึมพําออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ถึงจะเป็นอย่างนั้นนายก็ได้ช่วยศาลเวทมนตร์กําจัดเชื้อโรคร้ายออกไป อีกอย่างฉันรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของนายค่อนข้างที่จะโดดเด่นและไปไกลกว่านักเรียนคนอื่นอย่างมาก เอาอย่างนี้ดีไหม ถ้าหากว่านายเรียนจบจากสถาบันเมิงจู่แล้ว นายสามารถมาที่ศาลเวทมนตร์ได้เลย! พวกเราจะให้นายเข้าร่วมเป็นนักเวทฝึกหัดจากนั้นจะเลื่อนขั้นให้เป็นสมาชิกที่แท้จริงของศาลเวทมนตร์ภายหลัง…”
เหยี่ยวรัตติกาลต้องการให้เขาเข้าร่วมทีมด้วย!
วาติกันสร้างปัญหาในทุกหนแห่งไม่เว้นแต่ละวัน ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย ผู้พิพากษาภายในศาลเวทมนตร์นั้นรับรู้ดีถึงปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นศาลเวทมนตร์จําเป็นจะต้องรับสมาชิกเพิ่มโดยเร็วเช่นกัน
สําหรับเหยี่ยวรัตติกาลแล้วเขามองว่าในเด็กอายุเท่านี้ ถ้าหากได้ยินชื่อกลุ่มวาติกัน ผู้คนเหล่านั้นก็คงจะหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิตแน่นอน การจะได้พบเจอกับนักเวทที่กล้าหาญอย่างเช่นโม่ฝาน นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่อาจมองข้ามได้เลย ความโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าผู้ใดเช่นนี้ยิ่งทําให้เขาต้องการคนๆนี้เข้าร่วมทีมอย่างมาก เขามีคุณสมบัติที่ศาลเวทมนตร์ต้องการอย่างครบถ้วน!
นักเรียนที่ยืนอยู่โดยรอบได้ยินว่าเหยี่ยวรัตติกาลกําลังเชิญชวนให้โม่ฝานเข้าร่วมศาลเวทมนตร์ ขากรรไกรของพวกเขาอ้าออกค้างอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของทั้งหมดสามารถบรรยายถึงคําพูดเดียวกันว่า “อะไรวะเนี่ย?!?!”
ศาลเวทมนตร์เป็นสถานที่แบบไหนน่ะเหรอ?
มันคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นรางวัลสําหรับนักเวทที่ผ่านการฝึกฝนอย่างขมขึ้น ศาลเวทมนตร์นั้นไม่เพียงแต่ยิ่งใหญ่ซะจนไม่มีใครตั้งคําถามกับพวกเขาได้ แต่ทรัพยากรที่เขาได้ตระเตรียมให้กับสมาชิกนั้นสามารถทําให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนที่อยู่ในนั้นล้วนแต่แข็งแกร่งผิดมนุษย์หรือเรียกกันว่าสัตว์ประหลาดก็ไม่มากเกินไป!
สถานที่แห่งนี้คือสิ่งที่ทุกคนรู้จักและจดจํากันได้เป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเยาว์ว่า “นักเวทนั้นมีหน้าที่ปกป้องมวลมนุษยชาติ!”
องค์กรที่คอยปกป้องเหล่ามนุษยชาติทั้งหมดคือที่ไหนกันล่ะ?
สถานที่แห่งนั้นก็คือศาลเวทมนตร์!
เช่นนี้เมื่อเหยี่ยวรัตติกาลเอ่ยปากเชิญชวนโม่ผ่านเข้าสู่ศาลเวทมนตร์หลังจากเรียนจบ ความอิจฉาถาโถมเข้าสู่จิตใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว สายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารแผ่ออกมาและเป้าหมายของพวกเขาคือโม่ฝาน
“อ่า เดี๋ยวเราจะเอาอสูรต้องสาปนี้กลับไปด้วย ส่วนข้อเท็จจริงของนักเรียนสองคนนี้ พวกเราจะตรวจสอบมันอย่างถี่ถ้วน” เหยี่ยวรัตติกาลกล่าวออกมาเบาๆ
“ครับ” โม่ฝานพยักหน้า
หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ดุเดือดครั้งใหญ่ไปแล้ว ร่างกายของโม่ฝานอ่อนล้าอย่างมาก
แม้ว่าบาดแผลของเขาทั้งหมดจะหายเป็นปกติแล้ว แต่ทว่าสภาพจิตใจของเขานั้นเหนื่อยหนักมากเกินไป ซึ่งโชคดีอย่างมากที่เขานั้นครอบครองธาตุทั้งสี่ด้วยกัน เช่นนี้พลังเวทของเขาจึงมากกว่าคนอื่นหลายเท่า แต่ทว่าพวกมันก็ใกล้หมดแล้วหลังจากที่ต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ยาวนานเมื่อครู่นี้
—
ไม่นานนักผู้คนในสถาบันเริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่ เมื่อพวกเขาเห็นเหยี่ยวรัตติกาลสายตาแห่งความตื่นตระหนกได้ปรากฏออกมาทันที
กลุ่มวาติกันเป็นปีศาจไร้หัวใจ พวกเขาน่ากลัวเกินกว่าจะปล่อยเอาไว้ข้างกายได้ ใครจะรู้ว่าพวกเขาได้แอบย่องเข้ามาภายในสถาบันแห่งนี้ อีกทั้งพวกมันยังสร้างความวุ่นวายให้กับนักเรียนที่ไร้เดียงสาอีกด้วย!
เมื่อพวกเขารู้ว่าฉือจ้าวติงและจางลูลู่ถูกวาติกันสังหาร อธิการบดีเซียวรู้สึกหดหู่กับคําพูดของตนเองในช่วงของการสอบครั้งนี้อย่างมาก
เขารู้ดีว่ากลุ่มศาสตร์มืดนั้นมีเป้าหมายคือโม่ผ่าน แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าวาติกันเข้ามาภายในสถาบันแห่งนี้แล้ว
อธิการบดีเซียวรู้สึกผิดอย่างมากที่เขาไม่สามารถปกป้องนักเรียนของตนเองได้ เดิมทีเขาต้องการจะทําอะไรบางอย่างให้กับฉือจ้าวติงเพื่อเยียวยาหัวใจของเขาจากเหตุการณ์ภายในเมืองบ่อ.. แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็พบว่าฉือจ้าวติงได้จากไปแล้วพร้อมทั้งเขายังไม่มีครอบครัวอีกด้วย
เช่นนี้เขาจึงคิดว่าจะต้องชดเชยเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับครอบครัวของจางลูลู่แทน
–
ท้ายที่สุดโม่ฝานกลับมาถึงห้องของตัวเอง ความเหนื่อยล้าทําให้เขาล้มลงอยู่ที่โซฟาตรงระเบียงด้านนอก
ค่ําคืนที่มืดมิดได้มาถึงอย่างรวดเร็ว โม่ฝานนั้นเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แต่ทว่าในคืนนี้ฝันร้ายได้ย่างกรายเข้ามาเยือนในสมองของเขา ฉากที่เขาเผามนุษย์ทั้งสองคนจนกลายเป็นเถ้าถ่านตามมาหลอกหลอนเขาถึงในฝัน
การล้างแค้นทั้งหมดของเขาเสร็จสิ้นแล้ว แม้ว่าในตอนนี้หยู่อันจะหนีไปได้และยังไม่ถูกลงโทษ แต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถกลับไปยังวาติกันได้ ซึ่งชีวิตของเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายไปแล้วเช่นกัน
สมาชิกของวาติกันนั้นถูกดูแลโดยดีคอนครามทั้งหมด ในไม่ช้าพวกเขาจะถูกจับกุม ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะฉือจ้าวติงที่นําชื่อที่แท้จริงของมันหลบซ่อนไว้ในช่องท้องของตนเองก่อนที่เขาจะจากไป
ในที่สุดโม่ผ่านก็เข้าใจว่าทําไมผู้คนจํานวนมากถึงเกรงกลัววาติกันอย่างหนัก นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ต่อสู้กับวาติกัน เลือดของคุณจะไหลออกมาอย่างไม่มีวันสิ้นสุด!
—
“เฮ้ เจ้าลิง แกทําอะไรอยู่? ฉันมีอะไรจะบอกน่ะ” โม่ฝานยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับโทรหาสหายเก่าของตนเองและเล่าเรื่องราวไม่กี่วันที่ผ่านมาออกไปอย่างเชื่องช้า
“พี่ใหญ่ฝาน อย่าได้โทษตัวเองเกินไปเลย พวกเราทุกคนที่รอดชีวิตจากหายนะในเมืองบ่อคราวนั้นล้วนแต่มีความตั้งใจเดียวกันคือต้องการทําลายกลุ่มวาติกัน! ถ้าหากว่าในตอนนั้นฉันยืนอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่าฉันก็จะทําเช่นเดียวกับฉือจ้าวติง โลหิตที่เขาได้หลั่งออกมานั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง แล้วในเวลานี้! ถ้าหากว่าเขารู้ว่าพี่ได้เอาชื่อที่เขาแอบขโมยมาแล้วจัดการกับเครือข่ายของวาติกันทั้งหมดจนราบคาบเช่นนี้ เขาจะต้องดีใจมากและอยู่อย่างมีความสุขกับครอบครัวของตนเองที่บนนั้น!” จางหู่กล่าวออกมาอย่างปลอบประโลม
โม่ฝานพยักหน้าอย่างเข้าใจ
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถช่วยชีวิตของพวกพ้องได้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ปล่อยให้สหายของตนเองตายตกไปอย่างเปล่าประโยชน์!
วางใจได้เลย ทุกการตายต้องได้รับการแก้แค้นอย่างสาสม!