จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 245
บทที่ 245: จับกุม
“อัคคีกุหลาบ!” โม่ฝานตะโกนออกมา เมื่อเปลวไฟเชื้อสายบริสุทธิ์ได้ปรากฏออกมา มันขับไล่เหล่าเปลวไฟระดับต่ําออกไปให้พ้นทางในทันที แน่นอนว่าอัคคีกุหลาบย่อมไม่ยอมให้เปลวไฟระดับต่ํามาดูถูกได้ มันเปล่งประกายพลังความรุนแรงออกมามากยิ่งกว่าเดิมเพื่อแสดงถึงระดับชั้นวรรณะอย่างเย่อหยิ่ง
พลังงานควบแน่นปรากฏเปลวไฟที่แข็งแกร่ง มันกําลังเคลื่อนย้ายไปมาอย่างอิสระบนแขนของโม่ฝาน พวกมันทั้งหมดเริงระบําอย่างเกรี้ยวกราดเพียงรอรับคําสั่งจากผู้เป็นนายเท่านั้น
“หมัดเพลิง” โม่ฝานยกกําปั้นขึ้นพร้อมกับย่อตัวชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง กําปั้นที่ชูขึ้นฟ้าได้ถูกทุบลงบนพื้นดินอย่างไร้ปราณี พลังที่ควบแน่นปะทุออกมาอย่างรุนแรงราวกับอสรพิษ ฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณจากแรงกระแทกเมื่อครู่
“ทลายปฐพี!”
เสียงที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยความเย็นเยือกได้ถูกเปล่งออกมา เปลวไฟรุนแรงแทรกซึมลงไปในพื้นดินอย่างเกรี้ยวกราดและอิสระ พวกมันทั้งหมดพร้อมที่จะสําแดงเดชแล้ว!
ตูม!!
ฉับพลันสถานที่ที่เจียเหวินนิ่งและฟูเตียนหมิงยืนอยู่ได้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสี้ยววินาทีเกิดระเบิดเป็นลูกคลื่นขนาดยักษ์ ราวกับว่ามีอสูรร้ายหลบซ่อนอยู่ใต้ดินและกําลังโผล่ขึ้นมา
เสียงของกรงเหล็กดังสนั่นไปทั่วบริเวณ เปลวไฟสีแดงชาดปรากฏขึ้นมาราวกับลาวาใต้ปฐพีลึก
เปลวไฟเริงระบําโชกช่วงอย่างแข็งแกร่ง พลังของมันนั้นไม่อาจดูหมิ่นได้เลยแม้แต่น้อย
เสาเพลิงที่พุ่งออกมานั้นราวกับว่าเป็นกิ่งก้านสาขาของมัน ลิ้นของเปลวไฟที่พริ้วไหวไปมาราวกับว่าเป็นกลีบใบของดอกไม้งาม แมกม่าไหลเวียนไปทั่วพื้นที่แห่งนี้ให้ความรู้สึกที่แสนจะประหลาดใจ พลังทําลายล้างในตัวของมันนั้นมากล้นยิ่งยวดพอๆกับความสวยงามที่มันมี
อ้ายตูตู้และมู่หนิวเจียวที่ได้เห็นฉากหน้าตื่นตาตรงหน้าต่างพากันตกอยู่ในสภาวะโง่งม ใบหน้าของทั้งสองแดงก่ําอย่างไม่อาจควบคุม
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเปลวไฟที่เกรี้ยวกราดเช่นนี้ เจียเหวินหมิงและฟูเตียนหมิงต่างพากันเรียกอุปกรณ์เวทมนตร์ป้องกันอย่างชุลมุน แต่อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เวทมนตร์เล็กๆของพวกเขานั้นแทบจะไร้ค่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอุณหภูมิที่ร้อนแรงจากเปลวไฟวิญญาณ อุปกรณ์ของพวกเขาทั้งสองคนได้เฉิดฉายเพียงสองถึงสามวินาทีเท่านั้นก่อนที่มันจะกลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด
ร่างกายของทั้งสองคนกระเด็นขึ้นไปบนอากาศจากแรงระเบิด เรียกว่าทลายปฐพีเมื่อครู่ได้แสดงความน่าเกรงขามออกมาได้อย่างสมชื่อ
เปลวไฟอัคคียังคงลุกไหม้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ยาวนาน โม่ฝานไม่ได้ปราณีทั้งสองคนนี้เลย แม้แต่น้อย ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองคนร่วงหล่นลงมาบนพื้นและกลายเป็นเถ้าถ่านสายตาของโม่ฝานก็ยังคงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นอย่างถึงที่สุด
การสังหารใครบางคนที่เขารู้สึกเจ็บแค้นนั้นไม่ได้สะเทือนอารมณ์ของโม่ฝานเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่โม่ฝานได้สังหารลูกน้องทั้งสองของหยู่กั้นไปแล้ว สายตาของหยู่กั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างสุดขั้วหัวใจ
ใบหน้าของหยู่กั้นถูกปกปิดด้วยหน้ากาก มันเป็นเรื่องที่ยากมากว่าในตอนนี้เขาแสดงสีหน้าอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามด้วยดวงตาที่โผล่ออกมานั้นกําลังบอกได้ว่าเขากําลังประหลาดใจและกําลังรู้สึกโง่เขลาโดยสมบูรณ์
มันเพิ่งจะผ่านมาเพียงสองปีเท่านั้น หลังจากที่เกิดภัยพิบัติภายในเมืองบ่อคราวนั้น เพิ่งจะสองปี! ในช่วงสองปีที่ผ่านมาชายตรงหน้าเขาพัฒนาไปได้มากเพียงนี้แล้วงั้นเหรอ? ชายคนนี้ที่เกือบจะล้มเหลวในการเข้าสู่โรงเรียนมัธยมเวทมนตร์? เขาได้กลายเป็นนักฆ่าตัวฉกาจไปได้อย่างไร? เรื่องนี้มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว แม้ว่าเขาจะครอบครองน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็ยังไม่มีความเป็นไปได้อยู่ดี!!
แม้แต่อสูรต้องสาประดับนักรบยังไม่สามารถสังหารเขาได้ อีกทั้งนักเวทระดับมัชฌิมที่เก่งกาจยังพ่ายแพ้ต่อเขาโดยสมบูรณ์ ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมฮุยอี ฮุยซาน ฮุยชื่อ ฮุยอู่ และกองทัพอสูรมืดทั้งหมดของเขาก่อนหน้านี้ได้ถูกทําลายลงจนหมดสิ้น ชายคนนี้ไม่ได้ผิดปกติเพียงแค่เขาครอบครองธาตุทั้งสี่เท่านั้น แต่ทว่าแต่ละธาตุที่เขามีนั้นยังแข็งแกร่งผิดปกติอีกด้วย!
“ฉัน… หยู่กั้นคนนี้จะต้องเปลี่ยนแกให้กลายเป็นทาสรับใช้ฉันตลอดชั่วชีวิตของแก อย่าได้ฝันถึงความสุขอีกเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ!” รอยแผลเป็นบนหน้าของหยู่ลั่นเริ่มปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
หยู่อันนั้นรู้ดีว่าในเวลานี้เขาไม่อาจแตะต้องโม่ฝานได้เลย
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ในพื้นที่แห่งนี้อีกต่อไป การที่ฟูเตียนหมิงและเจียเหวินหมิงตายตกไปในเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องใส่ใจแต่อย่างใด เขาไม่แม้แต่จะสนใจอสูรต้องสาปผู้ภักดีของเขาด้วยซ้ํา ในตอนนี้หยู่อื่นคิดเพียงแต่ว่าเขาจะต้องออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด
โม่ฝานนั้นติดอยู่ในกรงเหล็กจึงไม่สามารถวิ่งไล่ตามออกไปได้ หลังจากที่เขาได้เห็นหยู่อันกําลังพยายามหลบหนี เขาเอ่ยเสียงต่ําเพื่อสาบานกับตัวเอง “ต่อให้แกจะวิ่งหนีฉันไปจนสุดขอบฟ้า ฉันก็จะไปตามล่าเอาชีวิตแกมาให้ได้!”
หยู่กั้นพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลบหนีออกจากสถาบันเมิงจู่แห่งนี้ ในที่สุดเขาก็สามารถวิ่งออกมาได้อย่างปลอดภัย เขาถอดหน้ากากออกพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ใบหน้า อีกครึ่งที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นปรากฏออกมาอย่างน่าสยดสยอง
ใบหน้าที่เสียโฉมของเขาดูเหมือนจะยิ่งแย่มากกว่าเดิมเมื่อความโกรธจัดปะทุขึ้นมา ร่องรอยแผลเดิมเริ่มแตกแยกอย่างไม่อาจควบคุม เช่นนี้ยิ่งทําให้เขาดูน่าเกลียดน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
“ท่านดีคอนคราม พวกเราทําภารกิจล้มเหลวครับ” หยู่อันสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อรวบรวมสติก่อนที่จะกล่าวรายงานออกไปผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
“ท่านดีคอนงั้นเหรอ?”
“ดีคอนคราม…”
ทันใดนั้นหยู่กั้นตระหนักถึงบางอย่าง ใบหน้าของเขาซีดเซียวและหดเล็กลงเหลือสองนิ้วอย่างตื่นตระหนก!
ท่านดีคอนสีครามถูกจับกุมแล้วงั้นเหรอ!
เหอะ! บัดซบ! ท่านดีคอนครามผู้ยิ่งใหญ่ยังถูกจับกุมได้ แล้วนักบวชตัวเล็กๆอย่างเขาจะหลบหนีจากศาลเวทมนตร์ได้อย่างไรกัน?
นอกจากนี้ถ้าหากว่าดีคอนถูกจับกุมแล้ว นักบวชที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาทั้งหมดย่อมไม่อาจหนีรอดไปได้แน่นอน สมาชิกทั้งหมดของกลุ่มวาติกันภายในเซี่ยงไฮ้ล้วนแต่ถูกจับใส่หม้อไว้จนหมดสิ้นแล้ว!
หัวใจของหยู่อันหดหูอย่างถึงที่สุด ในคราวแรกเขารู้สึกว่าเมืองนี้ช่างกว้างใหญ่ ผู้คนนับหมื่นแสนล้านมากมายอาศัยอยู่ที่นี่ แม้ว่าเขาจะวิ่งไปทั่วเมืองก็ไม่มีใครสามารถจัดการกับเขาได้อย่างแน่นอน แม้แต่ศาลเวทมนตร์ก็ด้วยเช่นกัน
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะโม่ฝาน เป็นเพราะไอ้สารเลวโม่ฝาน!!
ครั้งที่เกิดภัยพิบัติกับเมืองบ่อ เขาควรจะจัดการกับไอ้บ้านนอกคนนี้ให้จบสิ้นไปเสีย ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หรอก!
คราวนี้แม้ว่าเขาจะสามารถหลบหนีจากศาลเวทมนตร์ได้ แต่เมื่อเขากลับไปยังวาติกันแล้วใครเล่าจะรู้ว่าใบหน้าอีกครั้งของเขาจะยังคงอยู่? ใครจะรับประกันเรื่องนี้ได้กันล่ะ?
เขาทําทุกสิ่งผิดพลาดไปหมดแล้ว ดีคอนครามและสมาชิกทุกคนของวาติกันถูกจับกุมหมดเกลี้ยง ราชันซาลังจะต้องไม่พอใจกับเรื่องราวในครั้งนี้แน่นอน!
เป็นอย่างนี้ไม่ดีแน่! แม้ว่าเขาจะหลบหนีได้ในคราวนี้ แต่เขาไม่มีทางที่จะกลับไปวาติกันได้อีก!
หยู่อั้นกําลังตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง เขาจะให้หยู่อันรู้ไม่ได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ มิฉะนั้น ความเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเขาเสียยิ่งกว่าการถูกศาลเวทมนตร์จับกุมเสียอีก!
เดิมทีเมื่อเขาได้รับคําสั่งว่าให้จัดการกับโม่ฝาน หยู่อั้นมีความสุขอย่างมาก แต่ทว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะลงเอยแบบนี้ เขากําลังถูกศาลเวทมนตร์ไล่ตามพร้อมทั้งไม่สามา รถแบกหน้ากลับไปยังวาติกันได้…
“โอ้ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย แล้วไอ้ตัวบ้านั่นคืออะไร ยี้ ฉันขยะแขยง…”
“ศพ! มีคนถูกไฟไหม้! มีใครบางคนถูกฆ่า!”
“เฮ้ นั่นมันราชันปีศาจ! มีคนอยู่ในกรงเหล็ก เขาคือราชันปีศาจโม่ฝาน!”
หลังจากที่ค่ายกลเทพรัตติกาลเริ่มจางหายไป พร้อมด้วยเส้นทางของอสูรเงามาบรรจบที่ตรงนี้ นักเรียนมากมายเริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่กรงเหล็ก ดวงตาของพวกเขาทั้งหมดแสดงถึงความประหลาดใจ สภาพของกรงเหล็กบอกได้เพียงว่ามันผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหน่วง ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่เกรี้ยวกราดและไร้ความปราณี
ดูเหมือนว่าต้นกําเนิดของร่องรอยขีดข่วนมากมายจะมาจากสิ่งที่น่าขยะแขยงที่ถูกตรึงไว้บนพื้นนั่น
แต่ทว่าศพสองร่างที่กลายเป็นเถ้าถ่านนั้นไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาคือใคร..
ร่างกายของโม่ฝานมีแผลยาวขนาดใหญ่ซึ่งกินพื้นที่ไหล่ขวายาวไปถึงหน้าอก ความลึกของมันมากซะจนเกือบจะเห็นอวัยวะภายใน!
อ้ายตูตู้และมู่หนิวเจี้ยวพยายามจะใช้ยารักษาโม่ฝานจากด้านนอกของกรงเหล็ก แต่อย่างไรก็ตาม แผลของเขาสาหัสเกินไป เลือดไม่ยอมหลุดไหลเลยแม้แต่น้อย เป็นที่ชัดเจนว่าแผลของเขานั้นต้องคําสาป!
“โม่ฝาน เป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงหวานของถังเหย่วดังขึ้นในหูฟังบลูทูธของโม่ฝาน
“ผมยังไม่ตาย คุณจับเขาได้ไหม?”
“พวกเราจับกุมเขาได้แล้ว สมาชิกทั้งหมดของวาติกันในนครเซี่ยงไฮ้ถูกถอนรากถอนโคนหมดแล้วแหละนะ คืนนี้จะเป็นคืนที่ดีที่สุดในการทําความสะอาด” ถังเหย่วกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อถังเหย่วได้ยินเสียงหอบหายใจอย่างหนักหน่วงของโม่ฝาน น้ําเสียงของเธอเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานพร้อมกล่าว “เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะนายเลยนะ พวกเราน่ะรู้สึกขอบคุณนายมากๆ”
“แต่ฉือจ้าวติง” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างอื่นขม
“อ่า ใช่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการที่พวกเราสามารถจัดการกับวาติกันได้ในครั้งนี้นั้นเป็นเพราะความช่วยเหลือของนายน่ะนะ ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้กับท่านอัยการรับทราบด้วย” ถังเหย่วกล่าว
“ผมปล่อยให้หยู่อันหนีไปได้ ผมเกรงว่าเขาจะสร้างเรื่องวุ่นวายอีกครั้ง” โม่ฝานกล่าวออกมา
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน คนที่รับผิดชอบในภารกิจวาติกันครั้งนี้คือเขา ถ้าหากว่าภารกิจล้มเหลวแน่นอนว่าเขาไม่มีหน้าที่จะกลับไปวาติกันแน่นอน เราจะเอาชื่อของเขาเข้าสู่ระดับของสมาคมนักล่าและศาลเวทมนตร์เพื่อประกาศจับ ซึ่งแน่นอนว่าตราบใดที่องค์กรเหล่านี้ยังคงอยู่ หยู่อันจะไม่กล้าทําตัวกร่าง สุดท้ายแล้วแม้ว่าเขาจะหนีไปได้ ความสามารถของเขามีเพียงการสร้างอสูรร้ายเท่านั้น แน่นอนว่าถ้าหากเขาสร้างอีกครั้ง พวกเราจะรู้การเคลื่อนไหวของเขาทันที” ถังเหย่วอธิบายออกมาอย่างชัดเจน
โม่ฝานพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับรู้สึกโล่งใจนิดหน่อย
ไม่ว่าอย่างไรหยู่อันจะต้องถูกกําจัดให้เร็วที่สุด! โม่ฝานเป็นห่วงว่าคนใกล้ตัวของเขาจะถูกทํา ร้ายไปมากกว่านี้
แม้ว่าหยู่อันต้องการที่จะเอาชีวิตเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่สามารถทําร้ายคนที่โม่ฝานรักได้
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าหากว่ามีโอกาสอีกครั้ง โม่ฝานจะไม่ยอมปล่อยให้เขาหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน เขาจะสามารถนอนหลับอย่างเต็มตาได้อย่างไรถ้าหากไอ้ฆาตกรโรคจิตคนนี้วิ่งไปมารอบตัวของเขา!