จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 242
บทที่ 242: สติปัญญากับสํานักวาติกัน (1)
*แก้ไข กลุ่มศาสตร์มืด เป็น วาติกัน
ความมืดมิดเริ่มปกคลุมไปทั่วนครเซี่ยงไฮ้ แสงแดดสีทองค่อยๆคล้อยหายไปจากท้องฟ้า
เมฆาสีดําคล้อยต่ําลงมา ตึกระฟ้าที่สูงส่งเหยียดกายขึ้นไปบนก้อนเมฆได้อย่างอิสระ ลิฟท์กระจกขนาดใหญ่กําลังส่องแสง พร้อมกับนําพาบุคคลกลุ่มหนึ่งมุ่งขึ้นไปด้านบนของยอดตึกอย่างกระฉับกระเฉง แม้ว่าในตอนนี้ยอดบนสุดของตึกจะถูกบดบังไว้โดยเมฆดําสนิทแล้วก็ตาม.
ทั่วทุกพื้นที่บ้านเรือนต่างๆเต็มไปด้วยแสงไฟเปิดสว่าง ผู้คนมากมายเดินอยู่บนถนนอย่างเกลื่อนกลาด การจราจรของนครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ดูเหมือนจะติดขัดเล็กน้อย ตามแยกต่างๆมีไฟแดงและเขียวสลับกันไป ซึ่งหากมองจากมุมสูงแล้วการเคลื่อนไหวเหล่านี้ล้วนเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของนครเซี่ยงไฮ้เลยก็ว่าได้!
ชายคนหนึ่งพร้อมกับผมสีเขียวข้มของเขากําลังยืนอยู่ชั้นดาดฟ้าของตึกสูงใจกลางเมืองแห่งนี้ ภายใต้ใบหน้าที่โหนกนูนรูปหน้าคมชัดและสีผิวที่ซีดเซียว ถ้าหากเขาลงไปเดินอยู่บนถนนผู้คนก็คงจะเปรียบชายคนนี้ราวกับสัตว์ประหลาด
รูม่านตาของเขาแคบและลึกมาก ลึกจนกระทั่งไม่ว่าใครก็ตามจะไม่มีทางรับรู้ถึงอารมณ์ของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ชุดสูทโบราณตัดเฉพาะเรียบราบไปกับร่างกายผอมแห้งของเขา สิ่งที่ทําให้ดูน่าประหลาดใจก็คือที่หลังของเขามีปีกของอินทรีย์ขาวอยู่!
สิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ความสวยงามนั้นคือขนนกที่คมปลาบราวกับใบมีด ขอบของมันเรียวชัดมาก บ่งบอกถึงความร้ายกาจของมันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าในตอนนี้ปีกของมันยังหดตัวอยู่ แต่ความน่าเกรงขามของมันก็ไม่ได้ดูลดน้อยลงไปเลย ทุกสิ่งอย่างถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมและทรงพลัง!
สําหรับบุคคลเช่นนี้แม้ว่าจะยืนอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนตึกสูงระฟ้ามากเพียงใด แต่การจะมองหาเขาคนนี้นั้นไม่ได้ยากเย็นเลยแม้แต่น้อย!
“เราหาเขาเจอแล้ว!”
“ที่ไหน?”
“มันอยู่ในเขตเจียงทางเหนือ พวกเราทั้งหมดประสานงานและเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว”
ชายหนุ่มใบหน้าซีดเซียวกําลังจับจ้องไปทางทิศใต้ของนครแห่งนี้ เขากําลังยืนมองไฟที่ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆบนพื้นดิน
“เฮอะ ดีคอนคราม.. อย่าได้คิดว่าแกจะหนีเหยี่ยวรัตติกาลของฉันได้!”
ชายหนุ่มใบหน้าซีดเซียวกระโดดลงมาจากตึกสูงพร้อมกับกางปีกออกอย่างองอาจ ขนสีดําสนิทกางออกและยิ่งดูสง่างามมากขึ้นเมื่อมันสะท้อนเข้ากับแสงสีภายในนครแห่งนี้
ในขณะที่เขากําลังเหินเวหาไปมา ปีกของเขายังคงกระพรือต่อไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยระดับการบินที่ไม่สูงเกินและไม่ต่ําเกิน เขาอยู่เหนือเมฆาสีคล้ําเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
เขาโยกตัวซ้ายขวาอย่างชํานาญ ร่องรอยแห่งสายลมที่เขาได้ทิ้งไว้นั้นกลายเป็นไต้ฝุ่นลูกเล็กๆ เขาบินผ่านตึกสูงมากมายและแม่น้ําลําธารต่างๆอย่างเชี่ยวชาญ ท้ายที่สุดเขามาถึงแม่น้ําหวงผู้และร่อนเฉียดผิวน้ําด้วยความเร็วสูงราวกับห่านย่า ชายหนุ่มหน้าซีดกําลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆพร้อมด้วยแสงไฟที่สะท้อนเข้ากับปีกของเขายิ่งทําให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้น
“โม่ฝาน โม่ผ่าน…” เสียงที่ดูจะกังวลอย่างมากดังขึ้นในหูฟังบลูทูธ
“เฮ้ ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่น่ะ”
“ฟังฉันก่อน ตอนนี้ดีคอนครามกําลังวางแผนที่จะหลบหนี เหยี่ยวรัตติกาลของศาลเวทมนตร์เตรียมพร้อมแล้ว ในตอนนี้เราต้องการเพียงเวลาห้านาทีที่จะถ่วงเวลามันเอาไว้ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยมันจะไม่มีทางหนีเราไปได้ จากข้อมูลบางอย่างที่เราได้รับมาจากคนใกล้ตัวของมัน ดูเหมือนว่าตอนนี้มันกําลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่” เสียงใสของถังเหย่วดังขึ้นมาในหูของโม่ผ่าน
“มันกําลังรอน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือของผม ให้ย้ายไปอยู่ในมือของมันยังไงล่ะ… บ้าเอ๊ย ไอ้สารเลว!” อีกด้านหนึ่ง โม่ผ่านสบถออกมาอย่างรุนแรงในขณะที่เขาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปากของตนเอง ตอนนี้เขาไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากสาปแช่งเท่านั้น
พลังการโจมตีของอสนีบาตเมื่อครู่นั้นช่วยถ่วงเวลาให้โม่ฝานได้พักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ดู เหมือนว่ามันจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่นัก อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันของเขาก็ไม่ได้ดูดีมา กด้วยเช่นกัน
“โอ้ ถังเหย่ว… ผมไม่ได้ว่าคุณนะ ผมพูดกับอสูรต้องสาปตรงนี้น่ะ มันค่อนข้างยากที่จะจัดการมากเลยล่ะ ว่าแต่เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?” โม่ผ่านนั้นถือได้ว่าเป็นคนที่มีฝีมือพอสมควร แม้กระทั่งในเวลาต่อสู้เขายังสามารถพูดคุยกับหญิงสาวได้โดยไม่ปริปากบ่น
“อืม ฉันรู้ว่าตอนนี้ดีคอนครามกําลังรอให้นักบวชชุดคลุมเทาจัดการกับภารกิจให้เสร็จสิ้นอยู่ นั่นคือเหตุผลที่เขายอมเสี่ยงที่จะอยู่ตรงนี้ต่อ โม่ผ่านพวกเราต้องการเวลาห้านาที เธอต้องทํายังไงก็ได้ให้พวกมันยอมเสี่ยงรอเธออีกห้านาที!” ถังเหย่วกล่าวออกมาอย่างชัดเจน
โม่ฝานไม่ค่อยเข้าใจกระบวนการของพวกเขามากนัก ในตอนนี้เขารู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าบุคคลนั้นคือใคร แล้วทําไมจึงไม่พุ่งไปหามันเลยล่ะ? ทําไมต้องรออีกห้านาทีเพื่อเตรียมตัวอะไร นด้วย…
หรือเหตุผลจะเป็นเพราะว่าพวกเขาต้องการเตรียมพื้นที่ในการจับกุมบุคคลผู้นั้นซะก่อน? มัน จะมีผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์รอบๆงั้นเหรอ?
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม โม่ฝานรู้เพียงแค่ว่าเขาจําเป็นจะต้องถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้ ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้หยู่อันจะพูดคุยกับใครบางคน แน่นอนว่าชายปลายสายจะต้องเป็นดีคอนครามแน่นอน
“ท่านนักบวช มีน้ําพุศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งหยดเท่านั้นที่อยู่ในร่างกายของอสูรเงาตัวนี้ ดูเหมือนว่าเราจะโดนไอ้เด็กคนนั้นต้มซะแล้วครับ” ด้านนอกของกรงเหล็ก ฟูเตียนหมิงและเจียเหวินนิ่งมาด้วยใบหน้าที่เหนื่อยอ่อนและเร่งรีบ
ใบหน้าของหยู่กั้นบิดเบี้ยวทันทีจากความโกรธ แต่เขาก็รีบระงับมันไว้โดยเร็วที่สุด
จากน้ําเสียงของดีคอนครามเมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่าเขาจะเคร่งเครียดอย่างมาก ถ้าหากว่ามันไม่มีโอกาสสําเร็จโดยเร็ว พวกเขาทั้งหมดจะต้องรีบออกจากพื้นที่นี้โดยด่วนที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามหยู่กั้นรู้สึกไม่เต็มใจที่จะปล่อยโม่ผ่านไปอีกครั้ง!
ฟูววววววววววววว!
กรงเล็บแหลมคมเพิ่งผ่านพ้นร่างกายของเขาไป โม่ฝานยังคงพยายามหลบหลีกไปมาอย่างถึงที่สุดภายในกรงเหล็กแห่งนี้
เห็นได้ชัดว่าบาดแผลที่เขาได้รับนั้นยังไม่สาหัสมากนัก โชคดีที่จทมิฬน้อยราวกับว่ามันรับรู้ถึงความต้องการของโม่ฝานและดูเหมือนว่ามันกําลังเคลื่อนไหว ในตอนนี้ออร่าของมันเริ่มส่องสว่าง และชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายในพื้นที่แห่งนี้
ออร่าที่เปล่งประกายออกมานั้นแผ่กระจายออกเป็นวงกว้าง ภายในรัศมีกว้างใหญ่นี้ให้ความรู้สึกราวกับว่ากําลังแช่อยู่ในน้ําที่อุณหภูมิพอเหมาะ ความเบาสบายต่างๆกระจายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างอบอุ่น!
“น้ําพุศักดิ์สิทธิ์ มันคือน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง!” ดวงตาของหยู่กั้นเบิกโพล่งออกมาพร้อมกับร้องตะโกนออกมาอย่างช่วยไม่ได้!
น้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินนั้นอยู่ในมือของเด็กคนนี้อย่างแท้จริง! นอกจากนั้นเขายังเก็บรักษามันไว้อย่างดีเยี่ยม!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่โม่ฝานจะแข็งแกร่งเกินกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกันหรือใครหลายๆคน ความแข็งแกร่งของเขาก้าวกระโดดอย่างไม่มีใครทัดเทียมได้ เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาได้ใช้ประโยชน์จากสมบัติของเมืองบ่อแต่เพียงผู้เดียว!
“ฆ่ามัน รีบฆ่ามันเร็วเข้าและเอาจี้ที่คอมันมา!” หยู่อันร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
หยู่อันจําได้ดีว่าเหตุผลที่เขานั้นปกปิดตัวตนที่แท้จริงเมื่อครั้งที่อาศัยอยู่ในเมืองบ่อก็คือ หนึ่งของต้องการที่จะแสร้งเป็นสายลับเข้าไปปะปนกับกลุ่มผู้มีอํานาจ และสองก็คือเขาต้องการที่จะขโมยน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดิน
ราชันซาลังเคยกล่าวเอาไว้ในก่อนหน้านี้ ว่าเขาต้องการที่จะครอบครองน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินเพราะว่าเขาจะใช้มันเพื่อพิธี เขาไม่สนใจถึงความสามารถที่มันจะช่วยเหลือในด้านการฝึกฝนแต่อย่างใด ถ้าหากว่าหยู่กั้นสามารถขโมยน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินมาได้ หลังจากทําพิธีเสร็จแล้ว สิ่งนี้จะกลายเป็นของหยู่อันทันที!
หยู่อันใฝ่ฝันถึงความแข็งแกร่งของตนเองที่จะได้ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาได้รับมีเพียงใบหน้าที่เน่าเปื่อยไปครึ่งหนึ่ง!
หลังจากที่หยู่อันได้เห็นพลังของน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินแล้ว ใบหน้าของเขาแดงฉานอย่างทั่วถึง
“ท่านดีคอน มันคือน้ําพุศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง! มันอยู่ในจี้ของเด็กคนนี้! ถ้าหากว่าราชันซาลังรู้เรื่องนี้ล่ะก็…. เขาจะต้องมีความสุขอย่างมากแน่นอน!”
“บัดซบ เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ! เร็วเข้า รีบขโมยมันมากเร็ว!” เสียงของดีคอนครามเริ่มจะกังวลมากจนผิดปกติ เขารีบเร่งเร้าหยู่อันด้วยน้ําเสียงที่กรรโชก
แม้ว่าปลายสายจะรีบร้อนมากเพียงใด แต่ทว่าหยู่อั้นก็ไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ด้านนอกกําลังเลวร้ายมากเพียงใด สายตาของเขาในตอนนี้จับจ้องเพียงน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินตรงหน้าเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไร… ดีคอนครามก็จําเป็นจะต้องรอ!
ศิษย์ทั่วไปและนักบวชนั้นเป็นระดับชั้นที่ไม่สามารถติดต่อกับซาลังได้โดยตรง การติดต่อกับเขานั้นมีเพียงไม่กี่หนทางเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในช่องแคบแห่งการติดต่อนั้นคือดีคอนคราม เขาคือคนเดียวที่สามารถติดต่อกับราชันซาลังได้และคนอื่นที่ดํารงตําแหน่งในวาติกันมาเป็นเวลาเนิ่นนานเท่านั้น มันคือรูปแบบที่พวกเขาใช้ติดต่อกันภายในองค์กรแห่งนี้
ในตอนนี้หยู่กั้นและพรรคพวกของเขานั้นอยู่ในสถานะกึ่งปิดกิ่งเบิด ทั้งหมดนี้ไม่ยอมที่จะปฏิบัติตามคําสั่งของดีคอนครามก่อนหน้าให้รีบอพยพ พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกศาลเวทมนตร์จัดการและคุมขังภายในนครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ แน่นอนว่าถึงจะสามารถขโมยเอาน้ําพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินไปได้ แต่การที่พวกเขาจะหลบหนีออกไปได้นั้นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น!
ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรดีคอนครามจําเป็นจะต้องรอพวกเขาก่อน ดีคอนภายในวาติกันทุกคนล้วนแต่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เช่นนี้ทําให้เหล่าดีคอนมอบหมายภารกิจให้พวกนักบวชและศิษย์ระดับล่างออกไปเผชิญหน้ากับโลกภายนอกเท่านั้น พวกเขาเหล่านี้จะต้องทําภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้สําเร็จ ทันทีที่ดีคอนครามได้รับสิ่งของที่ต้องการแล้ว พริบตาเดียวเขาก็สามารถหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้! แน่นอนว่าสิ่งของที่พวกมันสามารถขโมยไปได้จะไม่มีวันถูกยึดคืนไปโดยศาลเวทมนตร์!