จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 241
บทที่ 241: การต่อสู้อันดุเดือดในกรงเหล็ก
โม่ฝานถูกขังอยู่ในกรงเหล็กขนาดใหญ่ อสูรต้องสาปกําลังคืบคลานเข้าใกล้เขามาเรื่อยๆ น้ําลายที่น่ารังเกียจหยดลงบนพื้นอย่างน่าขยะแขยง น้ําลายของมันเป็นกรด เมื่อหยดลงบนพื้นเกิดเสียงดัง ฉ่า พร้อมกับควันพวยพุ่งออกมา พื้นเหล็กกลายเป็นรูทันที!
โม่ฝานถอยหลังไปจนถึงระยะปลอดภัย เขาเริ่มตั้งหลักและตระหนักได้ว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องต่อสู้กับมันภายในกรงเหล็กแห่งนี้!
ดวงตาของอสูรต้องสาปนั้นราวกับว่ามองชิ้นเนื้ออันโอชะ ซึ่งโม่ฝานรังเกียจสายตาเช่นนี้อย่างมาก ในลําคอของอสูรต้องสาปได้เปล่งเสียงฮมฮัมเล็กน้อยออกมาราวกับต้องการที่จะลิ้มรสเนื้อหนังของเขาเต็มที่แล้ว ท่าทางของมันราวกับหมาป่าที่ไม่ได้กินอะไรมานานนับเดือน..
ในที่สุดอสูรต้องคําสาปก็สามารถเข้ามาภายในกรงเหล็กได้สําเร็จ!
โม่ฝานได้ยินเสียง หวูด ซึ่งการเสียงสุดท้ายก่อนที่อสูรต้องสาปจะเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้ขาหลังของมันถีบพื้นและพุ่งเข้าหาโม่ฝานด้วยความเร็วสูงสุด
ความเร็วของมันนั้นดูเหมือนว่าจะรวดเร็วเสียยิ่งกว่าราชินีอสูรกายเกล็ดหนาก่อนหน้านี้ซะอีก! โชคดีที่โม่ฝานได้เว้นระยะห่างจากขอบกรงไว้มากพอสมควร เช่นนี้เขาจึงพอที่มีจะมีเวลาตอบสนองอยู่บ้าง
ในกรงเหล็กนี้เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย นอกจากนี้มันยังถูกตระเตรียมไว้สําหรับอสูรเงาอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากว่าโม่ฝานต้องการที่จะใช้ธาตุเงาในการหลบหนีครั้งนี้ แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย ในอีกไม่ช้าเขาจําเป็นจะต้องต่อสู้กับอสูรต้องสาปอีกด้วย!
โม่ฝานไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากยอมรับความเร็วของอสูรต้องสาปอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งกว่าราชินีอสูรกายเกล็ดหนาจริงๆ ดูจากพลังของมันแล้ว อสูรต้องสาปตัวนี้น่าจะแข็งแกร่งกว่าราชินีอสูรกายเกล็ดหนาที่เพิ่งจะเข้าสู่ระดับนักรบนั้นอย่างแท้จริง อสูรต้องสาปตัวนี้นั้นไม่สามารถประมาทมันได้เลย!
กรงเล็บคมปลาบพุ่งมาด้านหน้าด้วยความเร็วสูงสุด
ความเร็วและความคมของมันสามารถดูได้จากการตัดผ่านอากาศอย่างง่ายดาย ใบมีดโก่งงอนั้นฉีกพื้นเหล็กให้ขาดออกจากกันอย่างไร้อุปสรรคใด ความเร็วที่พุ่งเข้าหาโม่ฝานนั้นเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทําให้เขารู้สึกขนลุก!
โดยปกติแล้วอสูรมืดนั้นจะใช้กรงเล็บของมันโจมตีนักเวทโดยตรง แต่ทว่ากรงเล็บของอสูรต้องสาปนั้นสามารถบินผ่านอากาศได้อย่างคล่องแคล่ว โม่ฝานถอยหลังออกมาตั้งหลักระยะไกล เพียงเพราะต้องการที่จะยื้อเวลาเอาไว้ในการร่ายเวทระดับมัชฌิม แต่ทว่าในตอนนี้เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะเชื่อมต่อเส้นทางเนบิวลาด้วยซ้ํา
โม่ฝานพุ่งตัวออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกกรงเล็บที่พุ่งเข้ามาอย่างโหดเหี้ยม แต่ถึงกระนั้นเขายังรู้สึกได้ถึงความคมและความดุเดือดของมันในขณะที่แล่นผ่านร่างกายของเขาไป.. แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เขาหันหลังกลับทันทีพร้อมกับสํารวจตนเองและเห็นแผลขนาดใหญ่ที่แขน ความลึกของมันทําให้เนื้อหนังของเขาหลุดหายไปจนเผยให้เห็นถึงกระดูก!
ขากรรไกรของอสูรต้องสาปอ้าออกช้าๆพร้อมกับเริ่มเปล่งเสียงแปลกประหลาด มันยิงกรงเล็บแหลมคมออกมาอีกครั้งเพื่อพุ่งเป้าหมายไปที่โม่ฝาน เห็นได้ชัดว่าอสูรต้องสาปตัวนี้ค่อนข้างที่จะฉลาดเล็กน้อย มันใช้การโจมตีระยะไกลเพื่อหยุดการร่ายเวทของโม่ฝานและจากนั้นค่อยใช้การโจมตีระยะใกล้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าหากว่านักเวทระดับมัชฌิมนั้นไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ออกมาได้ บุคคลผู้นั้นก็ย่อมไม่แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไปเมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรระดับนักรบ มันง่ายดายมากที่อสูรเหล่านี้สามารถฉีกศัตรูตรงหน้าให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
อสูรต้องสาปตัวนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้โม่ฝานได้ใช้เวทระดับมัชฌิมเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งร่างกายของมันยังเขยิบเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ โม่ฝานไม่กล้าที่จะลังเลอะไรในตอนนี้เลย เขาเปิดการใช้งานอุปกรณ์เวทมนตร์ทันที!
โล่ห์กระชากปรโลก!
ตราประทับวิญญาณสีฟ้าส่องสว่างเรืองรองออกมา โล่ห์แข็งปรากฏออกมาจากแสงสว่างนั้นอ ย่างไม่ชักช้าด้วยเช่นกัน
ลําแสงเปล่งประกายออกมาเป็นรูปทรงเรขาคณิตปรากฏตรงหน้าของโม่ฝาน โล่ห์สีน้ําเงินเข้ม พร้อมสยายปีกออกอย่างน่าเกรงขาม
โล่ห์ขนาดใหญ่และรูปร่างคมชัดปรากฏขึ้นมา มันมีรูแปลกๆสามรูด้านบนและผิวขอบโลหะของมันนั้นคมชัดอย่างมาก ประกายของมันทําให้ต้องตาใครหลายคน
เครั้ง!
กรงเล็บที่น่าสยดสยองของอสูรต้องสาปนั้นสามารถตัดผ่านเหล็กได้ราวกับวิ่งผ่านโคลน เมื่อโล่ห์กระชากปรโลกปรากฏขึ้นมา มันถูกใช้งานทันทีและต้องเผชิญหน้ากับกรงเล็บแหลมทันที เมื่อทั้งสองได้ปะทะกันโล่ห์ส่งเสียงดังออกมา
“สะท้อน!” โม่ฝานเปิดการใช้งานโล่ห์ของเขาทันที จังหวะนี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้โต้กลับและเขาจะไม่ปล่อยมันไปแน่นอน
ขณะนั้นเองดาบแหลมเล็กราวกับขนมเปียกปูนพุ่งออกมาจากรูประหลาดทั้งสามบนโล่ห์อย่างฉับพลัน
ใบมีดรูปสามเหลี่ยมขนมเปียกปูนนั้นมีความคมอย่างมาก แม้ว่าผิวหนังชั้นนอกของอสูรต้องสาปจะเป็นเนื้อเน่าปกคลุมกันไว้หนาเตอะเป็นส่วนป้องกันเอาไว้ แต่มันก็ไม่อาจป้องกันการโจมตีของใบมีดแหลมเล็กนี้ได้เลย ใบมีดพุ่งทะลุเข้าไปในเนื้อหนังของมันได้อย่างง่ายดาย!
อสูรต้องสาปนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทําให้ศัตรูเลือดตกยางออก แต่ในขณะที่มันต้องเผชิญหน้ากับโล่ห์กระชากปรโลกนั้นความสามารถในการเฉือนของมันไม่ด้อยไปกว่ากรงเล็บในตัวมันแม้แต่น้อย แล้วอสูรต้องสาปจะรู้ได้อย่างไรว่าโล่ห์กระชากปรโลกจัดสูงในอาวุธระดับสูง? ขณะนี้รูมากมายปรากฏขึ้นบนร่างกายของมัน ของเหลวสีเทากําลังไหลออกมาราวกับน้ําตก
กกักุกกุ๊กกุก
อสูรต้องสาปกรีดร้องออกมาอย่างโกรธแค้น มันไม่รอคอยให้ร่างกายฟื้นฟูกลับด้วยตนเองหรือว่าตั้งรับการโจมตีของโม่ฝานต่อไป ขาของมันย่อลงพร้อมกระโดดถอยหลังกลับไปและดึงมีดทั้งหมดออกจากร่างกายอย่างฉับไว!
“บ้าเอ้ย ตอบสนองเร็วเกินไปแล้ว!” โม่ฝานสาปแช่งออกมาอย่างรู้สึกเสียใจ
ถ้าหากว่าอสูรต้องสาปถูกโจมตีโดยใบมีดเหล่านั้นทั้งหมด ร่างกายของมันจะต้องถูกเจาะลึกลงไปถึงกระดูกแน่นอน จากนั้นโม่ฝานจะใช้สายฟ้าเพื่อจัดการกับมันอีกที แม้ว่ามันจะไม่ตายแต่อย่างน้อยมันก็เหลือชีวิตเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น!
เป็นไปตามที่ได้คาดเดาไว้ในตอนแรก อสูรเวทระดับนักรบไม่ใส่สิ่งที่จะสามารถจัดการได้โดยง่าย!
แน่นอนว่าการโต้กลับของโม่ฝานคราวนี้ไม่สามารถทําให้อสูรต้องสาปบาดเจ็บสาหัสได้เช่นนี้โม่ฝานจําเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงการต่อสู้อย่างเร่งด่วน
เขาปิดการใช้งานโล่ห์กระชากปรโลก โม่ฝานรู้ดีว่ามีไม่กี่หนทางเท่านั้นที่เขาจะสามารถปกป้องตนเองเอาไว้ได้ แน่นอนว่าต่อไปเขาจะไม่เปิดโอกาสให้อสูรต้องสาปโจมตีเขาได้อีกครั้ง!
“ถ้าแกอยากจะแก้แค้นฉันล่ะก็ ลองชิมกําปั้นฉันก่อนเป็นไง!”
โม่ฝานมองเห็นว่าอสูรต้องสาปกําลังจะพุ่งจู่โจมเข้ามาอีกครั้ง อัคคีกุหลาบปรากฏขึ้นรอบกายของเขาอย่างฉับพลันด้วยเช่นกัน
“อัคคีกุหลาบ หมัดเพลิงทลายปฐพี!”
โม่ฝานปลดปล่อยพลังของเขาออกมาพร้อมกับกระแทกกําปั้นลงบนพื้นดินอย่างเกรี้ยวกราด
เปลวไฟรุนแรงโหมกระหน่ําอยู่บนพื้น ขณะที่มันกําลังไหลออกไปเกิดรอยแยกมากมาย ฉับพลันลาวาขนาดใหญ่ได้พวยพุ่งขึ้นมาราวกับภูเขาไฟระเบิด!
เสาไฟขนาดใหญ่ระเบิดออกมาเป็นระบําแมกมา อสูรต้องสาปนั้นเต็มไปด้วยความฉลาดที่สุดแสนจะเจ้าเล่ห์ การโจมตีเมื่อครู่ของมันเป็นเพียงกลลวงเท่านั้น เมื่อพื้นดินเริ่มแตกแยกออกและปะทุอัคคีทรงพลังออกมา มันกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างฉับไว ความจริงแล้วแผนการในครั้งนี้ของมันก็คือการหลบหลีกหมัดเพลิงทลายปฐพี!
เพียงแค่การสัมผัสเล็กน้อยเปลวไฟเหล่านี้ไม่สามารถทําอันตรายแก่อสูรเวทระดับนักรบได้
อสูรต้องสาปกระโดดหลบได้อย่างสวยงามและร่อนลงบนพื้นอย่างสง่า ใบหน้าของมันเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยโม่ฝานอย่างสุดแสนจะเย่อหยิ่ง ฉับพลันขาของมันย่อลงพร้อมกับปลดปล่อยกรงเล็บแหลมออกมาอีกครั้งด้วยความเร็วแสง
กรงเล็บแหลมเรียวของมันพุ่งออกมาราวกับกําลังแข่งขันว่าใครจะถึงเป้าหมายก่อนกัน กรงเล็บบินเหล่านี้เต็มไปด้วยความเร็วและความอันตราย ปลายแหลมของมันฉีกผ่านอากาศอย่างเกรี้ยวกราดเกิดเป็นเสียงลมหวีดหวิวตามความเร็ว กรงเล็บแหลมราวกับใบมีดกําลังควงอยู่ในอากาศอย่างกระฉับกระเฉง มันหมุนเป็นวงกลมราวกับพายุหมุนที่บ้าคลั่ง
โม่ฝ่านรู้สึกสิ้นหวังทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งนี้
สวรรค์! อสูรต้องสาปตัวนี้นั้นมีความสามารถมากยิ่งกว่าอสูรมืดหลายเท่า!
ถือได้ว่าโชคยังคงเข้าข้างโม่ฝานอยู่ เขาได้ไตร่ตรองถึงสถานการณ์ในครั้งนี้ เขาจึงยังไม่ยอมปล่อยให้เปลวไฟในมือขวานั้นมอดดับไป
แต่อย่างไรก็ตามเปลวไฟในมือที่เขานั้นมีเหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะใช้ทลายปฐพีอีกครั้ง แต่ทว่าโม่ฝานสามารถใช้มันเพื่อสร้างพายุอัคคีเพื่อต่อสู้กับกรงเล็บเหล่านั้นได้!
ฟูววววววววววววววววว
เปลวไฟเกรี้ยวกราดขนาดใหญ่ถูกปลดปล่อยออกมาจากกําปั้นของโม่ฝาน แม้ว่ามันจะดูรุนแรงแต่พลังของมันก็ยังไม่อาจเทียบเท่าได้กับหมัดเพลิงระเบิดสวรรค์
การโต้กลับในครั้งนี้นั้นโม่ฝานไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับอสูรต้องสาปตรงหน้าของเขาได้ แต่ทว่าเขาคิดเพียงแค่ให้มันช่วยปกป้องเขาจากกรงเล็บเหล่านั้นก็พอ…
กรงเล็บรุนแรงนั้นเต็มไปด้วยแรงลมที่เป็นชั้นคอยปกป้องมันเอาไว้ เปลวไฟทั้งหมดที่ไปกระทบกับแรงหมุนของกรงเล็บนั้นกระจายหายไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกรงเล็บยังคงหมุนอย่างต่อเนื่องและไม่ได้ลดความเร็วลงเลยแม้แต่นิดเดียว!