จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 237
บทที่ 237: แรงมา แรงกลับ!
ฮุยอีตระหนักอย่างรวดเร็วว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง เขาใช้ลมหายใจทั้งหมดตะโกนออกมาจนสุดปอดเพื่อออกคําสั่งกับอสูรมืด “ขัดขวางการร่ายเวทของมันเร็วเข้า!”
เขาไม่มีปัญญาที่จะต่อต้านเมล็ดพันธุ์อสนีวิญญาณตรงหน้านี้เลยแม้แต่น้อย! ในขณะนี้เขาสามารถทําได้เพียงขัดขวางการร่ายเวทของโม่ฝานเท่านั้น!
คําสั่งของฮุยอีนั้นถือว่าเป็นสิ่งเด็ดขาดสําหรับอสูรมืด สองตัวในพวกมันเปลี่ยนเป้าหมายมาที่โม่ฝานอย่างรวดเร็ว ชายตรงหน้ากําลังเชื่อมต่อเส้นทางเนบิวลาอยู่
พวกมันทั้งสองใช้กรงเล็บแข็งแกร่งเพื่อไต่กําแพงพุ่งทะยานไปหาโม่ฝาน แขนเก้งก้างที่กางออกราวกับนกทําให้ภาพลักษณ์ของพวกมันยิ่งดูสยดสยองมากขึ้นไปอีก
กรงเล็บแข็งแกร่งคมปลาบพุ่งเข้าหาโม่ฝานอย่างรวดเร็ว ระยะของมันเรียกได้ว่าแทบจะเข้าถึงตัวของโม่ฝานแล้ว ในขณะนี้เขากําลังเชื่อมต่อดวงดาวได้เพียงหกวงโคจรเท่านั้น สุดท้ายแล้วเส้นทางเนบิวลาทั้งหมดได้หายไป!
ถ้าหากเส้นทางเนบิวลาถูกขัดขวางจนทําให้ไม่สามารถร่ายเสร็จสิ้น โม่ฝานจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ระดับมัชฌิมได้!
ฉับพลันเกิดเสียงคํารามดังกึกก้องทั่วพื้นที่!
หมาป่าเวทนั้นเชื่อมต่อจิตวิญญาณกับโม่ฝาน เช่นนี้มันจึงรู้ได้ทันทีว่าโม่ฝานถูกอสูรมีดสองตัวพุ่งเข้าหา มันส่งเสียงหอนออกมาอย่างไม่พอใจทันที
หลังจากที่มันได้คํารามเสร็จสิ้น ร่างกายของมันพุ่งทะยานเข้าหาอสูรมืดทั้งสองตัวที่เข้าไปยุ่มย่ามกับโม่ฝานทันที โดยที่ไม่ได้สนใจจํานวนของพวกมันแม้แต่น้อย
เดิมที่โม่ฝานลังเลว่าจะร่ายเวทต่อไปดีไหม แต่เมื่อเขารู้สึกได้ถึงหมาป่าเวทซึ่งกําลังพุ่งเข้ามา เพื่อปกป้องเขาจากอสูรมืดทั้งสองตัว โม่ฝานดําเนินการร่ายเวทของตนเองต่อทันที!
พี่บบบบบ!
อุ้งเท้าหนักของหมาป่าเวทเหวี่ยงลงมาอย่างรุนแรง แม้ว่ามันไม่สามารถฉีกร่างกายของอสูรมืดเหล่านี้ให้ขาดออกเป็นชิ้นๆได้ แต่ทว่ามันก็เพียงพอที่จะทําลายกระดูกทั้งหมดของมันให้แตกหักอย่างไร้ปราณี!
หมาป่าเวทตวัดอสูรมืดเข้ากําแพงอย่างเหี้ยมโหด เลือดสีดําสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ หมาป่าเวทไม่ได้สนใจสภาพร่างกายของพวกมันเลยแม้แต่น้อย มันยังคงใช้กรงเล็บแหลมเจาะเข้าไปในร่างกายของอสูรมืดทั้งสองตัวราวกับผักปลา
เมื่ออสูรมีดตัวอื่นพยายามที่จะใช้กรงเล็บแหลมพุ่งเข้าไปตัดศีรษะของโม่ฝาน หมาป่าเวทใช้ปากของมันคาบซากศพของอสูรมืด และโยนเข้าใส่ศัตรูตัวใหม่ที่เพิ่งยื่นมือมายุ่งทันที!
แน่นอนว่าโม่ฝานจะต้องให้คะแนนหมาป่าเวทตัวนี้ในวิชาพละศึกษาเต็มสิบ มันขว้างออกมาได้อย่างแม่นยํา ศัตรูที่พุ่งเข้ามาใหม่ได้กระเด็นกระดอนกลับไปอย่างไร้ทิศทาง พวกมันทั้งหมดร่วงลงสู่พื้นอย่างเจ็บปวดก่อนที่จะไปถึงร่างกายของโม่ฝานเสียอีก
“หึหึ!”
ทันใดนั้นเอง สายฟ้าที่เกรี้ยวกราดปรากฏขึ้นรอบร่างกายของโม่ฝานอย่างองอาจ
ตาข่ายทรงพลังสีครามเข้มล้อมรอบร่างกายของโม่ฝานเอาไว้ อสูรมืดทั้งสองตัวที่อยู่ห่างจากโม่ฝานเล็กน้อยกําลังพยายามพยุงร่างกายของตนเองขึ้น เพื่อที่จะจัดการกับเขา แต่เมื่อร่างกายของพวกมันสัมผัสเข้ากับสายฟ้าตรงหน้า กล้ามเนื้อทั้งหมดพลันกระตุกอย่างรุนแรง มันเหมือนกับว่าพวกมันได้ถูกกรดบางอย่างที่สุดแสนอันตรายหยดลงบนผิวหนัง เนื้อของพวกมันทั้งสองตัวเหี่ยวเฉาและเริ่มละลาย ลามลงไปถึงกระดูกด้านในที่คล้ายกับถูกน้ํากรดสาดจนหายวับไปในพริบตา ร่างกายของพวกมัน
ถูกสายฟ้าย่อยสลายไปจนหมดสิ้น!
“อสนีบาตทมิฬสีคราม!”
โม่ฝานไม่แม้แต่จะชายตามองอสูรมีดที่อ่อนแอทั้งสองตัวนั้น นิ้วของเขาชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้ามืดดําด้านบนอย่างไม่หวั่นเกรง
อสนีบาตที่แข็งแกร่งปรากฏออกมาจากเมฆาทมิฬด้านบน ในตอนนี้เป้าหมายของมันคือศีรษะของฮุยอี
ร่างกายของฮุยอีสั่นเทาอย่างไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ ความกลัวกลืนกินเขาไปจนหมดสิ้นจนไม่สามารถควบคุมตรวนน้ําแข็งที่ภูมิใจก่อนหน้านี้ได้เลย
ที่จริงแล้วเขาเป็นนักเวทที่มีทักษะการใช้ตรวนน้ําแข็งได้อย่างยอดเยี่ยม โม่ฝานนั้นรู้ดีว่านักเวทธาตุน้ําแข็งบางคนนั้นไม่สามารถทําได้เช่นเขาเลย การใช้คาถานี้จําเป็นจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงมาก แต่ทว่าฮุยอีคนนี้สามารถควบคุมอสรพิษหยกนี้ให้กลายเป็นเกราะป้องกันหลายชั้นได้อย่างง่ายดาย…
แต่ทว่าเมื่อตรวนน้ําแข็งได้พบกับอสนีบาตทมิฬสีคราม… พวกมันทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นละอองขาวปลิวว่อนและหายไปในที่สุด!
แน่นอนว่าตรวนน้ําแข็งไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถป้องกันได้อย่างเต็มรูปแบบ มันไม่ใช่คาถาที่มีไว้สําหรับป้องกัน! เช่นนี้มันจะสามารถต่อต้านอสนีบาตที่เกรี้ยวกราดนี้ได้อย่างไรกัน?
อสนีบาตทมิฬสีครามเปล่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับเส้นสายฟ้าทรงพลังเริ่มไขว้กันไปมา การโจมตีเริ่มขึ้นแล้ว! ฮุยอีใช้พลังเฮือกสุดท้ายเพื่อเรียกโล่ห์ป้องกันออกมา เขายังคงมีความหวังอันน้อยนิดว่าโล่ห์นี้จะสามารถปกป้องชีวิตของเขาเอาไว้ได้
แต่อย่างไรก็ตามอสนีบาตทมิฬสีครามนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าเขาจะคาดเดาได้ เมื่อมันถูกฟาดลงมา ทั้งตรวนน้ําแข็งและโล่ห์มูลค่านับล้านของเขาได้พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
ฮุยอีใช้ลมหายใจสุดท้ายซ่อนอยู่ใต้การป้องกันสองชั้น แต่ทว่าเขายังไม่ได้ตายตกไปจากคาถานี้ แต่ก็ไม่นับว่ามีชีวิตได้เช่นกัน อสนีบาตทมิฬสีครามนั้นสามารถสะเทือนฟ้าสะเทือนดินได้อย่างเกรี้ยวกราด เช่นนี้จึงทําให้กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของเขาแตกหักโดยสมบูรณ์ ร่างกายของเขาล้มพับลงไปกองบนพื้นราวกับตุ๊กตา เพราะว่าในตอนนี้กระดูกทั้งหมดได้ถูกทําลายย่อยยับไปแล้ว!
ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความสับสน ความนัยปรากฏบนแววตาคู่นั้นอย่างไม่อาจเก็บไว้ได้ “เป้าหมายของฉันแข็งแกร่งมากขนาดนี้เลยงั้นเหรอ…”
ฮุยอีพยายามที่จะขยับนิ้วของตนเองไปที่หน้าอก ขณะที่เขากําลังจะสัมผัสกับพิษร้ายซึ่งเป็นกฎที่เขาจะต้องทําเมื่อพ่ายแพ้ แต่ทว่าโม่ฝานใช้เคลื่อนไหวเงาเพื่อปรากฏตรงหน้าของเขาในทันที
“บอลเพลิงเผาผลาญกระดูก!”
เปลวไฟขนาดเท่ากําปั้นปรากฏขึ้นบนมือของโม่ฝาน รูปร่างของมันคลายกับลาวาและเริ่มหยดลงตามร่องมือของเขา ซึ่งด้านล่างก็คือร่างกายของฮุยอี
ฮุยอีต้องการจะใช้พิษร้ายเพื่อฆ่าตัวตายหลบหนีความอัปยศในคราวนี้ อย่างไรก็ตาม มือของเขาถูกเตะจนพิษนั้นกระเด็นลอยไป ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถกําหนดทิศทางของชีวิตตัวเองได้
“แก!!!” ฮุยอีกัดฟันอย่างโกรธแค้น
โม่ฝานไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาแต่อย่างใด เขาเพียงแค่รอให้บอลเพลิงเผาผลาญกระดูกค่อยๆหยดลงไปบนร่างกายของมันอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็เพียงแค่ยืนดูลมหายใจสุดท้ายของมันเท่านั้น อุณหภูมิที่ร้อนแรงของเปลวไฟทําให้ฮุยอีกําลังทุกข์ทรมานอย่างหนักหน่วง
แกคิดว่าฉันไม่รู้จักสไตล์การต่อสู้ของกลุ่มศาสตร์มืดงั้นเหรอ? เฮอะ
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นมันมาก่อนแบบเต็มตาก็ตาม แต่ทว่าเขาเคยดูโทรทัศน์มาก่อน พวกองค์กรลับที่น่ากลัวพวกนี้มักจะมีวิธีควบคุมลูกสมุนที่โหดร้าย เมื่อพวกมันพ่ายแพ้ พวกมันจะปลิดชีพของตัวเองด้วยพิษร้าย นี่คือการปกป้องความลับขององค์กร ทั้งหมดนี้ก็เพราะปกป้องข้อมูลรวมไปถึงผู้นําของตนเองอีกด้วย
เมื่อฮุยอีเห็นว่าโม่ฝานครอบครองเมล็ดพันธุ์อสนีบาตวิญญาณ เขารู้ตัวทันทีว่าตนเองไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของโม่ฝาน อีกทั้งใครจะคาดคิดว่าเขาสามารถใช้เวทมนตร์ระดับมัชฌิมขั้นที่สองของธาตุสายฟ้าได้แล้ว? กระดูกทั้งหมดของฮุยอีแตกสลายไปโดยสมบูรณ์ เขาได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าจะปลิดชีพของตนเอง แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าสุดท้ายแล้วโม่ฝานจะไม่ยอมให้โอกาส เขาทําเช่นนั้นเลยด้วยซ้ํา?
ถ้าหากว่าเขาต้องการจะตาย มันก็จะไม่เจ็บปวดเท่าไหร่นัก พิษร้ายแรงนี้จะปลิดชีพของเขาทันที เขายังไม่ทันรู้ตัวว่าทรมานด้วยซ้ํา อย่างไรก็ตามในตอนนี้ข้อมือของเขากําลังถูกเหยียบไว้อย่างรุนแรง แม้แต่การตัดสินใจสุดท้ายของเขาก็ยังถูกมองผ่าน… ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ต่ําต้อยกว่าโม่ฝานมากนัก แม้แต่สติปัญญาก็เช่นกัน! ในฐานะของวายร้ายผู้เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองแต่กลับต้องมาพบเจอกับจุดจบแบบนี้ ภายในใจของเขาตอนนี้จะต้องกักเก็บความโกรธแบบไหนเอาไว้กันล่ะ?
“แกกําลังจะโดนไฟคลอกตายอยู่แล้ว ทําไมจึงไม่รีบทํางานสุดท้ายให้เสร็จสิ้นสักทีล่ะ… บอกฉันสิว่าเจ้านายของแกเป็นใคร?” โม่ฝานถามออกมาพร้อมกับควบคุมอุณหภูมิเปลวไฟไปพร้อมกัน
ความร้อนแรงเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะสังหารเขาให้ตายตกไปได้ แต่ทว่ามันกลับสร้างความทรมานอย่างไร้ที่เปรียบอย่างสุดซึ้ง มันคือฉากที่โม่ฝานรอคอยและรู้สึกอยากจะมองไปนานๆ แม้ว่ามันจะเป็นฉากที่เด็กๆไม่ควรดูก็ตาม แต่ทว่าสไตล์ที่โม่ฝานจะใช้กําจัดความชั่วร้ายนั้นมีเพียงคอนเซ็ปท์เดียว “แรงมา แรงกลับ!”
ถ้าแกฆ่าเพื่อนฉัน ฉันจะฆ่าเพื่อนแกสิบคน! ถ้าแกทําลายเมืองของฉัน ฉันก็จะทําลายองค์กรของแก!
“เลิกคิดเรื่องนั้น… อ้ะ อ้า!” ฮุยอีกําลังกรีดร้องอย่างเจ็บปวดในกองลาวาที่ถาโถม เสียงร้องที่น่าเวทนาของเขาโหยหวนภายในวงกตทมิฬนี้อย่างน่าหวั่นเกรง ผู้คนที่ได้ยินล้วนแต่รู้สึกสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก
โม่ฝานยังคงไม่คิดจะยอมแพ้
นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่มีวันลืมว่าเปลวไฟนี้คือสิ่งที่เขาใช้เพื่อส่งฉือจ้าวติงและแฟนสาวของเขาไปให้พ้นจากความทรมาน!
ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ทั้งสองได้พบเจอก่อนที่จะต้องจากโลกใบนี้ไป โม่ฝาานจะทําให้กลุ่มศาสตร์มืดได้รับรู้รสชาติของความเจ็บปวดนั้นอย่างสาสม!
ติดตามและร่วมพูดคุยกันได้ที่เพจเลยนะคะ