จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 236
บทที่ 236: นี่ไม่ใช่สายฟ้าธรรมดา!
“เฮอะ แกคิดว่าแกจะสามารถสู้กับฉันได้งั้นเหรอ? จํานวนลูกสมุนที่ฉันสามารถควบคุมได้น่ะนะ มันมากเสียยิ่งกว่าที่แกจินตนาการไว้เยอะ!” ฮุยอีเลิกที่จะเสแสร้งอีกต่อไป รอยยิ้มชั่วร้าย ปรากฏขึ้นพร้อมกับพ่นคําออกมาได้อย่างโจ่งแจ้ง
ทันทีที่เขาพูดจบ กลิ่นเหม็นสาปคละคลุ้งทวีความรุนแรงมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทั่วทั้งวงกตทมิฬนี้เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าอย่างไม่อาจหาที่เปรียบเปรย
กลิ่นเหล่านี้เป็นพิษ ถ้าหากว่าใครได้ดมพวกมันไปสักนาที มันจะสร้างปฏิกริยากับปอดและทําให้หายใจติดขัด
เหล่านักเรียนโชคร้ายเหล่านั้นไม่ทันรู้ตัวว่าร่างกายกําลังถูกพิษเล่นงาน กว่าที่จะรู้พวกเขาทั้งหมดก็ติดเชื้อกันเสียแล้ว มีเพียงนักเรียนธาตุเงาเท่านั้นที่จะไหวตัวทัน เพราะเขาสามารถเคลื่อนย้ายตําแหน่งของตนเองอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนีไปยังพื้นที่อื่น
“นาย! ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมของนายซะถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งหมดจะตายอยู่ตรงนี้!” โม่ฝานรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เขาตะโกนไปที่นักเรียนธาตุเงาคนนั้นด้วยเสียงดังก้อง
ชายคนนั้นตอบรับอย่างรวดเร็ว “ได้ ขอบคุณมาก!”
พิษรุนแรงเหล่านั้นมาจากด้านหลังของฮุยอี เสียงแหลมบาดหูกําลังกรีดร้องออกมา ความขุ่นเคืองมากมายกระอักแน่นอยู่ในใจของเหล่าอสูรมืดอย่างบ้าคลั่ง
ขากรรไกรแหลมคมของพวกมันอ้าออก และกระโจนเข้าใส่โม่ฝานราวกับต้องการกัดกินเนื้อหนังของเขาให้หมดสิ้น
ร่างกายของโม่ฝานดําดิ่งลงไปในความมืดอีกครั้ง เขาเปลี่ยนร่างกายของตนเองให้กลายเป็นเงาอย่างรวดเร็วพร้อมกับทะลุผ่านกําแพงไปอย่างฉับไว พริบตาเดียวโม่ฝานปรากฏกายที่ด้านหลังของฮุยอี
ขณะที่เขาโผล่ออกมาจากกําแพงอีกครั้ง ในมือของเขาถือสายฟ้าไว้ลูกหนึ่งอย่างมั่นเหมาะ
ทว่าขณะที่เขากําลังเคลื่อนย้ายอยู่นั้น ฮุยอีเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาแสดงถึงความรังเกียจ ออร่าแห่งความเย็นเยือกกระจายออกมาจากร่างกายของเขาก่อนที่โซ่ตรวนน้ําแข็งจะผุดขึ้นมาจากพื้นดินและพุ่งเข้าหาโม่ฝาน!
“น้ําแข็ง!”
โม่ฝานรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ปฏิกริยาของเขาค่อนข้างที่จะรวดเร็วอย่างมาก เขากระโดดถอยหลังออกไปตั้งหลักอย่างทันท่วงที
ตรวนโซน้ําแข็งกวัดแกว่งไปมา พวกมันทั้งหมดล้อมโม่ฝานไว้จากทุกทิศทาง ความเย็นของมันสามารถทําให้กระดูกของมนุษย์แข็งแห้งและแตกหักได้ในที่สุด
โม่ฝานรู้ตัวแล้วว่าเขาประมาทพลังของฮุยอีมากเกินไป ขณะนี้เขาเปิดการใช้งานตราประทับวิญญาณพร้อมทั้งบูทเลือดในทันใด
ลําแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ขาท่อนล่างของโม่ฝาน พวกมันแทรกซึมเข้าไปพร้อมกับเปล่งประกายกลายเป็นเกราะในที่สุด ขณะเดียวกันเส้นสีแดงปกคลุมไปทั่วท่อนล่างของเขาทําให้พลังที่ขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
หวู้ววววด!
ตรวนน้ําแข็งราวกับอสรพิษหยกพุ่งเข้าหาโม่ฝานจากด้านหลัง มันต้องการที่จะพันรอบร่างกายของเขาและบีบรัดให้ขาดใจตาย!
โม่ฝานใช้พลังของบูทโลหิตทันที เขากระโดดหลบด้วยความเร็วและแรงเพื่อหลบหนีอสรพิษหยกตัวนั้น
เขากระโดดขึ้นไปบนโซ่ตรวนนั้นอย่างมั่นคงพร้อมทั้งใช้แรงจากขากระแทกลงไป เพื่อถีบตัวขึ้นไปบนกําแพงทมิฬ!
“ไป!” ฮุยอีหันไปควบคุมอสรพิษหยกที่เหลือ เขาคาดการณ์ทุกอย่างไว้ได้อย่างแม่นยําว่าโม่ฝานจะต้องกระโดดเข้าหาโซ่ตรวนหนาเหล่านี้แน่นอน เขากําลังใช้ความสามารถของค่ายกลยักษ์นี้ให้เกิดประโยชน์
อสรพิษที่เหลือยังคงตามติดโม่ฝานอย่างไม่ลดละ แน่นอนว่าโม่ฝานย่อมไม่ยืนอยู่เฉยให้มันพุ่งมาหาเพียงอย่างเดียว เขากระโดดอีกครั้งและพุ่งไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าถ้าหากถูกพวกมันรัดเอาไว้ ทางรอดของโม่ฝานนั้นหมดสิ้น ในตอนนี้พวกมันก็ยังคงไล่ตามอย่างไม่ลดละและเกือบจะสัมผัสร่างกายของเขาได้ในบางครั้ง
“แกกล้าที่จะต่อสู้กับกลุ่มศาสตร์มืดด้วยความสามารถบิ๊กก๊อกพวกนั้นน่ะเหรอ? ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญนะ ใครก็ตามที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มศาสตร์มืด สามารถมีชีวิตอย่างสุขสมได้เพียงในฝันเท่านั้น ประเด็นก็คือสําหรับแกก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน!” ฮุยอีกล่าวออกมาในขณะที่เขาเห็นว่าโม่ฝานกําลังเคลื่อนไหวอย่างยากลําบาก มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย
อีกข้อหนึ่งก็คือเขาเป็นนักเวทธาตุน้ําแข็งระดับมัชฌิม อีกทั้งยังมีความสามารถในการควบคุมอสูรมืดได้หลายตัว โม่ฝานที่กําลังพยายามจะต่อสู้กับเขาในตอนนี้ดูเหมือนว่าการกระทําเช่นนี้จะไร้เดียงสาเกินไป!
เป็นเรื่องที่โชคดีอย่างยิ่งว่าอสูรเงานั้นเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้อีกแล้ว หลังจากที่จัดการโม่ฝานเสร็จสิ้น เขาจะนําอสูรเงาตัวนี้กลับไปให้ท่านนักบวชสีคราม จากนั้นรางวัลที่ยอดเยี่ยมจะกลายเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว!
“สําหรับขยะอย่างแก ต่อให้มาอีกสักกี่ร้อยกี่พัน ฉันก็จะฆ่าพวกแกให้หมด!” โม่ฝานยืนขึ้นพร้อมกับคํารามออกมาอย่างดุร้าย
ฮุยอียกยิ้มเย็นชาอีกครั้ง เขาชี้นิ้วไปที่โม่ฝานอย่างแข็งกร้าว อสูรมืดที่อยู่ด้านหลังเริ่มปล่อยแก๊สพิษออกมาอีกครั้ง พวกมันนับสิบตัวเริ่มล้อมรอบโม่ฝานไว้อย่างตื่นกระหาย
ฮุยอีไม่ได้คิดจะต่อสู้กับโม่ฝานตรงๆอยู่แล้ว เขาต้องการใช้อสูรมีดจัดการฉีกเนื้อหนังของโม่ ฝานและใช้ตรวนอสรพิษหยกขัดขวางการเคลื่อนไหวของโม่ฝาน ไม่ว่าอย่างไรด้วยวิธีนี้เขาจะต้อง ได้รับชัยชนะในการต่อสู้นี้แน่นอน!
อู่วววววววว รอยแยกแตกออกบนอากาศเกิดเป็นช่องโหวสีดําขนาดใหญ่ มันแตกออกพร้อมกับเสียงคํารามกึกก้องที่ส่งออกมาจากด้านใน
ขนสีน้ําเงินของมันพริ้วไหวไปตามสายลม ดวงตาสดใสทอประกายพร้อมจิตสังหารรุนแรงเต็มไปด้วยสันชาตยานที่ปาเถื่อนของหมาป่า!
“อสูรมีดพวกนั้นเป็นของพี่ชาย!” โม่ฝานกล่าวกับหมาป่าเวท
หมาป่าเวทเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายและเต็มไปด้วยความรุนแรง มันไม่สนใจว่าเบื้องหน้าจะมีอสูรมืดอยู่สักกี่ตัว ขาของมันย่อลงพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าหาอสูรเหม็นเน่าเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
อสูรมีดเห็นหมาปาเวทกําลังพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าหมาป่าเวทตัวนี้หยิ่งทะนงเกินไปหรือเปล่า? ทําไมมันจึงกล้าที่จะเผยสายตาเหยียดหยามเช่นนั้นออกมา! อีกทั้งมันยังเป็นอสูรเวทระดับต่ําเท่านั้น แต่ท่าทางที่หมาป่าเวทแสดงออกมานั้นราวกับว่ามันเพียงหนึ่งสามารถจัดการอสูรมืดทั้งสิบได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ?!?
พวกมันทั้งหมดใช้จํานวนเข้าข่ม อสูรมีดสิบตัวล้อมรอบหมาป่าเวทเอาไว้อย่างรวดเร็ว พวกมันผลัดกันเข้าไปเฉือนเนื้อหนังของหมาป่าแล้วถอยกลับ สลับกันไปมาเช่นนี้ ความต้องการที่ชัดเจนของพวกมันคือส่งหมาป่าเวทตัวนี้ไปลงนรก
แต่ทว่าแผนการของพวกมันยังฉลาดน้อยเกินไป หมาป่าเวทไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่พวกมันจะจัดการได้โดยง่าย โชคร้ายเป็นของอสูรมีดสองตัวที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทันหลังจากตวัดกรงเล็บ พวกมันสองตัวถูกหมาป่าเวทกระทืบด้วยอุ้งเท้าขนาดใหญ่จนกระดูกแหลกสลาย เนื้อหนังทั้งหมดกระจายออกกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย!
โม่ฝานนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าหมาปาเวทของเขามีพลังในการต่อสู้สูงมาก จิตวิญญาณนักสู้ของมันนั้นไม่อาจดูถูกได้เลย แม้ว่ามันจะไม่สามารถต่อกรกับอสูรมืดกว่าสิบตัวได้ แต่ทว่ามันกลับทําลายค่ายกลที่อสูรมืดก่อขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เพียงเวลาไม่นานมันก็เริ่มสังหารอสูรมืดได้แล้ว
สิ่งที่สําคัญที่สุดของโม่ฝานในตอนนี้ก็คือสังหารสมาชิกของกลุ่มศาสตร์มืดตรงหน้าของเขาซะ บุคคลผู้นี้แสร้งทําเป็นนักเรียนในสถาบัน จากพละกําลังของเขานั้นสามารถบ่งบอกได้เลยว่าเขาคือลูกสมุนใกล้ชิด น่าจะเป็นคนสนิทของนักบวชสารเลวนั่น!
การจัดการคนสนิทของมันก่อนแล้วค่อยไปจัดการกับตัวการใหญ่ทีหลังก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว!
แต่ทว่าโม่ฝานไม่อาจต่อสู้ในระยะประชิดได้เลย ตรวนน้ําแข็งตรงหน้าของเขานั้นน่ารําคาญเกินไป ถ้าหากว่าพลาดท่าถูกจับกุมได้ เขาจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้
ลืมมันไป! ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคร่ําครวญในสิ่งเหล่านี้งั้นเหรอ? สิ่งที่สําคัญที่สุดอสังหารบุคคลตรงหน้านี้ซะ!
“เฮอะ ในฐานะของบุคคลที่ได้ถือครองธาตุสายฟ้าและธาตุไฟซึ่งเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุด ฉันจะจัดการกับปัญหาทุกอย่างด้วยกําปั้นไร้ปราณีคู่นี้! ถ้าหากว่ามันยังไม่ได้ผล ฉันจะใช้สายฟ้าเพื่อตอกย้ําอีกครั้ง! ฉันไม่มีวันเชื่อว่าไอ้ลูกสมุนคนนี้จะสามารถต้านทานพลังของฉันคนนี้ได้!”
โม่ฝานไม่ได้กล่าวอะไรต่อให้มากความ สายฟ้าสีม่วงเข้มปรากฏขึ้นรอบกายของเขาโดยพลัน
เส้นทางดวงดาวค่อยๆเปลี่ยนเป็นเส้นทางเนบิวลาสายฟ้าอย่างรวดเร็วภายใต้ฝ่าเท้าของโม่ ฝาน
ถ้าหากในเวลานี้เขาต้องการแสดงความแข็งแกร่ง แล้วเขาจะสามารถร่ายเวทอะไรได้อีกล่ะถ้าไม่ใช่สายฟ้า?
ในเวลานี้โม่ฝานไม่จําเป็นจะต้องซ่อนความแข็งแกร่งใดๆอีกแล้ว เขาต้องการจะแสดงให้กลุ่มศาสตร์มืดได้รับรู้ว่าผู้คนจากเมืองบ่อไม่ใช่บุคคลที่พวกมันจะสามารถมายั่วยุได้!
“สายฟ้าสีม่วงเข้ม ม่วงทมิฬ… นี่ไม่ใช่สายฟ้าทั่วไป!”
ฮุยอีที่ได้เห็นสายฟ้าเกรี้ยวกราดตรงหน้า ดวงตาของเขาเบิกโพล่งทันที เขารีบดึงเอาตรวนน้ําแข็งกลับมาเพื่อที่จะใช้มันป้องกันการโจมตีตรงหน้านี้
ธาตุสายฟ้าเบื้องหน้าของเขาโหดร้ายเกินกว่าจะคณานับ ถ้าหากว่ามันเป็นอสนีวิญญาณจริงๆ แม้แต่ตรวนน้ําแข็งของเขาที่สามารถก่อตัวเป็นชั้นป้องกันอย่างดีเลิศ ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถต้านทานสายฟ้าเกรี้ยวกราดนี้ไว้ได้
ติดตามและร่วมพูดคุยกันได้ที่เพจเลยนะคะ