จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 226
บทที่ 226: ด้วยมือของฉันเอง!
กลุ่มอสูรมืดต้องสาปนั้นตัวเล็กและปราดเปรียวกว่ามาก มันพุ่งเข้าหาอสูรมืดตัวใหญ่อย่างไม่ลังเล ก่อนที่อสูรมีดจะตอบโต้ได้ทันท่วงที แขนขาของมันทั้งหมดได้ถูกจับไว้หมดสิ้นแล้ว
ไม่เพียงแต่ความเร็วที่เหนือชั้นกว่าเท่านั้น แต่ทว่าความแข็งแกร่งของพวกมันยังมากกว่าอีกด้วย อสูรมืดต้องสาปนั้นแข็งแกร่งกว่าหลายเท่านัก เมื่อมันจับกุมอีกฝ่ายได้ ศัตรูถูกฉีกออกกลายเป็นสองท่อนอย่างไร้ปราณี!
เนื้อและกระดูกถูกฉีกขาดออกจากกันเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ อสูรมืดตัวน้อยถูกอสูรมืดต้องสาปฉีกร่างกายออกเป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย เลือดดํากลิ่นเหม็นสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นอย่างไร้ทิศทาง
กุกกุ!
อสูรมีดอีกสามตัวเมื่อได้เห็นเช่นนั้นเกิดความกลัวตายขึ้นมาทันที สายตาของมันจับจ้องไปที่อสูรมีดต้องสาปตรงหน้าพร้อมกับความคิดที่จะหลบหนี แต่ในขณะที่มันหันหลังกลับ กรงเล็บแหลมคมได้แทงทะลุร่างกายของมันโดยฉับพลัน การเคลื่อนไหวของพวกมันช้าเกินไป
กรงเล็บดําสนิทได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันฉีกร่างกายของอสูรมีดออกเป็นสัดส่วนอย่างไร้ความปราณี เครื่องหมายรูปตัวเอ็กซ์ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของพวกมันทุกตัวก่อนที่จะถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ความโหดเหี้ยมของอสูรต้องสาปนั้นมากเกินไป แม้ว่ามันจะเห็นอสูรมีดวิ่งหลบหนีไปแล้ว แต่พวกมันดูเหมือนว่าจะไม่ปล่อยสิ่งเหล่านั้นให้หลุดลอยไปอย่างง่ายดายนัก
นี่คือการสังหารหมู่อย่างแท้จริง ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกมัน เมื่อได้สังหารพวกมันเหล่านี้ ดูเหมือนว่าแววตาเหล่านั้นจะปรากฏความโล่งใจออกมาบ้างสักหน่อย
ปัง!
แสงจันทราที่ส่องสว่างลงมาบนดาดฟ้านี้ทําให้ลูลู่ได้มองเห็นอสูรมืดตัวหนึ่งถูกโยนลงไปในบ่อน้ําด้านล่าง น้ําสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณแสงจันทราที่สาดส่องทําให้ภาพของพวกมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่นนี้ความน่าเกลียดน่ากลัวก็ยิ่งเพิ่มมากเป็นทวีคูณ
หลังจากที่อสูรมีดต้องสาปได้สังหารฝ่ายตรงข้ามจนหมดสิ้นแล้ว พวกมันทั้งหมดส่งเสียงคํารามโห่ร้องออกมาจนทุกคนในบริเวณนั้นได้ยินเสียงอย่างแจ่มแจ้ง คนเมาที่เดินอยู่ตามถนนได้ยินเสียงที่น่าหวาดกลัวเหล่านี้ พวกเขาล้มลงไปกองบนพื้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ตอนนี้ลูลู่ที่ยืนอยู่ข้างๆกับบ่อน้ํา วิญญาณของเธอได้หลุดลอยไปแล้ว!
ฉากนองเลือดที่เพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อครู่นี้เกิดขึ้นในสายตาของเธอทั้งหมด เลือดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ซากศพต่างๆยังคงอยู่ในสายตาของเธอไม่หายไป เธอกําลังคิดว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นกับเธอด้วยเช่นกัน
ในขณะนี้เธอไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหวใดๆทั้งนั้น แม้แต่การเชื่อมต่อเส้นทางเนบิวลาก็ไม่อาจทําได้ เธอไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ใดออกมาได้ทั้งนั้น สติทั้งหมดของเธอในตอนนี้ได้หลุดลอยไปเสียแล้ว
อสูรมีดต้องสาปยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ เลือดเปรอะเปื้อนเต็มผิวหนังและใบหน้าของมัน ความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ลูลู่จะสามารถต่อสู้ด้วยได้เลย
หลังจากที่มันได้คํารามออกมาจนพอใจแล้ว อสูรมืดหันหน้ากลับมาหาเธอด้วยดวงตาแดงฉาน ในสายตาของมันกําลังบอกกล่าวอะไรบางอย่างกับเธอ “ความเจ็บปวด!”
ความเจ็บปวดทั้งหมดครอบคลุมใบหน้าของมันจนหมดสิ้น ราวกับว่าอารมณ์ทั้งหมดของมันกําลังถูกตัดขาดออกจากกัน สุดท้ายแล้วสิ่งเดียวที่มันจะสามารถแสดงออกมาได้ผ่านสายตาก็คือความโหดเหี้ยม!
ลูลู่ไม่กล้าสบสายตากับสัตว์ประหลาดตัวนี้แต่อย่างใด แต่ท้ายที่สุดขาของเธอเริ่มอ่อนแรงและล้มลงกับพื้น
ดูเหมือนว่าอสูรมีดต้องสาปตนนี้จะไม่ได้คิดจะสังหารเธอเหมือนกับพวกพ้องของมันแต่อย่างใด มันค่อยๆเดินเข้าไปหาเธออย่างเชื่องช้า แต่ในขณะเดียวกันดูเหมือนในตอนนี้มันกําลังดิ้นรนจากบางสิ่งบางอย่างที่พยายามฉุดรั้งมันเอาไว้ให้ล่าถอยกลับไปบ่อยครั้ง
ในหัวของลูลู่นั้นว่างเปล่าโดยสมบูรณ์เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เธอกําลังสงสัยว่าเหตุใดอสูรมืดต้องสาปตัวนี้จึงเคลื่อนไหวชักช้านัก ด้วยความแข็งแกร่งของมัน การสังหารเธอทําได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าการกระดิกนิ้วเสียอีก!
“อะไรกัน… แกไม่ต้องการที่จะทําอย่างงั้นเหรอ?” เสียงหนึ่งดังขึ้น ดูเหมือนว่าชายคนหนึ่งจะยืนอยู่บนหลังคา และท่าทีของเขาน่าสงสัยอย่างมาก
ลูลู่หันไปตามเสียงพร้อมกับเห็นชายสวมหน้ากากครึ่งหน้ายืนอยู่ใต้แสงจันทราที่สาดส่องลงบนดาดฟ้าไม่ไกลนัก
เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
หรือว่าเขาอยู่ตรงนั้นมาตลอดอยู่แล้ว? เพียงแต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยส่งเสียงออกมาเธอเลยไม่ได้สังเกตถึงตัวตนของเขา!
“แกทําให้ฉันประหลาดใจจริงๆ การปรับแต่งอสูรมืดต้องสาปเป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ร่างกายเดิมจะต้องแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ทว่ามันยังต้องการจิตใจที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเกรี้ยวกราดอย่างมาก แต่ใครจะคิดล่ะว่ามันจะเป็นคนอย่างแกที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ สถาบันชั้นเยี่ยมได้สร้างความขุ่นเคืองมากมายให้แกสินะ! แกเหมาะสมที่สุดที่จะเข้าร่วมกลุ่มศาสตร์มีดของเรา ฮ่าฮ่า มาเถิด มาเป็นทาสสังหารให้กับพวกเรา แต่ถ้าหากว่าแกต้องการจะวิ่งหนี จากมันล่ะก็… ฉันก็บอกไว้เลยว่าแม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรให้แกได้แล้ว! ฮ่าฮ่า!” ชายสวมหน้ากากครึ่งหน้ากล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ย
“กุกกุกุ!!” อสูรมืดต้องสาปพยายามกรีดร้องออกมาอย่างหนักหน่วง แต่อย่างใดก็ตามจิตวิญญาณของมันถูกสะกดไว้โดยชายสวมหน้ากากครึ่งหน้านั้น แม้ว่าอสูรมืดต้องสาปจะโกรธแค้นและเกลียดชังเขามากแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่จะสร้างความบาดเจ็บให้กับชายผู้นั้นได้เลย จิตวิญญาณทั้งหมดของมันถูกเขาพันธนาการไว้โดยสมบูรณ์
ลูลู่ยืนอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดออกมาแม้แต่น้อย
“เดิมทีการเปลี่ยนแปลงของแกน่ะทําให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ฉันคิดว่าฉันจะปฏิบัติกับแกแบบอ่อนโยนสักหน่อย แต่ดูเหมือนว่าแกจะดื้อรั้นและสังหารพวกพ้องของตัวเองเยอะเกินไปหน่อย ดังนั้น… นี่คือการลงโทษ!” ดวงตาของชายสวมหน้ากากครึ่งหน้าหันมาหาลูลู่อย่างเย็นชา มุมปากของเขายกยิ้มอย่างชั่วร้ายพร้อมกับค่อยๆออกคําสั่งอย่างช้าๆชัดๆ! “ค่อยๆแยกเธอออกเป็นชิ้นๆที่ละส่วน… เด็กๆน่ะชอบเล่นของเล่นแยกนั่นแยกนี้อยู่เสมอน่ะแหละ แกก็เป็นเหมือนลูกของฉันที่เพิ่งจะได้เกิดมาลืมตาดูโลก ผู้หญิงตรงหน้าของแกคือของเล่นที่ฉันมอบให้ เล่นมันซะ แยกมันออกจากกันในแบบที่แกต้องการ”
ร่างกายของลูลู่สั่นไหวอย่างหวาดกลัว เธอได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นกล่าวออกมาทุกถ้อยคําชัดเจน
“กุกกุกกุกกุl” อสูรมืดต้องสาปโกรธจัดเมื่อได้ยินถ้อยคําเหล่านั้น มันพยายามส่งเสียงร้องแสดงถึงความไม่พอใจของตนเอง
“แกกล้าที่จะเกรี้ยวกราดใส่ฉันงั้นเหรอ? หรือเบื่อที่จะมีชีวิตแล้วล่ะ?!” ชายสวมหน้ากากกล่าวออกมาพร้อมกับตวัดแส้สีดําในมืออย่างรวดเร็ว แส้คมปลาบพุ่งเข้าไปที่ร่างกายของอสูรมืดต้องสาปอย่างแม่นยํา ซึ่งมันไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
กร้ากกกกกส!
แส้ฟาดลงที่กลางหลังของอสูรมืดต้องสาป รอยเลือดแดงฉานปรากฏขึ้นบนร่างกายของมันอย่างเด่นชัด
“ฆ่าเธอซะ!” เขาคํารามออกมา
ดวงตาของอสูรมืดต้องสาปกลายเป็นแดงฉาน มันเริ่มเดินไปหาลูลู่อย่างเชื่องช้า
กลิ่นเหม็นเน่าและออร่าพลังของมันปกคลุมไปทั่ว ลูลู่กลัวจนร่างกายสั่นสะท้านและนั่งอยู่กับที่โดยไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย น้ําตาไหลอาบแก้มของเธอทั้งสองข้างราวกับน้ําตา
“ฉันบอกกับเขาไว้ก่อนหน้านี้ว่า… ฉันจะทําให้มันรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่นั้นมันเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตายนะ!” ชายสวมหน้ากากครึ่งหน้ากล่าวออกมาอย่างชั่วร้าย
อสูรมืดต้องสาปเดินเข้ามาใกล้ลูลู่มากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่ามันกําลังจะยกกรงเล็บนั้นขึ้น
แต่ทว่าแขนของมันกลับสั่นไหวและใบหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดเป็นล้นพ้น
สุดท้ายแล้วกรงเล็บที่แหลมคมได้ปักลงบนหัวไหล่ของตัวมันเอง ความคมตัดผ่านเนื้อของมัน และเลือนลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง ดูเหมือนว่าในตอนนี้มันพยายามที่จะตัดแขนของตัวเองทิ้ง
“แกไม่มีสิทธิ์ขัดคําสั่งของฉัน! ฆ่าเธอซะแล้วความเจ็บปวดของแกจะหายไป! ยิ่งแกมีความผิดบาปมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งที่จะต่อต้านยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น มันจะสามารถต้านทานคําสาปที่วิญญาณแกได้พบเจออยู่ในตอนนี้ได้! เร็วเข้า รีบฆ่าเธอซะ!!” ชายสวมหน้ากากครึ่งหน้ากล่าวออกคําสั่งอย่างดุดัน แต่มุมปากของเขายังคงยิ้มอย่างเยือกเย็น
การฆ่าหญิงสาวคนนี้นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากสําหรับหยู่อัน แต่อย่างไรก็ตามเขาต้องการที่จะให้ฉือจ้าวติงเป็นคนลงมือฆ่าเธอ… ด้วยร่างกายและวิญญาณของอสูรต้องสาป!