จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 223
บทที่ 223: ไม่รอดสักคน!
อากาศทั้งหมดสั่นสะเทือนราวกับท้องฟ้ากําลังจะถล่มลงมา อสนีบาตทมิฬสีครามแตกแยกออกเป็นห้าสาย แต่ทว่าพลังของมันกลับไม่หยุดยั้งเพียงแค่นั้น ความเกรี้ยวกราดที่แผ่กระจายออกมาราวกับว่าจะบดขยี้แผ่นดินตรงหน้าให้แหลกสลายเป็นเศษฝุ่น แรงกดดันมหาศาลกําลังถาโถมลงมาอย่างไร้ปราณี
ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกโจมตีโดยอสนีบาตทมิฬสีครามหรือว่าเป็นผู้คนที่ยืนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ตาม พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่ไร้หนทางการรอดชีวิตในครั้งนี้ไปได้ อสูรมืดพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด แต่ทว่าสุดท้ายแล้วพวกมันไม่อาจหลบหนีโชคชะตาที่โหดร้ายตรงหน้าได้เลย เศษเนื้อและโลหิตสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณอย่างเหี้ยมโหดทั้งหมดกลายเป็นเศษเนื้อโดยที่ยังไม่ทันได้รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าพลังของอสนีบาตพันปีนั้นรุนแรงมากกว่าเมล็ดอสนีวิญญาณทั่วไปอย่างมาก อสูรมืดตรงหน้าดูเหมือนว่าพวกมันทั้งหมดจะตายตกไปหลังจากถูกโจมตีด้วยพลังของนักเวทสายฟ้าระดับมัชฌิม!
แต่ทว่ามีหนึ่งในนั้นที่ดูเหมือนจะโชคดี มันสามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีคราวนี้ได้ มีเพียงขาขวาของมันเท่านั้นที่ถูกระเบิดกระจุยไปโดยสมบูรณ์ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็ไม่อาจรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ อุ้งเท้าขนาดใหญ่ของหมาป่าเวทผู้ไร้ปราณีได้กระทับลงมาอย่างรุนแรง หมาป่าเวทจะไม่ยอมปล่อยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ให้หลุดรอดไปได้อย่างแน่นอน
หมาป่าเวทค่อยๆจัดการกับอสูรมืดตรงหน้าอย่างช้าๆ ในหัวของมันใคร่รู้เกี่ยวกับอสูรตรงหน้าอย่างมาก สิ่งนี้ทําให้อสูรมืดตนนั้นรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งว่าทําไมมันจึงไม่ได้ตายตกไปพร้อมกับพวกพ้องในก่อนหน้านี้ การถูกเขียไปมาเพราะความอยากรู้อยากเห็นของหมาตัวหนึ่งทําให้มันเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
ผ่านไปเพียงชั่วขณะ อสูรมืดทั้งหมดตายตกไปโดยสมบูรณ์ การกวาดล้างของโม่ฝานนั้นไร้ความปราณีอย่างแท้จริง เพียงครู่เดียวจากที่เขาได้ตกเป็นเหยื่อของพวกมัน กลับกลายเป็นราชันสายฟ้านักสังหารไปเสียแล้ว!
แน่นอนว่าการต่อสู้ในคราวนี้จําเป็นจะต้องจัดการกับอสูรมืดก่อนเป็นอันดับแรก พวกมันเรียนรู้ที่จะต่อสู้แบบกลุ่มและสามารถวิ่งพล่านไปได้ทุกทิศทางตลอดเวลา แม้แต่นักเวทระดับมัชฌิมก็ไม่อาจจะรับมือกับพวกมันได้ไหวในคราวเดียว เช่นนี้การจัดการกับพวกมันก่อนอันดับแรกเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดก่อนที่พวกมันจะป่วนการร่ายเวทของคุณจนพังยับ!
หลังจากที่อสูรมืดทั้งหมดกลายเป็นเศษเนื้อสับไปหมดแล้ว กลุ่มศาสตร์มืดทั้งสี่ตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาไม่ได้ไล่จับแกะน้อยแต่ทว่าเป็นพยัคฆ์ที่ดุร้ายแทน!
ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งหมดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
เรื่องนี้มันไม่ถูกต้องเลยแม้แต่น้อย ความสามารถของเขานั้นมากเกินกว่าใครจะรู้ได้ ข่าวจากในสถาบันล้วนแต่ผิดพลาด ผิดพลาดทั้งหมด!
“ถะ-ถอย!” ใบหน้าของฮุยซานซีดขาว เขาตะโกนออกมาพร้อมกับหันหลังและเริ่มวิ่ง
“แยกย้ายกันไป!” ฮุยเออร์กล่าวกับพวกพ้องทั้งสามคนในขณะที่ยังรักษาความสงบไว้ได้
ทั้งสี่รู้ตัวแล้วว่าพวกเขาไม่อาจจัดการกับโม่ฝานได้ เช่นนี้ทั้งหมดจําเป็นจะต้องแยกย้ายกันหนี
โม่ฝานยืนมองการกระทําของทั้งสี่ด้วยสายตาที่เย็นชา ใต้ฝ่าเท้าของเขาปรากฏเส้นทางดวงดาวที่ไม่ค่อยจะสว่างไสวมากนัก
“พี่ชาย ไล่ตามไอ้บ้านั่นไป” โม่ฝานชี้ไปที่ชายชุดคลุมเทาพร้อมหันไปกล่าวกับหมาป่าเวท
หมาป่าเวทออกวิ่งทันทีที่ได้รับคําสั่ง มันแทบจะไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงอะไรมากเลยในการวิ่งครั้งนี้ มนุษย์เพียงสองขาจะสามารถวิ่งเร็วกว่าตัวมันที่มีสี่ขางั้นเหรอ? แล้วถ้าหากว่ามนุษย์โอหังคนนั้นถูกกินขาไปแล้วล่ะ มันจะสามารถวิ่งไปได้ไกลอีกแค่ไหนกันเหรอ?
ส่วนคนที่เหลือ โม่ผ่านไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนัก นั่นเป็นเพราะเงาลึกลับที่กําลังเคลื่อนไหวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ออร่าสีเข้มเริ่มเปล่งประกายออกมาอย่างซ่อนเร้น
“ไป!”
โม่ฝานสะบัดมือไปด้านหน้าอย่างเคร่งขรึม หอกเงาขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากกลางหน้าออกของเขาอย่างโจ่งแจ้ง
ไม่มีใครเห็นว่าพลังงานหนึ่งพุ่งออกไปในอากาศ อย่างไรก็ตามในภาพสะท้อนของกระจกโรงงานแห่งนี้ยังคงมีภาพนั้นอยู่ แต่ทว่ามันถูกบดบังด้วยโคมไฟจึงไม่เป็นที่สังเกตมากนัก
เสี้ยววินาทีต่อมา ฮุยชื่อผู้ที่กําลังวิ่งอย่างรวดเร็วได้หยุดการเคลื่อนไหวลง เขาพยายามขยับร่างกายแต่ทว่ากลับไม่มีสิ่งใดตอบสนองเขาเลยแม้แต่น้อย ร่างกายทั้งหมดของเขาหยุดเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด!
แก้ไข*
ฮุยที่สี่ แก้เป็น ฮุยซื่อ*
ใบหน้าของฮุยชื่อซีดขาวทันทีที่เขาหันหลังกลับไปมองความผิดปกติที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาเบิกโพลงทันทีเมื่อได้เห็นหอกเงาขนาดใหญ่กําลังตรึงเงาของเขาไว้อย่างมั่นคงราวกับดาบที่ปักพื้นดิน
ในขณะนั้นเอง แก๊สเริ่มพวยพุ่งออกมาจากหอกแหลมคมเล่มนั้น พวกมันทั้งหมดล้อมรอบร่างกายของเขาไว้เอาราวกับจํากัดพื้นที่เป็นวงแคบ การโจมตีวิญญาณกําลังเริ่มขึ้นแล้ว!
“พวกแกทุกคนต้องตาย!”
โม่ฝานส่งสายตาอย่างเย็นชาออกไป จากนั้นร่างกายของเขาค่อยๆจมลงไปในเงามืดอย่าช้าๆ
เงามนุษย์สีดําเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านหน้าโรงงานใหญ่ตรงหน้า เสี้ยววินาทีเท่านั้นเขาได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของกลุ่มศาสตร์มืดที่ถูกหมายหัวเอาไว้อย่างทันท่วงที
ฮุยเออร์วิ่งออกไปราวกับทุกย่างก้าวกําลังเดิมพันด้วยชีวิตของตนเอง ในขณะที่เขาหันหลังเพื่อตรวจสอบว่าศัตรูได้ไล่ล่าตามเขามาหรือไม่ ขณะที่เขาหันกลับมาใบหน้าของเขาเกือบจะจูบเข้ากับเทพแห่งความตายซะได้!
“บอลเพลิง เผาผลาญกระดูก!”
บอลเพลิงขนาดเท่ากําปั้นปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของโม่ฝาน เขากระแทกมันลงบนหน้าอกของชายที่ชื่อว่าฮุยเออร์อย่างเหี้ยมโหด!
เปลวไฟลุกลามไปทั่วร่างกายของฮุยเออร์อย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าทั้งหมดถูกเผาไหม้จนหมดสิ้น ในขณะที่เปลวไฟได้สัมผัสกับผิวหนัง พวกมันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นและพยายามจะกัดกินเข้าไปในกระดูกของชายผู้น่าสงสารตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง
แม้แต่กระดูกที่ไม่สามารถถูกเผาไหม้ได้ก็ยังไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยใดๆ ทั้งหมดกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างไม่มีข้อยกเว้น ถ้าหากว่าโม่ฝานแสดงความเมตตาสักหน่อยก็คงจะหลงเหลือกระดูกไว้ให้ดูต่างหน้าบ้าง…
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาโอนอ่อนให้กับกลุ่มศาสตร์มืด ถ้าหากว่าเขาทําเช่นนั้นมันจะเป็นการทรยศพวกพ้องที่บ้านเกิดอย่างแท้จริง!
โม่ฝานละสายตาจากฮุยเออร์ที่กําลังทุกข์ทรมานจากเปลวไฟที่เริ่มกัดกินกระดูกของเขาอย่างบ้าคลั่ง สายตาของโม่ฝานจับจ้องไปที่ชายอีกคนซึ่งกําลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
ฮุยอู่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด อีกครั้งเขายังเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเนื่องจากเขาคือนักเวทธาตุลม สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ฮุยเออร์ เช่นนี้นี่คือโอกาสทองที่เขาจะใช้หลบหนี!
ฟู่วววววววววววววว~
เปลวไฟที่เกรี้ยวกราดเริ่มปกคลุมเท้าของโม่ฝานอีกครั้ง ทุกคนที่กําลังจับจ้องเขาอยู่ในตอนนี้ราวกับว่าได้พบเจออสูรกายที่โหดร้ายเข้าให้แล้ว! แม้ว่าเปลวไฟของเขาจะดูโหดเหี้ยมแต่ทว่าใบหน้าทั้งหมดของโม่ฝานยังคงอยู่ในท่าที่ที่สงบอย่างไม่น่าเชื่อ!
ฮุยอู่วิ่งออกไปด้วยพลังชีวิตทั้งหมดที่เขามี
ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาคือนักเรียนธาตุลมในสถาบันเมิงจู่ เขาคือคนที่เข้าร่วมกับกลุ่มศาสตร์มืดอย่างลับๆและแสนจะจงรักภักดี!
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะไม่ได้รับทรัพยากรใดเลยจากสถาบัน แต่ทว่าเขาก็ยังคงหวังอย่างยิ่งว่ากลุ่มศาสตร์มืดจะมอบอะไรให้กับเขาบ้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
แม้ว่าในตอนนี้เขาจะสามารถวิ่งหนีออกมาได้ไกลลิบ แต่ทว่าในใจของเขายังมีความหวาดกลัวแอบแฝงอยู่ไม่น้อย ใครจะไปรู้ว่าความสามารถของโม่ฝานเมื่อครั้งประลองอสูรเวทจะเป็นเพียงยอดเขาน้ำแข็งเท่านั้น?
เขาไม่เข้าใจเลยว่าบุคคลที่มีธาตุอัญเชิญและธาตุสายฟ้าอยู่แล้วจะมีธาตุเงาครอบครองได้อีก! เรื่องนี้จะต้องถูกส่งไปที่นักบวชสีชาดให้เร็วที่สุด!
ฉับพลัน เสียงที่น่าขนลุกได้ดังขึ้นด้านหลังของเขา
“หมัดเพลิง ระเบิดสวรรค์!”
ฮุยอู่หันหลังกลับมาตรวจสอบสถานการณ์อย่างรวดเร็ว. เปลวไฟสีแดงฉานกําลังพุ่งตรงมาหาเขา! เป้าหมายของมันคือเขาอย่างแน่นอน!
เปลวไฟขนาดใหญ่นั่น… มันกําลังพุ่งออกมาจากโรงงานโทรมๆนั้น แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไกลจากมันพอสมควร แต่ดูท่าว่าพลังของมันจะมาถึงร่างกายของเขาอย่างแน่นอน!
ฮุยอู่เริ่มคิดที่จะใช้เส้นทางลมในการเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนไหว แต่ทว่าพลังงานความร้อนนั้นสามารถขยายออกไปได้และถ้าหากว่าเขาต้องการจะหลบซ่อนก็คงไม่มีทางจะทําได้เช่นกัน!
เมื่อเปลวไฟที่บ้าคลั่งได้พุ่งมาถึง ร่างกายของเขาถูกความร้อนกลืนกินไปจนหมดสิ้น
ในระยะประชิด หมัดเพลิงสามารถทําลายร่างกายของศัตรูให้หลายเป็นเถ้าถ่านได้ไม่ยากเย็นนัก ถ้าหากว่าระยะทางไม่ไกลจนเกินไป การทําลายนักเวทระดับปฐมภูมิไม่ใช่สิ่งที่คณามือมันเลยแม้แต่น้อย!
ฮุยอู่นั้นสามารถวิ่งหนีออกมาได้ไกลพอสมควรแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าราชันปีศาจในสถาบันจะมีทักษะของธาตุไฟด้วย…
เขาล้มลงบนพื้นดินอย่างไม่อาจขัดขืนได้ ใบหน้าของเขากลายเป็นสีดําเถ้าถ่าน ผิวหนังทั้งหมดไหม้เกรียมและไม่สามารถจดจําได้อีกว่าเขาคือใคร
ก่อนที่เขาจะหมดลมหายใจ ความเคลือบแคลงใจที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือนักเวทระดับมัชฌิมคนนี้เหตุใดจึงครอบครองธาตุทั้งสี่ได้
พลังนี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?