จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 215
บทที่ 215: ชั้นที่สาม!
จิตใจของโม่ฝานกําลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนอย่างแน่วแน่ เขาไม่กล้าที่จะเสียสมาธิแม้แต่นิดเดียว
ความสุขล้นปรี่อยู่ในหัวใจของเขาอย่างท่วมท้น ซึ่งธาตุสายฟ้าและธาตุไฟของเขาได้เข้าสู่พลังระดับขั้นที่สองแล้ว
พลังระดับที่หนึ่งและสองนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ในแง่ของการใช้พลังเวทนั้นระดับที่สองใช้มากกว่าระดับที่หนึ่งมากถึงสองเท่าตัว ซึ่งในตอนนี้เนบิวลาของโม่ฝานก็กําลังขยายกว้างออกเรื่อยๆด้วยเช่นกัน เนบิวลาเกาะกลุ่มส่องแสงประกายสว่างรับมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ภายในโลกวิญญาณของเขา
ความแข็งแกร่งของธาตุไฟและสายฟ้าได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับเช่นนี้ทําให้ความมั่นใจของโม่ฝานเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เวลาภายในหอคอยสามชั้นของโม่ฝานนั้นมีจํากัดมาก ซึ่งหลังจากที่เขาได้คํานวนดูแล้วนั้นเขาเหลือเวลาอีกหนึ่งวันเท่านั้น
ความจริงแล้วในสองวันที่ผ่านมาการฝึกฝนของเขานั้นเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเร็วมากจนโม่ฝานไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะสามารถฝึกฝนได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็คล้ายกับการใช้ยา ยิ่งเราใช้มันมากเท่าไหร่ ผลข้างเคียงของมันก็จะยิ่งมากตามไปด้วยเช่นกัน
โม่ฝานใช้พลังของหอคอยสามชั้นเพื่อจัดการขีดจํากัดที่เขาไม่เคยข้ามผ่านเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย คราวแรกความเร็วในการฝึกฝนของเขานั้นเพิ่มจากเดิมกว่าร้อยเท่า เมื่อเขาอยู่ในชั้นนี้มาถึงวันที่ห้า ความเร็วของมันลดลงเหลือเพียงห้าสิบเท่า
ในวันที่หกความเร็วของมันก็จะลดลงอีกเหลือเพียงสามสิบเท่า
สถานการณ์เช่นนี้นั้นเป็นเรื่องปกติ มันเหมือนกับคราวที่เขาได้เข้าสู่บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ใต้ดินซึ่งหอคอยสามชั้นแห่งนี้เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย ในการใช้งานมันได้อย่างเต็มที่มีเพียงวันแรกๆเท่านั้น ยิ่งฝึกฝนอยู่ในสถานที่แห่งนี้นานเท่าไหร่ ทุกสิ่งอย่างก็จะค่อยๆลดลงไปตามระดับที่เพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา
ขณะนี้มันลดลงมาเหลือเพียงสามสิบเท่าแล้ว ซึ่งโม่ฝานเหลือเวลาภายในวันนี้อีกแค่หนึ่งวันเท่านั้น การฝึกฝนเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่ฝานจึงคิดว่าเขาควรเลิกจดจ่อกับชั้นที่สองนี้เสียที
“ฉันจะสามารถใช้งานชั้นที่สามในวันสุดท้ายได้ไหมนะ?” ความคิดในหัวของเขากําลังเริ่มทํา านทันที
ชั้นยิ่งสูง นั่นหมายความว่าพลังงานของมันก็จะยิ่งหนาแน่นมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน นี่เป็นกฏที่ใครก็ย่อมเข้าใจ
โอกาสในการที่จะเข้าสู่หอคอยสามชั้นแห่งนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสเช่นนี้ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วโม่ฝานจําเป็นจะต้องใช้พลังเวทแห่งธาตุทั้งสี่ในร่างกายเขาเพื่อไปให้ถึงชั้นที่สามให้จงได้
ในตอนนี้ไม่ผ่านนั้นเข้าใจถึงพลังของหอคอยสามชั้นแห่งนี้แล้ว ยิ่งเขาเดินขึ้นไปสูงมากเท่าไหร่ แรงโน้มถ่วงก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น มันจะดูดพลังเวทของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้คืออสูรร้ายที่ถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบนักเวทผู้เย่อหยิ่งเหล่านี้ เมื่อนักเวทพยายามที่จะเดินทางขึ้นไปสู่ชั้นบน แน่นอนว่าพวกเขาทั้งหมดจะต้องพบเจอกับแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลที่ค่อยรีดไถพลังเวทของพวกเขาอย่างพูดเลือดขูดเนื้อ
การมีพลังเวทขนาดใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่ได้เปรียบที่สุด นักเวทผู้นั้นจําเป็นจะต้องมีพลังเวทที่มากพอเพื่อจะไปให้ถึงชั้นบนสุดของหอคอย..
ในร่างกายของโม่ฝานนั้นมีธาตุถึงสี่ชนิดอยู่ด้วยกัน ซึ่งระดับของเขานั้นเหนือกว่านักเวทระดับมัชฌิมคนอื่นๆอย่างแน่นอน เมื่อเขาคิดเช่นนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่เขาจะปล่อยปะละเลยชั้นที่สามนี้ไปโดยที่ไม่ลองทําอะไรเลย!
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว โม่ฝานไม่รอช้าเขาก้าวขาที่มั่นคงมุ่งหน้าขึ้นไปสู่ชั้นที่สามทันที
ทุกก้าวที่เขาพยายามย่างกรายขึ้นไปราวกับว่าถูกลูกบอลเหล็กขนาดยักษ์กําลังผูกติดกับข้อขาของเขาอยู่ ซึ่งความหนักของมันสามารถสร้างความบาดเจ็บให้กับพลังวิญญาณของเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเลย
ขากรรไกรของโม่ฝานสบกันแน่นจนเส้นเลือดปูด แต่ทว่าเขายังไม่หยุดยั้งความพยายามที่จะก้าวเดินต่อไป
ตอนนี้ไม่ฝานมาถึงครึ่งทางแล้ว เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากําลังจะแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บปวดนี้มันมากเกินไปราวกับมีดเป็นพันเล่มกําลังปักอยู่บนหลังของเขาจนไร้ที่ว่าง!
ในขณะนี้แรงโน้มถ่วงได้จัดการกับจิตวิญญาณของเขาด้วย ความรุนแรงของมันทําให้หัวของโม่ฝานแทบจะระเบิดออก การบีบรัดที่รุนแรงนี้ทําให้เขาแทบจะหมดสติ
อา ฉัน ไม่ได้ ฉัน… ทนไม่ได้!
ถ้าหากฉันดื้อรั้นจะเดินต่อไป สมองของฉันจะแตกกระจายเป็นแตงโมโพละแน่นอน!
ในที่สุดโม่ฝานเลือกที่จะยอมแพ้ ภายในจิตใจของเขาเจ็บปวดจนไม่สามารถอดทนได้ไหว ความเจ็บปวดนี้มากเสียยิ่งกว่าในครั้งที่เขาบุกทะลุเข้าสู่ระดับมั
อ๊ะ ฉันอยู่ที่นี่แล้วงั้นเหรอ?
ในขณะที่โม่ฝานคิดจะยอมแพ้ เขาเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมาพร้อมกับรับรู้ว่าแท่นสามเหลี่ยมของชั้นสามตั้งอยู่ตรงหน้าของเขา!
เขาไม่ได้สูญเสียอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่เลยสักนิด ไขสองใบของเขายังอยู่ครบ ชีวิตและร่างกายยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์จากความเจ็บปวดเมื่อครู่นี้!
ขณะที่โม่ฝานอยู่บนบันไดระหว่างทาง เขารู้สึกว่าตนเองชราภาพอย่างมากและใกล้จะตายเต็มทนแล้ว แต่เมื่อทุกสิ่งสิ้นสุดลง เขาเดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว ความเจ็บปวดเหล่านั้นพลันหายใจ ความสดใสและกําลังวังชาได้กลับเข้ามาแทนที่ทําให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างไร้ที่เปรียบ พลังธาตุอันหนาแน่นราวกับมหาสมุทรได้ถาโถมใส่ร่างกายของเขาทันที แน่นอนว่าเขาเริ่มดูดซับพลังเหล่านั้นเข้าไปในเนบิวลาของตนเองอย่างตะกละตะกลามด้วยเช่นกัน!
โอ้! สวรรค์! ในตอนนี้ความเร็วในการฝึกฝนของเขามากถึงสองร้อยเท่า!
ความรวดเร็วนี้ทําให้โม่ฝานแทบจะบ้าคลั่งในทันที หลังจากที่เขาเข้าสู่ชั้นที่สามของหอคอยนี้ ความเร็วของเขาเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเขาอยู่ในชั้นที่สองความเร็วของเขาคือหนึ่งร้อยเท่า เมื่อมาถึงชั้นที่สามความเร็วของเขาในตอนนี้คือสองร้อยเท่า! มันเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินไป!
เขาอยู่ที่นี่เพียงหนึ่งวันนั้นจะเทียบเท่ากับการนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านครึ่งปี!
มีผู้คนเคยกล่าวเอาไว้ว่าเส้นทางและการฝึกฝนนั้นทั้งยาวนานและเชื่องช้า โม่ฝานไม่ปฏิเสธเลยว่านั่นคือความจริง ถ้าหากว่ากําลังฝึกฝนโดยไร้อุปกรณ์ใดๆช่วยเหลือ บุคคลผู้นั้นจําเป็นจะต้องใช้ทั้งชีวิตของตนไปกับการฝึกฝน ถึงแม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะสามารถไปถึงระดับมัชฌิมได้ แต่ทว่าเขาก็คงไม่อาจจะก้าวสู่ระดับต่อไปได้เลย ซึ่งการจะไปให้ถึงระดับสูงสุดได้จําเป็นจะต้องใช้ทรัพยากรที่เพรียบพร้อมและเต็มไปด้วยความหนาแน่นอย่างมาก เส้นทางของนักเวทนั้นไม่ง่ายดาย!
นี่คือวันที่เจ็ดที่เขาอยู่ในหอคอยสามชั้นแห่งนี้ ซึ่งมันเพียงพอแล้ว ถ้าหากเทียบกับระยะเวลาการฝึกฝนด้านนอกนั้นคงจะมากพอๆกับการนั่งสมาธิหลายปี!
ในครั้งนี้ไม่ฝานนั้นพุ่งเป้าหมายการฝึกฝนไปที่ธาตุไฟ
ถ้าหากว่าเขาจัดสรรการฝึกฝนเหล่านี้ให้กับทั้งสี่ธาตุโดยเท่าเทียมกันแล้ว มันยากเย็นเกินไปที่ธาตุใดธาตุหนึ่งของเขาจะก้าวสู่ระดับต่อไปได้ อย่างไรก็ตามการที่เขาเน้นธาตุไฟเป็นหลักในครั้งนี้ย่อมไม่สูญเปล่า เขาได้บุกทะลวงและก้าวสู่ระดับต่อไปได้แล้ว
หมัดเพลิงแห่งราชวังทั้งเก้า!
ในตอนนี้เขาสามารถใช้พลังระดับเดียวกันกับถังหยู่ได้แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าระดับของเธอนั้นมากไปถึงขั้นไหนแล้วในตอนนี้ แต่ทว่าอย่างน้อยเขาก็ได้เข้าใกล้เธอมากขึ้นอีกก้าวหนึ่งแล้ว
หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว โม่ฝานมีความคิดอยากที่จะอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ต่อไปอีกสักหน่อย
แต่น่าเสียดายที่สถาบันอนุญาตให้เขาใช้มันเพียงแค่เจ็ดวันเท่านั้น ในทุกครั้งที่มีการเปิดใช้งานหอคอยสามชั้น พลังงานมหาศาลจะถูกใช้จ่ายออกไปอย่างไร้ขีดจํากัด เช่นนี้สถาบันจึงจําเป็นจะต้องควบคุมมันอย่างเข้มงวดที่สุด
โม่ฝานเดินออกจากหอคอยสามชั้นด้วยอารมณ์ที่ปลอดโปร่งที่สุดเท่าที่จะมีได้
ดูเหมือนว่าในตอนนี้ถ้าหากเขาสามารถจัดการกับชั้นที่สามของหอคอยได้แล้ว เขาก็คงจะอยากไปต่อในชั้นต่อไปที่สูงขึ้นมากกว่านี้ ถ้าหากวันข้างหน้าเขามีโอกาสจะได้มาเหยียบสถานที่แห่งนี้อีกครั้งล่ะก็ เขาจะท้าทายมันอย่างแน่นอน! ความเร็วในการฝึกฝนภายในสถานที่แห่งนี้ทําให้นักเวทคนหนึ่งคุ้มคลั่งได้ไม่ยากเย็นเลย มันเร็วเกินกว่าจะเชื่อถือได้จริงๆ
หลังจากที่โม่ฝานเดินออกมาจากวิทยาเขตหลัก เขากําลังเดินกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่สดใส ทันใดโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทันที
“โม่ฝาน นายต้องมาหาฉันเดี๋ยวนี้!” เสียงของอ้ายตูตู้ดังขึ้นจากปลายสาย
“มีอะไรงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“อ่า… เรื่องมันเป็นอย่างนี้น่ะ ฉันอยู่ในร้านสตาร์บัคแถวบ้านของเรา ซึ่งตอนนี้ฉันสั่งอาหารมามากมาย แต่ฉันกินเสร็จหมดแล้วนะ… ความจริงคือฉันลืมกระเป๋าเงินไว้ที่ห้องน่ะ นายช่วยรีบมาที่นี่และจ่ายให้ฉันก่อนได้ไหม? มันไม่ได้ไกลมากนักเรียก อยู่บนถนนทางใต้นะ” อ้ายตูตู้กล่าวออกมาอย่างเร่งรีบ
“แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร แต่ฉันก็รู้ดีว่าสตาร์บัคจําเป็นจะต้องจ่ายเงินก่อนเพื่อรับสินค้าที่หลังเหมือนกับเคเอฟซี ฉันรู้” โม่ฝานตอบกลับตรงๆ
“อ่า เอ่อ… เอาเป็นว่าสถานที่แห่งนี้มันแปลกมาก ฉันไม่รู้จะทําอะไรเลย เอาอย่างนี้นายรีบมาที่นี่ก่อนเถอะหน่า!” อ้ายตูตู้รีบโต้กลับทันควัน
ในขณะนี้ไม่ผ่านก็รู้สึกหิวแล้วด้วยเช่นกัน แผนของเขาในก่อนหน้านี้คือการเดินหาของกินที่ตลาดซะก่อน เช่นนี้ก็ไม่เลวร้ายมากนักเขาจึงตอบรับคําของอ้ายตูตู้พร้อมกับรีบเดินไปหาเธอทันที
หลังจากที่โม่ฝานมาถึงทางเข้าของร้านที่เธอได้บอกกล่าวไว้ เขาเห็นว่าเธออยู่ใต้ร่มกันแดดสีเขียวพร้อมเสื้อลายการ์ตูนสดใสน่ารัก ท่าทางของเธอราวกับว่ากําลังรอให้ใครบางคนรีบมาช่วยเธอออกไป การมองไปรอบๆอย่างกระวนกระวายนั้นทําให้ดูว่าเธอร้อนใจอย่างหนักหน่วง
ทันทีที่เธอเห็นโม่ฝานเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอสดใสและเผยให้เห็นถึงความดีใจอย่างถึงที่สุดร่างกายน้อยๆพร้อมไฟหน้าขนาดใหญ่วิ่งปรี่เข้ามาหาโม่ฝานและพุ่งเข้ามาโอบกอดเขาไว้อย่างมั่นเหมาะ
ให้ตายเถอะสวรรค์! โม่ฝานเคยแอบเรียกอ้ายตูตู้ว่ากระต่ายอกตู้มมาก่อน นั่นเป็นเพราะว่าหน้าอกของเธอนั้นใหญ่เกินวัยไปมากโข ในตอนนี้เมื่อเธอโอบกอดเขาไว้เช่นนี้แล้ว เขารู้สึกราวกับว่าแขนของเขาทั้งหมดได้จมลงไปในเนินนมนั่นอย่างช่วยไม่ได้!
การได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวจนแนบเนื้อเช่นนี้ทําให้จมูกของโม่ฝานร้อนผ่าวราวกับว่ากำลังจะมีของเหลวข้นไหลออกมา…
แต่ทว่าโม่ฝานไม่ได้มีความสุขกับมันมากนัก ฉับพลันเขารู้สึกได้ถึงความเย็นเยือกและจิตสังหารแรงกล้าจากทั่วบริเวณ สายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นได้พุ่งเป้ามาที่เขาเป็นสายตาเดียวกัน!
อ่า นี่มันไม่ปกติแล้วจริงๆด้วย ดูเหมือนว่าอ้ายตูตู้จะอยากให้ฉันช่วยพาเธอออกไป จากปัญหาตรงนี้สินะ!