จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 210
บทที่ 210: ซุ่มโจมตี
“นี่ปู่… กำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ?” หลิงหลิงหันไปถามชายชราด้านข้าง
“อ่า เนื่องจากมีใครบางคนศรัทธาในชื่อเสียงของเราและมอบเงินจำนวนนี้มาแล้ว ดังนั้นเราควรจะรับผิดชอบมันโดยชอบธรรมที่สุดนั่นแหละนะ ฉันจะให้ต้าเฉิงกลับมาที่นี่สักพัก เขาควรจะพักภารกิจที่นครปีศาจไว้ก่อน” อาวุโสเปากล่าวออกมา
“เดี๋ยวนะ ผมคือสมาชิกหน่วยล่าฉิงเทียน แล้วก็เป็นนักล่าด้วย ทำไมผมจะปกป้องตัวเองไม่ได้? ตราบใดที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงินนี่ควรจะเป็นของผมสิ” โม่ฝานโต้แย้งทันทีเมื่อรู้สึกว่าตนเองขาดทุน
ผ่านมาหลายวันแล้วหน่วยล่าฉิงเทียนไม่มีอะไรให้เขาทำเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้มีภารกิจแล้ว แต่ว่าเขาไม่สามารถทำมันได้งั้นเหรอ? มันแปลกไปหน่อยละมั้ง ถ้าหากโม่ฝานรับภารกิจนี้และปกป้องตนเองโดยตรงมันจะผิดแปลกอะไรกันล่ะ?
“พวกเราสามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าหากว่าเธอตายไป พวกเรา…เอิ่ม หน่วยล่าฉิงเทียนน่ะนะจะต้องสูญเสียชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน” อาวุโสเปากล่าวออกมาอย่างไม่ยินยอม
โม่ฝานรู้สึกสาปแช่งตนเองทันทีหลังจากที่ได้ยินคำกล่าวของชายชราตรงหน้า นี่มันคำพูดของมนุษย์งั้นเหรอ!
“นายต้องระวังตัวเป็นพิเศษนะ ในตอนนี้มีคนๆหนึ่งเสนอเงินจำนวนมากให้กับหน่วยล่าฉิงเทียน นั่นหมายความว่ามีใครบางคนกำลังพยายามหมายหัวนายเอาไว้แน่นอน อันตรายนี้ดูจากเม็ดเงินแล้วฉันคิดว่ามันหมายจะเอาชีวิตของนายแน่นอน” หลิงหลิงกล่าวอย่างจริงจัง
“ฉันไม่เคยนอกลู่นอกทางไปไหน ฉันอยู่แต่ในสถาบันและฝึกฝนอยู่เสมอ มันจะเกิดอันตรายกับฉันได้อย่างไรล่ะ?” โม่ฝานโต้กลับ
หลังจากที่กล่าวจบแล้ว โม่ฝานนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ซินเซียเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้
ถ้าหากว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกลุ่มศาสตร์มืดคือน้ำพุศักดิ์สิทธิ์… และในตอนนี้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์กำลังปิดบังความลับที่แท้จริงของกษัตริย์โบราณ ถ้าเช่นนั้นกลุ่มศาสตร์มืดก็คงจะต้องออกตามหาเขาอีกครั้งแน่นอนใช่ไหมนะ?
ถ้าหากว่าเป็นพวกกลุ่มศาสตร์มืดจริงๆ เช่นนั้นก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะจัดการพวกมันด้วยตนเอง
เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นหัวหน้ากองทัพจ้านคงที่ตระหนักได้ถึงอันตรายที่ฉันกำลังจะได้พบเจอ แล้วเขาไม่สามารถมาปกป้องฉันได้ด้วยตนเองเลยจ้างคนอื่นมาแทนที่? โม่ฝานได้แต่ยืนไตร่ตรองกับกระดาษตรงหน้าภายในใจ
มีคนไม่มากนักที่จะใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อปกป้องเขา โม่ฝานรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็นผู้คนจากเมืองบ่อแน่นอนเพราะผู้อื่นไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังถือสิ่งที่พวกมันต้องการเอาไว้
“เธอไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจอะไรหรอก ต้าเฉิงนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องของการปกป้องผู้อื่นอย่างมาก บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองจากเขานั้นล้วนแต่ไม่รู้สึกตัวว่าตนเองกำลังเผชิญกับอันตราย กว่าที่จะรู้แจ้งนั้นเขาก็ได้จัดการทุกสิ่งโดยสมบูรณ์แล้ว หลิงหลิง… ทำภารกิจนี้ร่วมกับต้าเฉิงในการดูแลโม่ฝานแล้วกัน” อาวุโสเปากล่าว
“ได้เลย!” หลิงหลิงพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน
——
หลังจากที่กลับออกมาจากหน่วยล่าฉิงเทียนแล้ว โม่ฝานรู้สึกกังวลอย่างหนักกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ถ้าหากว่าเป็นกลุ่มศาสตร์มืดจริงๆ ในคราวนี้มันจะต้องสร้างปัญหาแน่นอน เขารู้ดีถึงความโหดร้ายของกลุ่มศาสตร์มืดพวกนี้เป็นอย่างดี พวกมันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่มันต้องการ มันจะไม่มีวันหยุดจนกว่าจะสำเร็จ
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันมีความสามารถที่จะแฝงตัวเข้าไปในองค์กรใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนักเวทธาตุอัญเชิญไป่หยางในเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ หรือว่าจะเป็นหยู่อั๋นที่ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลมู่มากกว่าสิบปี บุคคลเหล่านี้สามารถแฝงตัวได้อย่างแนบเนียนและไม่เปิดเผยตนเองอย่างแน่นอนถ้าหากไม่ถึงเวลาอันควร
ลืมมันไปซะเถอะ การคิดมากเกินไปจะทำให้เครียดเปล่าๆสินะ… ในตอนนี้ฉันไม่ใช่นักเวทระดับปฐมภูมิงอกง่อยอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากว่าฉันพบเจอกับพวกมัน ฉันจะทำให้พวกมันทั้งหมดคลานกลับรังอย่างน่าสมเพชเอง!
——
หลังจากเดินมาถึงสถาบัน โม่ฝานเห็นว่านี่เป็นช่วงเย็นแล้ว เขาจึงไม่คิดจะเดินอ้อมไปแต่อย่างใด เขาเดินตรงเพื่อตัดผ่านสวนสาธารณะไปตรงๆเพื่อลดระยะทาง
ในตอนนี้เขาอยู่แถวๆทะเลสาปเทียม ซึ่งมีแสงส่องสว่างสองข้างทาง แต่เขารู้สึกได้ว่ามีเงาตะคุ่มอยู่บนภูเขาลูกเล็กๆแถวนี้!
หลังจากที่โม่ฝานได้ฝึกฝนจนธาตุเงาเข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว ไหวพริบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก การมองเห็นทุกอย่างเฉียบคมอย่างเดิมในการมองเงาต่างๆ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นอยู่บนเนินเขานั้น เขาสัมผัสได้ทันทีว่ามันจะต้องมีอะไรอย่างแน่อน
หัวใจของโม่ฝานแข็งทื่อในทันทีพร้อมกับสาปแช่งในใจ “บัดซบเอ๊ย พวกมันเคลื่อนไหวกันแล้วงั้นเหรอ? เร็วไปไหม!?”
ในตอนนี้พี่ชายต้าเฉิงยังไม่มาปกป้องฉันเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่ากลุ่มศาสตร์มืดกลับเริ่มเคลื่อนไหวแล้วงั้นเหรอ… นอกจากนี้พวกมันยังมาซุ่มรอฉันอยู่แถวสถาบันอีกด้วย โจ่งแจ้งเกินไปไหม?
“ไป! จัดการให้เร็วที่สุด!” เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้นมา ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นจะเป็นหัวหน้าทีม
คิ้วของโม่ฝานขมวดติดกันแน่นเป็นปมทันที เขาถอยหลังกลับไปก้าวใหญ่เพื่อที่จะมองกลุ่มคนซุ่มโจมตีเหล่านี้ให้ชัดๆ
เงาขนาดใหญ่กระโดดออกมาจากพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงเส้นทางดวงดาวที่พวกมันร่ายเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วอีกด้วย
ลูกบอลไฟขนาดใหญ่ทำให้เนินเขาลูกนั้นสว่างพรึ่บทันที จากระยะไกลด้วยการมองเห็นที่เฉียบคมของโม่ฝาน เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือบอลเพลิงระดับสาม มันคือบอลเพลิงทมิฬที่พร้อมจะระเบิดออกและสังหารเขาให้ตายตกไปในการโจมตีเดียว!
โม่ฝานกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว บอลเพลิงทมิฬโจมตีเข้าที่จุดล่าสุดที่เขายืนเมื่อครู่นี้ พื้นดินถูกเผาไหม้และมีควันพวยพุ่งออกมาจากหลุมขนาดใหญ่
คิ้วของโม่ฝานผูกโบเข้าหากันโดยสมบูรณ์พร้อมกระทืบเท้าลงบนพื้นอย่างรุนแรง อัคคีกุหลาบปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขาอย่างรวดเร็ว เปลวไฟรุนแรงลุกลามไปทั่วบริเวณ
ทั้งหมดลุกลามไปทั่วร่างกายของโม่ฝานอย่างรวดเร็วราวกับว่าในตอนนี้โม่ฝานเป็นมนุษย์คบเพลิงซึ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขามอย่างมาก
หลังจากที่เปลวไฟธรรมดาได้เห็นอัคคีกุหลาบของโม่ฝาน พวกมันลนลานและเริ่มแยกกระจายกันหนีอย่างรวดเร็ว ราวกับนักเรียนตัวน้อยที่เห็นครูประจำชั้นในขณะที่ตนเองกำลังทำผิด!
เฮอะ เรื่องตลกอะไรกันล่ะเนี่ย! เปลวไฟธรรมดาทั่วไปจะกล้าหาญมาต่อกรกับอัคคีกุหลาบงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!
โม่ฝานกวาดสายตาไปหานักเวทที่เพิ่งร่ายเวทโจมตีใส่เขาเมื่อครู่อย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะทันได้เห็นบุคคลนั้นอย่างชัดเจน น้ำในทะเลสาปทั้งหมดกำลังเหือดหายไปราวกับว่ามีบางอย่างกำลังดูดมันออกไป อากาศทั้งหมดปั่นป่วนอย่างไม่รู้จุดหมายปลายเหตุ…
ขณะที่โม่ฝานกำลังงุนงงอยู่นั้น พายุทอร์นาโดขนาดสองเมตรปรากฎขึ้นตรงหน้าโดยพลัน!
พายุหมุนก่อตัวขึ้นจากน้ำในทะเลสาป น้ำทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในพายุโดยสมบูรณ์…
พายุหมุนน้ำขนาดใหญ่ก่อตัวกลายเป็นสีดำราวกับมังกรทมิฬ เป้าหมายของมันคือโม่ฝานอย่างชัดเจน
ละอองน้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ใบหน้าของโม่ฝานเย็นวาบเมื่อได้สัมผัสกับหยดน้ำเหล่านั้น ผมของเขาปลิวสะบัดอย่างรุนแรงด้วยแรงลม ร่างกายทั้งหมดเปียกโชกไปด้วยหยดน้ำมหาศาลราวกับห่าฝน
โม่ฝานได้เห็นวายุหมุนทอร์นาโดกำลังพุ่งทะยานมาหาเขาอย่างฉับพลัน โม่ฝานเปิดใช้งานบูทโลหิตทันทีอย่างไม่ลังเล!
สีแดงฉานของโลหิตเปล่งประกายออกมากลายเป็นเกราะหุ้มขาของโม่ฝานทันที ในตอนนี้ขาของเขาเต็มไปด้วยพลังงานมหาศาล
เพียงการขยับขาเพียงครั้งเดียวทำให้โม่ฝานกระโดดได้ไกลกว่าสิบเมตร
เขารู้ดีว่าพลังของวายุหมุนทอร์นาโดนี้มหาศาลอย่างยิ่ง ความรุนแรงของมันเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของเขามาแล้ว แต่จุดอ่อนของมันก็คือความเร็ว! หลังจากที่โม่ฝานได้คำนวนทิศทางของพายุตรงหน้าแล้ว เขากระโดดขึ้นไปบนเสาไฟข้างถนนทันที
จากนั้นเขาค่อยกระโดดไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้านข้างค่อยๆเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองให้ออกจากเส้นทางของพายุอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าพายุนั้นไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางของตนเองได้เนื่องจากมันกำลังโอบอุ้มมวลน้ำจำนวนมหาศาลอยู่ เส้นทางที่มันได้ตัดผ่านทั้งหมดกลายเป็นพื้นที่ราบเรียบไปโดยปริยาย ทุกสิ่งถูกทำลายล้างโดยสมบูรณ์
“เด็กคนนี้มันเร็วเกินไปแล้ว!” เงาดำสาปแช่งออกมา
โม่ฝานไม่ได้สนใจเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่แม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าปัญหาใหญ่ของเขาในตอนนี้คือนักเวทธาตุลมระดับมัชฌิม โม่ฝานจะต้องจัดการกับบุคคลผู้นี้ก่อน!
ฉับพลันโม่ฝานพลิกมือของตนอย่างรวดเร็วพร้อมตะหวัดออกไป! สายฟ้าสีม่วงที่เปรียบกับลูกศรได้พุ่งออกไปอย่างเกรี้ยวกราด เป้าหมายของมันคือนักเวทธาตุลมซึ่งเขากำลังร่ายเวทมนตร์อยู่
บนเนินเขานั้นเกิดเสียงสายฟ้าระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มันยังโจมตีเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำอีกด้วย!
หลังจากที่โม่ฝานได้เห็นว่าบุคคลนิรนามผู้นั้นกลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆได้อีก เขาพุ่งออกไปด้านหน้าตรงไปที่ชายนิรนามอย่างรวดเร็ว
มีบอลเพลิงสองลูกกำลังพุ่งมาที่ด้านหน้าของเขาเช่นกันในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามอัคคีกุหลาบของโม่ฝานย่อมไม่เกรงกลัวเปลวไฟธรรมดาพวกนั้นอย่างแน่นอน ความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด โม่ฝานเพียงแค่พยายามหลบเลี่ยงแกนกลางของบอลเพลิงทมิฬเท่านั้นเอง จากนั้นเขาค่อยใช้บูทโลหิตเพื่อพุ่งทะยานไปด้านหน้าให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าเป้าหมายของเขาในตอนนี้คือเนินเขาด้านหน้าอย่างชัดเจน!
“บูทโลหิต!”