จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 209
บทที่ 209: ภารกิจประหลาด!
โม่ฝานรู้สึกว่าถึงตายตอนนี้เขาก็ไม่เสียดายชีวิตแต่อย่างใด ในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสาวสวยมากมาย สายตาของเขาไม่ว่าจะกวาดไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความสดชื่นเบิกบาน
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนยุคเก่าถึงได้ตายไวนัก พวกเขามีอายุเพียงสี่สิบถึงห้าสิบเท่านั้นก่อนที่จะลาลับโลกใบนี้ไป ใครจะรู้ว่าช่วงระยะเวลาที่พวกเขามีชีวิตนั้นจะจำเป็นต้องเสียเลือดเสียเนื้อไปมากมายเท่าไหร่ โม่ฝานในตอนนี้ก็เช่นกันใครเล่าจะรู้ว่าเขาสูญเสียเลือดกำเดาไปแล้วเท่าไหร่ในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ถ้าหากเขาทำตัวแฉกเช่นคนโบราณที่มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปทั่วล่ะก็…
แม้ว่านี่จะเป็นช่วงวันหยุดในฤดูหนาว แต่ทว่าโม่ฝานก็ยังคงอบอุ่นอยู่ในชายคาของเขา
ห้องทั้งเล่นทั้งหมดเต็มไปด้วยพรมหนานุ่ม พวกเขาทั้งหมดไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเปิดฮีตเตอร์เพื่อสร้างความอบอุ่น เพียงแค่นั่งอยู่บนพรมที่นุ่มนิ่มเหล่านี้และเข้าสู่สมาธิก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าจะบรรยายได้แล้ว!
โดยปกติแล้วโม่ฝานจะฝึกฝนธาตุสายฟ้าและธาตุอัญเชิญเมื่ออยู่นอกห้อง ส่วนอีกสองธาตุที่เหลือนั้นเขาจะจัดการฝึกมันเมื่ออยู่ในห้องส่วนตัวเท่านั้น อีกทั้งยังต้องควบคุมออร่าของพลังเวทให้เหมาะสมอีกด้วย
โม่ฝานนั้นตระหนักได้เป็นอย่างดีกว่าเด็กน้อยอ้ายตูตู้นั้นพยายามอย่างมากที่จะล้วงความลับของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาของโม่ฝานแต่อย่างใดแม้ว่าเธอจะพยายามเปิดเผยทรวดทรงองเอวหรือไฟหน้าขนาดสามสิบสี่นั้นก็ไม่ได้ผลอย่างแน่นอน! เมื่อคิดย้อนกลับไปคราวที่ถังหยู่นั้นต้องการจะทำบางสิ่งบางอย่างกับเขาในตอนนั้น เขายังสามารถควบคุมตนเองและหักห้ามใจที่จะไม่หลงใหลไปตามทรวงทรงที่สุดแสนจะเซ็กซี่นั้นเลยแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวได้เพียงไม่นาน มู่หนิวเจี่ยวและอ้ายตูตู้จำเป็นจะต้องกลับไปยังบ้านของตนเอง ซึ่งเวลาเช่นนี้นับได้ว่าเป็นสวรรค์ของโม่ฝานและซินเซียโดยแท้จริง ถ้าหากเขาต้องการอุ้มเธอและล็อกประตูห้อง สิ่งเหล่านี้สามารถกระทำได้โดยง่ายดายโดยไร้สุ้มเสียง!
ความเร็วในการฝึกฝนของซินเซียนั้นไม่ได้ช้าเลยแม้แต่น้อย เปรียบเทียบกับโม่ฝานที่ไม่เคยฟังอะไรเลยในชั้นเรียน ซินเซียยังเต็มไปด้วยความใส่ใจและจริงจังกับการฝึกฝนมากกว่าเขาหลายเท่านัก
ตอนนี้ระดับการฝึกของเธอนั้นใกล้ที่จะเข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว ถ้าหากว่าจี้ทมิฬน้อยนี้สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ล่ะก็… โม่ฝานคงไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อช่วยให้เธอผ่านเข้าสู่ระดับมัชฌิมอย่างแน่นอน
นักเวทธาตุรักษาระดับมัชฌิมนั้นได้รับความนิยมจากกลุ่มนักเวทอย่างมาก ซึ่งหญิงสาวที่อยู่ในสถาบันเมิงจู่ล้วนแต่ได้รับความนิยมสูงสุดในสถาบัน พวกเธอเปรียบเสมือนกับเทวดาผู้พิทักษ์ บวกกับชุดสีขาวและบุคลิคที่ดูอ่อนโยนเหล่านั้นทำให้ความสวยของพวกเธอเพิ่มพูนขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด…
น่าเสียดายที่จี้ทมิฬน้อยนี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่เชื่อมต่อวิญญาณกับมันแล้วเท่านั้น ตามที่ถังหยู่ได้เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ถ้าหากว่ามันไปอยู่ในมือของคนอื่น มันก็จะเป็นเพียงของเก่าที่ไม่น่าสะสมด้วยซ้ำไป
เขาแอบเห็นซินเซียฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจะทะลุผ่านเข้าสู่ระดับมัชฌิมให้ได้ เธอกำลังพยายามจัดการกับละอองดาราเวทมากมายตรงหน้าในช่วงฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ เมื่อโม่ฝานเห็นเช่นนั้นเขาจึงรีบฝึกฝนธาตุสายฟ้าและธาตุไฟไปด้วยเช่นกันและพยายามจะให้อีกสองธาตุนั้นเข้าสู่ระดับต่อไปโดยเร็วด้วยเช่นกัน
ตอนนี้หมัดเพลิงและอสนีบาตมรุธานั้นมาถึงระดับที่เหมาะสมแล้ว พลังทำลายล้างของมันถือว่าไม่หน้าอายเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตามมันยังไม่สามารถต่อกรกับอสูรเวทระดับนักรบได้เลย สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งเกินไป
——
วันหยุดในช่วงฤดูหนาวผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วราวกระพริบตา โม่ฝานนั้นไม่ต้องการที่จะพาซินเซียกลับไปยังสถาบันของเธอเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้เขาก็กำลังจะเข้าสู่ครึ่งหลังของภาคการศึกษาแล้วด้วยเช่นกัน
การต่อสู้คือวิธีการฝึกฝนและเพิ่มความแข็งแกร่งได้รวดเร็วที่สุด โม่ฝานตระหนักถึงมันได้เป็นอย่างดีในทุกครั้งที่การต่อสู้จบลง เนบิวลาของเขาจะขยายตัวออกไปหรือพลังเวทของเขาจะเพิ่มมากขึ้นอยู่เสมอ
ตอนนี้ธาตุสายฟ้าและธาตุไฟของเขายังติดอยู่ในเลเวลหนึ่งของระดับมัชฌิม โม่ฝานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการต่อสู้พวกนี้จะนำพาให้มันไปสู่ระดับต่อไปภายในเวลาที่รวดเร็วกว่านี้!
“เฮ้ หลิงหลิง… ทำไมยังไม่มีภารกิจอะไรให้ทำเลยล่ะ ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว เฮ้อ” โม่ฝานนั่งอยู่ในร้านนมพร้อมกับมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กผู้ที่กำลังเพลิดเพลินกับนมชมพูในมือ
“ก็ถ้ายังไม่มีการว่าจ้าง ก็คือยังไม่มีภารกิจไง ต้องการให้ฉันทำอะไรงั้นเหรอ? เหอะๆ” ใบหน้าของหลิงหลิงเรียบเฉย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้แยแสอะไรกับสถานการณ์เช่นนี้มากนัก
“อ่า หน่วยล่าฉิงเทียนของเธอนี่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในประเทศงั้นเหรอ?”
“อืมมม!” หลิงหลิงยังคงง่วนอยู่กับของกินตรงหน้าอย่างไม่สนใจโม่ฝานต่อไป
จิตใจของโม่ฝานเริ่มจะห่อเหี่ยวโดยพลัน การที่เขาอยู่นิ่งๆสองสามวันทำให้ร่างกายของเขาสนิมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
——
วันนี้ก็ยังคงเป็นวันที่น่าเบื่อเช่นกัน เขาผ่านพ้นวันหนึ่งวันไปด้วยความรู้สึกที่เบื่อหน่าย โม่ฝานนั่งอยู่ที่ริมระเบียงพร้อมกับมองคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มริมทะเลสาปเทียม… อย่างไรก็ตาม โม่ฝานก็ยังคงเบื่อหน่ายอยากมาก การฝึกฝนของเขาอยู่ในสภาวะตีบตันและไม่สามารถก้าวสู่ระดับต่อไปได้เลย
ฉับพลันเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น…
เมื่อเขารู้สึกตัวได้ ร่างกายของเขาตื่นตัวทันที
เสียงนี้คือเบอร์ของหลิงหลิงแน่นอน เพื่อที่เขาจะไม่พลาดการทำภารกิจ เขาจึงตั้งเสียงเรียกเข้าของหลิงหลิงไว้พิเศษอย่างใครอื่น เมื่อเธอโทรมาเขาจะรู้ได้ทันทีว่ามีภารกิจ!
“โม่ฝาน มีงานให้ทำแล้ว!” เสียงของหลิงหลิงดังผ่านสายโทรศัพท์อย่างสดใส
“เยี่ยมเลย คราวนี้เป็นงานแบบไหนงั้นเหรอ?” โม่ฝานถามกลับอย่างเร่งรีบ
“มันค่อนข้างจะซับซ้อนนิดหน่อยน่ะ แต่ทว่าก็ไม่ได้ยากเย็นนักหรอก ตอนนี้นายมาที่หน่วยล่าฉิงเทียนก่อนเถอะ” หลิงหลิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเปล่งๆ
โม่ฝานรู้สึกงุนงงกับการพูดจาของหลิงหลิงอย่างมาก เขานั้นเข้าร่วมกับหน่วยล่าฉิงเทียนมานานกว่าสี่เดือนแล้ว อีกทั้งจัดการกับสิบภารกิจลงไปอย่างง่ายดาย ทุกครั้งหลิงหลิงจะอธิบายมันให้กับโม่ฝานฟังผ่านโทรศัพท์ แต่ทว่าในคราวนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เกิดอะไรขึ้นกันนะ ทำไมหลิงหลิงจึงขอให้เขาเข้าไปที่สำนักงานด้วยล่ะ?
โม่ฝานเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่หน่วยล่าฉิงเทียนในทันที
——
สภาพของหน่วยล่าฉิงเทียนนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย มันยังคงเป็นร้านน้ำชาที่รกร้างและว่างเปล่า ราวกับกำลังจะล้มลายในอีกไม่ช้านี้แล้ว!
หลังจากที่เดินเข้ามาด้านใน ประตูส่งเสียงเอี๊ยดอ้าดลั่นร้าน ภายในนี้ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียวนั่งอยู่เลย
อาวุโสเปานั้นนั่งคาบไปป์อยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ ส่วนหลิงหลิงอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมกับห้อยขาที่ไม่ถึงพื้นของเธออย่างสบายๆ ชุดของเธอในวันนี้คือกระโปรงสั้นและถุงน่องยาว
โม่ฝานเดินเข้ามาหาหลิงหลิงพร้อมถามออกไปทันที “มันคืออะไรนะ?”
“นายดูมันด้วยตัวเองดีกว่า ภารกิจอย่างนี้ฉันก็เพียงจะเคยเห็นมันเป็นครั้งแรกหลังจากทำงานตรงนี้มานานหลายปี” อาวุโสเปากล่าวออกมาพร้อมกับผลักกระดาษรายละเอียดภารกิจให้กับโม่ฝาน
หลิงหลิงไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้น เธอยังคงง่วนอยู่กับการดื่มน้ำผลไม้ตรงหน้าและรอให้โม่ฝานอ่านรายละเอียดให้จบ
โม่ฝานรู้สึกมึนงงกับท่าทีของทุกคนอย่างมาก เขาหยิบกระดาษขึ้นมาพร้อมกับอ่านเสียงดังทันที
“เนื่องจากในตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่กับบางสิ่งอย่างมาก อีกทั้งฉันก็ยังต้องให้คนอื่นมาบอกต่อภารกิจนี้ให้กับคุณอีกด้วย ซึ่งฉันไม่สามารถดำเนินการมันด้วยตนเองได้ ฉันหวังว่าคุณจะส่งนักล่าที่มีประสบการณ์มากพอมาช่วยฉันในการปกป้องความปลอดภัยของใครบางคน ฉันเชื่อในชื่อเสียงของหน่วยล่าฉิงเทียนอย่างมาก! อีกทั้งในตอนนี้ฉันได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของพวกคุณแล้ว…”
เมื่อโม่ฝานอ่านถึงตรงนี้ เขารู้สึกว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรแปลกเลยแม้แต่น้อย เขางุนงงและเงยหน้าขึ้นมาหาอาวุโสเปาและกล่าวว่า “มันก็คือภารกิจบอดี้การ์ดธรรมดา ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลยว่าไหม?”
อาวุโสเปาเคาะไปป์ช้าๆพร้อมกล่าว “ดูชื่อบุคคลที่เขาต้องการให้ไปปกป้องก่อนสิ”
“เป็นคนที่พิเศษมากงั้นเหรอ? มันก็ดูไม่มีอะไรพิเศษมากนัก ก็แค่ต้องไปป้องกัน… บะ-บ้าหน่า นี่มันเรื่องอะไรกัน!!!” โม่ฝานร้องออกมาทันทีเมื่อได้เห็นข้อความบนกระดาษ
สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนเอกสารพร้อมกับขยี้ตาหลายรอบเพื่อตรวจสอบว่าเขาตาฝาดไปรึเปล่า!
“ตอนแรกพวกเราคิดว่านี่เป็นเรื่องตลกเท่านั้น อย่างไรก็ตามเงินได้ถูกโอนเข้าบัญชีแล้วและมันก็ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กๆเลย!” อาวุโสเปากล่าวออกมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน…” ใบหน้าของโม่ฝานเริ่มปรากฏเหงื่อเย็นเชียบผุดขึ้นมาหลังจากเริ่มอ่านเอกสารอย่างถี่ถ้วน
การปกป้องใครบางคนนั้นเป็นภารกิจที่ธรรมดาอย่างมาก โม่ฝานคิดว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดอะไรเลย
แต่ปัญหาก็คือบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองนั้นชื่อโม่ฝาน!
ในตอนแรกโม่ฝานคิดว่าจะมีบุคคลที่ใช้ชื่อเดียวกับเขา อย่างไรก็ตามชื่อของเขานั้นค่อนข้างที่จะหายากและรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขานั้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ แต่สุดท้ายแล้วข้อความในเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “นักเรียนธาตุอัญเชิญ ชื่อโม่ฝาน ศึกษาอยู่ในสถาบันเมิงจู่วิทยาเขตรอง!”
จ้างนักล่าเพื่อที่จะมาปกป้องนักล่า… โม่ฝานรู้สึกประหลาดใจและสมองของเขาไม่อาจคิดได้ว่านี่มันคือเรื่องอะไร
ในตอนแรกโม่ฝานคิดว่าภารกิจจะคล้ายกับคู่สามีภรรยาในกอนหน้านี้ แต่สุดท้ายแล้วสถานการณ์ในตอนนี้มันคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง!