จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 206
บทที่ 206: ครั้งละห้าหมื่น
หนุ่มสวมแว่นและชายที่ดูอ่อนโยนคนนั้นไม่คิดว่าโม่ฝานจะเย่อหยิ่งเช่นนี้ แต่ด้วยสายตาของอ้ายตูตู้ที่กำลังมองมาจากด้านข้างเช่นนั้นพวกเขาจะกล้าแสดงทีท่าอ่อนแอได้อย่างไรกัน? ออร่าเวทมนตร์รอบตัวของพวกเขาไม่คลายลงแม้แต่น้อยเมื่อสถานการณ์เริ่มเลยเถิด!
โดยเฉพาะชายหนุ่มผู้อ่อนโยน แจ็กเก็ตของเขาปลิวสะบัดอย่างรุนแรงจากออร่าเวทมนตร์ในร่างกาย ความโกรธกำลังวิ่งพล่านไปทั่วอย่างไม่หยุดยั้ง
นักเวทธาตุไฟ! นอกจากนี้เขายังเป็นนักเวทธาตุไฟระดับมัชฌิมอีกด้วย!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าเย่อหยิ่งอย่างมาก เมื่อในวิทยาเขตของสถาบันรองแห่งนี้แล้วพวกเขานั้นอยู่เหนือนักเรียนธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน
แต่ปัญหาก็คือโม่ฝานเป็นนักเรียนปกติทั่วไปงั้นเหรอ?
แต่ใครเขาจะรู้ว่าพวกหมาสองตัวนี้มีตาหามีแววไม่ ทั้งสองนั้นไม่รู้ตัวเสียแล้วว่าพวกเขากำลังยั่วยุสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ของสถาบันแห่งนี้อยู่… ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองนั้นยังกล้าปลดปล่อยพลังออกมาอย่างไม่ยอมลดละอีกด้วย พวกเขาเอาความกล้าหาญนี้มาจากไหนกันนะ?
“พวกนายกำลังทำอะไร?”
ในขณะที่ออร่าเวทมนตร์ของพวกเขากำลังพุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง เสียงที่เขร่งขรึมของมู่หนิวเจี่ยวดังขึ้นมาจากชั้นสอง
ชายหนุ่มหน้าหวานนั้นหยุดออร่าเวทมนตร์ทั้งหมดของเขาทันที ใบหน้าของเขามืดมนและโง่งมเมื่อได้เห็นมู่หนิวเจี่ยวที่อยู่ในชุดผ้าฝ้ายสีขาว…
แม้ว่าการแสดงออกของหนุ่มแว่นยังดูคล้ายจะเป็นปกติ แต่ทว่าความปรารถนาก็ยังคงแว่บเข้ามาในดวงตาของเขานั้นตรงกันข้ามกับท่าทีที่แสดงออกมาโดยสิ้นเชิง!
เขามองไปที่มู่หนิวเจี่ยวพร้อมกล่าวออกมาด้วยความสุภาพและอ่อนโยนยิ่ง “ผมชื่อฮานลั่ว การได้พบกับนายหญิงมู่หนิวเจี่ยวที่นี่นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ต้องขออภัยอย่างมากที่พวกเราสร้างความไม่พอใจให้กับคุณ แต่ทว่าเด็กชายที่อยู่ตรงนี้นั้นเป็นคนบ้าอย่างแท้จริง เขากล้าพูดได้อย่างไรว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่! ผมเห็นว่าเด็กคนนี้กำลังหลับใหลและฝันกลางวันอยู่ อีกทั้งการทำเช่นนี้เป็นการดูหมิ่นต่อนายหญิงมู่หนิวเจี่ยวอย่างมาก เช่นนี้ผมจึงต้องการที่จะปลุกเขาขึ้นมาจากฝันสักหน่อย”
แน่นอนว่าออร่าเวทมนตร์นั้นสามารถตรวจจับได้โดยง่าย อีกทั้งสิ่งที่หนุ่มหน้าหวานปลดปล่อยออกมานั้นค่อนข้างรุนแรง มู่หนิวเจี่ยวตรวจจับมันได้อย่างรวดเร็วขณะที่เธออยู่ในห้องของตนเอง
“เป็นเช่นนั้นทั้งหมด เขายังพูดจาหยาบคายกับพวกเราทั้งสองอีกด้วย ตูตู้มันจะเป็นการดีมากถ้าหากว่าคุณไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบุคคลเช่นนี้ในอนาคต” หนุ่มหน้าหวานกล่าวออกมาเรียบๆ
มู่หนิวเจี่ยวมองไปที่อ้ายตูตู้ที่อยู่ด้านล่างพร้อมกับถุงขนมในมือ เร็วเท่าความคิดเธอรู้ทันทีว่าอ้ายตูตู้นั้นกำลังทำอะไรอยู่
เหอะ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรกันล่ะว่าโม่ฝานนั้นอาศัยอยู่ที่นี่?
“เขาอาศัยอยู่ที่นี่ พวกนายสองคนออกไปได้แล้ว เลิกสร้างปัญหาสักที” มู่หนิวเจี่ยวกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
“ห๋า?” ชายหนุ่มทั้งสองมึนงงและโง่เขลาโดยสมบูรณ์
นี่เป็นการเช่าร่วมกันในตำนานงั้นหรือ?
มู่หนิวเจี่ยวและอ้ายตูตู้กำลังเช่าห้องอยู่ร่วมกับผู้ชายงั้นหรือ… ค่าเช่านี้มันแพงสักเท่าไหร่กัน?
ไม่จริง… พวกเธอทั้งคู่จะมาสนใจกับเงินเล็กน้อยเหล่านี้ได้อย่างไรกันล่ะ?!
นอกจากนี้เมื่อมองโม่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว เขาเป็นนักเรียนที่ค่อนข้างยากจนแน่นอน แล้วเช่นนี้เขาจะเอาปัญญาที่ไหนมาเช่าห้องหับราคาแพงเช่นนี้กันล่ะ!
ใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสองนั้นดูก็รู้ว่าเป็นคนร่ำรวย แล้วใครจะสนเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซุกซ่อนอยู่กันล่ะ? ไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาร่วมชายคาเดียวกับมู่หนิวเจี่ยวและอ้ายตูตู้นั้นสมควรที่จะตายสถานเดียวเท่านั้น!
แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทั้งสองไม่คิดที่จะสร้างปัญหาใดๆในสถานที่แห่งนี้ นั่นเป็นเพราะเหตุผลที่พวกเขามาที่นี่เพียงเพราะช่วยหญิงสาวทั้งสองย้ายของเท่านั้น อีกทั้งมันไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องสร้างความทรงจำที่เลวร้ายในการพบเจอกับมู่หนิวเจี่ยวครั้งนี้ด้วย
“ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้น พวกเราทั้งสองขอตัวก่อน เรื่องทั้งหมดนี้เป็นการเข้าใจผิดเท่านั้น” หนุ่มแว่นหันไปตอบกลับด้วยรอยยิ้ม การเปลี่ยนแปลงใบหน้าของเขานั้นรวดเร็วอย่างหาที่เปรียบมิได้
“อืม รีบไปให้พ้นที่พ้นทางสักที ไอ้พวกน่ารำคาญ” โม่ฝานกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่หงุดหงิดอย่างถึงที่สุด
นี่เป็นช่วงบ่ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหลายปีที่ผ่านมาของเขา การนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ได้พังพินาศลงไปเพียงเพราะสุนัขสองตัววิ่งเข้ามาเห่าถึงในห้อง
มุมปากของฮานลั่วนั้นกระตุกเล็กน้อย ใบหน้าของหนุ่มด้านข้างนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเช่นกัน แต่ทว่าทั้งสองนั้นยอมที่จะเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี สายตาแห่งความเกลียดชังและเฝ้ารอการแก้แค้นถูกส่งมาให้โม่ฝานอย่างช่วยไม่ได้
ไอ้เด็กเวร รอก่อนเถอะ!
——-
“ตูตู้ เมื่อไหร่จะเลิกสร้างปัญหาสักที!” มู่หนิวเจี่ยวกล่าวกับเด็กตรงหน้าทันทีหลังจากที่สองคนนั้นเดินออกจากห้องแล้ว
“พี่สาวมู่ ฉันแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าฮานลั่วและเจียเหวินฉิงจะไร้มารยาทเช่นนั้น” อ้ายตูตู้กล่าวออกมาพร้อมกับหยิบมันฝรั่งเข้าปากอย่างไร้เดียงสา
โม่ฝานได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกว่าหมดคำพูดกับอ้ายตูตู้ทันที เช่นนั้นเขาจึงหันไปหาเธอพร้อมกล่าว “เช่าร่วมก็คือเช่าร่วมนะ ฉันไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่ฉันต้องการก็คือเราควรจะมีข้อตกลงกันสักหน่อย”
“ห๋า?” อ้ายตูตู้มึนงงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ในนิยายที่เธอเคยอ่านนั้นมันจะต้องเป็นนางเอกไม่ใช่เหรอที่เป็นคนยื่นข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน แต่ในตอนนี้ปีศาจตัวนี้กำลังสร้างเงื่อนไขกับฉันคนนี้งั้นเหรอ? ผิดบทรึเปล่า?!
“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” มู่หนิวเจี่ยวพยักหน้าพร้อมกับไม่รอให้อ้ายตูตู้ตั้งคำถามอะไรอีก
“ข้อหนึ่ง การที่ใครจะพาคนแปลกหน้าเข้ามาที่นี่นั้นจำเป็นจะต้องได้รับอนุญาตจากเพื่อนร่วมห้องด้วย” โม่ฝานกล่าวขึ้นมาพร้อมชูนิ้วชี้
“แล้วนายคิดว่าพวกฉันจะพาผู้ชายเข้ามานอนด้วยรึไงยะ!” อ้ายตูตู้สวนกลับทันควัน
“พวกเธอไม่มีสิทธิ์เข้าไปในห้องของฉันเด็ดขาด แต่มันก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นอยู่แล้วหล่ะนะ” โม่ฝานกล่าวออกมาพร้อมชูสองนิ้ว
ร่างกายของโม่ฝานนั้นประกอบไปด้วยธาตุทั้งสี่ ถ้าหากว่าอ้ายตูตู้นั้นรู้เห็นเข้าแน่นอนว่าปัญหาใหญ่จะต้องเกิดขึ้นแน่ นี่คือความลับที่โม่ฝานไม่ต้องการให้ใครรู้เลยสักคน ยิ่งรู้น้อยยิ่งดีที่สุด
“นั่นเป็นประโยคที่ฉันควรจะพูดมากกว่าไหม! เฮอะ!” อ้ายตูตู้สวนกลับ
“ข้อสาม ฉันรู้ดีว่าพวกเธอทั้งสองนั้นมีความงามที่เหนือมนุษย์ทั่วไป แน่นอนว่าคงจะมีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาหมายปองพวกเธอแน่ การรังควานเช่นนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอได้พบเจอหรอกนะ ถ้าหากว่าในอนาคตพวกเธอต้องการให้ชายหนุ่มรูปหล่อและแข็งแกร่งอย่างฉันไปทำหน้าที่ไม้กันหมาก็สามารถโทรหาฉันได้ตลอดเวลา ค่าบริการก็ไม่แพงเท่าไหร่ ครั้งละห้าหมื่นหยวนเท่านั้น คนกันเองน่ะนะ!” โม่ฝานกล่าวอย่างชัดเจน
“ทำไมนายไม่ไปออกปล้นชาวบ้านเขาแทนล่ะถ้าจะคิดราคาอย่างนี้? อีกอย่างสำหรับนายนั้นไม่เรียกว่าหล่อหรอกนะ เป็นได้แค่ขนตูดฉันเท่านั้นแหละ!” อ้ายตูตู้กล่าวออกมาอย่างเหลืออดในความมั่นหน้าของโม่ฝาน
“ตูตู้! หยุดพูดจาหยาบคาย!” มู่หนิวเจี่ยวกล่าวเตือน
“ก็เขาเป็นคนไม่มีเหตุผล!”
“และนี่คือข้อตกลงของฉันทั้งหมดในการอยู่ร่วมกับพวกเธอ ถ้าหากว่าวันข้างหน้ามีอะไรเกิดขึ้นอีกล่ะก็… ฉันจะพาพวกเขาขึ้นมาหาเธอเองดีไหมล่ะ? เฮอะ” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา เขาค่อนข้างมีจุดยืนและสายตาที่เฉียบคม
อ้ายตูตู้นั้นค้อนเขาทันควัน จริงอยู่ที่เธอนั้นต้องการจะใช้โม่ฝานเพื่อขับไล่แมลงวันน่ารำคาญสองตัวนั้นออกไป แต่การที่โม่ฝานคิดค่าบริการที่ครั้งละห้าหมื่นหยวนนั้นมันค่อนข้างจะมากไปสักหน่อย! แต่มันก็จริงที่เขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมห้องไม่ใช่คนคอยขับไล่แมลงวันเหล่านี้!
“โม่ฝานนายจะต้องระวังสองคนนี้ให้มาก พวกเขาเป็นลูกหลานของตระกูลขุนนางซึ่งเต็มไปด้วยอิทธิพลอย่างมาก ทั้งสองสามารถทำให้ชีวิตของนายลำบากเพียงแค่ดีดนิ้วเท่านั้น” มู่หนิวเจี่ยวนั้นรู้ดีว่าทั้งสองนั้นอ่อนแอแต่ทว่าอำนาจของพวกเขานั้นไม่อาจดูถูกได้เลย
เหล่าขุนนางที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งมีอยู่ในทุกหนทุกแห่งบนพื้นแผ่นดินนี้ ไม่มีใครที่เต็มไปด้วยความอดทนหรอก พวกเขานั้นพร้อมจะปะทะกับผู้ที่ด้อยกว่าอยู่เสมอ
“เล็กน้อยน่ะ อย่าใส่ใจเลย” โม่ฝานตอบกลับอย่างไม่แยแสใดๆ
ตอนนี้ไม่มีงานจากหน่วยล่าฉิงเทียนเลย ซึ่งเป็นเวลานานมากแล้วที่โม่ฝานไม่ได้ออกไปต่อสู้กับอสูรเวท
ถ้าในอีกวันสองวันนี้เขายังไม่ได้ต่อสู้กับอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าร่างกายของเขาก็คงจะกลายเป็นสนิม เช่นนี้เขาจึงคิดที่จะใช้เหล่าศิษย์ในตระกูลขุนนางเหล่านั้นเพื่อยืดเส้นยืดสายสักหน่อย!
กล่าวก็คือในคราวสุดท้ายที่เขาได้ต่อสู้กับมู่หนิวเจี่ยว เป็นการต่อสู้กับนักเวทครั้งล่าสุดของเขา โม่ฝานไม่ค่อยมีโอกาสได้ต่อสู้กับมนุษย์ด้วยกันสักเท่าไหร่ ซึ่งสิ่งนี้มันจำเป็นอย่างมากในการประลองของสมาคมนักล่าที่กำลังจะจัดขึ้น เขาจำเป็นจะต้องมีการต่อสู้กับนักเวทด้วยกันให้มากกว่านี้เพื่อเก็บประสบการณ์!
“นี่ พ่อปีศาจน้อย นายช่วยลดราคาลงหน่อยได้ไหมล่ะ? ค่าขนมของฉันไม่ได้มากมายนักนะ” อ้ายตูตู้กล่าวออกมาเสียงอ่อย
“เธอจะต้องยอมรับในความสามารถของฉันสักหน่อยนะ ฉันสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน ฉันจะทุบตีพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะไม่เหลือสภาพใดๆให้เหยียบย่ำได้อีก ห้าหมื่นหยวนต่อครั้งนั้นไม่ได้มากมายเลยนะคุณผู้หญิง” โม่ฝานพูดออกมาอย่างจริงจัง สีหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
ในเวลานี้ถ้าหากโม่ฝานนั้นรับภารกิจจากหน่วยล่าฉิงเทียน เขาจะได้รับเงินอย่างต่ำสามแสนหยวนด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าโม่ฝานสามารถแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมได้ เขาจะได้รับภารกิจที่ใหญ่ขึ้นและเงินรางวัลสูงขึ้นอีก!
“เฮอะ ถ้างั้นครั้งนี้ถือว่าไม่นับ มันคือการทดสอบการบริการ อีกอย่างนายรู้ได้ยังไงว่าฉันต้องการให้นายไล่สองคนนั้นออกไป พวกมันน่ารำคาญจริงๆนั่นแหละนะ พวกเขานั้นเปรียบเสมือนกับกำลังสำรองที่น่ากลัวของตระกูล น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถทำให้มันกลายเป็นศัตรูโดยตรงได้เนื่องจากว่าทั้งคู่เป็นลูกของเพื่อนครอบครัวฉันน่ะ”
“มันเป็นเรื่องปกติน่ะ คนหล่อๆอย่างฉันพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ตลอดน่ะแหละนะ”
อ้ายตูตู้ยิ้มแห้งออกมาพร้อมกับเริ่มสาปแช่งความหลงตัวเองของเขาในใจ
หลังจากที่ได้พูดคุยกันเนิ่นนาน อ้ายตูตู้รู้สึกได้ว่าปีศาจตนนี้ไม่มีอะไรที่น่ากลัวอย่างเช่นข่าวลือในสถาบันเลยแม้แต่น้อย นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน… การอยู่กับเขานั้นทำให้เธอรู้สึกสนุกและตื่นเต้นอย่างมาก!
‘ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้ ฉันควรจะบอกเขาดีไหมนะว่ามีคนมากมายต้องการวางแผนที่จะปราบปรามเขาในอนาคตน่ะ?’
‘เฮ้อ ลืมมันไปเถอะ ฉันจะเฝ้ามองความแข็งแกร่งในอนาคตของเขาก่อนแล้วกัน ถ้าหากว่าฉันรู้สึกพอใจในการกระทำของเขาล่ะก็… ฉันก็คงจะบอกเขาสักหน่อยว่ามีใครบางคนวางแผนปราบปรามเขาอยู่นะน่ะ’
‘แต่ทว่าผู้ที่ต้องการจะเอาชนะเขานั้นมากเหลือเกิน ก็ใครใช้ให้เขาทำตัวเย่อหยิ่งเมื่อครั้งการประลองอสูรเวทครั้งนั้นล่ะ? แม้ว่าเขาจะเข้าไปช่วยเหลือผู้คนมากมายในโรงยิมครั้งนั้นยังไม่สามารถลบตราบาปที่เขาสร้างขึ้นมาได้เลยแม้แต่นิดเดียว เฮ้อ!’