จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 164
บทที่ 164: ไร้พ่าย!
ตู้ม!
พื้นเวทีฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทั้งหมดนี้เกิดเป็นพายุที่เกรี้ยวกราด! แม้ว่าสายฟ้านี้จะรวดเร็วและน่าเกรงขามอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้น่าประหลาดใจอย่างเช่นแส่พิฆาต แต่ว่าพลังทำลายล้างของมันนั้นอยู่ในระดับมัชฌิม ซึ่งมันแข็งแกร่งที่สุด! ขณะนี้ถ้าหากไป๋ฉางฟ่งนั้นไร้อุปกรณ์ป้องกันใดๆ แน่นอนว่าร่างกายของเขาจะแหลกสลายเป็นผุยผง!!!
ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายของความสงสัย ปรากฏลำแสงสีทองเปล่งประกายออกมา มันห่อหุ้มร่างกายของไป๋ฉางฟ่งทั้งหมดราวกับเกราะป้องกัน
ไป๋ฉางฟ่งนั้นตื่นขึ้นมาจากความตื่นตระหนก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเรียกอุปกรณ์ป้องกันได้ทันเวลา ท้ายที่สุดแล้วอาจารย์กู่ฮั่นก็สามารถช่วยเหลือเขาไว้ได้อย่างทันท่วงที
ร่างกายของไป๋ฉางฟ่งนั้นยืนพิงเข้ากับกำแพงด้านหลัง พลังแห่งสายฟ้าได้ผ่าลงมาที่ร่างกายของเขาเมื่อครู่ทำให้เกราะทั้งหมดแตกกระจาย ด้วยทักษะการคุ้มครองของธาตุแสงของอาจารย์กู่ฮั่นทำให้เขารอดพ้นชีวิตมาได้แม้ว่าจะมีร่องรอยการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทว่าร่างกายของไป๋ฉางฟ่งทั้งหมดกำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว!!!
“ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!!!” ไป๋ฉางฟ่งยืนขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราดพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโชนในดวงตาของเขา
ทำไมชายคนนี้จึงคิดที่จะโจมตีโดยไม่ให้สัญญาณใดๆเลยล่ะ?
เขาขว้างปาเวทสายฟ้าระดับมัชฌิมอย่างรุนแรงออกมาโดยที่ไม่กล่าวอะไรสักคำ! เดิมทีไป๋ฉางฟ่งนั้นคิดว่าคู่ต่อสู้คนนี้ก็คงจะสามารถใช้เวทระดับมัชฌิมได้เช่นกันหรืออาจจะไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้ต่อสู้กับบุคคลไร้ปากเช่นนี้มาก่อน!
“ออกไปได้แล้ว!” กู่ฮั๋นกล่าวออกมาอย่างไม่มีเหตุผลกับไป๋ฉางฟ่ง ในขณะเดียวกันเขาก็กำลังยืนหายใจหอบหนักอยู่ตรงนั้น
“อะไรนะ? ทำไม? ฉันยังมีอุปกรณ์ป้องกันเวทมนตร์อยู่ ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณช่วยเหลือด้วยซ้ำ! ทั้งหมดนี้คือความผิดพลาดของคุณเอง!” ไป๋ฉางฟ่งตะโกนออกมาอย่างอวดดีและไม่สำนึกใดๆ
เมื่อมองเห็นสายตาของไป๋ฉางฟ่งที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก่อนหน้านี้ กู่ฮั่นกล่าวตอบอย่างเย็นชา “ถ้าหากว่าแกไม่ได้ฉันคนนี้ช่วยชีวิตเอาไว้ แน่นอนว่าแกก็คงจะได้ไปปากดีที่โลกหน้าแล้วหละ! อีกอย่างในขณะที่ศัตรูร่ายเวท เห็นได้ชัดเจนว่าแกไม่ได้ตระเตรียมอุปกรณ์ป้องกันใดๆไว้เลย!!! ไอ้งั่ง!”
“ไร้สาระ! ความเร็วของฉันน่ะ…” ไป๋ฉางฟ่งคำรามออกมาด้วยความโกรธ
ในตอนนี้เขาถูกตัดสินให้พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นเหรอ!?
ใช่แล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ! เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะโยนสายฟ้าระดับมัชฌิมออกมาให้เขาอย่างแม่นยำเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลนี้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถหยิบจับอุปกรณ์ป้องกันได้ทันเวลาหนิ!
“เหลวไหล! ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้! ย้ายก้นของแกออกไปจากสนามซะ!” อย่างไรก็ตามกู่ฮั่นนั้นรู้อยู่แล้วว่าไม่อาจขับไล่ไป๋ฉางฟ่งออกไปได้โดยง่าย เขายกมือขึ้นมาพร้อมกับโบกหนึ่งครั้ง เส้นทางดวงดาวของธาตุลมปรากฏขึ้นบนพื้นในทันที
สายลมรุนแรงพัดกรรโชกเสื้อผ้าของกู่ฮั่นอย่างน่าหวั่นเกรง
เวลาผ่านไปชั่วขณะ อากาศภายในเวทีดูเหมือนกับว่าจะถูกดูดออกไปจนหมดสิ้น ร่างกายของอาจารย์กู่ฮั่นคือศูนย์กลางของพายุนี้ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เด็กชายราวกับปีศาจร้าย กระแสน้ำวนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และองอาจ…
ไป๋ฉางฟ่งเห็นสถานการณ์ย่ำแย่ สีหน้าของเขาซีดเผือกด้วยความหวาดหวั่น ท้ายที่สุดแล้วเขามองโม่ฝานและอาจารย์กู่ฮั่นสลับกันไปมาก่อนที่จะถอดใจเดินลงจากเวทีด้วยความโกรธจัดที่สุมอยู่ในจิตใจ
ในเวลานี้ความหงุดหงิดเข้าครอบงำจิตใจอย่างล้นหลาม เขารู้สึกว่าตนเองไร้ประโยชน์และไม่อาจทำอะไรชายคนนั้นได้เลยแม้ปลายเล็บ!
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโกรธที่สุดคือเขานั้นเชื่อมั่นในอุปกรณ์ของตนเองว่าสามารถช่วยเหลือให้เขารอดพ้นจากสายฟ้าพิโรธเมื่อครู่ได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าปฏิกริยาของอาจารย์ที่ชอบยุ่งคนนั้นกลับรวดเร็วเสียยิ่งกว่าเขางั้นเหรอ!
เขาถูกอาจารย์แทรกแซงในการต่อสู้จนถูกตัดสิทธิ์ แล้วเขาจะสามารถสงบจิตใจลงได้อย่างไรกัน?
—
“อาจารย์กู่ฮั่นแข็งแกร่งมาก!”
“อาจารย์ช่างความอดทนต่ำเหลือเกิน… แต่มาคิดดูเกี่ยวกับสายฟ้านั่นอีกทีแล้วก็…!”
“อสนีระดับมัชฌิม! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ฉันเป็นนักเวทสายฟ้าแท้ๆ แต่ทว่ายังไม่ได้เข้าสู่ระดับมัชฌิมเลย!!! แต่ในตอนนี้นักเวทธาตุอัญเชิญกลับเดินออกไปรอบๆโลกใบนี้และปลดปล่อยสายฟ้าระดับมัชฌิมออกมาได้งั้นเหรอ? บ้า นี่มันบ้าไปแล้ว!?”
เมื่อทุกคนได้เห็นเวทมนตร์สายฟ้าระดับมัชฌิมของโม่ฝาน ความโกลาหลเกิดขึ้นทันทีในหมู่นักเรียนธาตุสายฟ้า!
การปรากฏตัวของอสนีบาตพิโรธนั้นเปรียบเหมือนกับความมืดมนที่ปกคลุมจิตใจของพวกเขาทั้งหมด ซึ่งไม่อาจทำใจยอมรับได้เลย!
ในตอนนี้ปรากฏนักเวทระดับมัชฌิมออกมาอีกหนึ่งคนแล้ว และเขาสามารถใช้เวทมนตร์ระดับมัชฌิมได้ด้วยตนเอง!!!
ชายคนนี้คล้ายคลึงกับหลัวซ่งก่อนหน้านี้มากเกินไป!
หลัวซ่งนั้นเป็นนักเวทธาตุน้ำแข็ง ซึ่งดูเหมือนว่าตรวนน้ำแข็งของเขาจะเลวร้ายอย่างมาก แต่ในฐานะธาตุพื้นฐานทั้งหมด ดูเหมือนว่าธาตุสายฟ้าจะเป็นพลังที่โหดเหี้ยมที่สุด
ไป๋ฉางฟ่งนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบการโจมตีที่ไร้สุ้มเสียงของโม่ฝานแต่อย่างใด ผู้ชมคนอื่นๆก็เช่นกัน พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็นนักเรียนธาตุอัญเชิญปลดปล่อยสายฟ้าระดับมัชฌิมออกมา!
ในตอนนี้ทุกคนเข้าใจทันทีว่าทำไมนักเรียนสาขาอัญเชิญคนนี้จึงกล้าที่จะท้าทายนักเรียนใหม่ทั้งสถาบัน เขาไม่ได้เป็นเพียงนักเวทธาตุอัญเชิญที่สามารถนำพาหมาป่าเวทที่แข็งแกร่งออกมาร่วมต่อสู้ได้เท่านั้น แต่ทว่าเขาเป็นนักเวทระดับมัชฌิมธาตุสายฟ้าที่โหดเหี้ยมและบ้าคลั่ง!
“พลังการต่อสู้ของโม่ฝาน… นักเวทสายฟ้าระดับมัชฌิม… แม้แต่ไป๋ฉางฟ่งก็คงไม่เหมาะสมที่จะสู้กับเขา แม้ว่าจะไม่ถูกตัดสิทธิ์ออกไปก็ตาม! นักเวทสายฟ้าระดับมัชฌิมนั้นแข็งแกร่งเกินกว่านักเวทระดับมัชฌิมธาตุอื่นๆอย่างชัดเจนอยู่แล้ว!!!” ไฮ่ต้าหู่กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่สุดแสนจะประหลาดใจเมื่อได้เห็นโม่ฝานในขณะนี้
ในหมู่ของนักเรียนสาขาอัญเชิญ ทุกคนล้วนแต่ต้องการจะคุกเข่าลงต่อหน้าโม่ฝานในทันทีเมื่อได้เห็นอสนีบาตพิโรธเมื่อครู่ แม้แต่หวังจี่หลิงผู้เย่อหยิ่งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยใบหน้าแห่งความเคารพ!
ทั้งหมดมองไปที่เด็กชายสูงโปร่งด้านบนเวทีประลอง ไม่มีผู้ใดที่กล้าจะท้าทายเขาอีกต่อไป แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกเกลียดชังมากแค่ไหนก็ไม่อาจแสดงออกให้ใครล่วงรู้ได้เลย!!!
“แต่ก็ยังมีบางคนที่เหมือนกับว่าแสวงหาประตูนรกด้วยตัวเอง”
“ก็คงจะไม่สามารถทำอะไรได้มากหรอก อย่างไรก็ตามโม่ฝานก็จะไม่พ่ายแพ้ต่อผู้ใดแน่นอน”
“อีกเพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น ในตอนนี้เขาจัดการไปทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าคนแล้ว…”
“ยังเหลือผู้ท้าชิงอีกสองกลุ่ม เฮ้อ… ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าพวกเขาก้าวขาออกมาทำไมกัน หรือว่าหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นเหมือนกับจ้วงหลีเฟิง? แต่ไม่ว่าพวกเขาจะครอบครองธาตุอะไรก็คงไม่อาจเอาชนะโม่ฝานผู้ที่ถือครองธาตุสายฟ้าระดับมัชฌิมได้หรอก… เฮ้อ”
“โอ้ สวรรค์! ดูเหมือนว่าสาขาของเราจะได้รับทรัพยากรจากนักเรียนทั้งหมดนี้แล้ว!” ไฮ่ต้าหู่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น เขาพลันนึกได้และเริ่มอยู่ไม่สุขในทันที
“พี่ชาย ใจเย็นๆก่อน บางทีพวกเราอาจจะได้เพียงแค่ทรัพยากรในส่วนของเราเท่านั้น นอกนั้นทั้งหมดมันควรจะเป็นของโม่ฝานแต่เพียงผู้เดียว”
เจียงหยุนหมิงพยักหน้าเห็นด้วยกับประโยคนั้น ซึ่งแน่นอนว่าโม่ฝานไม่จำเป็นจะต้องแบ่งทรัพยากรที่เขาแย่งชิงมาได้ให้กับผู้ใดเลย!
——
“หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าคน!” อธิการบดีเซียวกล่าวออกมากับนักเรียนใหม่ทุกคน นี่คือโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาจะรักษาทรัพยากรของตนเองไว้
“ฉันขออธิบายสักนิดหนึ่ง ถ้าหากว่าคุณยังไม่ได้เข้าสู่ระดับมัชฌิมหรือถ้าหากว่าสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้แต่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ระดับกลางได้ ก็จงหยุดอยู่กับที่! แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ดีในการที่พวกคุณจะกล้าหาญและก้าวขาออกมาต่อสู้ แต่ในขณะเดียวกันคุณก็ต้องเข้าใจถึงสถานการณ์และอย่าทำตัวโง่เขลาต่อหน้าผู้อื่นเด็ดขาด! ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นพวกคุณทำตัวเป็นไข่วิ่งพุ่งชนก้อนหินยักษ์!” โจวเจียงฮวาพูดออกมาอย่างไม่แยแสผู้ใด
ในทันทีที่เขาพูดจบ ทั่วทั้งสนามเงียบลงในทันที
—
หลัวซ่งกำหมัดของตนเองอย่างแน่นหนา เขารู้สึกว่าตนเองทำผิดที่เข้าสู่สนามประลองเร็วเกินไป ไม่เช่นนั้นเขาจะเป็นคนลากโม่ฝานลงมาจากเวทีเอง! แต่ในตอนนี้ทรัพยากรของนักเรียนใหม่ทั้งหมดกำลังจะตกเป็นของโม่ฝาน แม้แต่ศิษย์จากตระกูลใหญ่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้!
ในตอนนี้ถ้าหากโม่ฝานได้รับทรัพยากรทั้งหมดนี้ไปแต่เพียงผู้เดียว ช่องว่างระหว่างเขากับโม่ฝานจะเพิ่มทวีมากขึ้นอย่างไม่รู้จบ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขาไม่อาจยอมรับได้!
บัดซบ มันจะไม่มีนักเวทระดับมัชฌิมอีกเลยงั้นเหรอ!!??
เป็นไปไม่ได้… จะต้องมีพวกเขาหลงเหลืออยู่อีกอย่างแน่นอน แต่พวกเขาอาจจะไม่ต้องการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพราะทรัพยากรอันน้อยนิดนั้นแทบจะไร้ประโยชน์สำหรับนักเวทระดับมัชฌิม…
ด้วยสิ่งนี้พวกเขาจะสามารถอดทนต่อการยั่วยุในครั้งนี้ได้งั้นเหรอ??
แม้ว่านักเวทสายฟ้าจะไม่สามารถจัดการได้โดยง่ายดายนัก แต่ทว่าเด็กหนุ่มคนนั้นไร้อุปกรณ์ป้องกันใดๆ แล้วเหตุใดจึงต้องเกรงกลัวเขาด้วยล่ะ?
—
“มีคนขึ้นมาท้าทายเขาแล้ว!”
ฉับพลันมีเสียงตะโกนดังออกมาจากหมู่ผู้ชมบนเก้าอี้รอบๆ เวทีที่เคยเงียบงันพลันเกิดความโกลาหลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อผู้ท้าชิงคนสุดท้ายปรากฏสู่สายตาทุกคน!!!
สายตาของทุกคนได้เห็นหญิงสาวรูปร่างสูงยาว ร่างกายของเธอนั้นมีความโค้งเว้าอย่างได้สัดส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือเธอกล้าหาญที่จะเดินขึ้นมาบนเวทีในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมาก อีกทั้งใบหน้าของเธอสงบนิ่งอย่างไม่อาจคาดเดา!
เพียงไม่นานนัก มีผู้คนเริ่มจดจำใบหน้าของเธอได้พร้อมทั้งเอ่ยชื่อของเธอออกมาด้วยเสียงดังลั่น…
“มู่หนิวเจี่ยว”