จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 161
บทที่ 161: ธาตุพืช!
แน่นอนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งเหล่านี้ โม่ฝานเห็นจำนวนผู้ท้าชิงอยู่ที่ประตูทางเข้ากรง แถวยาวออกไปเป็นหางว่าวและพวกเขาทุกคนมีสีหน้าที่คล้ายคลึงกัน สายตาทุกคนบ่งบอกได้ว่า “ฉันจะฆ่าแก!”
“ชื่อของฉันคือจ้วงหลีเฟิง เป็นศิษย์ของตรงกูลจ้วง ให้พูดตรงๆเลยนะฉันน่ะไม่ชอบขี้หน้าแกตั้งแต่แกมายืนอยู่บนเวทีแห่งนี้แล้ว แกคิดว่าแกน่ะเจ๋งมากงั้นเหรอ? แค่เป็นนักเวทธาตุอัญเชิญน่ะนะ? ในวันนี้ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสความแข็งแกร่งของตระกูลจ้วง!” จ้วงหลีเฟิงกล่าวออกมาขณะที่กำลังก้าวขึ้นมาบนเวทีด้วยจิตสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา
โม่ฝานนั้นรู้สึกได้ว่าหน้าตาของชายหนุ่มคนนี้นั้นไม่เลวเลย แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับแต่มันก็คือความจริง อีกทั้งเขายังประกาศถึงตระกูลของตนเองอีกด้วย เช่นนี้จึงให้ความรู้สึกว่าโม่ฝานควรที่จะให้ความสนใจกับเขาสักหน่อย
แน่นอนว่าปกติแล้วโม่ฝานไม่ได้ตัดสินใครที่คำพูดโอหังเช่นนั้น แต่กับบุคคลนี้เขารู้สึกได้ว่ามันแตกต่างจากคนอื่น… เขาจะต้องไม่ประมาท!
“แกมันบ้า ฉันจะสั่งสอนหมาของแกให้รู้ว่าการทำร้ายคนอื่นนั้นมันไม่ดี!” จ้วงหลีเฟิงม้วนแขนเสื้อขึ้นราวกับนักเลง
หมาป่าเวทนั้นไม่สามารถอดทนต่อการเหยียดหยามจากมนุษย์ได้มากนัก มันเหยียดกรงเล็บอันแข็งแกร่งออกมาเป็นสัญญาณพร้อมที่จะต่อสู้
จ้วงหลีเฟิงนั้นเป็นคนมีความสามารถ เขาเป็นนักเวทธาตุลมที่เต็มไปด้วยความเข้าใจเวทมนตร์ เส้นทางวายุของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนหัวโตเมื่อครู่นี้โดยสิ้นเชิง
เนื่องจากหมาป่าเวทนั้นได้เข้าสู่ระดับที่สามแล้ว จ้วงหลีเฟิงจึงจำเป็นจะต้องใช้เส้นทางวายุระดับสูงสุด เขาวางเส้นทางไว้รอบกรงเหล็กอย่างมั่นเหมาะ ผู้ชมทุกคนต่างพากันเฝ้ามองเขาวิ่งไปมารอบกรงอย่างตื่นเต้น ซึ่งทำให้หมาป่าเวทสามารถทำได้เพียงตะปบแขนของเขาได้แค่ถากๆเท่านั้น
“ยอดเยี่ยมไปเลยจ้วงหลีเฟิง! นายควบคุมทุกอย่างได้เป็นเลิศ!” หญิงสาวธาตุไฟตะโกนออกมาด้วยใบหน้าชื่นชม
“บอลเพลิง ทมิฬ!!” หญิงสาวตะโกนออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับปรากฏลูกบอลเพลิงในมือของเธอ
มันถูกโยนไปที่ร่างกายของหมาป่าเวทอย่างแม่นยำ ก่อนที่หมาป่าเวทจะหลบหนีได้ทัน ฉับพลันเกิดระเบิดขึ้นทันที เปลวไฟที่ดุร้ายนี้ส่งให้ร่างกายของหมาป่าเวทกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร ซึ่งตอนนี้สะเก็ดของเปลวไฟที่โหดเหี้ยมได้กระจัดกระจายอยู่บนพื้นไปทั่วบริเวณ
“อฮู่ววววว!” หมาป่าเวทยืนขึ้นมาอย่างอาจหาญพร้อมกับสะบัดเปลวไฟที่ติดกับขนของมันออกจนหมดสิ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่หมาป่าเวทถูกโจมตี ในตอนแรกที่โม่ฝานเห็นฉากนั้นเขารู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วเขาเห็นสายตาโหดเหี้ยมพร้อมจิตสังหารที่รุนแรงจากหมาป่าน้อยของเขา… เช่นนี้เขาจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
บอลเพลิงทมิฬนั้นไม่สามารถสร้างความบาดเจ็บให้กับหมาป่าเวทที่พัฒนาแล้วได้เลย อีกทั้งตอนนี้ร่างกายของหมาป่าเวทนั้นแข็งแกร่งมากเกินกว่าจะรู้สึกว่าเจ็บปวดใดๆ!
“ไม่ต้องสนใจนักเวทธาตุลม จัดการคนอื่นเลย!” โม่ฝานกล่าวกับหมาป่าเวทผ่านกระแสจิต
หมาป่าเวทตระหนักได้ว่านักเวทธาตุลมคนนั้นค่อนข้างที่จะคล่องแคล่วอย่างมาก เช่นนี้มันจึงรู้สึกว่าการจับตัวเขานั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นสักหน่อย
สายตาของหมาป่าเวทเปลี่ยนไปทันที มันกวาดไปทั่วบริเวณพร้อมกับล็อกเป้าหมายไว้ที่หญิงสาวธาตุไฟ บุคคลที่โยนบอลเพลิงใส่มันเมื่อครู่นี้นั่นเอง
ตรงหน้าของหญิงสาวโชคร้ายคนนั้นไร้การป้องกันโดยสมบูรณ์แบบ หมาป่าเวทวิ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว ภายในพริบตาสถานการณ์ของทีมผู้ท้าชิงย่ำแย่ทันที แม้แต่นักเวทธาตุลมที่รวดเร็วคนนั้นก็ไม่อาจช่วยเหลือเธอได้ทันแน่นอน
“เกลียวเถาวัลย์!”
ในขณะที่หมาป่าเวทอยู่ห่างจากหญิงสาวเพียงยี่สิบเมตรสุดท้าย มันได้ยินเสียงใครบางคนร่ายเวท!
หลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้นบนพื้น เส้นทางที่หมาป่าเวทกำลังวิ่งไปนั้นปรากฏเถาวัลย์แผ่กระจายออกมาเป็นทางยาว
ซึ่งเกลียวเถาวัลย์นี้มีขนาดเท่ากับแขนของมนุษย์ รูปร่างที่เต็มไปด้วยหนามทำให้ดูโหดร้าย อีกทั้งพวกมันยังฉลาดและมีความปราดเปรียวอย่างมาก ในตอนนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของใครบางคน…
หมาป่าเวทนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ในตอนนี้มันมาถึงพื้นที่เถาวัลย์เลื้อย สิ่งกีดขวางที่น่ารำคาญเหล่านั้นพุ่งเข้ามารัดขาทั้งสี่ของมันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ฉับพลันร่างกายของหมาป่าเวทเสียหลักพร้อมกับล้มลงอย่างรุนแรง ฝุ่นกระจายคละคลุ้งทั่วบริเวณพร้อมกับใบหน้าที่ตื่นตระหนกของมัน
“ธาตุพืชงั้นเหรอ??” โม่ฝานรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน สายตาของเขาพุ่งไปที่จ้วงหลีเฟิงทันที
จ้วงหลีเฟิงแสยะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่ชั่วร้ายพร้อมกล่าวต่อ “แกคิดว่าฉันเป็นแค่นักเวทธาตุลมงั้นเหรอ?”
หลังจากที่จ้วงหลีเฟิงเปิดเผยธาตุที่สองของตนเองออกมา ผู้ชมทั้งหมดได้แต่อ้าปากค้างแข็งด้วยความตกใจ
นักเวทระดับมัชฌิมปรากฏขึ้นอีกหนึ่งคนแล้ว!!!
ในครั้งแรกนั้นเขาใช้เวทธาตุลมออกมา ทุกคนจึงเข้าใจว่าเขาคือนักเวทธาตุลม มันคือธาตุแรกที่เขาปลุกขึ้นมาได้
แต่ในตอนนี้เขาใช้เวทธาตุพืช!
ธาตุพืชนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเวทมนตร์ขาว อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในระดับปฐมภูมิ เช่นนี้จึงเป็นที่ชัดเจนว่าจ้วงหลีเฟิงนั้นอยู่ในระดับมัชฌิมแล้วโดยสมบูรณ์ ธาตุพืชเป็นธาตุที่สองที่ถูกปลุกขึ้นมา!!!
แน่นอนว่าโม่ฝานระมัดระวังกับบุคคลนี้ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้าสนามมาแล้ว และนั่นไม่ผิดไปจากที่คาดไว้เลยแม้แต่น้อย ชายคนนี้เข้าสู่ระดับมัชฌิมแล้ว
“ก็ดูน่าสนใจดีนะ แต่น่าเสียดายที่นายดูแตกต่างจากไอ้อ้วนเมื่อครู่อยู่มาก” โม่ฝานกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ใบหน้าของจ้วงหลีเฟิงหุบลงในทันที รอยยิ้มที่ภาคภูมิใจเมื่อครู่เหือดหายไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่านักเรียนธาตุอัญเชิญคนนี้มีอะไรสักอย่างที่เขาไม่อาจล่วงรู้ได้
“สามารถเข้าถึงระดับมัชฌิมได้นับว่ายอดเยี่ยมมาก แต่น่าเสียดายที่นายไม่สามารถสร้างเส้นทางแห่งเนบิวล่าด้วยตัวเองได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะธาตุลมหรือธาตุพืช นายก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ระดับมัชฌิมได้เลย!” โม่ฝานเปิดปากกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส
เดิมทีจ้วงหลีเฟิงนั้นคิดไว้ว่าเมื่อเขาเปิดเผยธาตุที่สองออกมาจะทำให้โม่ฝานรู้สึกเกรงกลัวบ้าง แต่เขานั้นไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าโม่ฝานจะสามารถเดาพื้นเพของเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและหมดจด!
“แค่เวทระดับปฐมภูมิ อย่าเย่อหยิ่งมากซะจนคิดว่ามันจะหยุดหมาป่าเวทของฉันได้!”
สัมผัสวิญญาณของโม่ฝานเชื่อมต่อกับหมาป่าเวทในทันที เขารู้ว่าในตอนนี้จะต้องทำอะไรต่อ!
คาถาเถาวัลย์ในครั้งนี้เป็นเพียงระดับปฐมภูมิเท่านั้น ซึ่งมันเป็นแค่กับดัก ถ้าหากว่าจ้วงหลีเฟิงนั้นใช้คาถาในระดับที่สูงขึ้น เช่นนั้นหมาป่าเวทคงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก…
“ฮู่ววววววว!!” หมาป่าเวทส่งสองคำรามออกมาอย่างรุนแรงในขณะที่พยายามใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อแยกตัวเองออกจากเกลียวเถาวัลย์ที่พัวพันกับขาของมัน
แม้ว่าเกลียวเถาวัลย์จะดูแข็งแรงมากเพียงใด แต่มันยังไม่มากพอที่จะหยุดหมาป่าเวทได้เลย ขณะที่หมาป่าเวทพยายามใช้กำลังของตนเองเพื่อกระชากมันออก ทุกอย่างล้วนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆพร้อมกองอยู่บนพื้นทั่วบริเวณ
เมื่อมันหลุดออกจากพันธนาการทั้งหมด หมาป่าเวทพุ่งออกไปจากบริเวณนั้นในทันที เพราะพื้นที่ตรงนั้นถูกนักเวทน้ำแข็งร่ายเวทไว้อย่างทั่วถึงแล้ว ถ้าหากมันยังยืนหยัดอยู่ตรงนั้นต่อไป ขาทั้งสี่ของมันจะถูกแช่แข็งอีกครั้งแน่นอน!
เมื่อหมาป่าเวทหลุดออกมาจากตรงนั้นได้ เป้าหมายของมันยังคงไม่เปลี่ยนไป นักเวทธาตุไฟคนนั้นคือจุดมุ่งหมายหลักที่มันจะโค่นล้มให้ได้เป็นคนแรก
แม้ว่าหญิงสาวจะพยายามก้าวขาวิ่งก็คงจะไร้ประโยชน์แล้วในตอนนี้ หมาป่าเวทเอาศีรษะของมันพุ่งเข้าชนร่างของเธออย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างกายของเธอบินลอยไปไกลจนชนเข้ากับกรงเหล็ก!
ซึ่งโชคดีอย่างมากที่กรงเหล็กแห่งนี้ถูกสร้างจากเวทมนตร์วารี ไม่เช่นนั้นกระดูกของเธอคงจะหักออกเป็นสองท่อนแล้ว!
หลังจากที่จัดการกับนักเวทธาตุไฟเสร็จสิ้น หมาป่าเวทเปลี่ยนเป้าหมายไปที่นักเวทธาตุน้ำแข็งและแสงอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายแล้วเหลือเพียงจ้วงหลีเฟิงที่ยืนอยู่บนเวทีเท่านั้น
หลังจากที่จ้วงหลีเฟิงเห็นสหายร่วมทีมถูกกำจัดไปอย่างง่ายดาย ความคิดชั่วร้ายได้ก่อเกิดขึ้นมาในจิตใจของเขาทันที
“ไอ้โง่เอ้ย แกคิดว่าฉันต้องต่อสู้กับอสูรอัญเชิญเพียงอย่างเดียวงั้นเหรอ? ถ้าหากนักเวทอัญเชิญไร้ความสามารถที่จะปกป้องตนเอง อสูรเวทแม้จะแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงจะไร้ประโยชน์!!!” จ้วงหลีเฟิงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
ในขณะที่หมาป่าเวทยืนอยู่กลางเวทีและกำลังจัดการกับคนอื่นอยู่ จ้วงหลีเฟิงเปิดเส้นทางวายุของตนเองและพุ่งเป้าไปที่โม่ฝาน!
••••••••••••••••••••