จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 144
บทที่ 144: หมาป่าเวท!
“หลัวซ่ง มาแล้วงั้นเหรอ! มานั่งด้านข้างนี่!” ผู้คุมสอบหัวล้านลุกขึ้นพร้อมกล่าวออกมาอย่างยิ้มแย้ม
เขาเดินไปหาหลัวซ่งพร้อมกับกระซิบ “เด็กน้อยทำไมเธอถึงกล้ามาที่วิทยาลัยเมิงจู่ด้วยท่าทีเช่นนี้ ในตอนนี้เธอจำเป็นจะต้องแข่งขันกับนักเวทธาตุอัญเชิญเชียวนะ!?”
“แล้วทำไมผมจะต้องกังวลด้วยล่ะ?!” หลัวซ่งตอบกลับมาอย่างมั่นใจ ในวันนี้ชัยชนะจะต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน
ผู้คุมสอบเดินกลับไปยังที่นั่งขงอขเพร้อมกับหันหน้าไปทางโม่ฝานที่ยืนเตรียมตัวอยู่
อาวุโสแว่นหนานั้นมาเข้าร่วมตัดสินโม่ฝานด้วยเช่นกัน เขาพบว่าโม่ฝานไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ใดๆมาเลย เขาจึงโพลงออกไปอย่างงุนงง “เธอไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เวทมนตร์ใดๆมาเลยงั้นเหรอ?”
การที่อาวุโสแว่นหนาคนนี้ช่วยพูดให้เลื่อนการสอบออกไปหนึ่งอาทิตย์ก็เพื่อจุดประสงค์ที่ว่าต้องการจะให้โม่ฝานกลับไปพูดคุยกับครอบครัวและจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือมาสำหรับการสอบ เช่นนี้มันจะเพิ่มโอกาสของเขาได้อย่างมาก
แน่นอนว่าอาวุโสแว่นหนาผู้นี้ต้องการที่จะรับนักเรียนธาตุอัญเชิญ แต่เด็กคนนั้นจำเป็นจะต้องพิสูจน์ตนเองด้วยเช่นกัน
“มันแพงเกินไป ผมไม่สามารถจ่ายได้…” โม่ฝานตอบกลับอย่างเถรตรง
โม่ฝานนั้นเข้าใจดีว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีราคาที่สูงมาก ราคาของมันต่ำสุดอยู่ที่สามแสนหยวนจนไปถึงหลักล้าน อีกทั้งโม่ฝานเพิ่งจะมีโล่ห์เคียวกระดูกมาก่อนหน้านี้ แต่สิ่งนั้นก็เพื่อที่จะมีไว้ปกป้องชีวิตของเขา
“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลย!” อาวุโสแว่นหนาไม่กล่าวอะไรต่อ
ในอีกข้างหนึ่ง นายน้อยที่นามว่าหลัวซ่งนั้นไม่สามารถหยุดเสียงหัวเราะของตนเองเอาไว้ได้เลย เขากล่าวกับพ่อบ้านลี่ด้านข้าง “นายลี่ ผู้ชายคนนี้มันน่าสนใจจริงๆ! เขานั้นไม่มีแม้แต่เงินจะสนับสนุนตัวเองที่เป็นนักเวทธาตุอัญเชิญด้วยซ้ำ ถ้าหากเขาต้องการที่จะเรียนรู้ธาตุอื่นๆ มันก็คงจะดีกว่านี้สินะ!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลัวซ่งนั้นมาจากตระกูลใหญ่ ดังนั้นเขาพอที่จะมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง
ธาตุอัญเชิญนั้นเป็นธาตุที่เผาผลาญเงินมากที่สุดในบรรดาธาตุทั้งหมด ความแข็งแกร่งของนักเวทเหล่านี้นั้นเปรียบเทียบกันได้ง่ายมาก บางคนนั้นอ่อนแอราวกับสุนัขข้างถนน บางคนนั้นแข็งแกร่งราวกับปีศาจร้าย แล้วทำอย่างไรจึงจะแข็งแกร่ง? นั่นก็คือเผาผลาญเงินทั้งหมดที่มีซะเพื่อที่จะได้เดินทางในเส้นทางแห่งนี้อย่างเฉิดฉาย!
“เขาเริ่มแล้ว” พ่อบ้านลี่กล่าวออกมาเบาๆ
หลัวซ่งเงียบเสียงลง แต่ภายในใจของเขายังเต็มไปด้วยความสงสัย ครอบครัวต้องยากจนเพียงใดกันถึงกับไม่มีเงินเพียงพอที่จะสนับสนุนบุตรในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ? ของสิ่งนั้นมันแพงแค่ไหนเชียว?
—
โม่ฝานปิดเปลือกตาลงอย่างแช่มช้า จากนั้นเขาเชื่อมต่อละอองดาราทั้งหมดทันที
ละอองดาราของธาตุอัญเชิญนั้นโปร่งใสอย่างมาก ในบางครั้งมันเปล่งแสงราวกับแสงแห่งจันทราออกมาเป็นครั้งคราว โม่ฝานยืนอยู่ในห้องโดยสารของละอองดารา ดวงดาวทั้งหมดเปล่งประกายมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเข้าประจำตำแหน่งอย่างมั่นเหมาะ ทั้งหมดเชื่อมต่อกันเป็นเส้นทางดวงดาวซึ่งรูปร่างของมันคล้ายคลึงกับพระจันทร์เสี้ยว
หลังจากที่เส้นทางดวงดาวปรากฏขึ้น พวกมันทั้งหมดหมุนไปรอบๆร่างกายของโม่ฝาน ลำแสงของมันหมุนไปเรื่อยๆ พร้อมกับเปิดอุโมงค์สู่ฟากฟ้าให้กับเขา…
โม่ฝานเปิดตาขึ้น ภาพที่เห็นทำให้เขารู้สึกลุ่มลึกในภวังค์อย่างมาก เขากำลังเดินทางไปในโลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ผู้คุมสอบทุกคนกำลังจับจ้องเขาด้วยแววตาที่เป็นประกายอย่างมุ่งหวัง
ปลายทางของอุโมงค์สีดำนี้มีประตูมิติจันทราตั้งอยู่ โม่ฝานรู้สึกว่าเขาได้ผ่านเส้นทางที่คับแคบอย่างมากและทะลุออกมาอีกโลกหนึ่งอย่างรวดเร็ว โลกใบใหม่ที่แปลกตาปรากฏสู่สายตาของเขาอย่างแจ่มชัด
ทั้งหมดนี้ราวกับเป็นภาพลวงตา พวกมันปรากฏขึ้นจากที่ห่างไกลออกไป เขากำลังจับจ้องทิวทัศน์ที่สวยงามเหล่านั้นอย่างเงียบเชียบ ทุกสิ่งอย่างสวยงามราวกับภาพในความฝัน!
“จงอย่าลืมใช้ความตั้งใจของเธอเพื่อปราบปรามอสูรที่เธออยากเลือก!” เสียงของอาวุโสแว่นหนาดังขึ้นภายในจิตใจของโม่ฝานอย่างชัดเจน นี่ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยก่อนที่จะฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว
โม่ฝานตระหนักได้ทันทีว่าเวลาที่เขาจะได้อยู่ในมิติอัญเชิญนี้มีจำกัดมาก ถ้าหากว่าเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่าง ทุกสิ่งจะล้มเหลวทันที!
เพียงแค่โม่ฝานคิดว่าเขาจะย้ายตำแหน่งของตนเอง ภาพตรงหน้าของเขาถูกสับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันแห่งใหม่ สิ่งมีชีวิตมากมายกำลังวิ่งผ่านเขาไป ภาพทุกอย่างถูกสับเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน จนถึงเวลานี้เส้นขอบฟ้าก็ยังไม่ชัดเจนในสายตาของเขา ทุกอย่างเคลื่อนไหวเร็วเกินไป!
อู๊ววววววววว~
ทันใดนั้น เงาสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นบนยอดเขาสูงอันเงียบสงบ มันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับส่งเสียงดังขึ้นสู่ฟากฟ้าอย่างน่าเกรงขาม
โม่ฝานมองไปเห็นหมาป่าเวท… ใบหน้าของเขาเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นเต้นทันที
‘ต้องเป็นแกแล้วหละ!’
เพียงแค่ความตั้งใจของเขา เพียงชั่วพริบตามันกลายเป็นเชือกที่หล่นลงมาจากฟ้ารัดกุมหมาป่าเวทที่ไร้การป้องกันไว้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่เขากำลังพยายามดึงมันอย่างสุดความสามารถ เชือกนั้นได้หลุดออกจากอสูรตนนั้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตามโม่ฝานได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว เขาเตรียมเชือกอีกเส้นไว้ที่หน้าผา จากนั้นมันพุ่งเข้าไปรัดกุมที่คอของหมาป่าเวททันที เขามีความตั้งที่จะนำพามันออกไปจากที่นี่ด้วยกัน!
แน่นอนว่าหมาป่าเวทตนนี้ไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ต่อโม่ฝาน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า ร่างกายของมันราวกับไร้การควบคุม ดวงจิตของมันถูกสะกดไว้จากบางสิ่งที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลย
“เธอจะต้องแสดงความเป็นมิตรกับมัน จงจำไว้ให้ดีกว่าเธอกับอสูรอัญเชิญนั้นมิใช่เจ้านายหรือทาสรับใช้ต่อกัน เธอจำเป็นจะต้องใช้มิติอีกด้านของโลกใบนี้เพื่อให้พวกเขามาช่วยเหลือตนในการต่อสู้ ดังนั้นเธอจะต้องบรรลุการนี้ด้วยการผูกมิตร มิใช่ข่มเหง…” เสียงของอาวุโสแว่นหนาดังขึ้นอีกครั้ง เขาเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก ในตอนนี้แม้ว่าโม่ฝานจะยังไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่เขาก็ช่วยเหลือโม่ฝานในทุกทางที่จะทำได้
โม่ฝานตระหนักได้ถึงความหมายที่อาวุโสต้องการจะสื่อ ดังนั้นเขาจึงเลิกที่ข่มเหงอสูรเวทตนนี้ทันที แต่ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของมันอย่างช้าๆแทน
ในทุกๆครั้งที่เขาพยายามจะแทรกซึมจิตวิญญาณเข้าไป มันจำเป็นจะต้องใช้พลังงานเวทจำนวนมาก แม้ว่าทักษะของโม่ฝานจะเดินทางมาถึงระดับสามแล้ว แต่มันก็ยังล้มเหลวอยู่หลายครั้งเช่นกัน
ตามที่ถังหยู่ได้กล่าวแนะนำไว้ในตอนต้น เมื่อใดที่สามารถประทับตราวิญญาณบนร่างกายของอสูรเวทได้แล้ว เมื่อนั้นคือการอัญเชิญสำเร็จ!
การประทับตราวิญญาณครั้งแรกนั้นล้มเหลวโดยสมบูรณ์ นั่นอาจเป็นเพราะโม่ฝานคิดที่จะใช้เชือกข่มเหงหมาป่าเวทและลักพาตัวมันไปโดยที่มันไม่ยินยอม
ในครั้งที่สอง โม่ฝานเปลี่ยนตราประทับวิญญาณของเขาให้กลายเป็นลำแสงจางๆ ค่อยๆห้อมล้อมร่างกายของอสูรเวทเอาไว้อย่างแผ่วเบาและเป็นมิตรที่สุด แต่ทว่าร่างกายของอสูรตนนั้นก็ยังคงต่อต้านเขาอยู่ แต่ไม่มากเท่าครั้งแรก
สุดท้ายแล้วหมาป่าเวทตอบสนองกับเขาได้อย่างดีเยี่ยม มันตอบสนองการเกลี้ยกล่อม ซึ่งไม่ใช่การข่มเหงอย่างเช่นที่อาวุโสได้แนะนำไว้!
ไม่กี่วินาทีต่อมา ตราประทับวิญญาณปรากฏขึ้นที่หน้าผากของหมาป่าเวทตนนั้น…
ตราประทับนี้แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างอสูรกับมนุษย์ เมื่อโม่ฝานทำทุกสิ่งสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว เขารีบดึงจิตของตนเองเพื่อกลับไปสู่สนามฝึกซ้อมอย่างรวดเร็ว
โม่ฝานเปิดเปลือกตาขึ้นมาและเห็นว่าผู้คุมสอบหัวล้านนั้นกำลังยกแก้วชาใกล้จะถึงริมฝีปากแล้ว…
ในตอนแรกนั้นก่อนที่โม่ฝานจะปิดเปลือกตาลง ผู้คุมสอบหัวล้านนั้นเพียงแค่หยิบแก้วชาเท่านั้น เขายังไม่ได้ยกมันขึ้นมา…
ในอีกมิติหนึ่งเขารู้สึกราวกับว่าเนิ่นนานอย่างมากที่ได้จากโลกใบนี้ไป แต่อย่างไรก็ตามเวลาแห่งความเป็นจริงนั้นเดินช้ากว่ามากโข
เส้นทางแห่งจันทรานั้นยังไม่ได้หายไป มันหมุนไปรอบๆพื้นที่กว้างพร้อมกับกลายเป็นประตูมิติจันทราเปิดออกมา เพื่อส่งหมาป่าเวทที่กำลังอยากรู้อยากเห็นออกมาที่โลกใบนี้ หมาป่าเวทนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่และตื่นเต้นอย่างมาก ร่างกายของมันสั่นเทาเล็กน้อยพร้อมกับดวงตาที่ล่อกแล่กตลอดเวลา…
ในทันทีที่มันเห็นโม่ฝานแล้ว ทุกอย่างก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว
มันเดินออกจากประตูมิติจันทราอย่างเชื่องช้า พร้อมกับค่อยๆเดินไปยืนหยุดอยู่ข้างๆโม่ฝานอย่างเต็มใจ สายตาสีน้ำเงินที่แหลมคมของมันเริ่มกวาดไปรอบๆบริเวณอย่างระมัดระวัง
—
“หมาป่าเวทงั้นเหรอ??? เขาจะสามารถเรียกหมาป่าเวทในการอัญเชิญครั้งแรกได้อย่างไรกัน!!!” ดวงตาของผู้คุมสอบหัวล้านเบิกโพลงพร้อมกับอุทานออกมาเสียงดัง!
••••••••••••••••••••
คิดถึงทุกคนนนนน เริ่มมันส์แระๆ
••••••••••••••••••••