จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 142
บทที่ 142: มิติอัญเชิญ
ตื้ด… ตื้ดดด…
ตื้ด… ตื้ดดด…
ตื้ด… ตื้ดดด…
ตื้ด… ตื้ดดด…
“ถังหยู่~~~”
“มีอะไร?!”
“คุณพอจะรู้อะไรเกี่ยวกับธาตุอัญเชิญบ้างไหม?”
“นิดหน่อย…”
“เยี่ยมไปเลย! ผมมีแผนที่จะใช้ธาตุอัญเชิญเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหมิงจู่ ซึ่งในตอนนี้หนังสือเกี่ยวกับธาตุอัญเชิญในตลาดนั้นมีอยู่น้อยมาก ดังนั้นผมก็เลยต้องการจะมาขอความรู้จากอาจารย์สุดที่รักของผมแทน” โม่ฝานกล่าวออกมาอย่างหยอกล้อ
ถังหยู่รู้สึกได้ทันทีว่าโม่ฝานนั้นกำลังยียวนเธอเล็กน้อยจากน้ำเสียงที่ร่าเริงเกินเหตุของเขา
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร ตอนนี้ถังหยู่รู้สึกแปลกใจมากกว่ากับเรื่องที่โม่ฝานปลุกธาตุอัญเชิญขึ้นมา…
“เธออยู่ที่ไหน?” ถังหยู่ถามกลับตรงๆ
“ผมอยู่ที่… อ่า ลืมมันไปเถอะ ผมไปหาคุณเองดีกว่า อย่างนี้ดีไหม?” โม่ฝานก็ไม่อ้อมค้อมเช่นกัน
“งั้นเธอมาพบฉันที่ทะเลสาปซีหู”
——
ที่พักของโม่ฝานนั้นอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน เช่นนี้เขาจึงสามารถเดินทางเข้าเมืองกวางโจวได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังนั่งรถไฟไปยั่งทะเลสาปซีหู เขาอดไม่ได้ที่จะคิดพึมพำกับตนเอง ถ้าหากว่าเขาสามารถอัญเชิญอสูรร้ายออกมาได้สำเร็จและสามารถควบคุมมันได้โดยสมบูรณ์แบบ เช่นนี้จะหมายความว่าเขานั้นมียานพาหนะส่วนตัวหรือไม่?
สิ่งที่บุรุษทั้งหลายชื่นชอบนั้นล้วนแต่เป็นรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว ออดี้ หรือแลนด์โรลเวอร์? หรือแม้แต่เบนซ์ แม้ว่าจะครอบครองรถยนต์หรูหราเหล่านั้นได้ แต่มันก็ยังไม่อิสระและเต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งดั่งเช่นเหล่าอสูรเวท!
—
ในที่สุดโม่ฝานก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่เขาได้นัดหมายกับถังหยู่ไว้ มันคือสถานที่ที่ดีที่สุด ห้องพักระดับหรูอยู่บนชั้นสูงสุด ระเบียงของมันยื่นออกมาและสามารถทอดสายตาครอบคลุมทะเลสาปซีหูได้อย่างชัดเจน
อพาร์ทเม้นต์นี้เต็มไปด้วยแสงสว่างเรืองรอง มีต้นไม้ ดอกไม้รายล้อมอยู่ทุกทิศทาง อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมเต็มไปด้วยความสวยงามไม่อาจละสายตา เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับห้องพักง่อยๆของเขาแล้ว โม่ฝานทำได้เพียงถอนหายใจพร้อมติดกับตนเองว่า ‘ความยากจนมันเป็นปัญหาใหญ่เกินไปแล้ว หลังจากฉันเข้ามหาวิทยาลัยได้ ฉันคงต้องหางานทำสักหน่อยแล้วหละ!’
……
ภายในห้องหนึ่ง ถังหยู่นั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอกำลังจดจ้องใบหน้าของตนเองและไตร่ตรองว่าจะใช้ลิปสติกสีแดงสดเพื่อให้ดูเฉียบหรือว่าจะใช้สีชมพูอ่อนเพื่อให้ดูอ่อนโยนดี…
การแต่งหน้าเบาๆในวันสบายเช่นนี้เป็นเรื่องปกติอย่างมาก อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เธอกับเขาบดขยี้ริมฝีปากกันบนรถแท็กซี่ยังไม่จางหายไปจากศีรษะของเธอแม้แต่น้อย เมื่อภาพนั้นลอยขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
‘นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ก็ตอนแรกฉันตัดสินใจแล้วหนิว่าจะไม่พบเจอกับเขาอีกต่อไป!’
แม้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะผ่านมาเป็นปีแล้ว แต่การได้พบกับโม่ฝานอีกครั้งทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
‘ลืมมันไปดีกว่า คนอื่นๆนั้นสามารถพบเจอกับแฟนเก่าได้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งสำหรับฉันแล้วไม่มีแม้แต่คำว่าแฟนด้วยซ้ำ ทำไมฉันจะต้องเก็บมาคิดวุ่นวายด้วยล่ะ…’
หลังจากเรื่องนั้นได้เกิดขึ้น เธอกักขังตนเองอยู่ในห้องนี้ยาวนานเป็นปีเพื่อฝึกฝน ซึ่งในตอนนี้ถ้าจะมีใครสักคนมาเดินเล่นกับเธอที่ทะเลสาปซีหูก็คงจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนักหรอก!
—
โม่ฝานนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้อย่างใจจดจ่อ ท้ายที่สุดเขาก็พบกับหญิงสาวรูปร่างสูงเพรียว ร่างกายที่ชวนมองนั้นกำลังเดินมาหาเขาอย่างกระฉับกระเฉง ความงดงามของเธอไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย เขาไม่ได้พบเธอมานานร่วมปี แต่ในวันนี้เธอยังคงทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้เช่นเดิม
‘อิอิ ถ้าหากเหล่าเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมหลายได้รู้ว่าฉันกับถังหยู่ใกล้ชิดกันมากแค่ไหน รับรองได้ว่าพวกเขาจะต้องอกแตกตายเพราะความอิจฉา…’
“ออกไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ ธาตุอัญเชิญนั้นเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างซับซ้อนมาก ฉันจะพยายามอธิบายให้เธอฟังช้าๆ” ถังหยู่กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มที่ติดขัดเล็กน้อย
โม่ฝานรู้สึกได้ว่าถังหยู่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงอารมณ์ดี…
หญิงสาวที่โตแล้วมักจะมีรสนิยมที่ยอดเยี่ยมเสมอ การวางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญและคุมเกมส์มันทำให้เธอยิ่งดูฉลาดและไม่น่าเบื่อ
“อืม ตั้งแต่มาที่นี่ผมก็ยังไม่เคยเดินเล่นรอบๆกวางโจวเลย” โม่ฝานตอบรับอย่างรวดเร็ว
โม่ฝานนั้นเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ก่อนที่จะอายุครบสิบแปดปีเขาไม่เคยไปที่ไหนเลยนอกจากโรงเรียน
พวกเขาทั้งสองเดินเลาะริมขอบทะเลสาปซีหูไปเรื่อยๆ ผู้คนมากมายก็กำลังเดินเล่นอยู่ในบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดฤดูร้อน หลายคนจึงพาครอบครัวออกมาสูดอากาศด้านนอก
ทั้งสองยืนดูพระอาทิตย์กำลังจะลาลับไป แสงแดดอ่อนๆกระทบกับผิวน้ำปรากฏเป็นเงาสะท้อนระยิบระยับออกมา ทิวทัศน์ที่ได้จับจ้องในตอนนี้ดูสวยงามราวกับภาพวาด สายตาของโม่ฝานจับจ้องที่ทิวทัศน์ตรงหน้าพร้อมกับชำเลืองมองหญิงสาวข้างกายที่ดูจะน่าสนใจกว่าทะเลสาป ความสุขเล็กน้อยปรากฏขึ้นในหัวใจของทั้งสองคนอย่างรวดเร็วเพียงแค่การยืนเคียงข้างกันเพื่อดูพระอาทิตย์ตก!
ถังหยู่นั้นโดดเด่นและดึงดูดสายตาของผู้คนโดยรอบได้อย่างแท้จริง ผู้คนจำนวนมากจับจ้องที่ร่างกายของเธออย่างไม่วางตา โม่ฝานรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งเหล่านี้อย่างมากทำให้ร่างกายของเขายืดตรงขึ้นอย่างภูมิใจ การที่มีคนจำนวนมากกำลังกรีดร้องอย่างอิจฉานั้นทำให้โม่ฝานรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจอย่างถึงที่สุด!
ทั้งสองนั้นไม่ได้คุยกันเกี่ยวกับสาระสำคัญในทันที พวกเขาพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และสถานการณ์ปัจจุบันของตนเองเล็กน้อย ก่อนที่จะย้ายหัวข้อการสนทนาเป็นธาตุอัญเชิญในที่สุด
“ธาตุอัญเชิญนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นพลังที่ไร้ความเสถียรมากที่สุดแล้วในบรรดาธาตุทั้งหมด ถ้าหากว่าเธอสามารถใช้มันได้อย่างเต็มกำลังและควบคุมได้ทั้งหมด แน่นอนว่าเธอจะกลายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือเป็นอมตะก็ย่อมได้ แต่ถ้าหากเธอไม่สามารถจัดการกับธาตุอัญเชิญนี้ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการจูงหมาเดินไปเดินมาบนถนนเท่านั้น” ถังหยู่เปิดประเด็นขึ้นมา
โม่ฝานพยักหน้ารับ ซึ่งมันตรงกับสิ่งที่อาวุโสแว่นหนาได้กล่าวไว้กับเขาก่อนหน้านี้
เมื่อคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนโม่ฝานก็เห็นว่าเป็นจริงเช่นนั้น ในด้านของการต่อสู้นั้นนักเวทระดับปฐมภูมิจัดการอสูรเวทระดับต่ำได้ ถ้าหากว่าอสูรเวทแข็งแกร่งขึ้นไปอีก นักเวทระดับปฐมภูมินั้นจำเป็นจะต้องจัดตั้งทีมขึ้นมาเพื่อจัดการกับพวกมัน
แต่ถ้าหากว่าเป็นนักเวทอัญเชิญ พวกเขาจะสามารถเรียกอสูรเวทที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับศัตรูออกมาได้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะหมายความว่าพลังการต่อสู้ของเขานั้นเทียบเท่ากับกลุ่มนักเวทระดับปฐมภูมิ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นักเวทสายอัญเชิญนั้นน่าเกรงกลัวเสียยิ่งกว่านักเวทสายฟ้า
“มิติอัญเชิญซึ่งเป็นคาถาหลักของธาตุอัญเชิญ มันเต็มไปด้วยความผกผันมากมาย เมื่อเธอเปิดการใช้งานมัน เธอจะเข้าไปสู่โลกคู่ขนานอีกโลกหนึ่งซึ่งไม่มีใครรู้จัก ในสถานที่แห่งนั้นจะเต็มไปด้วยอสูรเวทมากมาย ซึ่งเธอจำเป็นจะต้องจัดการกับพวกมันให้เร็วที่สุด” ถังหยู่อธิบายต่อ
“เข้าสู่โลกอื่นงั้นเหรอ?” โม่ฝานมึนงงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“โลกใบนี้ไม่เคยเดียวดาย ฉันเคยได้ยินนักเวทระดับสูงพูดคุยกันเกี่ยวกับโลกอื่นๆ มีโลกที่ลึกลับซับซ้อนมากมายอยู่รอบๆโลกของเรา ซึ่งจำเป็นต้องใช้บางสิ่งบางอย่างเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปในพื้นที่เหล่านั้นได้ แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเธอหรอก แต่สิ่งที่อยู่ใกล้กับเราที่สุดนั้นมีอยู่แล้ว ซึ่งเธอก็คงจะเข้าใจในสักวัน” ถังหยู่กล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้นัก
อย่างไรก็ตามในหัวของโม่ฝานตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายโดยสมบูรณ์ ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นเพียงชายคนหนึ่งที่มาจากโลกอื่นนั่นเองเหรอ!
“ในขณะที่เธอร่ายเวทมิติอัญเชิญแล้ว เธอจะเข้าสู่โลกอีกใบซึ่งต่างจากโลกใบนี้โดยสิ้นเชิง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมธาตุอัญเชิญจึงเต็มไปด้วยความแปรปรวนเอาแน่นอนไม่ได้ เธอจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเธอจะพบเจอกับโลกแบบไหนเมื่อร่ายเวทมิติอัญเชิญครั้งแรก” ถังหยู่กล่าวกระชับ
“ผมได้ยินมาว่าการใช้คาถามิติอัญเชิญนั้นคล้ายกับการวิ่งเข้าไปในสวนสัตว์ขนาดใหญ่และทำการจับกุมพวกมันแบบสุ่ม ดังนั้นผมก็สามารถจับหนูหรือสิงโตก็ได้อย่างนั้นเหรอ?” โม่ฝานถาม
ถังหยู่เผยรอยยิ้มจางออกมาพร้อมพยักหน้าช้าๆ “อาจจะเป็นเช่นนั้น”
“น่าสนใจมาก!” โม่ฝานอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
ตัวแปรของธาตุอัญเชิญนั้นซับซ้อนและไม่มั่นคงเช่นธาตุอื่น อย่างไรก็ตามโม่ฝานก็ยังรู้สึกตื่นเต้นและสนใจมันอย่างมากอยู่ดี
“ในตอนนี้เธออยู่ในระดับมัชฌิม แน่นอนว่าเธอจะได้พบกับอสูรเวทที่แข็งแกร่ง” ถังหยู่กล่าวออกมา
“เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งงั้นเหรอ?”
“อืมมม ถ้าหากว่าเธอดึงพลังของคาถาหลักออกมาได้เต็มที่ การใช้คาถามิติอัญเชิญนั้นจะทำให้เธอแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่านักเวทระดับสูงเชียว!”
••••••••••••••••••••
เหนื่อยเลย วันแดงเดือด เพิ่งฟื้นจ้าโดนยาไปหลายเม็ด คิดถึงมาก แปลยากมากด้วยตอนนี้555
••••••••••••••••••••