จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 139
บทที่ 139: ธาตุทั้งสี่!
ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีสี!
โม่ฝานตรวจสอบธาตุที่โผล่มาใหม่อย่างรอบคอบพร้อมกับพบว่ามันไม่มีสีสันใดๆ!
มันโปร่งใส!
เหตุผลที่เขาสามารถมองเห็นมันได้เพราะภายในโลกวิญญาณของตนตอนนี้นั้นวุ่นวายเหลือเกิน อย่างไรก็ตามมันใกล้เคียงกับคำว่าล่องหนที่สุด! ถ้าหากว่าจะให้อธิบายด้วยดี ก็คงจะบอกว่าสีของมันคล้ายกับแสงที่เปล่งออกมาจากดวงจันทร์!
มันคือธาตุอะไร?!?
โม่ฝานกำลังสับสนและรู้สึกวุ่นวายอย่างมากว่าสิ่งนี้คืออะไร
—
“เสร็จหรือยัง?” เด็กฝึกงานเซียวเหมินเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับคำถาม เธอเห็นว่าโม่ฝานนั้นปลุกพลังเวทเป็นเวลานานเกินไป ดังนั้นเธอจึงเดินเข้ามาด้านในอย่างถือวิสาสะ
“ถ้าหากว่าเสร็จแล้ว ก็ออกไปได้แล้ว เพราะว่าหลังจากนี้จะมีนักเวทจากสมาพันธ์นิติบัญญัติมาเพื่อปลุกพลังเวท อย่าได้ถ่วงเวลา… เอ๋? ทำไมธาตุที่นายปลุกขึ้นมาถึงไม่มีสีล่ะ?” เซียวเหมินมองไปที่หินปลุกพลังเวทด้วยความประหลาดใจทันที
ในอีกด้านของห้องนี้ กัวลี่ยุ่นยืนขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องที่ประหลาดใจของศิษย์ตนเอง เขาวิ่งมาที่หินปลุกพลังเวททันทีด้วยความรวดเร็ว
เมื่อเขาได้เห็นว่าหินปลุกพลังเวทนั้นไร้สีสันใดๆ อีกทั้งสีของมันยังโปรงแสงราวกับแสงของจันทรา ยิ่งทำให้ใบหน้าของเขาแสดงความประหลาดใจพร้อมกับตกใจทันที
‘เรื่องนี้มัน… เด็กคนนี้จำเป็นจะต้องโชคดีแค่ไหนกันนะ?! เขาสามารถปลุกธาตุอัญเชิญขึ้นมาได้งั้นเหรอ!’
คนส่วนใหญ่มักจะปลุกธาตุพื้นฐานขึ้นมาในครั้งแรก สำหรับการที่นักเวทจะสามารถปลุกเวทมนตร์ขาว เวทมนตร์ดำหรือเวทมนตร์มิติขึ้นมาได้นั้นล้วนแต่เป็นความประสงค์ของพระเจ้าเท่านั้น หลังจากที่สามารถปลุกธาตุประจำตนขึ้นมาได้แล้ว พวกเขาจะใช้เวลายาวนานเพื่อฝึกฝนมัน
เดิมทีกัวลี่ยุ่นคิดว่าถ้าหากเด็กคนนี้สามารถปลุกธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้ เขาจะสามารถเดินกลับบ้านด้วยเกียรติและความภาคภูมิใจ แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าเขาอยากจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นธาตุมืดในนาทีสุดท้าย แต่ในขณะที่มันล้มเหลว เขากลับสามารถเรียกธาตุแห่งการเรียกออกมาได้!
ตามกฏแห่งสวรรค์ ธาตุที่มักจะตื่นขึ้นมาในครั้งแรกล้วนแต่เป็นธาตุพื้นฐานทั่วไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้น้อยที่สุดนั้นมักจะเป็นเวทมนตร์ดำหรือขาวและน้อยยิ่งกว่านั้นก็คือเวทมนตร์มิติ
แต่เวทที่สามารถปลุกธาตุอัญเชิญขึ้นมาได้ครั้งแรกพวกเขาจะได้รับผลประโยชน์จากไร้ขีดจำกัดจากสิ่งนี้ ซึ่งความจำกัดของนักเวทเหล่านี้นั้นถูกบีบไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาหาได้ยากและจะกลายเป็นนักเวทล้ำค่าทันที
“มันคือธาตุอัญเชิญ… เฮอะ เด็กน้อย หนึ่งแสนหยวนที่ครอบครัวจ่ายออกมานั้นย่อมไม่สูญเปล่าโดยแท้จริง!” มุมปากของกัวลี่ยุ่นกระตุกเล็กน้อยก่อนกล่าวออกมาพร้อมจ้องเขม็งไปที่โม่ฝาน
ขากรรไกรของโม่ฝานค้างเติ่งอยู่แบบนั้นพร้อมกับสีหน้าตกใจในขณะที่จับจ้องที่กัวลี่ยุ่น
ธาตุอัญเชิญ…. มันเป็นสายอัญเชิญอย่างแท้จริง!
แม้กระทั่งในทุกวันนี้โม่ฝานยังไม่สามารถลืมเลือนภาพที่หัวหน้ากองทัพจ้านคงอัญเชิญเหยี่ยวเงินออกมาและบินผ่านท้องฟ้าไปอย่างสง่างามได้เลย นั่นคือการอัญเชิญ!
เขามักจะใฝ่ฝันถึงภาพที่ตนเองนั่งอยู่บนหลังของอสูรร้ายเหล่านั้นพร้อมกับร่อนลงบนพื้นดินอย่างสง่างาม แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าเขาจะเข้ามาใกล้กับความฝันของตนได้เช่นนี้?!
ความสุขนี้มันมากเกินไป! ถ้าหากว่าถังหยู่ยืนอยู่ที่ตรงนี้ โม่ฝานคงจะต้องฝ่าดงเปลวไฟของเธอและพุ่งเข้าไปกอดรัดพร้อมกับจูบเธอเป็นการตอบแทนสักสองหรือสามครั้งแน่นอน!
‘กล่าวได้ว่าถ้าหากฉันสามารถปลุกธาตุเงาขึ้นมาและมีธาตุอัญเชิญอีก… เช่นนี้ไอ้เฒ่ามู่โจวอวิ๋นคงจะต้องรีบนำมู่หนิงเซวียห่อใส่ผ้ามาให้ฉันอย่างแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ?’
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นไปได้!
‘แกจะไปหาลูกเขยที่มีธาตุถึงสี่ธาตุเช่นนี้ได้อย่างไรอีกงั้นเหรอ?’
“เอาล่ะ ในตอนนี้เธอปลุกพลังเวทเสร็จสิ้นแล้ว ออกไปซะ! ฉันกำลังยุ่ง” ในตอนท้ายกัวลี่ยุ่นปิดฉากจบอย่างไร้เยื่อใย เขารีบส่งแขกในทันที
“โอ้ งั้นหรือ ขอบคุณมาก!” ในตอนนี้โม่ฝานจำเป็นจะต้องหาพื้นที่สงบๆ เพื่อทำให้จิตใจเย็นลงสักหน่อยเท่านั้น
“แม้ว่าเธอจะสามารถปลุกธาตุพิเศษขึ้นมาได้ แต่ถ้าหากเธอไม่ตั้งใจที่จะฝึกฝนมัน เช่นนั้นมันก็เป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้เธอนั้นค่อนข้างที่จะแก่มากแล้ว การตื่นของเธอนั้นชักช้ากว่าคนอื่นมาก ซึ่งเช่นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่” กัวลี่ยุ่นกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์
โม่ฝานได้ยินประโยคเช่นนั้น เขารู้สึกมึนงงกับคำพูดเหล่านั้นในทันที เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกัวลี่ยุ่นถึงได้บอกว่าเขาแก่…
แม้แต่ถังหยู่ยังกล่าวไว้ว่าการเข้าสู่ระดับมัชฌิมด้วยอายุเพียงเท่านี้นั้นยังเป็นเรื่องที่น่าประทับใจภายในนครเซี่ยงไฮ้นี้ แต่ทว่ากัวลี่ยุ่นกลับบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร หรือว่าระดับของเขาจะสูงกว่านั้น?
เอาล่ะ เมืองแห่งปีศาจนั้นก็คงจะเต็มไปด้วยปีศาจเช่นกัน มีผู้คนมากมายล้วนแต่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้ เช่นนี้นักเวทระดับมัชฌิมก็คงจะไม่มีความพิเศษอะไรเมื่อยืนอยู่ในนครแห่งนี้เช่นกัน…
โม่ฝานไม่ได้กล่าวอะไรออกมาพร้อมกับรีบเดินออกไปทันที
ในขณะที่เขาเดินออกมา เขาพบกับพนักงานต้อนรับอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินนำทางชายแก่อ้วนท้วมเข้าไปในห้องด้านใน
โม่ฝานไม่ได้สนใจอะไรนักพร้อมกับรีบเดินออกไปพร้อมความตื่นเต้นที่มี
เมื่อกัวลี่ยุ่นเห็นก้อนไขมันขนาดใหญ่เดินมา เขาเปลี่ยนแปลงใบหน้าที่ยับยู่ยี่กลายเป็นสดใสทันที เขาเผยรอยยิ้มเพื่อทักทายชายผู้นั้นพร้อมกับสั่งให้เซียวเหมินรีบชงชามาต้อนรับ “โอ้ คุณต้องเป็นนักเวทระดับมัชฌิมที่ถังหยู่แนะนำมาแน่ๆ ชื่อของคุณคือโม่ฝานใช่ไหม?”
ใบหน้าของชายอ้วนว่างเปล่า พร้อมกับชี้ไปที่ใบหน้าของตนเองและกล่าวว่า “ชื่อของฉันคือหยาง ดาไฮ่”
“เด็กชายที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่คือโม่ฝาน” พนักงานต้อนรับรีบอธิบายออกมาอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของกัวลี่ยุ่นและเซียวเหมินมองหน้ากันด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วน สีหน้าของพวกเขาแสดงออกถึงความสับสนและวุ่นวายโดยที่ไม่ต้องกล่าวอะไรออกมาสักคำ
หลังจากที่ทั้งคู่ฟื้นคืนสติของตนเองกลับมา เซียวเหมินรีบถามออกไปทันที “อาจารย์… เราทำผิดพลาดงั้นเหรอ?”
กัวลี่ยุ่นใบหน้าซับซ้อนพยักหน้ารับ “เหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ!”
“จากนั้น… เขาก็ได้ปลุกธาตุที่สองของเขาขึ้นมา…” เซียวเหมินกล่าวเบาๆ
“เป็นไปตามที่คาดไว้ไม่มีผิด สมาพันธ์นิติบัญญัติได้สร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมาอีกแล้ว! นักเวทระดับกลางวัยเยาว์คนนั้น… ปลุกธาตุอัญเชิญขึ้นมาเป็นธาตุที่สอง! ฉัน… กัวลี่ยุ่น… พ่ายแพ้เขาอย่างแท้จริง!” กัวลี่ยุ่นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวออกมา
พนักงานต้อนรับนั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างอาจารย์กับศิษย์ผู้นี้ เธอเพียงเดินออกไปจากห้องอย่างเงียบเชียบเพื่อกลับไปยังห้องโถงของตน
ก้อนไขมันที่ชื่อว่าหยางดาไฮ่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็รู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน
“คุณเป็นเด็กจากตระกูลหยางที่ต้องการปลุกธาตุสายฟ้าขึ้นมาใช่หรือไม่?” กัวลี่ยุ่นถามออกไปทันทีพร้อมกับจ้องหน้าไขมันก้อนนี้
“แน่นอน! ฉันจะปลุกมัน!” หยางดาไฮ่กล่าวออกมาพร้อมกับหยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“เซียวเหมิน ไปจัดเตรียมห้องปลุกพลังเวท”
“อาจารย์ คุณไม่ได้บอกให้ฉันไปเตรียมชางั้นเหรอ?”
“ทำเพื่ออะไร? ฉันไม่อยากจะสูญเสียชาดีๆ โดยไร้ประโยชน์” กัวลี่ยุ่นตอบกลับพร้อมกับง่วนกับโต๊ะทำงานของตัวเอง
ในตอนนี้หยางดาไฮ่นั้นกลายเป็นหมูที่โง่งมที่สุดในห้องทันที!
‘ทำไมอาจารย์ผู้ควบคุมห้องปลุกพลังถึงได้แสดงท่าทีราวกับว่าฉันเป็นหนี้เขาสักห้าแสนหยวนกันนะ? หรือว่าพ่อของฉันจ่ายเงินให้เขาน้อยเกินไป?’
••••••••••••••••••••
ในเวลางานอีกแล้วจ้า ป่วยหนักเลย ทำงานกับสูงวัย อยู่ดึกทุกวัน ระบบอะไรไม่รู้ เละเทะมาก
ขอโทษน้าา กลับมาแล้วจ้า ^^
••••••••••••••••••••