จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 131
บทที่ 131: ถังหยู่ผู้เร่าร้อน!
เฉาเหอหันหน้ากลับมาพร้อมเห็นถังหยู่ด้านหลัง เขาไม่แสดงอารมณ์แปลกใจแต่อย่างใด อีกทั้งยังเผยรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างชื่นมื่น
“ฉันเชื่อว่าฉันคงจะโดนอีกสักคดีหนึ่งนะ นั่นก็เพราะว่าฉันจะสังหารสมาชิกของสมาพันธ์นิติบัญญัติด้วย” ดวงตาของเฉาเหอล็อกเป้าไปที่ถังหยู่อย่างแม่นยำ สายตาของเขาราวกับพยัคฆ์ที่ต้องการจะฉีกเสื้อผ้าของกระต่ายน้อยตนนี้เต็มที
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับขยะเปียกอย่างแกอีกแล้ว” ถังหยู่กล่าวออกมาอย่างเด็ดขาดพร้อมด้วยเส้นทางดวงดาวเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้งใต้เท้าของเธอ
“นี่เธอคิดจริงๆงั้นเหรอว่าจะสามารถจัดการกับฉันได้? โธ่เอ้ยถังหยู่ มันจะไม่ดูโง่ไปหน่อยเหรอ ดูไม่เป็นเธอเลยนะ ฮ่าฮ่า” เฉาเหอเปิดเผยรอยยิ้มปีศาจออกมาในทันที
ใบหน้าของถังหยู่เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เธอกำลังจะเริ่มการต่อสู้แต่ฉับพลันปรากฏเมฆก้อนใหญ่กำลังพุ่งมาจากด้านข้างของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นมันหยุดและรวมตัวกันเหนืออ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ทำให้พื้นที่ทั้งหมดเข้าสู่ความมืด!
ความหนาของหมู่เมฆเหล่านั้นทำให้แสงอาทิตย์ไม่ผ่านส่องผ่านลงมาได้ ความมืดของมันกลืนกินแม้กระทั่งแสงสว่างจากเมล็ดอัคคี!
พื้นที่ทั้งหมดถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นกลางคืนฉับพลัน!
สำหรับเฉาเหอ เงาของเขานั้นถูกความมืดหลอมรวมไปแล้ว นั่นเท่ากับว่าในตอนนี้เขาไม่มีเงาอีกต่อไป
หลังจากที่เขาสามารถปลดปล่อยตนเองได้แล้ว เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที
“อ่า ฉันลืมบอกเธอไปนิดนึงว่าฉันน่ะรู้ตัวอยู่แล้วว่าเธอกำลังตามฉันอยู่ ในสองสามวันมานี้เธอทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวและกินอาหารในร้านเดียวกับฉัน อีกทั้งฉันยังวางยาพิษในอาหารของเธอด้วย ก็นะ… ฉันก็แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้น” เฉาเหอกล่าวออกมาอย่างสบายอารมณ์ ราวกับว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ผู้พิพากษาแต่กลับเป็นมิตรสหายอย่างไรอย่างนั้น!
ใบหน้าของถังหยู่แข็งค้างอีกครั้ง เธอตระหนักได้ว่าศัตรูของตนในตอนนี้ยังคงถือไพ่เหนือกว่าเธอมากนัก ชายผู้นี้ได้หลบหนีออกจากคุกมาหลายครั้งหลายคราว ซึ่งครั้งนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะจับเขาเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง…
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เฉาเหอได้บอกกล่าวว่าเขาแอบใส่ยาพิษในอาหารของเธอ สิ่งนั้นเธอไม่อาจทำใจเชื่อถือได้
ด้วยการเป็นสมาชิกของสมาพันธ์นิติบัญญัตินั้น ถ้าหากไม่รู้ตัวว่าอาหารตรงหน้ามียาพิษล่ะก็… บุคคลผู้นั้นก็สมควรที่จะตายตกไปพร้อมกับความโง่เขลา!
“ฉันรู้ว่าเธอคงจะไม่เชื่อล่ะสิ แต่ว่าตอนนี้ริมฝีปากของเธอกำลังแห้งใช่ไหมล่ะ…” เฉาเหอกล่าวออกมาอย่างไร้กังวลใดๆ
หลังจากที่ถังหยู่ได้ยินประโยคนั้น เธอเผลอเลียริมฝีปากของตนเองอย่างไม่รู้ตัว เป็นจริงเช่นนั้นเธอกำลังรู้สึกว่ากระหายน้ำและริมฝีปากแห้งเหือด แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้คิดถึงเรื่องยาพิษแต่อย่างใด ความสนใจของเธอนั้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ร้อนระอุแห่งนี้ซะมากกว่าเลยทำให้ร่างกายของเธอขาดน้ำ
“อ่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้สมาชิกของสมาพันธ์นิตินั้นยอมกินอาหารที่เต็มไปด้วยยาพิษ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ใส่ยาพิษอะไรลงในอาหารของเธอหรอก แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ได้จัดการเตรียมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเธอให้แล้วแหละนะ…” เฉาเหอหรี่ตาลงพร้อมกับมองไปที่สาวงามเบื้องอย่าง เขาจงใจกล่าวประโยคถัดไปออกมาอย่างช้าๆ “ฉันจะค่อยๆอธิบายให้ฟังนะ… มันเป็นสารที่ดีสำหรับคนสวยๆอย่างเธอ มันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้นน่ะ เพื่อให้มันค่อยๆเปิด… โอ้! นั่นไง เธอเริ่มมีอาการแล้ว!”
ในขณะที่เขากำลังพูดเช่นนั้น ถังหยู่ค่อยๆรู้สึกว่าเธอไม่อยากดื่มน้ำแล้วอีกทั้งแก้มทั้งสองข้างของเธอค่อยๆแดงเรื่อขึ้นมาอย่างผิดสังเกต
เลือดของเธอสูบฉีดไปทั่วร่างกายอย่างเดือดพล่าน หัวใจเต้นถี่ขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังจิกกัดที่ผิวหนังของเธออย่างอ่อนโยน สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอไม่มีสมาธิ!
ลมหายใจของเธอกลายเป็นหนักหน่วง ราวกับว่าเธอต้องการที่จะอ้าปากออกเพื่อสูดเอาลมเย็นๆเข้าไปช่วยดับไฟด้านใน ร่างกายทั้งหมดอ่อนแออย่างไม่อาจควบคุม ขาทั้งสองไม่อาจรับน้ำหนักของร่างกายได้อีกต่อไป ในขณะเดียวกันเธอรู้สึกว่าความต้องการของเธอพุ่งสูงขึ้น… เธอกำลังจะกลายเป็นนางแมวป่าในไม่ช้านี้ ในทรวงอกของตนกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงกับความต้องการนี้…
“ไอ้สารเลว แกมันไร้ยางอาย!!!” ในที่สุดถังหยู่ก็รู้ว่าสารอะไรอยู่ในอาหาร ร่างกายของเธอสั่นเทาด้วยความอับอายและรู้สึกถึงความอัปยศในจิตใจ
“ที่ห้องทดลองเถื่อนนั่นต้องการที่จะเรียนรู้ว่าทำไมฉันถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ดังนั้นพวกมันก็เลยส่งสาวสวยมาเพื่อจัดการกับฉันสินะ พวกมันน่ะไม่รู้อะไรบ้างเลยว่านอกเหนือจากฉันที่เป็นนักเวทแล้ว ฉันยังเป็นนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ฉันมีวิธีมากมายไว้จัดการกับผู้หญิงสวยๆอย่างเธอ โอ้ ฉันไม่ได้พูดถึงการสังหารผู้พิพากษาก่อนหน้านี้เลยสินะ แต่ช่างมันเถอะ ในสถานที่แห่งนี้เรานั้นล้วนแต่เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ฉันหวังว่าเธอคงจะเข้าใจว่าฉันจะทำอะไร…”
ในการเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นถังหยู่กระทำมันอย่างรอบคอบและระมัดระวังตัวอย่างมาก เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะใช้วิธีนี้เพื่อจัดการกับเธออย่างง่ายดาย
ยิ่งไปกว่านั้นถังหยู่นั้นรู้ดีกว่าเขาคนนี้สามารถปรุงยาได้อย่างเก่งกาจ ซึ่งเธอก็ระมัดระวังตัวอย่างมากเช่นกัน…
แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เธอระมัดระวังมาตลอดกลับเป็นสิ่งที่ย้อนกลับเข้าหาตัวเธอเองอย่างไม่อาจเลี่ยง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเฉาเหอนั้นเลือกที่จะไม่วางยาพิษกับเธอ แต่กลับใช้สารกระตุ้นร่างกายของเธอแทนที่! ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดโม่ฝานจึงมีปฏิกริยากับเธออย่างมากเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ที่เธอใช้ร่างกายเพื่อกดทับเขาเอาไว้ โม่ฝานได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้นอย่างง่ายดาย ซึ่งในตอนนี้เธอกำลังถูกกระตุ้นโดยสารที่ทำให้เกิดอารมณ์!
‘ไอ้สารเลว ทำไมบนโลกนี้ต้องมีคนน่าเกียจแบบแก!!!’
……
ด้านในป่าทึบ โม่ฝานนั้นสังเกตเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะประหลาดใจอย่างมากแต่ทั้งหมดนี้เขาย่อมเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว… เขาจะไม่เข้าใจเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อเขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว?
ในขณะนี้โม่ฝานยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าเขาจะรอดูไปอีกสักพักหรือจะวิ่งพล่านออกไปเลยดี?
แน่นอนว่าโม่ฝานไม่ต้องการมองเห็นถังหยู่ผู้เป็นสุดที่รักของเขาถูกสังหารอย่างเลือดเย็น แต่ปัญหาก็คือเขาจะสามารถต่อสู้กับไอ้ฆาตรกรโรคจิตนี้ได้งั้นหรือ?
“ไอ้บัดซบเอ้ย! ฉันจะเผาแกให้กลายเป็นขี้เถ้า!!!”
ขณะที่โม่ฝานกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ เสียงคำรามของถังหยู่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน
ทันใดนั้นเองเปลวไฟพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ กินพื้นที่เป็นวงกว้างในทุกทิศทาง ผมของถังหยู่ปลิวไสวราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมต่อสู้ ความโกรธและเดือดดาลถูกปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฟีนิกซ์อัคคี!”
ถังหยู่ยืนขึ้นพร้อมกับเปลวไฟอันบ้าคลั่งของตนเองอย่างภาคภูมิ ร่างกายของเธอเด่นเป็นสง่าท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกท่วม ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานอย่างเร่าร้อน จิตสังหารพวยพุ่งออกมาจากใบหน้าสดสวยนั้นอย่างมหาศาล!!!ฃ
“หมัดเพลิง!”
เปลวไฟลุกโชนขึ้นข้ามไปอีกหนึ่งระดับทันที!
โม่ฝานนั้นคุ้นเคยกับพลังของถังหยู่มาบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในครั้งนี้มันจะเป็นสิ่งที่แตกต่างกันออกไป เปลวไฟของเธอนั้นแตกต่างจากเขาที่ใช้พลังในระดับมัชฌิมเหมือนกัน!
ประการแรกเปลวไฟที่ถังหยู่ปลดปล่อยออกมานั้นสีแดงฉาน ซึ่งเธอตั้งชื่อมันว่าอัคคีฟีนิกซ์ สีแดงสดสวยราวกับเลือดที่พุ่งพล่านอยู่ในร่างกายของเธอได้ถูกปลดปล่อยออกมาเป็นพลังอย่างน่าหวั่นเกรง
ประการที่สอง หมัดเพลิงของเธอนั้นไม่ใช่ระดับแรกของคาถานี้ มันเป็นอยู่ในระดับสามซึ่งก็คือ เพลิงแห่งสวรรค์ราชวังทั้งเก้า!
ในตอนนี้สายตาของโม่ฝานจับจ้องอยู่ที่ฟีนิกซ์อัคคีของถังหยู่ เขากำลังจับตาดูความแข็งแกร่งของมันอย่างไม่วางตา!
สำหรับเปลวไฟแห่งราชวังทั้งเก้า ถังหยู่รวบรวมมันไว้ที่มือซ้ายอย่างมั่นคงพร้อมกับโยนมันลงไปที่พื้นอย่างแน่วแน่ ท้ายที่สุดโม่ฝานได้รู้ทันทีว่าเพลิงแห่งสวรรค์ราชวังทั้งเก้านี้ใช้อย่างไร สายตาของเขาเบิกโพลงกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างหนักหน่วงจนแทบอยากจะหยุดลมหายใจไว้เพียงเท่านี้!!!