คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 619 เจ้าหมั้นหมายกับจิ้นอ๋อง ตอนที่ 620 หากไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
- Home
- All Mangas
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 619 เจ้าหมั้นหมายกับจิ้นอ๋อง ตอนที่ 620 หากไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
ตอนที่ 619 เจ้าหมั้นหมายกับจิ้นอ๋อง
ไป๋จื่อขมวดคิ้ว “เหตุใดเผยชิงหานผู้นั้นต้องฆ่าข้า แล้วเหตุใดต้องวางยาพิษฮูหยินด้วย เขาคิดจะทำอะไรกันแน่”
ตงฟางมู่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ยังไม่เข้าใจเช่นกัน ว่าแท้จริงแล้วเผยชิงหานทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร เสือร้ายย่อมไม่กินลูกตัวเอง แล้วเหตุใดเขาต้องลงมือกับเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองด้วย ยังมีหว่านเอ๋อร์ของข้าอีก ในปีนั้น ชายหนุ่มรูปงามเพียบพร้อมมากมายในเมืองหลวงล้วนมาขอแต่งงานกับหว่านเอ๋อร์ของข้า แต่ข้ากลับให้นางแต่งให้เขา เขาไม่รู้จักซาบซึ้งในบุญคุณ มิหนำซ้ำยังเปลี่ยนบุญคุณให้กลายเป็นความแค้น คนสารเลวผู้นี้ รอข้าเข้าเมืองหลวงก่อนเถอะ ข้าจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ทีเดียว”
“ก่อนที่จะฉีกเขาเป็นเชิ้นๆ พวกเราต้องสืบเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจนเสียก่อน บนโลกนี้ไม่มีความรักที่ไร้เหตุผล และไม่มีความแค้นที่ไร้เหตุผลเช่นกัน เขาต้องมีเหตุผลที่ทำเช่นนี้แน่เจ้าค่ะ” ไป๋จื่อเอ่ย
ตงฟางมู่พยักหน้าคล้อยตาม “ถูกต้อง เจ้าพูดถูกต้อง ต้องมีเรื่องอะไรที่พวกข้าไม่รู้แน่นอน อ้อ อีกอย่างหนึ่ง มีเรื่องหนึ่งที่ข้าลืมบอกเจ้าไป เผยชิงหานไม่รู้พบเด็กสาวที่ไหน แต่เขาบอกว่านางเป็นเด็กคนนั้น ข้าเดาว่าเขาได้ข่าวคราวมาจากที่ไหนสักที่ จนรู้ได้ว่าข้าและฝ่าบาทกำลังสืบเบาะแสของเจ้า จึงนำตัวเด็กคนหนึ่งมายืนยันฐานะเสียก่อน หนึ่งเพื่อให้ตนเองพ้นผิด สองเพราะอยากใช้การหมั้นหมายของเจ้ากับจิ้นอ๋อง ทำให้จวนชางหยวนโหวรุ่งเรืองอีกครั้ง”
บัดนี้ไป๋จื่อชะงักงัน “ท่านว่าอะไรนะ การหมั้นหมายของข้ากับจิ้นอ๋อง? ข้ามีหมั้นหมายกับจิ้นอ๋องหรือ” นางไม่กล้าเชื่อหูตนเองโดยสิ้นเชิง ยังมีเรื่องบังเอิญมากกว่านี้อีกหรือไม่ มาพร้อมกันเลยเถอะ…
“ถูกต้อง เจ้ามีหมั้นหมายกับจิ้นอ๋อง แต่เจ้าวางใจเถอะ จิ้นอ๋องเป็นเด็กดีมากคนหนึ่ง เจ้าแต่งให้เขาแล้ว ย่อมไม่มีวันได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจแน่” ตงฟางมู่กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อหูจ่างหลินได้ยินเช่นนั้น เขาก็ผุดลุกขึ้นโดยพลัน “ไม่ได้ จื่อเอ๋อร์จะแต่งให้จิ้นอ๋องอะไรนั่นไม่ได้ เพราะจื่อเอ๋อร์หมั้นหมายกับหูเฟิง บุตรชายของข้าแล้ว ไม่อาจแต่งให้ผู้ใดได้อีก”
ตงฟางมู่พลันชะงักกึก ก่อนจะถามไป๋จื่อว่า “นี่เป็นเรื่องจริงหรือ หากเป็นเรื่องจริง ข้าย่อมเคารพการตัดสินใจของเจ้า เจ้าอยากแต่งให้ผู้ใดก็แต่งเถอะ ข้าไม่อยากให้เจ้าเดินเส้นทางเดียวกับหว่านเอ๋อร์” เขารู้สึกเสียดายมาก จิ้นอ๋องเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมากับมือ เขารู้จักนิสัยของเด็กคนนั้น จิ้นอ๋องเป็นสุภาพบุรุษ มีความรับผิดชอบ หากเด็กคนนี้ได้แต่งให้เขา ก็เหมาะสมกับราวกับกิ่งทองใบหยกทีเดียว
ไป๋จื่อหน้าแดง ก่อนจะยิ้มในทันที “พวกท่านอาจจะยังไม่รู้เรื่องหนึ่ง หูเฟิงก็คือฉู่เยี่ยน ฉู่เยี่ยนก็คือหูเฟิง พวกเขาเป็นคนคนเดียวกันเจ้าค่ะ”
คราวนี้ไม่เพียงแต่ตงฟางมู่ที่ตะลึงตาค้าง หูจ่างหลินยิ่งอึ้งงันจนพูดไม่ออก
“เจ้าหมายถึงฉู่เยี่ยนที่เป็นจิ้นอ๋องหรือ” หูจ่างหลินถามอย่างระมัดระวัง
ไป๋จื่อพยักหน้า “ถูกต้องเจ้าค่ะ เขาก็คือจิ้นอ๋อง สามปีก่อนเขาถูกศัตรูปองร้าย ท่านช่วยเขาไว้ได้ เขาเพิ่งฟื้นความทรงจำกลับมาได้เมื่อสามเดือนก่อนนี้เอง เขาถึงได้ไปเข้าร่วมกองทัพ กลับไปยังสถานที่ที่เดิมทีเป็นของเขา เพื่อแย่งชิงทุกอย่างของเขากลับมา”
ตงฟางมู่คืนสติมาได้แล้ว เขาโค้งตัวลงต่อหน้าหูจ่างหลินที่ยังคงมีสีหน้างุนงง “ข้าตงฟางมู่ขอเป็นตัวแทนฝ่าบาท เป็นตัวแทนแคว้นฉู่ ขอบคุณเจ้าที่มีบุญคุณช่วยชีวิตจิ้นอ๋อง!”
หูจ่างหลินรีบเข้าไปประคองตงฟางมู่ให้ลุกขึ้น ใบหน้ายังคงงุนงงอยู่เช่นเดิม เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่เขารู้อยู่ตลอดว่าฐานะของหูเฟิงต้องไม่มีทางธรรมดาสามัญ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ธรรมดาได้ถึงขั้นนี้
บัดนี้ตงฟางมู่มีสีหน้าตื้นตันใจ เขายิ้มว่า “เอาละ! ดีนิ่งนัก เขาฉีอวิ๋นไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานเท่าไรแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
จ้าวหลานและหูจ่างหลินยังคงไม่เชื่อทุกอย่างนี้ บุตรสาวคนเดียวของนางกลายเป็นคุณหนูจวนโหวที่มั่งคั่ง ส่วนบุตรชายของเขาก็กลายเป็นชินอ๋องของแคว้นฉู่…
……….
ตอนที่ 620 หากไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
ทั้งสองคนมีสัญญาหมั้นหมายต่อกันด้วย!
ราวกับมีมือล่องหนข้างหนึ่งดันให้พวกเขาเดินไปข้างหน้า เดินไปพร้อมๆ กันทีละก้าว เมื่อมาถึงวันนี้ จึงเป็นเหมือนบัญชาฟ้า สวรรค์ลิขิต
จู่ๆ ไป๋จื่อก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นได้ นางเอ่ยถามตงฟางมู่ว่า “เมื่อครู่ท่านบอกว่า เผยชิงหานนำเด็กสาวคนหนึ่งกลับบ้าน บอกว่าเป็นเด็กในปีนั้นใช่หรือไม่”
ตงฟางมู่พยักหน้า “ถูกต้อง เมื่อวานข้าได้ข่าวคราวมาจากในวัง เป็นจดหมายที่ฝ่าบาทเขียนด้วยตนเอง ไม่มีทางผิดไปได้ เผยชิงหานนำเด็กคนนั้นไปขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว ทว่าฝ่าบาทปฏิเสธ บอกว่าจะรอข้ากลับเมืองหลวงก่อน แล้วค่อยจัดการเรื่องนี้ในภายหลัง”
“ข้านึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่บ้างเจ้าค่ะ” ไป๋จื่อเอ่ย
“เรื่องอะไรหรือ” ตงฟางมู่รีบถามทันใด
“หนึ่งวันก่อนที่จะมีทัพซีเยว่บุกเข้ามาจู่โจมหมู่บ้านหวงถัว ในหมู่บ้านเกิดเรื่องแปลกๆ เรื่องหนึ่งเจ้าค่ะ จู่ๆ บ้านของสกุลไป๋ก็เกิดไฟไหม้ มีคนช่วยหญิงชราและสามีภรรยาบ้านรองออกมาได้ พวกเขาโดนวางยาเบื่อหนู ภายหลังหญิงชราตาย ส่วนสามีภรรยาและบุตรชายของบ้านรองนั้น ข้าช่วยชีวิตพวกเขากลับมาได้ทั้งหมด ทว่าบุตรสาวของพวกเขาและครอบครัวของบ้านใหญ่กลับหายตัวไป ข้าได้ยินคนในหมู่บ้านบอกว่า ก่อนที่สกุลไป๋จะเกิดเรื่อง มีบุรุษแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรามาพบพวกเขา หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นกับสกุลไป๋ทันที”
“เจ้าสงสัยว่าคนผู้นั้นคือเผยชิงหานหรือ” ตงฟางมู่ถาม
ไป๋จื่อพยักหน้า “มีความเป็นไปได้มากเจ้าค่ะ ท่านบอกข้าไม่ใช่หรือเจ้าคะ ว่าเผยชิงหานได้เบาะแสของพู่หยกเช่นกัน เขาจึงพบสกุลไป๋เสียก่อนก้าวหนึ่ง”
ตงฟางมู่มุ่นคิ้ว รู้สึกมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล “แต่หากพบสกุลไป๋แล้ว เหตุใดต้องพาตัวปลอมกลับไปเล่า เจ้าก็อยู่ที่หมู่บ้านหวงถัวเช่นกัน หากเขาต้องการตามหาตัวเจ้า ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก”
ทันใดนั้น ไป๋จื่อพลันแค่นหัวเราะเสียงเย็น “ด้วยนิสัยของสกุลไป๋แล้ว พวกเขาไม่มีทางบอกความจริงกับเผยชิงหาน พวกเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าหากคุณหนูตระกูลร่ำรวยเป็นข้า พวกเขาไม่มีทางได้ประโยชน์อะไรแม้สักนิด แต่หากเป็นไป๋เจินจู พวกเขาก็ยังพอได้ประโยชน์ ย่อมได้คืนมามากกว่าที่เสียไปแน่”
ตงฟางมู่เข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง แต่เผยชิงหานก็ไม่ใช่คนโง่เช่นกัน จะปล่อยให้พวกเขาหลอกได้เช่นไร”
“เกรงว่าคนสกุลไป๋คงบอกเผยชิงหาว่าข้าตายไปแล้วเจ้าค่ะ ส่วนเผยชิงหานก็ต้องการไต่เต้าโดยอาศัยจิ้นอ๋อง จึงถูกใจไป๋เจินจูเข้า และตัดสินใจใช้นางแทนที่เด็กที่หายไป เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยในภายหลัง บ้านใหญ่สกุลไป๋จึงวางยาพิษฆ่าพ่อแม่แท้ๆ และน้องชายของไป๋เจินจู ไปจนถึงแม่แท้ๆ ของเจ้าใหญ่เองด้วย เช่นนี้พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหลังจากนี้อีก” ไป๋จื่อกล่าว
“สารเลว จิตใจต่ำช้าจนเป็นบ้าไปแล้ว” ตงฟางมู่ก่นด่าด้วยโทสะ
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะอีกครั้ง “หากไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ พวกเขาช่างมีวาสนากับเผยชิงหานจริงๆ เจ้าค่ะ”
ตงฟางมู่เอ่ยด้วยความโมโห “ข้าไม่มีทางไว้ชีวิตพวกเขาแน่”
บัดนี้จ้าวหลานตื่นจากภวังค์แล้ว นางถามไป๋จื่อว่า “มารดาของเจ้าเล่า ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง”
ไป๋จื่อยังไม่คุ้นชินกับคำเรียกเช่นนี้ นางชอบเรียกสตรีนางนั้นว่าฮูหยินมากกว่า
“ท่านคงหมายถึงฮูหยินกระมัง นางยังคงสลบอยู่เจ้าค่ะ เพราะอาการของนางสาหัสมาก ข้าจะคิดวิธีทำยาให้นางดู” จะสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับคืนนี้ หากคืนนี้นางไม่ได้ยามา ตงฟางหว่านเอ๋อร์ก็คงไม่รอดเป็นแน่
จ้าวหลานลูบหลังของนางอย่างเบามือ “เด็กโง่ เจ้าควรเรียกนางว่าท่านแม่แล้ว ยังเรียกว่าฮูหยินอยู่อีกได้อย่างไร”
ไป๋จื่อยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ตอบอะไร
ตงฟางมู่กลับโบกมืออย่างเป็นกันเอง “นางคงยังไม่ชิน ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก อีกเดี๋ยวก็ค่อยๆ ชินไปเองแหละ”
เขาให้คนจัดเตรียมที่พักให้พวกเขา ที่คฤหาสน์ฉีอวิ๋นมีห้องหับมากมาย ส่วนใหญ่ล้วนว่างอยู่ เพื่อให้สะดวกต่อภารกิจของตนในคืนนี้ ไป๋จื่อจึงให้จ้าวหลานและหรูเอ๋อร์พักอยู่ในลานบ้านอีกแห่งหนึ่ง
หลังจากส่งจ้าวหลานไปที่เรือนพักแขกแล้ว ไป๋จื่อกลัวว่าจ้าวหลานจะคิดมาก จึงกล่าวว่า “คืนนี้ข้าต้องหลอมยา กลิ่นแรงทีเดียว คงจะไม่ได้นอนทั้งคืน จึงให้พวกท่านพักอยู่ที่นี่ไปก่อน เมื่อข้าหลอมยาเสร็จแล้ว พวกเราค่อยมาอยู่ในลานบ้านเดียวกันนะเจ้าคะ”