ครองภพสยบนิรันดร์ - ตอนที่ 106
106: อานุภาพร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะ!
ถึงแม้เซียวฮั่นจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชอย่างแท้จริง ตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็มิอาจหยุดมือได้อีก เมื่อยิงธนูไปแล้วย่อมมิอาจหวนกลับ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังมีค่ายกลห้าวิญญาณสังหาร เสริมทัพกับการร่วมมือของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า โอกาสยังพอมี!!
“สังหาร!”
เสียงตะโกนด้วยความพิโรธอันน่าหวาดผวาดังขึ้น เส้นค่ายกลตัดขวางกันบนผืนพสุธาส่องแสงเจิดจรัสไปทั่วทั้งโลกและสวรรค์ ห้าพยัคฆ์ซึ่งเทียบเท่ากับยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ราชันต่างออกหมัดจู่โจมพร้อมกัน
ซึ่งยอดฝีมือระดับนี้ เพียงแค่ปลดปล่อยพลังหมัดออกมาอย่างเดียว เมื่อเทียบกับเคล็ดวิชาใด ๆ ก็ยังน่าหวาดกลัวยิ่งกว่า วิถีแห่งเต๋ากลับกลายเป็นดูเหมือนง่ายดาย ด้วยหมัดที่ปล่อยสุ่มสี่สุ่มห้าเพียงหมัดเดียว ได้แปรเปลี่ยนเป็นการรู้แจ้งอันลึกซึ้งถึงขีดสุดของวิถีแห่งเต๋า
“โจมตีได้ดี!”
ขณะมองไปยังกำปั้นมหึมาห้าลูกที่มาพร้อมกับพลังอันน่าหวาดผวาทำลายมิติ ความว่างเปล่าถูกทำลายจนแหลกละเอียดเป็นชิ้น ๆ เซียวฮั่นเพียงเอ่ยเสียงเย็นชา ทันใดนั้นพลังของธาตุทั้งห้าก็ออกมาจากร่างกายเขาราวกับน้ำป่าทะลัก
“พลังห้าสายส่งเสริมหยินหยาง ไท่จี๋พลิกฟ้าดิน!”
พลังห้าสายรวมตัวกันระหว่างมือทั้งสองข้างของเซียวฮั่น ในที่สุดก็ก่อตัวเป็นพลังหยินหยางวิถีเต๋า ภาพร่างดำขาวโคจรอย่างช้า ๆ การโคจรของลวดลายไท่จี๋ยามนี้ดูเหมือนว่าทั้งโลกสวรรค์และฟ้าดินได้ผสานมาอยู่ในมือของเซียวฮั่น
“ครืน!”
ลวดลายของหยินหยางไท่จี๋โผล่ขึ้นบนยอดศีรษะของเซียวฮั่น ยังผลให้ฟ้าดินโคจร โลกและสวรรค์เปลี่ยนแปลงไป วิถีเต๋าทั้งห้าซึ่งเพียงพอที่จะทลายหมัดอันน่าหวาดผวาของอีกฝ่ายได้รวมเข้าด้วยกัน ก่อร่างเป็นมือมหึมาหนึ่งข้าง ชั่วขณะที่มือยักษ์อันน่าหวาดกลัวนี้โบกสะบัดก็สามารถทำลายโลกและสวรรค์ได้
มือยักษ์ยังคงกำหมัดพุ่งลงไปยังเซียวฮั่น หมัดนี้สามารถกดขี่สวรรค์ทำลายเทพศักดิ์สิทธิ์ราชัน แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราช เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดนี้ก็ยังต้องหน้าเปลี่ยนสี
“ตูม!”
ท้ายที่สุด หมัดมหึมาที่เพียงพอจะสังหารยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ราชันได้ก็ร่วงลงไปบนยอดศีรษะของเซียวฮั่นปะทะเข้ากับลวดลายหยินหยางไท่จี๋ เสียงอันน่าหวาดกลัวดังก้องไปไกลสุดขอบฟ้า
ชั่วพริบตาที่คลื่นสั่นสะเทือนจากการที่พลังน่าหวาดผวาสองสายปะทะเข้าด้วยกัน ก็ทำให้ทั้งตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง ภูเขา แม่น้ำและทะเลสาบนับไม่ถ้วนถูกคลื่นพลังทำลายจนเรียบ
การโจมตีนี้ได้รวมพลังทั้งหมดของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าไว้ ภายใต้การโจมตีดังกล่าว ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ต่างมีสีหน้าซีดขาว เพียงมองก็รู้แล้วว่าสูญเสียไปมากเพียงใด
และภายใต้หมัดนี้ ลวดลายหยินหยางไท่จี๋ของเซียวฮั่นถูกทำลายจนแหลกละเอียดอย่างฉับพลัน แม้แต่คนทั้งร่างยังถูกถล่มลงไปใต้พสุธา ยากจะคาดเดาว่าเป็นหรือตาย
แน่นอนว่าภายใต้หมัดนี้ สำหรับเซียวฮั่นก็ควรถูกสังหาร เพียงแต่ยามนี้เขาต้องการที่จะทดสอบพลังต้านทานของร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะหลังจากได้บรรลุในขั้นต้น ครั้งนี้เขาจึงมิได้ปิดบังอำพรางอันใด ปล่อยให้พลังหมัดนั้นจู่โจมร่างกายอย่างอิสระ
วิชาเทพอมตะนิรันดร์ เนื่องด้วยการเลื่อนขอบเขตจึงสามารถฝึกฝนร่างอมตะทั้งสามชนิด ชนิดแรกก็คือร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะ ชนิดที่สองคือร่างเทพอมตะ และชนิดที่สามคือร่างเต๋าอมตะ
ยามนี้ร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะของเซียวฮั่นเพิ่งบรรลุเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีหนึ่งครั้งของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ราชัน เพียงแต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราช ก็ยังไม่สามารถรับมือได้
ภายใต้หมัดที่เทียบเท่ากับยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชนี้ ร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะของเซียวฮั่นถูกทำลายโดยตรง ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรอยบาดแผล เห็นได้ชัดว่าหมัดนี้ได้ทำให้เซียวฮั่นเกิดอาการบาดเจ็บไม่น้อย
บางที เซียวฮั่นที่บรรลุร่างเทพศักดิ์สิทธิ์อมตะในขั้นกลางจึงจะสามารถต้านทานการจู่โจมของยอดฝีมือเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชได้เท่านั้น
“ตูม!”
ขณะที่สายตานับไม่ถ้วนจ้องเขม็งไปยังเบื้องหน้า เสียงสั่นสะเทือนเสียงหนึ่งพลันดังขึ้น เงาร่างของเซียวฮั่นลอยขึ้นมาจากใต้พสุธา เมื่อคนทั้งหมดเห็นร่างของเขาที่เต็มไปด้วยบาดแผลก็พลันสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ เฮือกหนึ่งอย่างอดไม่ได้
ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่เห็นรอยบาดแผลเต็มร่างของเซียวฮั่น ที่แม้แต่ศีรษะก็ยังมีรอยแตกร้าวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน ก็พลันรู้สึกโล่งใจทันที
“ไม่เลว อานุภาพเกินกว่าที่ข้าคาดคิดไว้!”
ถึงทั่วร่างจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่เซียวฮั่นยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย และเมื่อสิ้นสุดเสียงกล่าว หลาย ๆ คนก็ราวกับเห็นผีก็มิปาน
ภายใต้แววตาตกตะลึงสุดขีดยากจะเชื่อนับไม่ถ้วน เพียงชั่วครู่ร่างของเซียวฮั่นที่เคยเต็มไปด้วยบาดแผลกลับฟื้นคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว และยังไม่ถึงหนึ่งชั่วลมหายใจเสียด้วยซ้ำ เซียวฮั่นก็ฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์ กระทั่งบนเรือนร่างไม่มีเหลือรอยบาดแผลแม้เพียงนิดเดียว
“เป็นไปได้ยังไง?”
ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าที่เดิมทีวางใจไปแล้ว ยามนี้ในใจกลับตะโกนคำว่าเหลือเชื่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ บนใบหน้าพลันปรากฏสีหน้าหวาดผวาตาม ๆ กัน อย่างที่รู้กันว่าสิ่งนี้เทียบเท่ากับการโจมตีของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชหนึ่งครา อาการบาดเจ็บนี้ นอกจากโอสถเทพแท้จริงแล้วก็มิอาจรักษาให้หายดีได้
แต่หนึ่งคือเซียวฮั่นไม่ได้ใช้โอสถเทพแท้จริง สองคือไม่ได้โคจรเคล็ดบ่มเพาะใด ๆ เพียงแค่ยืนเฉย ๆ ชั่วครู่ หลังจากนั้นก็หายเป็นปกติ เมื่อเทียบกับการเห็นผีแล้ว สิ่งนี้นับว่ายิ่งกว่าการเห็นผีเสียอีก
แน่นอนว่าพวกเขาต่างไม่รู้ว่าสิ่งที่เซียวฮั่นฝึกฝนก็คือวิชาเทพอมตะนิรันดร์ และที่ได้ชื่อว่าวิชาเทพอมตะนิรันดร์ นั่นไม่ใช่การกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด แม้ยามนี้เซียวฮั่นจะบรรลุเพียงนิดเดียว แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว
สิ่งนี้คือความน่ากลัวของวิชาเทพอมตะนิรันดร์ แม้แต่เซียวฮั่นที่ถูกทำลายจนร่างแหลกละเอียดในยามนี้ ภายใต้วิชาเทพอมตะนิรันดร์ เซียวฮั่นก็ยังคงฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ในเวลาอันสั้น เพียงแต่ราคาที่จ่ายไปคือการเสียพลังวิญญาณมากมายมหาศาล
แต่สิ่งนี้ไม่นับเป็นอันใด ในร่างของเซียวฮั่นกักเก็บไว้ซึ่งแม่น้ำวิญญาณที่เกิดจากการรวมตัวกันของพลังฟ้าดิน ดังนั้นจึงไม่มีทางที่เซียวฮั่นจะขาดแคลนสิ่งที่เรียกว่าพลังวิญญาณ
“หากพวกเจ้ามีไพ่ตายเพียงเท่านี้ เช่นนั้นก็ไม่ควรค่าแก่การมอง”
สายตาของเซียวฮั่นมองไปยังทั้งห้ายอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นอย่างเฉยชา
ได้ยินดังนั้น ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าต่างก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา ความยิ่งใหญ่ของเซียวฮั่นอยู่เหนือกว่าจิตนาการของพวกเขาไปไกลมาก แม้พวกเขาจะร่วมมือโจมตีด้วยกันแต่กลับไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บใด ๆ สิ่งนี้ทำให้จิตใจของพวกเขาหดหู่อย่างอดไม่ได้
“ห้าวิญญาณรวมเป็นหนึ่ง!”
ดวงตาของเย่อู่เทียนเบิกโพลงอย่างฉับพลัน ก่อนจะตะโกนเสียงดังไปทางคนทั้งสี่ ในฐานะบรรพบุรุษรองของตระกูลเย่ เขาผ่านอุปสรรคมามาก และมีชีวิตรู้แจ้งมาเกือบแปดหมื่นปี ยามนี้เป็นวิกฤตกาลอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยประสบมาตลอดหนึ่งชั่วชีวิต ดังนั้นจึงมิอาจหาญประมาทเพียงเสี้ยว มิเช่นนั้นหากพลาดไปก้าวเดียวก็คือเหวลึกหมื่นจั้ง
“ตูม!”
เมื่อสิ้นเสียงของเย่อู่เทียน ลมปราณของทั้งห้าก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน เพียงชั่วครู่เงาร่างมหึมาห้าสายที่อยู่ข้างหลังคนทั้งห้านั้นก็ก้าวฝ่าเท้าหนึ่งครา ท้ายที่สุดจึงก่อตัวเป็นเงายักษ์อันน่าหวาดผวาสูงเสียดฟ้า และในขณะเดียวกัน มิติเล็ก ๆ ของทั้งห้าฝ่ายก็รวมเป็นหนึ่ง กลายเป็นมิติขนาดใหญ่ และปรากฏเงายักษ์ด้านหลัง
เงาร่างมหึมานี้ได้รวบรวมไว้ซึ่งพลังของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า ยอดฝีมือขอบเขตราชันจำนวนหลายร้อย ยอดฝีมือขอบเขตทรราชจำนวนอีกหลายหมื่น ผนวกเข้ากับพลังของค่ายกลห้าวิญญาณสังหาร กล่าวได้ว่าเงาร่างนี้ไม่เป็นรองไปกว่ายอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชอย่างแท้จริง
เนื่องด้วยการปรากฏตัวของเงาร่างมหึมาสายนี้ ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่รวมถึงยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ที่แขนขาดนั้นได้ก้าวฝ่าเท้าหนึ่งคราเข้าไปอยู่ในเงาร่างมหึมานั้นเช่นเดียวกัน
ด้วยการเสริมเข้าไปของคนทั้งห้า เงาร่างมหึมาในยามนี้แข็งแกร่งเกินจะเปรียบ พลังอันน่าหวาดผวากลอกกลิ้งออกมาจากรอบกายของมัน ภายใต้พลังนี้ราวกับว่าแม้แต่เก้าชั้นฟ้าสิบทิศแดนดินก็ยังถูกเปิดออก
ผู้คนมากมายซึ่งอยู่ภายใต้คลื่นพลังนี้ พลันตัวสั่นเทาอย่างไม่หยุดยั้ง สิ่งนี้คือคลื่นพลังของยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชอย่างแน่นอน และยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ทรราชก็คือการดำรงอยู่สูงสุดที่ยืนอยู่บนเก้ามหาทวีปเป็นแน่แท้ เพียงพอที่จะเทียบเคียงได้กับยอดฝีมือขอบเขตเทพแท้จริงที่หนึ่งหมื่นปีจะปรากฏเพียงครั้ง
“ไม่เลว แบบนี้ค่อยน่ามองหน่อย!”
คนพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อเผชิญหน้ากับเงาร่างสูงเสียดฟ้าที่อยู่เบื้องหน้า เซียวฮั่นในยามนี้แลดูเล็กราวกับฝุ่นผง ทว่าไม่มีผู้ใดอาจหาญดูถูกเซียวฮั่น เพราะจนถึงบัดนี้ เซียวฮั่นยังมิได้ออกมือเพียงครั้งเดียว
“กระบี่จงมา!”
เซียวฮั่นเอ่ยเสียงเบาอย่างเรียบ ๆ ฝ่ามือกุมอากาศไว้ เพียงชั่วครู่คนทั้งหมดก็ราวกับมองเห็นกระบี่ยาวหลายเล่มปรากฏขึ้นทั่วทั้งโลกและสวรรค์
“วิถีกระบี่ไร้เทียมทาน ไร้กระบี่ชนะกระบี่ โลกและสวรรค์ผันแปรกระบี่!”
บัดนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนเท่าไหร่ที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด โลกและสวรรค์คือกระบี่ จำต้องมีวิถีกระบี่จึงจะทำถึงขั้นนี้ได้ ในความทรงจำของพวกเขาดูเหมือนว่ามีเพียงจักรพรรดิกระบี่หลิงเทียนเมื่อหนึ่งแสนปีก่อนเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้
“ฮ่าห์! มือประทับไร้สวรรค์!”
เมื่อเห็นเซียวฮั่นกุมมือ โลกและสวรรค์กลายเป็นกระบี่ รัศมีกระบี่หลายร้อยล้านพลันปรากฏ เสียงร้องคำรามของเย่อู่เทียนที่อยู่ในเงามหึมาดังขึ้น เพียงชั่วพริบตา มือมหึมาข้างนั้นก็บดบังนภาอำพรางสุริยัน เมื่อมือสะบัดออกไป โลกและสวรรค์ระยะสิบล้านลี้พลันกลายเป็นความว่างเปล่า จากนั้นรอยฝ่ามือไร้เทียมทานอันน่าหวาดผวาก็พุ่งลงไปสังหารเซียวฮั่น
“หมื่นกระบี่ดับโลกา!”
ขณะมองไปยังรอยมือที่ประทับลงมา จิตของเซียวฮั่นโคจร รัศมีกระบี่หลายร้อยล้านหลั่งไหลเข้าสู่กระบี่เล่มยาวในมือของเขา หลังจากสะบัดฝ่ามือหนึ่งครา กระบี่เล่มยาวที่รวบรวมอานุภาพกระบี่และปราณกระบี่ไร้ขอบเขตได้ทำลายโลกและสวรรค์
เมื่อออกกระบี่ นภาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน รัศมีกระบี่อันน่าหวาดผวาเปล่งประกาย แม้แต่ยอดฝีมือที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยล้านลี้ก็ยังรู้สึกราวกับว่าบนร่างของตนมีรอยกระบี่เป็นเส้น ๆ ปรากฏอยู่ ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกตกตะลึงเกินบรรยายทันที
“ตูม!”
หนึ่งกระบี่ผ่านภา สะบั้นทุกสรรพสิ่ง ภายใต้กระบี่เล่มนี้ แม้แต่เวลาก็ยังหยุดชะงัก มิติล้วนถูกทำลาย กระบี่เล่มนี้มาพร้อมกับวิถีกระบี่ไร้เทียมทาน มาพร้อมกับอำนาจกระบี่นับร้อยล้าน และยังมาพร้อมกับเจตนารมณ์วิถีกระบี่ไร้เทียมทานของเซียวฮั่น กล่าวได้ว่าภายใต้กระบี่เล่มนี้ แม้แต่เทพผีปีศาจก็ยังถูกสังหาร
“ตูมมม!”
เสียงปะทะอันน่าหวาดผวาสะเทือนฟ้าสะเทือนดินดังขึ้นบนท้องนภา พื้นราวกับกระจกบานยักษ์ที่แตกสลาย พลังที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายกวาดล้างทั่วทั้งโลกและสวรรค์ ภายใต้การปะทะอันน่าหวาดกลัวนี้ ไม่ว่าจะกระบี่ที่สามารถทำลายเทพผีปีศาจเล่มนั้นของเซียวฮั่น หรือมือประทับไร้สวรรค์ของเงายักษ์ก็ล้วนถูกทำลายจนดับสูญทั้งสิ้น
เพียงแต่คลื่นพลังอันน่าหวาดผวาที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งสอง ทำให้ตระกูลจักรพรรดิศักด์สิทธิ์ทั้งตระกูลถูกโจมตีอย่างหนัก เผยซึ่งหลุมลึกขนาดใหญ่อันน่าหวาดผวาหลุมหนึ่ง ราวกับถูกลูกอุกกาบาตที่อยู่ไกลโพ้นพุ่งชนก็มิปาน
ภายใต้คลื่นพลังนี้ ไม่ว่าจะเงายักษ์หรือเซียวฮั่นก็ไม่อาจขยับเขยื้อน ถึงการโจมตีนี้จะยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่ก็เป็นเพียงการโจมตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้าของทั้งสองฝ่าย ไม่อาจนับได้ว่าเป็นการโจมตีแบบสุดกำลังอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าการโจมตีของคนทั้งสองสามารถทำลายแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ราชัน
“แกร๊ง!”
ทันใดนั้นเสียงโลหะก็ดังกังวานขึ้นมา ยามนี้ฝ่ามือยักษ์ได้ยื่นออกมาดึงกริชเล่มใหญ่สีดำสนิทออกจากส่วนที่ลึกที่สุดของพื้นที่กำเนิดตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการปรากฏตัวของกริชมหึมาเล่มนี้ ทั่วทั้งโลกและสวรรค์เต็มไปด้วยจิตสังหารอันน่าหวาดผวาทันที
“เป็นไปตามคาด ที่แท้ตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็มีศาสตราเทพศักดิ์สิทธิ์วิเศษหนึ่งชิ้น ลือกันว่านี่เป็นกริชเทพสังหารซึ่งหลงเหลือจากบรรพบุรุษตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”
ขณะมองไปยังใบมีดเล่มยักษ์อันน่าหวาดผวาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ยอดฝีมือที่หลบซ่อนอยู่จำนวนมากก็ขนตั้งชันขึ้นมาทันใด
ศาสตราเทพศักดิ์สิทธิ์วิเศษคือสมบัติไร้เทียมทานที่อยู่เหนือกว่าศาสตราเทพศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป เป็นศาสตราแห่งเทพศักดิ์สิทธิ์ที่มีระดับสูงที่สุด เมื่อเทียบกับศาสตราแห่งเทพแท้จริงก็ด้อยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พลังของมันสามารถทำลายสวรรค์ดับพสุธาได้อย่างแน่นอน
ยามนี้แม้แต่ตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ยังต้องใช้มัน เห็นได้ชัดว่าคิดจะต่อสู้ตัดสินเป็นตาย และสิ่งที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือ กริชเทพสังหารนี้ยังถูกรัดโดยเส้นลมปราณมหึมาหนึ่งเส้น และเส้นลมปราณมหึมานี้ก็คือเส้นลมปราณของบรรพบุรุษตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
“ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่เพียงแต่ใช้กริชเทพสังหาร ยังใช้เส้นลมปราณบรรพบุรุษ ตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์วางแผนจะจ่ายทุกสิ่งโดยไม่เสียดายเพื่อสังหารศัตรู”
ยอดฝีมือขอบเขตเทพศักดิ์สิทธิ์ที่แอบซ่อนอยู่บางส่วน ยามนี้พลันมีจิตใจหวาดกลัวขึ้นมาทันใด ตระกูลจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้ใช้ไพ่ตายอย่างแท้จริง แม้จะได้ชัยชนะในศึกครั้งนี้ ก็ยังต้องจ่ายในราคามหาศาลเช่นกัน!
…………….