ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี - บทที่ 628 เพื่อนบ้านที่คาดไม่ถึง
- Home
- All Mangas
- ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
- บทที่ 628 เพื่อนบ้านที่คาดไม่ถึง
หลี่สือครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นเสียงเบา “ผมพอมีไอเดีย และทุกคน ไม่ต้องออกเงินเยอะเกินไปด้วย”
ทุกคนตาเป็นประกาย
มีไอเดีย?
แถมยังไม่ต้องออกเงินเยอะด้วย?
“รีบบอกพวกเราเร็วครับบอสหลี่” นักลงทุนคนหนึ่งเร่ง
หลี่สือยิ้มบางแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเข้าแอปชีวิตเถิงต๋า จากนั้นก็เปิดไปหน้า โปรเจ็กต์อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ก่อนจะเลื่อนมือถือไปกลางโต๊ะประชุม
“บอสเผยมีโปรเจ็กต์ปล่อยเช่าที่เพิ่งเปิดตัว พวกคุณน่าจะรู้เรื่องนี้ใช่มั้ย”
เหล่านักลงทุนหันมองหน้ากัน “ก็ใช่ แต่มันเกี่ยวกับโฮสเทลเขย่าขวัญยังไง เหรอ”
หลี่สือยิ้ม “ถ้าให้พวกคุณคิดแผนโปรโมตดีๆ จะทำกันได้รึเปล่า ก่อนหน้านี้ เราทุ่มเงินไปเยอะมาก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็อยู่ในระดับกลางๆ พอบอสเผยใช้ตู้ โทรศัพท์ให้เช่าโปรโมตให้ ปัญหาก็คลี่คลาย
“ไหนจะการโปรโมต GOG เซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศอีก บอสเผยถึงกับเช่าถนน ในไทมสแควร์เลยนะ! พวกคุณกล้าเล่นใหญ่ขนาดนั้นรึเปล่า
“เรื่องการโปรโมต ผมไม่ได้ว่าอะไรใครนะ แต่เทียบกับบอสเผยแล้ว ทุกคนยัง เป็นเด็กอมมือ
“เพราะงั้นโฮสเทลเขย่าขวัญจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้รึเปล่านั้น ไม่เกี่ยวกับพวกเรา จุดสำคัญอยู่ที่ว่าบอสเผยอยากให้ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาตอน ไหน และต้องคอยดูว่าบอสจะเคลื่อนไหวยังไง!
“ดังนั้นเราจึงไม่ควรโปรโมตกันเอง เพราะจะได้ประสิทธิภาพต่ำ
“สิ่งที่เราควรทำคือทำให้บอสเผยมีความสุขให้ได้มากที่สุด พอบอสเผยมี ความสุข บอสก็จะลงมาช่วยหรือให้ข้อมูลเราเอง แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ
“เท่าที่ผมรู้มา อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยตอนนี้ยังว่างอยู่ ไม่ค่อยมีคนเช่า เท่าไหร่
“เราไปเช่ากันคนละห้อง แสดงให้บอสเผยเห็นถึงการสนับสนุนของเรา ใช้การ กระทำและความเคารพนบน้อมแสดงความจริงใจของเราออกมา ถ้าบอสมี ความสุขแล้วช่วยเราโปรโมตโฮสเทลเขย่าขวัญ ปัญหาก็หมดไปไม่ใช่เหรอ
“เพราะงั้นถึงจะเป็นการกระทำเล็กๆ ที่ไม่น่าจะทำให้บอสเผยตื้นตันใจได้ อย่างน้อยเราก็ควรแสดงความจริงใจให้เห็น ซึ่งก็ทั้งเป็นประโยชน์และไม่มีพิษภัย อะไร”
เหล่านักลงทุนคิดตามและพบว่าฟังดูมีเหตุผล
ถึงบอสเผยจะไม่สน เราก็ต้องแสดงความจริงใจให้เห็น!
ค่าเช่าห้องชุดในโปรเจ็กต์นี้ค่อนข้างสูงสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับเหล่านัก ลงทุนแล้ว เงินแค่ไม่กี่พันหยวนต่อเดือนนั้นไม่ได้มากมายอะไร
บอสหลี่มีวิลล่าหลายหลังในหมิงหยุนวิลล่า เขาจะสนใจอะไรกับอีแค่รายจ่าย ที่เพิ่มขึ้นมาไม่กี่พันหยวนต่อเดือน
ใช้เงินแค่นิดหน่อยเรียกตัวตนกลับสู่สายตาบอสเผย คุ้มสุดๆ!
เรื่องเงินนั้นไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญคือได้สื่อสารทัศนคติของพวกเขาออกไป
นักลงทุนคนหนึ่งถามขึ้น “งั้นเราเช่าที่ไหนดีครับบอสหลี่ เห็นว่าบางที่เป็น อาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยซึ่งตั้งอยู่ในทำเลไกลผู้คน ไม่ค่อยเหมาะกับเรา”
หลี่สือยิ้ม “แน่นอนว่าต้องเป็นที่คอมมูนิตี้สู่กวงอยู่แล้ว
“ห้องของอพาร์ตเมนต์นี้ใหญ่ ตกแต่งหรูหรา ถ้าต้องอยู่จริงๆ ก็ไม่น่าอาย อะไร
“แน่นอนว่าจุดสำคัญเลยคือเรื่องทำเล”
นักลงทุนคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความงุนงง “ทำเลเหรอครับ เห็นว่าอยู่ใกล้ มหาวิทยาลัยฮั่นตง ไม่ใช่ใจกลางเมืองสักหน่อย”
บอสหลี่อึ้งไป “คุณจะไปรู้อะไร! ใครเขาอยากอยู่ใจกลางเมืองกัน ทำเลตรง นั้นมีตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวที่เป็นสำนักงานใหญ่ของเถิงต๋า มีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู สาขามหาวิทยาลัยฮั่นตงที่บอสเผยแวะไปจิบกาแฟบ่อยๆ!
“คิดดูสิ ถ้าอยู่พักที่นั่นแล้วได้เจอบอสเผยบ่อยๆ ก็สะดวกเลยไม่ใช่เหรอ
“นานๆ ทีแวะไปจิบกาแฟกับบอสเผย คุยกับบอสไม่กี่ประโยคอาจจะได้ ข้อมูลสำคัญสุดๆ มาก็ได้!”
เหล่านักลงทุนเข้าใจในที่สุด
“แบบนี้นี่เอง
“ถ้างั้นจากที่บอสหลี่บอก ก็จำเป็นต้องเช่าที่นั่นจริงๆ เช่าระยะยาวเลยด้วย! เอาสักสองสามปี!”
“เราจะได้เจอบอสเผยแถวนั้นจริงเหรอ” มีบางส่วนที่ยังสองจิตสองใจอยู่
หลี่สือหัวเราะ “แน่อยู่แล้ว ถึงผมจะไม่รู้ว่าบอสเผยพักอยู่ที่ไหน แต่บอสเผย แวะไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานั้นบ่อยจริงๆ นั่นแหละ พักอยู่ละแวกนั้นต้อง ช่วยเพิ่มโอกาสเจอบอสเผยได้มากขึ้นเยอะแน่ๆ”
เหล่านักลงทุนคล้อยตาม
ห้องชุดนี้ก็ไม่ได้ห่างชั้นจากห้องชุดสุดหรูอื่นๆ แน่นอนว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ จัดเก็บอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต้องการพื้นที่จัดเก็บอยู่แล้ว
แถมยังมีนิติบุคคล มีบริการทำความสะอาดประจำ และพักอาศัยสบายยิ่งกว่า โรงแรม
ไม่ว่าจะมองยังไงก็เหมือนทำขึ้นเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ! เหมาะกับการเช่า สุดๆ!
ปัญหาเดียวคือบางคนไม่ชอบสไตล์มินิมอล แต่ก็เป็นส่วนน้อย คนอื่นๆ ยอมรับสไตล์ต่างๆ ได้หมด
พอคิดได้แบบนั้น เหล่านักลงทุนก็ลุกขึ้น “ไปคอมมูนิตี้สู่กวงเพื่อสนับสนุนบอสเผยกันเถอะ!”
… คอมมูนิตี้สู่กวง ตึกรูปทรงกระบอกที่รีโนเวตเป็นอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ซ่งไข่ส่งลูกค้าอีกกลุ่มกลับ เขาอดถอนหายใจไม่ได้ ทำไมทุกคนแค่แวะมาดูแต่ไม่เช่ากันสักคน ส่วนใหญ่พอรู้ราคาและกฎระเบียบต่างๆ ก็เปลี่ยนท่าทีเป็น ‘ขอคิดดูก่อน’
มีส่วนน้อยที่เดินเข้าไปดูห้องแล้วบ่นว่า ‘อะไรวะเนี่ย สภาพห้องเหมือนโดน ยกเค้า ไม่คิดจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ดีๆ เข้ามาใหม่เลยเหรอ’ ก่อนจะกลับออกไป
สำหรับคนกลุ่มแรก ซ่งไข่รู้ว่าขอคิดดูก่อนแปลว่าไม่กลับมาแล้ว
ส่วนกลุ่มหลัง ซ่งไข่ก็ได้แต่คิดว่าทุกคนมีรสนิยมต่างกัน บางคนก็มีความชื่น ชมในเชิงศิลป์ไม่มากพอ
นี่เป็นห้องชุดที่สถาปนิกออกแบบเองโดยใช้แนวคิดของบอสเผยเชียวนะ ทำไมถึงมองว่า ‘เหมือนห้องโดนยกเค้า’ ได้
ไม่เข้าใจถึงคุณค่าของงานศิลปะเลยรึไง
ซ่งไข่รู้สึกท้อเล็กน้อยเพราะวันนี้เขาแนะนำห้องให้ลูกค้าหลายคน แต่กลับ ปล่อยเช่าไม่ได้เลยสักห้อง
ซึ่งก็ช่วยไม่ได้ เพราะการขายห้องนั้นต้องใช้ความจริงสามส่วนและการโกหก ซึ่งไม่ได้ส่งผลร้ายอีกเจ็ดส่วน ไม่งั้นจะมีสักกี่คนที่เข้าใจข้อดีของห้องชุดนี้
ตามที่บอสเผยสั่งมา ซ่งไข่ทำได้แค่แจ้งกฎระเบียบของห้องชุดและบอกข้อดี ได้แค่ตอนลูกค้าถาม ซึ่งกลายเป็นการกีดกันลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ให้มาเช่า
ซ่งไข่ไม่พอใจมากเมื่อได้อ่านรีวิวออนไลน์
เพราะเขาเคยทำงานที่บริษัทจู้เจียมาก่อนและรู้ว่าบริษัทนี้เจ้าเล่ห์ขนาดไหน
การโจมตีอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่นั้นไร้เหตุผล บางคนไม่เข้าใจอะไรเลย คิดแค่ว่าจะเทียบราคา บางคนเข้าใจ แต่ก็จงใจสร้าง อคติให้คนส่วนใหญ่
ตัวอย่างเช่น ประเด็นเรื่อง ‘คุณภาพดี ราคาถูก’
หลายคนคิดว่าอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยนั้นแพงกว่าห้องหรูอยู่สบายและ สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีกว่าอย่างชัดเจนตามราคาที่เพิ่มขึ้น กลับกัน ประสบการณ์การพักอาศัยนั้นถูกลดทอนลงเพราะกฎต่างๆ ห้องชุดพวกนี้อยู่ อาศัยไม่ได้จริง เพราะงั้นจึงไม่ใช่ห้องที่คุณภาพดีหรือราคาถูก
แต่ซ่งไข่ก็อยากตอกกลับไปว่า พวกคุณคิดถึงเรื่องที่มองไม่เห็นบ้างรึเปล่า
ถึงจะเป็นผนังสีขาวเหมือนกัน แต่ห้องหนึ่งใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ส่วนอีกห้องใช้วัสดุที่ปล่อยสารก่อมะเร็งไม่หยุด เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งสูง จะ เหมือนกันได้ยังไง
เฟอร์นิเจอร์ การปูพื้น เครื่องใช้ในครัวเรือน บริการทำความสะอาด และอื่นๆ ถึงจะดูคล้ายกัน แต่จริงๆ นั้นต่างกันลิบลับ!
แนวคิดเรื่อง ‘ความถูก’ นั้นเกิดจากการเปรียบเทียบ ในแง่ของประสบการณ์ การพักอาศัยจริงนั้น อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยดีกว่าห้องหรูอยู่สบายของบริษัท จู้เจียแน่นอน!
แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจเรื่องนี้และมองแค่ผิวเผิน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังไงก็ต้องมีพนักงานบริษัทจู้เจียที่แสร้งทำเป็นบังเอิญมาเจอ โพสต์แล้วจงใจคอมเมนต์ในเชิง ‘อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยค่าเช่าแพงมาก เหมาะแค่กับคนที่อยากแสร้งทำว่าตัวเองรวย’ ทำให้ทุกคนตั้งแง่และเป็นการ โฆษณาโครงการห้องหรูอยู่สบายของตัวเองไปด้วย
ซ่งไข่โมโหมาก แต่บอสเผยดูจะไม่อยากสู้กับคนพวกนี้
เขารู้ว่าถึงตัวเองจะออกมาพูดบ้างก็ไม่เกิดอะไรขึ้น การออกมาอธิบาย สถานการณ์ในฐานะคนนอกนั้นไม่ช่วยอะไร และเขาก็รู้ว่าถ้าโพสต์ในฐานะ พนักงานอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย ก็ต้องเกิดกระแสตีกลับแน่
แต่ไม่ว่ายังไง งานก็ต้องดำเนินต่อไป
ถ้าเขาแก้ปัญหาเรื่องหน้าม้าไม่ได้ ก็ทำได้แค่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
ซ่งไข่พาคนเข้ามาดูห้องต่อ
ชั้นแรกของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยทำเป็น ‘ห้องนิติบุคคล’ นิติบุคคล ประจำอยู่ชั้นแรก คอยต้อนรับลูกค้าและใช้ห้องนี้เป็นห้องโมเดลให้ลูกค้าเข้ามา ชม
ตอนนั้นเอง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก ฟังดูแล้วน่าจะไม่ใช่แค่คน เดียว
ประตูห้องนิติบุคคลที่ชั้นหนึ่งเปิดอยู่ตลอดเพื่อที่ซ่งไข่จะได้เห็นสถานการณ์ ด้านนอกได้ตลอดเวลา เขารีบลุกออกไปต้อนรับเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า จากนั้นก็พบ บอสหลี่
“สวัสดีครับ! เชิญเลยครับ!”ซ่งไข่กวาดสายตามองกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งมาแล้วอด ใจชื้นขึ้นมาไม่ได้ ลูกค้ากลุ่มนี้สวมสูทกับรองเท้าหนังกันทุกคน ดูแล้วน่าจะอายุ ประมาณช่วงสี่สิบ คนที่แต่งตัวเนี้ยบขนาดนี้ต้องมีเงินแน่นอน!
คำถามคือ ถ้าพวกเขามีเงิน ทำไมต้องมาเช่าห้องชุดด้วย
ซ่งไข่งงมากแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เขาเชิญทุกคนเข้าไปนั่งด้านในอย่าง กระตือรือร้นและยกน้ำดื่มกับชามาเสิร์ฟ
แต่ลูกค้ามากันหลายคนจนไม่สามารถนั่งได้หมด โซฟานั้นนั่งได้แค่สองถึงสาม คน ถึงจะเอาเก้าอี้มาเสริมก็นั่งได้ไม่ครบทุกคน
ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะห้องชุดนั้นออกแบบมาสำหรับหนึ่งถึงสองคน ห้องนั่งเล่นออกแบบตามสไตล์มินิมอล จึงมีเฟอร์นิเจอร์ไม่มาก
หลี่สือมองโซฟาแล้วหันมองทีวีจอยักษ์
เขามั่นใจมากขึ้นว่ามาตรฐานการตกแต่งของที่นี่นั้นสูงมากจริงๆ!
ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นรูปบนอินเทอร์เน็ตมาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยเห็น สถานที่จริงด้วยตาของตัวเอง จึงกังวลว่าจะเป็น ‘การตกแต่งไว้โชว์’ และกลัวว่า มาตรฐานการตกแต่งจะไม่ดีพอ ทำให้พักอาศัยได้ไม่สะดวกสบาย
พอมาเห็นเองจริงๆ เขาก็รู้สึกว่าการตกแต่งของที่นี่มาตรฐานเท่าๆ กันกับ แมนชันของตน ราคาไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย!
แต่นักลงทุนคนอื่นๆ มีท่าทีต่างกันออกไป
ชัดเจนว่าหลายคนไม่สามารถยอมรับสไตล์ผนังว่างสี่ด้านได้
นักลงทุนบางคนที่รอบรู้หน่อยมองออกว่าโซฟา ทีวี และข้าวของส่วนใหญ่นั้น เป็นของราคาแพง
แต่ก็แพงคนละแบบกับที่พวกเขาคิด!
นักลงทุนบางคนชอบสไตล์หรูหราตามประสาไฮโซ พวกเขาแทบอดใจไม่ได้ที่ จะตกแต่งบ้านตัวเองออกมาเป็นพระราชวังตะวันตก จึงรู้สึกไม่ชอบสไตล์มินิมอล
นักลงทุนสองคนกระซิบคุยกันอยู่ด้านข้าง
“ผมน่าจะไม่ไหว จะให้อยู่ยังไง ห้องนั่งเล่นใหญ่ขนาดนี้มีโซฟาแค่ตัวเดียว”
“การตกแต่งไม่เข้ากับนิสัยผมเลย ผมต้องมีโต๊ะชาตัวใหญ่กับชุดน้ำชา ไม่งั้นก็ อยู่ไม่ได้”
“ผมว่าน่าจะทำไม่ได้ เขาไม่อนุญาตให้เอาเฟอร์นิเจอร์ตัวเองเข้ามา” “แล้วทำไงดีล่ะ” “ไม่เป็นไร ตึกนี้มีสิบสองชั้น ชั้นแรกเป็นของนิติบุคคล ก็เหลืออีกสิบเอ็ดชั้น เรามีกันสิบสามคน ก็ปล่อยให้คนอื่นเช่ากันไปก่อน” บางส่วนเริ่มล้มเลิกความตั้งใจ ซ่งไข่เดินไปหากลุ่มลูกค้าพร้อมยิ้ม ตั้งใจว่าจะแนะนำกฎระเบียบของอพาร์ต เมนต์บ้านจอมเฉื่อยให้ทุกคนฟัง แต่หลี่สือก็ยกมือส่งสัญญาณว่าไม่จำเป็น “เอาสัญญาเช่ามาเลยครับ เราจะเช่าเหมาทั้งตึก ผมขออยู่ชั้นบนสุด” ซ่งไข่อึ้งไป
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ฉันยังไม่ได้บอกกฎระเบียบของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยเลยนะ!
ซ่งไข่ย้ำตามที่บอสเผยสั่งไว้ “แน่ใจแล้วเหรอครับว่าจะไม่ฟังกฎระเบียบของอ พาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยก่อน ถ้าย้ายเข้ามาอยู่แล้วต้องทำตามกฎระเบียบของ ทางอพาร์ตเมนต์นะครับ”
หลี่สือยิ้มบางพลางส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ เอาสัญญามาให้เราก็พอ พวกเรา เป็นเพื่อนบอสเผยน่ะครับ”
ซ่งไข่ถึงบางอ้อ งี้นี่เอง!
เพื่อนของบอสเผยมาสนับสนุนบอส งั้นก็ง่ายละ!
เขารีบหยิบสัญญาที่เตรียมไว้มาแจกให้ทุกคน
“ผมขออธิบายเรื่องหนึ่งก่อนนะครับ ชั้นบนสุดมีคนเช่าไปแล้ว ชั้นแรกเป็น ห้องของนิติบุคคลซึ่งไม่ได้ปล่อยเช่า เพราะงั้นก็เหลือห้องให้เช่าแค่สิบห้อง ซึ่ง วันนี้คุณลูกค้ามากันสิบสามคน” ซ่งไข่อธิบาย
หลี่สื่อผงะไป
ชั้นสิบสองมีคนเช่าแล้วเหรอ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาไว้ดูวิวชั้นสูงสุด มาช้าไป เหรอเนี่ย
ใครกันที่เร็วกว่าฉัน
หลี่สือรู้สึกเจ็บใจเล็กน้อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ทำได้แค่เช่าชั้นสิบเอ็ดแทน
คนอื่นๆ เลือกชั้นกันทีละคน นักลงทุนสามคนที่ไม่ชอบสไตล์ผนังว่างสี่ด้าน บ่ายเบี่ยงจนคนอื่นเลือกกันเสร็จ แสร้งทำเป็นว่าใจดียกให้คนอื่น
หลังเซ็นสัญญา จ่ายเงิน และลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว หลี่สือก็ไม่ได้ถามอะไร เพิ่มเติม พวกเขาจัดการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างรวดเร็ว
ซ่งไข่ดีใจมาก “ยินดีต้อนรับบอสหลี่กับทุกคนนะครับ! ถ้าพบปัญหาอะไร ระหว่างพักอาศัย สามารถเรียกผมได้ทุกเมื่อเลย!”
หลี่สือกับนักลงทุนคนอื่นๆ รับกุญแจห้องแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของตัวเอง ด้วยกัน
ตอนที่ลิฟต์ขึ้นไปถึงชั้นสิบเอ็ดก็เหลือหลี่สืออยู่แค่คนเดียว ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากลิฟต์ เขาก็เปลี่ยนใจกดไปชั้นสิบสอง เขาสงสัยมากว่าใครอยู่ชั้นสิบสอง ใครกันที่ชิงแสดงความจริงใจให้บอสเผยเห็นตัดหน้าเขา ถ้ารู้เยอะกว่าเขาก็น่าจะเป็นบอร์ดบริหารระดับสูงหรือพนักงานของเถิงต๋า คนคนนี้น่าจะสนิทกับบอสเผยมาก ยังไงก็ต้องเป็นเพื่อนบ้านกันในอนาคต สนิทกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่า
ลิฟต์จอดที่ชั้นบนสุด
หลี่สือเคาะประตูห้องเบาๆ เขาเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่มีคนอยู่ เพราะห ลี่สือก็ไม่ได้เช่าห้องเพื่อมาอยู่ประจำ
ไม่นานประตูก็เปิด หลี่สือเงยหน้ามองแล้วพบบอสเผยในสภาพที่ยังไม่ได้เตรียมตัวและดูตกใจ ทั้งสองมองหน้ากันพลางอึ้งไปพักใหญ่ เผยเชียนคิดว่าเป็นซ่งไข่เลยเปิดประตูออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร ถ้ารู้ว่าเป็นบอสหลี่คงแสร้งทำเป็นว่าไม่อยู่
แต่ตอนนี้สายไปแล้ว
“บอสหลี่?”
“บอสเผย?!”
ทั้งสองโพล่งออกมาพร้อมกัน แต่น้ำเสียงของเผยเชียนนั้นเต็มไปด้วยความ งุนงง ส่วนน้ำเสียงของหลี่สือดูจะตกใจเล็กน้อย