ก็แค่อยากเล่นเกมแต่ก็โดน TS ซะแล้ว - ตอนที่ 6 เลือกอาชีพครั้งแรก
【เลเวล[16] ได้เพิ่มเป็น [17].】
【ค่าความแข็งแกร่งได้เพิ่มขึ้นจาก [16] เป็น [17].】
【ค่าความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบมือเดี่ยวได้เพิ่มขึ้นจาก [19] เป็น [21].】
【สกิลโจมตีของคุณ [ ดาบจู่โจม ] ได้ถูกอัปเกรดเป็น [ ดาบจู่โจม II].】
【สกิลโจมตีของคุณ [ ดาบความเร็วเสียง ] ได้ถูกอัปเกรดเป็น [ดาบความเร็วเสียง II].】
【คุณได้รับสกิลสนับสนุน [รวบรวมสมาธิ]】
【คุณได้รับสกิลสนับสนุน [นักฆ่าสไลม์]】
“..เลเวลอัปแล้วหรอเนี่ย..?”
หลังจากได้ยินเสียงประกาศแจ้งเตือนจากการที่เลเวลของเธอเพิ่มขึ้นตั้งแต่ได้เริ่มล่าสไลม์ โซระก็ได้หยุดลง
จากระยะไกลทั้งชินกับราโอ ที่พึ่งจะถึงเลเวล 4 หลังจากล่าพวกสไลม์เสร็จก็มองมาทางนี้ด้วยใบหน้าตกใจ
พอลองเช็คเวลาในตอนนี้ดู.. 11:30
หรือให้บอกก็ผ่านมาแล้ว 2 ชั่วโมงตั้งแต่ที่นัดกันและเริ่มเข้าทุ่งหญ้าเพื่อมาล่าเหล่าสไลม์
เราคุยกันตั้งแต่เมื่อวานไว้ว่าการฟาร์มเวลต้องเสร็จก่อนช่วงเที่ยง และโซระก็ได้คิดว่าเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่แล้ว
อืม ถึงแม้จะมีสิ่งที่ต้องทำอีกเยอะเป็นกอง ทั้งเลือกอาชีพ และ การซื้ออุปกรณ์สวมใส่
ด้วยความเร่งรีบ เธอรีบวิ่งไปหาชินกับราโอและพูดอธิบายพร้อมทั้งลากทั้งคู่ มายังใจกลางเมืองหลวงของ Yggdrasil เพื่อที่จะเลือกอาชีพ
หลังจากเดินผ่านประตูทางเข้าไปแล้ว พวกเขาก็ได้กลับมายังจตุรัสขนาดใหญ่ที่พวกเขาเห็นกันมาก่อนแล้ว
หืม…
โซระรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่
มันดูเหมือนว่ารูปร่างลักษณะตอนนี้ของเขานั้นมีคนสนใจเยอะสุดๆ
ถ้าให้เวลามากังวล โซระคงไม่ใช่อย่างงั้นและชั่งมันไปพร้อมทั้งเปิดเมนูไอเทม และเลือกไปยังแผนที่ของเมือง ที่เธอได้มาจากไอเทมในตอนเริ่มเกม
เธอมองไปยังตำแหน่งของร้านค้า และดูเหมือนจะมีอยู่จุดเดียวที่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ ที่มีชื่อว่า 【วิหาร】 และกดเลือกไปยังจุดนั้นโดยไม่คิดอะไร
ทางที่สั้นที่สุดได้แสดงขึ้นมาเป็นคำแนะนำบนพื้นให้เธอเดินตามไป
และจากนั้นทั้งสามคนก็ได้เริ่มตามเส้นทางนั้น
ในช่วงเวลาที่เดินทั้งสามคนก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องของอาชีพที่ตัวเองจะเลือก
“แล้ว.. ฉันควรเลือกอะไรดีล่ะ?”
“เหอะ ไม่ต้องคิดเลยครับผมจะเป็นจอมเวท…”
“อา ฉันจะเป็นอัศวินไหนๆถ้าเราจะตั้งตี้สามคนกันแล้ว การมีคนยั่วยุให้ก็เป็นเรื่องสำคัญ”
ดูเหมือนทั้งชินกับราโอจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกอะไรกัน
แต่สำหรับเธอที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ หรือ ชอบอาชีพไหนเป็นพิเศษ
ถ้าทั้งสองคนเลือกอาชีพที่เน้นไปทางการทำดาเมจและการแทงค์ บางทีเธอควรที่จะเลือกอาชีพสายซัพหรือเปล่านะ
ให้ยกตัวอย่างก็คงเป็น นักเสริมพลังที่สามารถเพิ่มความสามารถให้ไม่ใช่แค่หนึ่งคน หรือ สองคนแต่รวมถึงเธอด้วย หรือไม่ก็ นักเล่นแร่แปรธาตุ ที่สามารถสร้างไอเทพที่ช่วยสนับสนุนได้..
“แต่ไม่รู้สิ รู้สึกเหมือนมันยังไม่ใช่…”
“นักอัญเชิญเองก็ดูน่าสนใจเหมือนกันนะครับ”
“หรือไม่ก็นักฝึกสัตว์เองก็ฟังดูน่าสนใจเหมือนกันแฮะ แต่อาชีพนี้คงต้องไปคิดหลังจากจับสัตว์ตาเดียวได้อ่ะนะ”
“แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนอาชีพ จะไม่สามารถเปลี่ยนอีกได้เป็นเดือนเลยนะสิ…”
และยิ่งกว่านั้น นอกจากข้อมูลเช่นพวกแผนการในฟอรั่ม บล็อคส่วนตัว หรือ ในโลกโซเชียลมีเดียล้วนเป็นข้อมูลธรรมดา ทำให้เรามีข้อมูลแค่ชั้นพื้นผิวของอัสทัลออนไลน์…
ให้ยกตัวอย่าง ทุกโพสที่เกี่ยวกับสกิลที่ได้จากการเลือกอาชีพเองก็จะถูกลบออกไปในทันที
เพราะงั้นฉันต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องอาชีพที่จะเลือกให้ดีๆ
ในช่วงเวลาที่คิดอยู่ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ก็ได้เริ่มปรากฎขึ้นมาให้มองเห็น และในที่สุดก็แสดงขนาดทั้งหมดของมัน
สิ่งก่อสร้างขนาดราว 15 เมตร
นี่เป็นวิหารเพียงที่เดียว ในเมืองหลวง
ชื่อของมันคือ อูร์ดร์ ที่ฟังยังไงก็มาจากตำนานเทพนอร์ส [1]
ในทีแรกที่มอง มันจะดูเหมือนปราสาทสีขาวขนาดใหญ่ที่ดูค่อนข้างน่ากลัว..
การที่ไม่มีสีอื่นมาผสมด้วยคงแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของผู้รับใช้พระเจ้า
หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยกันเสร็จ ฉันก็เดินผ่านประตูขนาดใหญ่ที่เปิดเอาไว้พร้อมกับชินและราโอ
ข้างในเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ มีเพียงแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเพดานกระจกเท่านั้นที่ส่องแสงผ่านลงมา
รูปปั้นหินที่ดูเหมือนจะเป็นเทพเจ้าของโลกใบนี้เรียงรายอยู่ตามผนัง
และวงเวทย์รูปทรงกลมขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้นที่เปล่งแสงออกมาเล็กๆ ช่วยส่งเสริมความรู้สึกลึกลับ
ตั้งแต่ที่เข้ามา ผมก็หยุดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาด้วยความชื่นชม
“ว้าว.. มันดูเหมือนวิหารจัง..”
“มันไม่ใช่ ‘ เหมือนวิหาร ’ แต่มันคือวิหารตั้งหากเล่าเจ้าบ้า”
“โซระ พูดเรื่องแปลกๆออกมาอีกแล้วนะครับ…”
“ฮึ่ม!… ”
ด้านหน้าของทั้งสามคนคือผู้หญิงในชุดผ้าคลุมสีขาวที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
รูปลักษณ์ที่ปรากฎขึ้นมาของเธอนั้นอยู่ราวๆช่วงต้นของอายุยี่สิบ
ด้วยทรงผมสีทองยาวคู่กับดวงตาสีฟ้าใส นั้นทำให้เธองดงามอย่างไม่ต้องสงสัย
ฉันจ้องไปยังชื่อของเธอ และมันอ่านว่า 【แวร์ดันติ】. [2]
จากชื่อของวิหารอย่าง 【อูร์ดร์】 และมาเจอ 【แวร์ดันติ】ดูเหมือนว่าทั้งสองชื่อนี้มาจากพี่น้องสามสาวในตำนานนอร์ส [3]
ขณะกำลังครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย แวร์ดันติได้โค้งเอวของเธอ พร้อมโค้งตัวเพื่อทักทายพวกเราอย่างสง่างาม
“ยินดีต้อนรับนะคะ ฉันนักบุญชั้นสูง ‘ แวร์ดันติ ’ และนี่คือวิหาร 【อูร์ดร์】ที่เหล่านักผจญภัยจะใช้ในการเปลี่ยนอาชีพของตัวเอง หลังจากตัดสินใจอาชีพที่ตัวเองต้องการได้แล้ว กรุณาไปยืนอยู่ตรงวงเวทย์พร้อมทั้งทำตามเสียงแห่งสวรรค์บอกด้วยค่ะ
แวร์ดิตินั้นอธิบายด้วยความสุภาพ และชี้ไปยังวงเวทย์ที่อยู่ทางด้านขวามือของเธอ
และ ‘ เสียงแห่งสวรรค์ ’ ที่เธอบอกก็น่าจะเป็นระบบของเกม
หลังจากชื่นชมการออกแบบเชิงแฟนตาซี ฉันก็ได้เอ่ยถามแวร์ดันติออกไปหนึ่งคำถามที่อยู่ในใจของตัวเอง
“มันจะโอเคใช่ไหมคะ ที่จะยืนบนวงกลมพร้อมกันสามคน?”
“ค่ะ มันไม่เป็นอะไรแน่นอน แต่ยังไงก็ระวังไม่เดินออกจากวงเวทย์ด้วยนะคะ เพราะไม่งั้นจะเป็นการยกเลิกกระบวนการเข้า”
“เข้าใจแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“นั่นเป็นงานของดิฉัน ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอกค่ะ”
แวร์ดันติได้เอ่ยออกมาด้วยท่าทางที่สง่างาม พร้อมทั้งขยับมือขวาของตัวเองไปกุมปากและเผยยิ้มออกมาอย่างสง่างาม
มันเป็นรอยยิ้มอันแสนงดงามที่ไม่ได้เป็นรอยยิ้มแบบหุ่นยนต์ในพวก NPC ของเกม VR
มันดูเหมือนรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจจริงๆ และฉันก็เริ่มรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องนี้
สุดยอดไปเลย.. NPC ของเกมในปัจจุบันแสดงอารมณ์ได้เหมือนคนจริงๆเลย…
บางทีพวกเขาอาจจะใช้ motion capture เพื่อแสดงอารมณ์ของ NPC แต่ไม่รู้สิผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ยังไงก็ไม่รู้
เอาจริงๆเลยนะ มันดูราวกับว่าเป็นภาพลวงตาที่เหมือนกับว่าได้คุยกับผู้เล่นจริงๆ
หลังจากที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ฉันก็ถูกแตะลงที่ไหล่
พอหันไปก็เห็นชินกับราโอที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นิดหน่อย
“โซระ.. พวกเราไม่มีเวลาจะมาคุยกับพวก NPC นะ”
“เอาจริงอ่ะ โซระ.. นายวอกแวกง่ายไปแล้วมั้ง”
“โทษที..”
พวกเขาจี้ได้ถูกจุดเลยล่ะ..
ผมก้มหัวลงและเดินตามชินกับราโอเพื่อไปยืนตรงวงเวทย์
ในตอนที่สายตาของผมหันไปมองที่แวร์ดันติ เธอดูราวกับกำลังขอโทษอยู่
นี่เธอเป็น NPC จริงๆหรอ…?
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น หน้าต่างสเตตัสก็ได้เด้งขึ้นมาด้านหน้าของผม
ระบบช่วยเหลือของเกมได้ทำงาน และได้แสดงถึงจำนวนของอาชีพขึ้นมา
มันมีอยู่หลายอาชีพที่ในตอนนี้ผมสามารถเลือกได้
————————
【อัศวิน】
อาชีพนี้ต้องการทักษะแนวหน้า
【โจร】
อาชีพนี้ต้องการทักษะดีบัฟ
【นักแปรธาตุ】
อาชีพนี้ต้องการทักษะที่เกี่ยวกับวัสดุ
【นักเวทย์】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับเวทย์มนต์
【ชั่งตีเหล็ก】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการเหล็ก
【นินจา】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการซ้อนเร้น
【นักศิลปะการต่อสู้】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการต่อสู้
【นักบวช】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการฮีล
【นักอัญเชิญ】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการอัญเชิญ
【นักฝึกสัตว์】
อาชีพนี้ต้องการทักษะที่ทำให้มอนสเตอร์กลายเป็นพวก
【นักล่า】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการหยุดชะงัก
【นักเสริมพลัง】
อาชีพนี้ต้องการทักษะเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพพลัง
————————
มีอาชีพมากมายที่ตอนนี้ฉันสามารถเลือกได้ และทุกอย่างก็เหมือนที่จะฟรีทั้งหมด และหากจะเปลี่ยนอาชีพอีกรอบจะต้องใช้ 20,000 El.
ในตอนนี้เงินที่มีจากการล่าสไลม์คือ 6950 Ei เพราะงั้นถ้าจะทำตามแผนที่เปลี่ยนอาชีพอีกรอบคืออย่างน้อยต้องมี 20000 EI อยู่ในมือ
เฮ้อ โซระคิดกับตัวเธอเองว่ามันดูยุ่งยากซะเหลือเกิน
20000 EI เลยหรอ.. การเลือกอาชีพผิดนี่มันใช้ค่าใช้จ่ายเยอะจัง…
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะต้องใช้เงินเยอะๆ ในเดือนหน้า โซระเลยครุ่นคิดในขณะจ้องไปยังอาชีพที่เลือกได้
ชินกับราโอที่เลือกได้แล้วได้คุยกันอย่างตื่นเต้น
และเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกไม่ค่อยดีที่จะให้ทั้งคู่ต้องรอ
ชินเป็น 【จอมเวท】และราโอเป็น 【อัศวิน】นั่นแปลว่าตอนนี้ที่เหลือคือหน้าที่คนอยู่ตรงกลาง
แต่มันมีตั้งหลายตัวเลือกที่อยู่ตรงกลางนะสิ..
ทั้ง 【โจร】 ที่สามารถดีบัฟได้ และทั้ง 【ผู้เสริมพลัง】ที่จะเพิ่มประสิทธิ์ภาพให้เพื่อนร่วมทีมได้
หรือไม่ก็ 【นักอัญเชิญ】 หรือ 【ผู้ฝึกสัตว์】 ที่จะเพิ่มจำนวนของผู้ร่วมทีมในการต่อสู้
และทั้งที่อยากจะหลีกเลี่ยงใช้โพชั่นให้จำกัดมากที่สุด 【นักบุญ】 ก็เป็นตัวเลือกที่ยากที่จะตัดไป
และถ้าอ้างอิงจากความพอดีถ้าต้องให้เลือกอาชีพล่ะก็…
หลังจากต่อสู้ภายในหัว โซระก็ได้ตัดสินใจได้เสียที และแตะไปยังอาชีพ 【ผู้เสริมพลัง】
ถ้าเอาจากความเป็นไปได้ ที่มักจะได้ไปทำอะไรคนเดียวบ่อยๆในอนาคต 【ผู้เสริมพลัง】 ที่สามารถปรับใช้พลังธาตุที่ศัตรูแพ้ทางได้ก็คงไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่
ปุ่มกดยืนยันได้แสดงขึ้นมา เพื่อยืนยันว่าจะเลือกอาชีพนี้จริงๆ
โดยไม่ต้องคิดอะไรไปมากกว่านั้น โซระก็ได้กดปุ่ม ‘ ใช่ ’
เสียงแตรเฉลิมฉลองได้ดังขึ้นมา และสิ่งที่เลือกอย่าง 【ผู้เสริมพลัง】 ก็ได้ปรากฎขึ้นมายังช่องอาชีพ
เสียงของหญิงสาวที่ดูคุ้นหูได้ปล่าวประกาศรายละเอียดของอาชีพที่ตนได้เลือก
—
【อาชีพ: ผู้เสริมพลังได้ถูกเลือก! 】
【คุณได้รับสกิลสายสนับสนุน〈เสริมพลังด้วยเพลิง〉.】
【คุณได้รับสกิลสายสนับสนุน〈เสริมพลังด้วยวารี〉.】
【คุณได้รับสกิลสายสนับสนุน〈เสริมพลังด้วยสายลม〉.】
【คุณได้รับสกิลสายสนับสนุน〈เสริมพลังด้วยดิน〉.】
—
หลังจากเสียงเฉลิมฉลองจบลง ผมก็กลับมายังโลกนี้อีกรอบและกลับมาจดจ่ออีกครั้ง
ด้วยความตื่นตระหนกผมเปิดหน้าต่างสถานะเพื่อที่เช็ค และเห็นอาชีพผู้เสริมพลังได้ถูกเพิ่มขึ้นมา
“..อาชีพแรกบนโลกใบนี้หรอ…”
“โซระเลือกอะไรไปล่ะ ?”
“ผมก็สงสัยเหมือกัน ด้วยเลเวลของโซระแล้วก็ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็คงไม่มีปัญหาหรอกนะ”
“อา ฉันเลือกผู้เสริมพลังไปล่ะ ไหนๆก็จะเป็นผู้เล่นเดียวอยู่แล้วด้วย”
“ผู้เสริมพลัง!?”
ชินกับราโอได้พูดออกมาอย่างตกใจจนตัวเองล้มลงไป
ในตอนที่ผมเอ่ยถามว่าเป็นอะไร พวกเขาก็ได้อธิบายออกมาอย่างพร้อมเพรียง
“ฉันไปเช็คมาก่อนแล้ว แต่เท่าข้อมูลทีมี่ อาชีพ 【ผู้เสริมพลัง】โครตจะไร้ประโยชน์เลยล่ะเพราะว่าเราระบุกันไม่ได้ว่าศัตรูแพ้ทางอะไร”
“และแถมพวกสกิลระบุชนิด หรือ พวกวิสัยทัศน์เองก็ไม่มีวิธีการไปหามันมาด้วย มันเหมือนกับว่าต้องเป็นอาชีพ 【นักแปรธาตุ】 หรือไม่ก็ 【โจร】ที่จะเรียนรู้ได้ผ่านเพิ่มเลเวลสกิลของอาชีพ ”
“แต่แย่สุดตรงที่พวกเราไม่รู้ข้อมูลนั้นเลย และถึงต่อให้มันปรากฎขึ้นมามันก็แทบโดนล้มทันที..”
“หืม……”
จากเท่าที่ฟังดูเหมือนว่าจะมีคนเลือกอาชีพนี้ไปก่อนที่จะได้รับสกิลระบุจุดอ่อนของศัตรูและบอกว่าอาชีพนี้มันไร้ประโยชน์..
เพราะว่าถ้าเลือกการเสริมพลังไปผิดธาตุ มันก็จะไร้ประโยชน์ไปเลยและแถมยังมีข้อเสียที่จะทำให้พลังมันเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว
ยิ่งกว่านั้นจากที่เห็นสกิลมันโครตที่จะสูบมานาที่จะใช้ครั้งละ 40 และในตอนนี้มานาที่มีก็มีเพียง 170 หลังจากเลเวลได้เพิ่มขึ้น มันโครตจะท้าทายเลยล่ะ
ถ้าเป็นผู้เล่นธรรมดาคงจะบอกว่าเล่นยากโครตๆแหงๆ
เพราะงั้นแล้วอาชีพ 【ผู้เสริมพลัง】 นั้นเป็นอาชีพที่ยากมากที่จะถูกเลือกโดยผู้เล่นของอัสทัลออนไลน์เพราะงั้นทั้งสองเลยมองมาที่ผมด้วยความรู้สึกสงสารสินะ…
ยังไงก็เถอะ ความคิดของผู้เล่นปกติใช้ไม่ได้กับผมหรอกนะ
เพื่อตอบโต้การแสดงออกของทั้งสอง ผมเผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า ฉันมีสกิล 【วิสัยทัศน์】อยู่”
“นี่พูดว่าอะไรนะ…”
บางทีทั้งคู่คงหูไม่ดีแหงๆ
เพราะงั้นพูดอีกรอบให้ได้ยินไปถึงสมองเลยดีกว่า
“ฉันบอกว่า ฉันมีสกิล【วิสัยทัศน์】 !!! ”
และผมก็ย้ำเรื่องที่ว่าได้มันมาจากสกิลระดับยูนีค 【ลูซิเฟอร์】ที่ก็ได้รับต่อมาจากคำสาปของราชาปีศาจ ใบหน้าของทั้งคู่ที่แสดงออกมา มันตลกชะมัด
“อย่าพูดเรื่องสกิลกับคนอื่นนอกจากพวกเราเชียวนะ.. ไม่งั้นนายคงเกิดปัญหาแน่…”
“จากทั้งเลเวลและสกิลที่นายมีแล้ว ไม่ต้องบอกให้ไกลไม่ว่าจะมองยังไงนายก็พวกขี้โกงไม่สิ.. พวกโปรเลยจะดีกว่า”
“มันยากที่จะบอกว่ามันเป็นบัคหรือระบบพิเศษ แต่ในเชิงความแข็งแกร่ง มันก็ขี้โกงจริงๆนั่นแหละ”
และมันไม่มีช่องทางที่จะแจ้งไปยังผู้พัฒนาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรีเซ้ตไอดีได้เหมือนกับพวกไอดีในช่องทางโซเชี่ยล
ไม่รู้เลยซักนิดว่ามันไม่มีจริงๆ หรือ แค่ไม่สนใจเฉยๆ
ไม่ว่าจะกรณีไหน เราก็ไม่สามารถสร้างตัวละครที่สองได้ เลยไม่มีตัวเลือกนอกจากต้องเล่นตัวละครขี้โกงแบบนี้ไป
“อา ฉันจะระวังก็แล้วกันนะ..”
หลังจากนั้น บทสนทนาก็จบลง
ผมเคลียคอของตัวเอง และเช็คเวลา
“ขอโทษทีนะทั้งคู่ มันจะเที่ยงแล้วล่ะ ฉันว่าน้องสาวคงกำลังทำข้าวเที่ยงอยู่แหงๆ เพราะงั้นขอล็อคเอาท์ก่อนก็แล้วกัน”
“งั้นก็เอาไว้เจอกันนอกวิหารนะ”
ในเกมนี้ คุณจะล็อคเอาท์ออกได้จากทุกๆเซฟโซน และเพราะได้เริ่มจากที่เดิมในตอนล็อคอินมันเลยกะเวลาได้ง่าย
พวกเราสัญญากันไว้ว่าจะมาเจอกันที่ด้านนอกของวิหารในตอน 13.30 พวกเราทั้งสามคนได้เปิดหน้าต่างสถานะขึ้นมาและกดไปยังปุ่มล็อคเอาท์ที่อยู่ด้านล่าง
ทั้งชินกับราโอได้หายไปและกลายเป็นกลุ่มก้อนแสงและลอยไป
ในตอนที่จ้องมอง โซระก็ได้คิดในใจของเธอ “ทำเรื่องในโลกจริงให้เสร็จ และรีบล็อคอินกลับเข้ามาในเกมให้เร็วที่สุดดีกว่า…” และจากนั้นเธอก็กลายเป็นกลุ่มก้อนแสงไป…
โดยผู้แปล :
[1]
https://mythus.fandom.com/wiki/Ur%C3%B0arbrunnr
[2]
https://en.wikipedia.org/wiki/Ver%C3%B0andi
[3] ในตำนานของเทพนอร์สจะมีสิ่งที่เรียกว่า ‘ นอร์น ’ ที่มีบทบาทอันแสนโดดเด่นเป็นหญิงสาวทั้งสามที่สามารถกำหนดโชคชะตาของทุกสิ่งมีชีวิตได้ ซึ่งทั้งสามคนมีนามว่า อูร์ดร์ แวร์ดันติ และ สคูลด์