กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 9 ความสุขจากแดดยามเช้า ณ ตลาด
9 ความสุขจากแดดยามเช้า ณ ตลาด
ผมกลับเข้ามาในบ้าน คืนตุ๊กตาและมาอยู่กันที่ห้องนอน
ผมนอนคิดมันเป็นสองปีหลังจากวันที่ผมแขนหักอย่างโชคดีผมไปขอขวานที่ห้องเก็บของต่อจากห้องโดโรเธีย แล้วนำไปตัดกิ่งของต้นราชพฤกษ์ เพื่อมาดามแขนที่หักตอนนั้นหลังจากดามมันหายในสองวันหายอย่างที่ผมคิดว่ามันจะหายเร็ว ร่ายกายคนที่นี่รักษาตัวเองเร็วมาก
และผมตัดมาเป็นดาบอีกสามกิ่งให้พวกเรา ผม วี เด็กแมวผมดำมีหูแมวหมายเลขหนี่ง วิว เด็กแมงมุมผมเงินมี 10 ตา 10 แขนหมายเลขสองอีกด้วย
เราเพิ่มดาบไปกับการฝึกตอนเช้าของเราด้วยโดยการเหวี่ยงมันทุกทิศ และตอนซ้อมต่อสู้เราเริ่มกันจากถือดาบเหมือนกันทุกคน
เพราะทุกคนมีดาบ เราก็ต้องมีดาบด้วย เราจะเข้าไปสู้กับคนทีดาบด้วยมือเปล่าไม่ได้ วีไม่อยากถืออย่างหงุดหงิด แต่ไม่พูดอะไร
แม้จะผ่านไปอีกหนึ่งปีหลังจากมีกิ่งราขพฤกษ์ วียังดูไม่ชอบดาบและพอสู้ไม่ทันใดเธอก็โยนมันทิ้งอย่างรวดเร็วตลอด แต่ตอนจังหวะที่มันเข้าประชิดได้ ผมเลยไม่พูดอะไร ส่วนวิวดูชอบและเก่งมันขึ้นเรื่อยๆ
ผมนึกไปถึงเมื่อวาน
—————————————
ผมกำลังนั่งอยู่ที่ห้องนอนรวม
“พี่หมายเลขแปด”
“มีอะไรเหรอหมายเลขสอง”
ตอนอยู่ในบ้านเราต้องเรียกหมายเลขกันเพราะเหล่าพี่เลี้ยงจะโกรธมากถ้าพวกเธอทั้งสามได้ยิน มันมีหน้าต่างอยู่ในห้องนอนรวมซ้ายและขวาของประตู
ตอนแรกมันแง้มนิดเดียวอยู่ตลอด ผมเคยถามอลิสแล้วเธอตอบกลับมาว่าเคยรำคาญเสียงผม และไม่ใครถามหลังจาก
นั้น ผมจึงขอเปิดมันและตอนนี้มันเปิดอยู่
ไม่ว่าอย่างไร คำถามของวีมีปัญหา
“น้องชอบมั้ยเวลาที่หมายเลขสองมีระยะไกลกว่า?”
“ไม่ชอบ”
“ดาบมันคือการเพิ่มระยะป้องกันตัว ถ้าเธอมือเปล่าระยะเธอจะสั้นกว่า ถ้าทุกคนถือดาบกันไม่เธอต้องเป็นคนเก่งที่สุดเหนือกว่าทุกๆคนได้ทั้งหมดตลอด น้องก็จะเสียเปรียบอยู่ตลอด ดังนั้น เธอต้องเข้าใจ แล้วยอมรับว่ามันอยู่กับเรา”
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะกลายเป็นคนที่เก่งที่สุด!”
“และหนูเป็นคนๆนั้นหรือยัง?”
“ยัง”
“ถ้าอย่างนั้นน้องจะทำตัวเองเสียเปรียบทั้งๆที่เลือกได้อย่างนั้นหรือนั่นเป็นการเอาเปรียบตัวเองนะ”
“แต่”
เธอไม่พูดอะไรต่อกำลังคิดอย่างหนัก จากนั้นเธอถอนหายใจ
“เฮ้อ หนูไม่รู้สิ”
“คิดซะว่ามันเป็นมือไม้ของเธอสิ”
“อย่างนั้นเหรอ”
“จินตนาการมัน มันเป็นของอันน้องจำเป็นต้องเล่น”
เธอเงียบไป
“เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจก็ดีแล้วนะสอง เล่น คิดอะไรใหม่ๆสิดีกว่า”
ผมลูบหัวเธอ เธอครางอย่างน่ารัก
—————————————
ผมมองเตียงวี เธอหลับอยู่ ผมมองวิวตอนนี่เธอนอน ณ เปลใยแมงมุมที่เพดาน
ผมปิดตานอนลงอย่างช้าๆระหว่างมองพวกเธอ
อยู่ที่ซึ่งไม่มีคนมันทีคอมพิวเตอร์อยู่เครื่องหนึ่งกับทุ่งหญ้าประหลาดที่นุ่มเหมือนเบาะ กับสัตว์ประหลาดมีหนวดหนาชี้ขึ้นฟ้ารอบตัว
คอมพิวเตอร์มันกำลังเป็ดอะไรซึ่งเหมือนเว็บไซต์ค้นหามันเป็นคอมพิวเตอร์ของโลกนี้หรือ?
“วี! วิว! พี่อลิส!”
เสียงผมก้องไปในความว่างเปล่าผมเดินวนห้องที่กว้างพอเหมือนห้องฝึก
“วี! วิว! พี่อลิส!”
ผมเผชิญกับความเงียบกัน
ผมเดินรอบห้อง
ผมเดินรอบห้องอีกรอบ แม้ว่าผมเห็นทุกอย่างได้ ผมเดินต่อไปดูที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
ดูข้างบน, ดูข้างล่าง, ดูมุม
ผมดูรอบห้องอีกครั้ง
หัวใจผมตกวูบไปที่ตาตุ่ม
ผมวิ่งอ้อมโต๊ะไปหน้าคอมพิวเตอร์
“วี, วิว, และอลิสอยู่ไหน”
“”พี่วิวตื่นๆ””
ผมลืมตา
“ฟู่วววว”
ผมเห็นวีกับวิวทำหน้าสงสัย
“พี่เป็นอะไรน่ะ เหงื่อออกท่วมเลย แล้วอย่าเรียกชื่อเราที่นี่สิ”
“ใช่ๆ”
“ฝันน่ะ พี่ละเมอ ว่าแต่มีอะไรเหรอหมายเลขหนึ่งหมายเลขสอง?”
“เมื่อสักพักที่แล้วพี่อลิสมาบอกว่าเรียกพี่ไปตลาดด้วยตอนเช้า”
“อื้มใช่”
“อย่างนั้นเหรอหมายเลขหนึ่งถ้าอย่างนั้นพี่ต้องฝึกเช้าก่อน”
“”อื้ม””
ผมลงเตียงอันเปียกเหงื่อผม แล้วสะบัดแขนสะบัดขา
ผมเห็นอลิสเดินมาผ่านหน้าต่าง
ผมหยุดฝึกเช้ามันน่าเสียดายแต่ไม่เป็นไร
ผมเดินไปหน้าประตูแล้วอลิสก็เข้ามา
“หมายเลขแปดอาบน้าพี่จะให้ไปยกของที่ตลาดกับวาเนสซ่า”
“มีแต่ผมที่ได้ไปเหรอ”
“ใช่เพราะโดโรเธียบอกว่าเธอแข็งแรง”
“ถ้าอย่างนั้นหมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสองแข็งแรงเท่าผมด้วย พี่ต้องพาพวกเธอไปด้วย หมายเลขหนึ่ง! หมายเลขสอง!”
“มีอะไรเหรอพี่วะ- หมายเลขแปด”
วิวถามผม ผมต้องให้พวกเธอพิสูจน์ความแข็งแกร่ง
“ยกพี่ให้พี่อลิสดูที จะได้ไปตลาด”
“ฮึบ”
“โห”
“ฮึบ”
วิวยกผม พอผมพื้นลงวีก็ยกผมทันที หน้าตาอลิสประทับใจ
“ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเธอไปด้วย”
“ยะ-”
“แงะ-”
“เดี่ยว! อย่าปลุกเด็กคนอื่น!”
“เย้”
“แง้ว”
พวกเธอดีใจเบาๆ
พวกเธอไปอาบน้ำก่อนระหว่างผมรอจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำและเมื่อผมออกมาผมเห็นห้องเก็บของทางขวาเป็นห้องโดโรเธีย และเดินไปที่หน้าต่างมันเป็นแดดยามเช้าจากหน้าต่างสูงซึ่งตั้งอยู่ตรง ณ ที่สุดของทางเดิน ผมเดินผ่านห้องนอนรวมที่อยู่ขวามือและไปห้องรวมซ้ายมือสุดทางเดิน
“ป่ะ”
อลิสมาเรียก ดูตื่นเต้น พวกเราะมองหน้ากันแล้วจับมือกันจากนั้นออกขบวนหน้าประตู แล้วรอพี่วาเนสซ่าข้างนอก
“มาละ”
พี่วาเนสซ่าออกมา จากนั้นสามเราที่ผูกผันกันมาด้วยความสนิทพิเศษไม่เหมือนใคร เดินกันออกหน้าบ้านแล้วเดินไปตลาดมาเรื่อยๆด้านข้างมันเป็นบ้านโทรมๆ ไม่ก็เก่าๆ มีรั้วบ้างไม่มีรั้วบ้างสลับกันไป บางบ้านก็หญ้าไม่ขึ้นบางบ้านก็มี ผมเลิกสนใจและมองไปข้างหน้า
“พี่ไปด้วยแต่พี่ไม่เข้าไปนะ พี่จะรออยู่หน้าตลาด”
“อ่าว”
“พี่แค่จะไปดูว่าเธอซื้อที่พี่โดโรเธียสั่งมามั้ย”
“อย่างนั้นเหรอคะ”
หน้าตาอลิสดูงงเหมือนมีคำถาม แต่ไม่ได้พูดอะไร
เราเดินกันต่อมาย่านที่อยู่อาศัยสักพักจากนั้นก็มาถึงถนนสำหรับรถอะไรสักอย่าง ไม่มีรถอะไรสักอย่างวิ่งผ่านมา แล้วถัดจากนั้นไป นั่น! ตลาด! มันทั้งใหญ่ทั้งกว้าง!
“เย้”
“ถึงแล้วๆ”
พวกเราสามกำพร้ากำมือกันแน่นขึ้น มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มแสดงฟันกันทุกคน ตาพวกเธอเป็นประกาย ผมมั่นใจว่าผมก็เช่นกัน
อลิสจูงมือพวกเราข้ามถนน
“ดูซ้ายขวาด้วยเผื่อรถฟาเนิคมา”
รถนกที่วิ่งเร็วกว่าม้าหรือ? เราข้ามถนนแล้วก็มาถึงตลาดอาบแสงแดดด้วยความกระตือรือล้น
“พี่รอตรงนี้นะ”
พี่วาเนสซ่าบอกพวกเราสามกับหนึ่งพี่เลี้ยง พวกเราทั้งหมดหันไปพยักหน้าและเดินกันไปในตลาด
มันเป็นตลาดอันของเป็นถาดๆเหมือนถาดสแตนเลสบ้าง ถาดที่เป็นเหล็กเหมือนอัลลอยสีดำบ้าง บางร้านก็มีกล่องไม้ยกถาดขึ้นสูง ขายอาหาร เนื้อ, หมู, ไก่, และของแห้งของสด บางร้านก็เป็นอาหารกินได้เลย
และถัดไปถนนหลังมีห้องแถวข้างหน้าเปิดร้านแรกคือร้านขายดาบ ถัดไปคือร้านหนังสือ ต่อจากนั้นเป็นร้านขายของชำ ผมอยากไปดู
“พี่อลิสครับพวกผมอยากไปดูตลาด”
“เอ๋”
“เอาของไว้ที่พี่วาเนสซ่าก่อนได้มั้ยครับ”
“เอ”
แม่นมอลิสคิดอยู่สักพัก
“ได้มั้ง?”
เธอถามผมหรือ? ผมพาวีและวิวสามเราไปที่ร้านดาบ มันทีดาบเหล็ก, ดามเหล็กที่ดูเหมือนสแตนเลส, ดาบเหล็กอัลลอยหริเหล็กอ่อน, ดาบไม้
ผมหยิบดาบไม้
“สิบเงินน้อง ทำไมอยู่กันแค่เด็กๆ พ่อ-”
เขาชะงักไป
“สิบเงิน งั่มๆ”
พ่อสิบเงิน? คำถามเขาแปลกเหมือนรูปลักษณ์ของเขาอันขาสั้นๆหายใจเร็วๆและฟันหน้าใหญ่แทะไม้เล็กๆอยู่ หรือเขาจะถามว่าพ่อแม่เราไปไหนแล้วเห็นต่างหูของเรา
“มีส่งมั้ยคร้บ”
“มีๆเอามั้ย”
“เอาสามเล่มส่งที่บ้านกำพร้าแห่งที่สี่พี่พอรู้จักมั้ย ถนนฝั่งตรงข้ามน่ะครับ”
“รู้ๆ จ่ายก่อนนะค่อยส่ง”
“ครับ”
เมื่อผมหยิบถุงทองเทออกมาสิบทองสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“ผมพูดผิดไปครับน้องจ๋ามันยี่สิบเงินจริงๆแล้ว”
“สิบเงินไม่อย่างนั้นไม่เอาครับ”
“จึ”
เขาคิ้วขมวดแล้วรับพูดต่อ
“ได้ๆ สิบเงิน”
ผมจ่ายเหรียญทองเขาไปแล้วจากนั้นเขาก็ทอนเงินมาด้วยเหรียญจำนวนมาก
ผมออกจากร้านจูงมือวีและวิวแล้วเดินบนถนนแคบๆหลังแผงถาดแถวหน้าและเข้าร้านหนังสือ เจอกับคนขายผู้หญิงตัวใหญ่ๆอวบๆ
“มีหนังสือเกี่ยวกับกึ่งมนุษย์มั้ยครับ”
“ขอหาสักครู่นะน้องนะ”
เธอไปหาหนังสือผมมองหากองหนังสือที่มีป้ายว่าลดราคาอยู่อืมหนังสือ เก็บเงินอย่างไรไม่ให้จน, ท่องเที่ยวที่ศิโรแล้วเป็นอย่างไร, คัดลายมือภาษาเท่าเทียม, แบบฝึกหัดท่าดาบของทหาร ผมหยิบแบบฝึกหัดท่าดาบของทหาร
ผมเปิดอ่านคร่าวๆ มันเป็นรูปและอธิบายถึงการใช้ท่าฟันหัว ที่ผมดูแล้วผิดที่วางขาไว้ชิดกัน ผมให้วีกับวิวดู
“หมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง มาดูนี่”
“อุ้ยนั่นท่านี่”
“ไหนๆ”
วีตกใจดูสนใจวิวรีบมาดู
“จำไว้นะตอนสู้อย่ายืนแบบนี้เตรียมพร้อมเด็ดขาด”
“อ่าวทำไมอ่ะ”
“นั่นดิ”
วีมีคำถามวิวถามตามมา
“การยืนเท้าชิดแปลว่าเราต้องก้าวขาก่อน การต่อสู้จริงๆแล้วมักจะจบในพริบตา เราต้องพร้อมเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด ใช้ท่าที่พวกเธอฝึกมาจะพร้อมเคลื่อนไหวมากกว่า และฟันแรงกว่าเพราะมีหลักดีๆ
“อ๋อ”
“อ๋อ เพราะหลักนี่เอง”
จากนั้นผมหยิบคัดลายมือภาษาเท่าเทียม แล้วไปดูหนังสือที่อยู่บนแผงเมื่อผมดูส่วนใหญ่แล้วเป็นหนังสือสารานุกรมกับนิยาย
ผมอ่านขอบหนังสือ ความรักของเราทั้ง 7 ความรักของ 7 คนเล่มหนึ่ง,การต่อสู้ระหว่างวิลเลี่ยมและไมเคิล, การทะเลาะของเราทั้งเจ็ด ความรักของ 7 คนเล่มสอง, การแยกกันของเราทั้ง 7 ความรักของ 7 คนเล่มสาม, การตีกันของเราทั้งเจ็ดคน ทำไมมันเป็นแบบนั้นเล่า มันยาวไปเป็นนวนิยาย และมีขายซ้ำกันหลายเล่ม มันเป็นที่นิยม นั่นดีสำหรับผู้แต่ง
ผมไปดูอีกฝั่ง มันเป็นนิยายต่อสู้เสียส่วนใหญ่
“อ่ะนี่ถ้ามันไม่ใช่สารานุกรม พี่ลดราคาไปนานแล้ว”
แล้วสารานุกรมเราก็มา ผมหยิบถุงเงินที่เหรียญเยอะๆ เธอไม่ได้ตอบสนองอะไรเหมือนร้านแรก
“เท่าไหร่ครับ”
“สองเล่ม หนึ่งทองห้าสิบเงินจ้ะ”
“แล้วให้ไปส่งที่บ้านกำพร้าแห่งที่สี่ซอยตรงข้ามล่ะครับ”
“ไม่ถือไปเลยล่ะสองเล่มเอง”
“เราต้องช่วยถือของให้พี่เลี้ยงน่ะครับ”
“อย่างนั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่งเองตอนเย็น ไม่ต้องมีค่าส่งหรอกสำหรับพวกน้อง”
“ขอบคุณมากๆครับ”
ผมขอบคุณเธอและเดินออกจากร้านมา
ผมเดินต่อไปมันเป็นร้านเสื้อผ้า ผมเดินเลยไปแล้วกลับไปเข้าร้านเสื้อผ้ากับวีและวิว
ผมมองรอบร้านและเห็นเจ้าของร้านผู้หญิงผมสั้นๆ หุ่นดีๆ เดินมา
“เลือกได้เลย”
“ชุดละตดเท่าไหร่ได้ครับ”
“หนึ่งเงินถึงห้าเงินจ้ะ”
ผมมองดูเสื้อผ้า มันทีแนวเรียบๆเหมือนเสื้อยืดกับชุดที่มีจีบมีลูกไม้เยอะๆ ถ้าให้ผมเดาชุดธรรมดาน่าจะหนึ่งเงินและชุดจีบเยอะๆตกแต่งเยอะๆน่าจะห้าเงิน ผมหันไปหาวีกับวิว
“เลือกกันมาคนละสิบชุด อันไหนก็ได้”
“จริงอ่ะ”
“เย้”
วีมีคำถามดูไม่ค่อยเชื่อ วิวรีบไปเลือกเสื้อผ้า ผมพยักหน้า จากนั้นผมเห็นวิวเลือกเสื้อผ้าอย่างกระตือรือล้น และวีแตะๆเขี่ยๆหมุนๆดูมันทีละชิ้น ผมหันไปคุยกับเจ้าของร้านหน้าสวยๆ
“ของผมเอาเสื้อธรรมดาไม่มีแขนเสื้อสิบบและชุดเรียบร้อยน่าเชื่อถือสามครับ”
เธอมองผมแล้วจับไหล่ผมสองข้าง
“ได้สิส่งที่ไหน”
“บ้านกำพร้าแห่งที่สี่ซอยตรงข้ามเหรอ ไปยังไงแล้วนะ”
ผมอธิบายทางเดินไป จากนั้นไปรอวีกันวิวบริเวณหน้าร้าน
วีเลือกไม่มีแขนมาเก้าชุดกับการเกงขาสั้นสำหรับคนที่ทีหางเพื่อสองหางสีดำของเธอเหมือนกชุดสีดำที่เธอเลือกทั้งตัว และวิวเลือกชุดลูกไม้เยอะๆกระโปรงบานน่ารักสีสันมากมายมาสามชุด กับเสื้อยืดมีแขนสองตัวและเสื้อไม่มีแขนห้าตัว
ผมบอกให้พี่เจ้าของร้านนำไปส่งที่บ้านกำพร้าของเราจ่ายเงิน และออกจากร้านมา เดินต่อไปในตลาด เราเดินเข้าแถเดินซื้อของของตลาดแถวต่อไป ผมเห็นอลิสเลือกซื้อปลา วีกับวิววิ่งไป ผมรีบวิ่งตามไป
“พี่อลิสเราจะได้กินปลาเหรอ?”
“ใช่จ้ะโดโรเธียจะกินน่ะ เธอเบื่อต้มข่าไก่”
“พี่ทำบ่อยไป”
“ผมกินได้”
วีถามและวิวออกความคิดเห็น แต่สำหรับผมมันอะไรก็ได้ มันมีเสียงนักแสดงดนตรีบนถนนอยู่ ผมเห็นหูวีกระดิกแล้วหันไปทางนั้น
เธอกันไปมอง ค่อยๆเดินไปและไปยืนอยู่หน้านักสีอะไรที่เหมือนซอรูปทรงตัววีบิน มันเหมือนซอสำหรับเพลงร็อกแต่เพลงที่เขาเล่นเป็นแนวเบาๆออกบรรเลง มันเหมือนเพลงคลาสสิค
วีเริ่มปรบมือเข้าจังหวะสักพักแล้วนักเล่นซอร็อกกวักมือเธอเข้าไป จากนั้นส่งเสียงร้องตามโน้ตจากนักดนตรี ผมตกใจกับเสียงเธอที่ได้ยินนั้นมันน่าประทับใจขนาดไหน
ผมเดินไปลูบหัวเธอ
“เสร็จแล้วเดินไปหาพี่วาเนสซ่านะ”
เธอพยักหน้าและผมกลับมาเห็นวิวกำลังเลือกแมลงทะเลข้างอลิส มันคือแมลงทะเลรูปทรงคล้ายแมงป่องสดๆใหม่ๆ ตัวขนาดเท่าผ่ามือผู้ใหญ่ ผมเดินไปถามพ่อค้า
“เท่าไหร่ครับ”
“ตัวละเงินจ้าตัวละเงิน”
“เอาเอาแปดตัวครับ”
วิวกินเยอะกว่าทุกคนรวมถึงผู้ใหญ่ในบ้าน แมมจึงสั่งให้เธอสามตัว ผม, วี, เหล่าพี่เลี้ยงจะได้คนละตัว
พ่อค้าหยิบใส่ถุุงเยื่อไม้เหนียวๆซึ่งดูเหมือนถุงพลาสติกอย่างเชี่ยวชาญและมอกให้เรายิิ้มๆ วิวกำลังหยิบแมลงทะเลคล้ายแมงป่องให้ตาล่างดูและคัดทีละตัว
“หมายเลขสองเสร็จแล้วไปหาพี่วาเนสซ่านะจำทางได้ใช่มัย”
“ได้!”
ผมหันข้างออกมาเดินต่อ ณ ตลาด มันเป็นของสด ผมไปเห็นร้านหนึ่ง ผมเดินไป มันเป็นเต่าแปลกๆ
“ฉางโฉ่วจ้ะฉางโฉ่ว กินแล้วดี 10 เงิน 10 เงิน”
ผมหยิบตัวเต่าหงายดู ด้านล่างตัวมันเป็นที่จับได้
“เอาตัวหนึ่งครับ”
ผมซื้อเต่าแล้วผมเดินต่อมาเรื่อยๆจนถึงท้ายซอย เอาเต่าไปร้านตีเหล็กที่อยู่ท้ายซอย ในร้านมีอุปกรณ์ที่เป็นเหล็กทั้งสามแบบอยู่เต็มไปหมด ผมลองตรวจคุณภาพมัน คุณภาพมันค่อนข้างดี ศูนย์ถ่วงน้ำหนักพอดีเหวี่ยง ฝีมือเขายอดเยี่ยมผมสั่งของของจากเขา
“เอาเหล็กไร้มลทิลโค้งแบบเต่าตัวนี้ ไม่นับตัวของมันข้างใน แค่กระดองมันอย่างเดียว หนาเท่านี้”
ผมเอาสองนิ้วมาทำความหนาเกือบเซ็นติเมตร
“แล้วก็เพิ่มปุ่มกลมเข้าไปห้าปุ่มสี่ทิศ ตรงบน, ซ้าย, ขวา, ล่าง, และใหญ่กว่าหน่อยตรงกลาง ด้านหลังเป็นที่จับชี้ลงเมือถือเหมือนดาบตรงๆแล้วมันจะชี้ไปทางนี้”
ผมจิ้มเต่าบนกระดอง แล้วนำเต่าไปไว้หน้ากระดูกหมัด พื้นฐานแล้วมันเป็นโล่เหล็กประเภทเล็กสุดที่ใช้ต่อยได้
ชื่อของแสตนเลสคือเหล็กไร้มลทิล ช่างดวอร์ฟหนวดยาวกล้ามโตจดแบบร่าง
“กี่วันเสร็จครับ”
“สามใบใช่ไหม สองวัน”
“เท่าไหร่ครับ ส่งบ้านเด็กกำพร้าแห่งที่สี่ซอยตรงข้าม”
“70 เงิน”
เขามองผมหัวจรดเท้า
“จ่ายก่อนเริ่มงาน”
ผมหยิบถุงเงินจ่ายอย่างเต็มใจ
“ขอบคุณ ไอ้น้อง”
“เช่นกันครับ”
มันเริ่มจะสิบโมงแล้ว ผมเลยออกจากร้านมาด้วยความดีใจแล้วรีบเดินเร็วขึ้นมันไปซอยถัดไปซึ่งเป็นของสดเหมือนกันจากนั้นเป็นของสดอีกและถัดไปเป็นร้านไข่สองร้านปะทะกันตรงตรงข้ามผมและถัดจากร้านไข่เป็นร้านขนมหวาน ผมเห็นเจ้าของร้านกำลังเทขวดราชพฤกษ์ไซรัปใส่น้ำร้อนสองแก้ว ผมเห็นเขานำไปให้ภรรยาและเธอกินอย่างเอร็ดอร่อย และร้านถัดไปจากเขาที่ขายเค้ก เขากินราชพฤกษ์ไซรัปกับอะไรทึ่คล้ายปาท่องโก๋ และขายคู่เค้กของเขา
ผมเดินไปซื้อขนมร้านถัดไปอีก
“พี่สองคนครับ ผมขอเคี้ยวมันๆสามขิ้น”
เธอเลือกเนื้อแดดเดียวโปรยเครื่องเทศมาให้ผม ผมยิ้ม มันเริ่มสายแล้วผมต้องรีบกลับไป ผมเดินกลับไปเจอวิวเอาแมลงทะเลให้ตาร่างล่างดูและคุยกับเจ้าของร้านอย่างจริงจัง มีลูกค้าต่อแถวให้เธอเป็นคนเลือกอยู่แถวยาวๆ ผมเดินไปเรียกเธอ
“วิว ได้เวลาไปแล้ว”
“อื้ม”
วิวคำนับให้เจ้าของร้านแมลงทะเลและจับมือผมเดินพากันไปหาวี วียังร้องเพลงเริ่มเต้นตามเพลงอยู่ที่เดิม มีคนมาดูเยอะอยู่ เธอมีพรสวรรค์ แล้วเธอก็เหลียวมาเห็นผมพาวิวมา เธอคำนับกับนักแสดงดนตรี เขาโบกมืออย่างยิ้มแย้มและสีซอร็อกบรรเลงเพลงคลาสสิคต่อ
วีวิ่งมาหาเรา พวกเรายิ้มให้กันแล้วผมแจกเนื้อแห้งคนละชิ้น เราเคี้ยวเนื้อแห้งกัน ทั้งอร่อยทั้งเคี้ยวมัน ข้างพี่วาเนสซ่ากับกองถุงวัตถุดิบทำอาหาร
ไม่นานพวกเราก็พาถือของกันกลับไปบ้านรวมของพวกเรา ผมออกกำลังกายเช้ารอบเตียงรออลิสทำปลา กับรอเหล่าของที่ผมสั่งมา
จากนั้นพวกเรากินปลากัน เมนูวันนี้เป็นปลาเหมือนปลาตาเดียวนึ่งอะไรที่เหมือนขิงใส่เห็ดหอม มันขอเพิ่มไม่ได้ วีกับวิวกินกันจนเกลี้ยง แต่วิวดูจะชอบแมลงทะเลมากกว่ามาก เหล่าพี่เลี้ยงก็ดูจะชอบแมลงทะเลที่ผมซื้อมาฝากคนละตัวด้วย
ตอนเราไปห้องรวมวันนี้มันเป็นวันซักผ้าปูเตียงของอลิส ดังนั้นคนคุมพวกเราเป็นโดโรเธียที่อ่านหนังสืออย่างอมยิ้มและมีวาเนสซ่าหูแหลมคอยบริการชา เราออกไปข้างนอกไม่ได้ แต่มันเรื่องเล็ก
พวกเราสามนำตุ๊กตามาเล่นครอบครัวที่มีแต่พี่น้องอย่างเดียว เราใช้จินตนาการกันไปอย่างสนุกสนาน รวมไปถึงตัวผมด้วย
แมจะเที่ยงเราก็ได้กินปลานุ่มๆนึ่งขิงกันอีก จากนั้นเราก็ไปเล่นข้างนอกเมื่อถึงตอนเย็นกว่าเราจะได้ออกจากบ้าน เราสะบัดข้อมือข้อเท้า ยิ้มให้กันพอใจกับวันนี้ซึ่งตมันเป็นวันที่ดี