กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 70 ไคจูงูยักษ์
ผมขึ้นมาที่ชั้น 5 ชั้นสุดท้ายของคฤหาสน์นี้
เราเดินตามทางมาแล้วเข้าห้องที่เป็นห้องใหญ่มาก
มันไม่มีใครเลยมันมีแต่ผู้หญิงอยู่ไกลๆ
เธอเป็นใคร เธอเป็นเป้าหมายรึเปล่า เราไม่รู้เหมือนกัน เพราะเรามองไม่เห็น
เราเดินไปให้ใกล้ขึ้น และเราเห็นว่ามันเป็นเป้าหมาย
คราวนี้เราก็รู้แล้วว่าเธอเป็นใคร
เธอยิ้มแล้วเธอปรบมือ
มีกรงใหญ่ตกลงมา แต่กรงใหญ่นั้นไม่ได้ครอบเธอ
วาโรเอาปืนไรเฟิลซุ่มยิงยิงขาเธอ
เธอล้มลงแล้วคลานไปจะเปิดประตู
แต่เธอเอื้อมไม่ถึง เธอเลยนอนรอมองเราอยู่ตรงนั้นนอกกรง
ผมรีบบอกนา
“นาเอาโดรนมาระเบิดกรง”
“ได้ แน่นอน มีโดรนเหลืออยู่เยอะ”
เจ้าแม่ปรบมือและหลังคาเปิดออก
มีงูยักษ์ดำด้านตกลงมา
มันเห็นเราก่อนแล้วรีบขดตัว
“มันกำลังจะฉก วิ่ง กลิ้ง กระโดด! กระจายตัว”
“““ได้”””
แต่งูทำท่าจะฉกใกล้เราเพราะมันเร็ว แต่มันเอะใจ
มันหันหลังไปแล้วไม่สนเราแล้ว
“อ่าว”
“มันไปไหน?”
เมื่อผมพูดวาโรก็ถาม
“นา เอาโดรนยักษ์มาพร้อมบ่วงบาศมาจับมัน”
“ได้”
หลังผมสั่งนา นาก็ตอบรับ แต่หลังจากนั้นผมไม่ได้ยินว่านาสั่งงานยังไง เธอไม่ได้สื่อสารมาตอนสั่ง แต่น่าจะเห็นงูจากกล้องบนหัวเราแล้ว
แต่ผมไว้ใจนาอย่างมาก และเชื่อใจเธอเต็มที่
งูมันเลื้อยกลับไปและหันไปสนใจแต่คนที่บาดเจ็บ
มันเป็นธรรมชาติของงูที่จะกินแต่เหยื่อที่บาดเจ็บหรือป่วยหนัก
เลือดเธออาจออกเยอะ เราต้องเอาโดรนมาสองตัว
“นา เอาโดรนมาสองตัว เราต้องระเบิดกรงอีกฝั่ง”
“ได้ๆ”
จากนั้นเรายืนรองู เพราะงูก็ออกไปไม่ได้ มันพยายามออกจากกรงไปกินเธอ
“ฉันต้องไปอยู่ใกล้ๆ จะได้วิ่งไปหาเธอทันเมื่อกรงระเบิด”
“อย่างนั้นเหรอ?”
ผมพูดแล้ววาโรตอบ
ผมวิ่งไปใกล้ๆงู แต่งูมันไม่ได้สนใจผม
โดรนตัวแรกมา แล้วระเบิดกรงเสียงดัง
แต่ไม่มีใครอยู่ใกล้กรง
งูดำมันหันไปมองนอกกรง แต่มันหันกลับไปและพยายามเอาหัวมุดกรงไปหาเหยื่อ
ผมยืนรอโดรนอีกตัวมา และเหล่าแฟนผมมายืนอยู่ใกล้ๆผม
โดรนอีกตัวมา และบินมารอที่บนหัวเรา
แต่งูไม่สนใจเสียงโดรนมันสนแต่เหยื่อข้างหน้าที่บาดเจ็บ
“ทำไงดี งูมันไม่สนใจแล้วถอยหนี”
วาโรตีหางงู ครั้งแรกมันไม่สน
แต่พอครั้งที่สองมันโกรธจนตัวแดง แล้วไปสนใจวาโรที่ตีมัน
สงสัยมันได้กลิ่นและจำได้ว่าใครตีมัน
มันไล่ตามวาโร พอพวกเรากระจายตัววิ่งหนี มันก็ตามแต่วาโร
มันย้ายจากวาโรมาตามผม เพราะผมจงใจช้ากว่า แต่ตอนนี้เราอยู่ใกล้กรงที่เปิดแล้ว
โดรนระเบิดใส่กรงดัง แต่เจ้าแม่ไม่เป็นอะไร
งูตกใจเสียงระเบิดและกลับไปตามแต่วาโร
ผมรีบวิ่งไปชิงตัวเธอและอุ้มเธอขึ้นหลัง
เธอทุบหัวผม แต่ผมไม่ใส่ใจ
ผมปล่อยให้เธอทุบ แล้วไม่พูดอะไร เครื่องสื่อสารเรามีระบบบันทึกเสียงทั้งหมด ที่เราเปิดเมื่อไหร่ก็ได้
เสียงทุบและเสียงตบหัวมันดังลั่น และเราบันทึกไว้หมดแล้ว
งูยังตามวาโรอยู่แล้วผมวิ่งหนีออกจากบ้าน แล้วเอาเจ้าแม่ไปไว้ข้างล่างที่ข้างนอก
ผมให้ทหารที่ดูโดรนอยู่คุมตัวเธอ
“เอาเธอไปทำแผลและจับกุม เข้าขบวนการสอบสวน”
““ครับ””
ทหารสองคนที่ถือปืนไรเฟิลจู่โจมทำความเคารพพ
ผมวิ่งกลับขึ้นไปหาวาโร
ผมวิ่งเป็นระยะทางไกล แต่ผมไม่เหนื่อยเลย
วาโรยังล่องูอยู่
“เราเอาโดรนพร้อมบ่วงบาศใหญ่มาแล้ว”
ผมวิ่งล่องู
ผมวิ่ง กลิ้ง กระโดด ตอนมันฉกเพื่อให้มันฉกไม่ได้
ผมหนี หนี หนีอย่างเดียว ไม่ทำอะไรมัน
งูฉกผมไม่โดนเลย
ผมเห็นด้วยหางตาว่าวาโรเอาเครื่องสื่อสารที่คอคุยกับนา
นาคงสั่งคนอยู่
เราวิ่งหนีกันอยู่เป็นชั่วโมง
“เหนื่อยมั้ย!?”
“““ไม่เหนื่อย!”””
เหล่าแฟนผมตอบผม
เราเอาโดรนที่เป็นโดรนขนาดใหญ่มากมาจอดอยู่ข้างบน
เสียงโดรนมันดังลั่น และงูหันไปมอง แต่เมื่อเห็นว่าสูงไปมันก็ไม่ใส่ใจ
มันยื่นห่วงลงมาจากหลังคาที่เปิดอยู่ และรอผมไปแถวนั้น
ผมตีหางงู งูขดัวจะฉกผม
ผมวิ่งกลิ้งกระโดดเพื่อหลบ
ผมวิ่งแล้วกระโดดข้ามห่วง แล้วไปยืนหลังห่วง
งูเลื้อยมาจะตามผม แล้วฉกตัวตรงบ่วงบาศพอดี
ผมกลิ้งกระโดดพอดีแล้วหลบได้
โดรนบินขึ้นไปและเอาตัวงูไป
“บุญมีกับบุญมากำลังสร้างคอกชั่วคราวอยู่ อีกครึ่งชั่วโมงมันก็เสร็จ คนรุมกันสร้างเยอะมาก”
“ถ้าอย่างนั้นให้โดรนรอก่อนครึ่งชั่วโมง”
“ได้”
ผมคุยกับนาและค่อยๆเดินออกจากคฤหาสน์
“ส่งทหารมายึดของหนีภาษีทั้งหมด อย่าเก็บไว้แล้วเอาไปแจก”
“ได้”
ผมสั่งนาและนาตอบกลับมา
เราค่อยๆเดินออกจากคฤหาสน์ เพราะงูขึ้นโดรนไปแล้ว
เราออกมาจากคฤหาสน์ แล้วเดินไปขึ้นโดรนเรา
ผมเปิดใบพัด และใบพัดพร้อมบิน
“เราต้องไปที่กรง”
เราบินไปที่กรง และเราบินอยู่นาน
เราไปถึงกรงที่เตรียมไว้เป็นการชั่วคราว
มันกำลังตั้งเหล็ก และประกอบกรงอยู่
มันเป็นกรงตาข่ายเหล็ก ที่ข้างบนมีช่องเปิดแบบประตูตาข่าย
มันใช้การสานเหล็กเส้นเล็กหนาที่งอได้ด้วยมือ
แสดงว่าคนทั้งหมดช่วยกันทำ ผมลงจอดที่ลานจอด แล้วเดินไปที่กรงงู
งูมันมา และประตูกรงข้างบนเปิด
งูตกลงมาและเสียงดังมาก
ไม่มีฝุ่น และมันเป็นที่โล่งอยู่
ผมเห็นผักชีปิดกรง
มันยังไม่ดึกมาก และผักชียังไม่นอน
งูพยายามฉกคนที่อยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีใครเข้าใกล้กรง
มันฉกรอบกรง ฉกคนนั้นคนนี้ แต่มันเหมือนยังไม่ได้กิน
“เอาเนื้อมาให้มันกิน เอาเนื้อมาก่อน”
“ได้”
ผมสั่งนา และนาตอบรับ
มีเนื้อที่ใช้ตู้เย็นใหญ่เตรียมไว้อยู่แล้ว และไม่นานมันก็มา
ผักชีเปิดฝาบน และทิ้งเนื้อลงมาจากโดรนใหญ่ที่เล็กกว่าลำที่ขนงู
เมื่อมันได้กลิ่นเนื้อสด มันเลื้อยไปหาเนื้อสดที่น่าจะเป็นวัวทั้งตัว
มันกินเนื้อสดและนอน
มันอยู่นิ่งๆแล้ว และเราปิดกรง
กรงมันปิดและมันไม่มีอะไรแล้ว
“จัดประชุมพรุ่งนี้เช้า มันน่าจะอิ่มได้นาน เพราะงูจริงๆแล้วกินไม่เยอะ”
“ได้”
เมื่อผมสั่งนา นาก็ตอบรับ
เราบินกลับบ้านและรีบแยกย้ายเข้านอน
ผมแปะป้ายประกาศเขียนด้วยมือใหญ่ๆว่าพรุ่งนี้ไม่ฝึก และลงวันที่
กลับห้องไปและผมนอน
เราตื่นมาท้ายเดือนหกเหมือนเดิม
เราเตรียมตัวตอนเช้า ผมใส่ชุดทหาร
เรื่องงูคนน่าจะเห็นภาพแล้ว
เพราะโดรนระเบิดมีกล้อง และนาน่าจะบันทึกภาพไว้จากนั้นส่งภาพเข้ามือถือเหล่าหัวหน้าแผนก และมือถือของวาโร
เมื่อวานตอนกลางคืนที่เราแยกกัน วาโรน่าจะไปบอกเหล่าทหารว่ามีงูยักษ์
แต่ผมต้องเตรียมส่วนของผม ผมต้องดูแลงู
เรารวมคนทั้งหมดที่เป็นเหล่าแฟนผมไปเข้าประชุม
เราประชุมหัวหน้าแผนกทั้งหมด และหัวหน้าแผนกดูพร้อมหมดแล้ว
“เอาล่ะ งูมันจะติดเรื่องอาหาร มันต้องกินเยอะ เราเลี้ยงวัวให้มันหนึ่งครั้งสองอาทิตย์ไหวมั้ย?”
คุมะยกมือ
“จากตลาดที่นาแนะนำให้ดู มันมีวัวเยอะกว่าเลยทำให้เนื้อวัวถูกกว่า เรามีเหลือที่ต้องเก็บกินเองหลายตัวก่อนเสีย เราเอาพวกนั้นมาให้มันกินได้ มันไม่ได้เลือกมาก เพราะจากที่ดูมันกินเนื้อดิบได้”
“อย่างนั้นเรอะ”
ผมตอบคุมะ ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่มีอะไรแล้ว
“หาเจ้าขายเนื้อวัวส่งที่ต้องการแจกวัวที่ไม่มีคนกิน สอนการทำอาหารด้วยเนื้อวัว แล้วคอยดูตลาดว่าเนื้อวัวขึ้นหรือไม่ บุญมีกับบุญมาร่วมกับผักชีทำหลังคาใบไม้ เราต้องทำวิจัยจากมันและเลี้ยงแต่พอดี งูชอบที่ชื้นกึ่งแห้ง ไม่ใช่กรงอย่างนี้ ทำกรงเชื่อมต่อ แต่ให้อาหารมันตรงนี้เท่านั้น อย่าให้ที่อยู่จริงๆของมันอยู่ไกล เพราะถ้าไกลไปมันอาจไม่ได้กลิ่น”
ผมสั่งทุกคนและทุกคนพยักหน้า
หน้าวาโรเหมือนรู้อะไรซักอย่าง แต่เธอยังไม่ได้ตัดสินใจบอกเรา
“ลูน่ากับคิเซกิ หลังเที่ยงหลังออกกำลังไปหาฉันที่หน้าบ้าน ปิดประชุมก่อน พรุ่งนี้เดี๋ยวมีประชุมตอนเที่ยง ประกาศงดออกกำลังกายพรุ่งนี้ เจ้างูยักษ์นี่เปลี่ยนแนวทางพวกเราทั้งหมด ตอนแรกทุกคนคงคิดว่า มันไม่มีอะไรอยู่เหนือเรา และเราเป็นที่สุดของห่วงโซ่อาหาร แต่เมื่อมีงูตัวนี้ มันทำให้เห็นว่า มันไม่ใช่ เราไม่ได้อยู่ข้างบน มีสัตว์ร้ายอยู่เหนือเรา แต่วันนี้เราจะพอแค่นี้ก่อน วาโรคงรู้อะไรแล้ว และนี่ไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับมนุษย์ชาติทั้งหมด เอาล่ะ แยกย้ายก่อน แล้วเก็บไว้คิดในใจ แต่จำไว้ อย่าให้ความกลัวครอบงำเรา เราเอาชนะมันได้ เราพิชิตมันได้ เราหาประโยชน์จากมันได้”
ทุกคนกลืนน้ำลาย แล้วมองผมนิ่งๆ ยังไม่มีใครลุกไปไหน
ผมรอทุกคนมาถามอะไร แต่ไม่มีใครถามอะไร และแยกย้ายไปทำงาน
ผมปลีกตัวออกมาแล้วบินกลับบ้านกับวีและวิว
วีและวิวไม่พูดอะไรเลย แต่เธอเหมือนยังทึ่งอยู่กับสิ่งที่เราเพิ่งเจอ พวกเธอยังไม่พูดอะไรกับผม
ตอนนี้มันยังช่วงสายๆ
ผมดึงกระดาษที่เขียนว่างดออกกำลังกายออก และมีแม่บ้านเห็น
แม่บ้านวิ่งกลับเข้าไป และเหล่าแม่บ้านมาหน้าบ้าน
เมื่อคนเห็นเหล่าแม่บ้านมา ผมก็กลับไปเปลี่ยนชุดอย่างเร็ว
ผม,วี, และวิวเปลี่ยนชุดกันเสร็จแล้วเดินไปข้างหน้าบ้านอีกครั้ง
เราเริ่มฝึกกันด้วยท่าซ้อมต่อยเตะแบบไม่โดนใคร
มันหมดช่วงเล่นโยคะและทุกคนเล่นโยคะเป็นแล้ว มันกลับไปเป็นการฝึกต่อสู้เหมือนเดิม
และจากนั้นเราซ้อมต่อยจริงเตะจริงแบบใส่เกราะเบาะ
เราซ้อมกันเสร็จและมันเป็นช่วงเที่ยง
ผมเดินไปเคาะหน้าห้องอายะ และเธอเปิดประตูมา
“วันนี้งดมีเซ็กส์นะ หยุดไปก่อนวันนึง”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันดูแลเรื่องป้ายประกาศให้”
วันนี้ผมกะว่าผมจะให้เหล่าแฟนผมทำงาน
พวกเธอรับฟังอย่างดี และเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นนักธุรกิจ
เมื่อผมเห็นเธอเปลี่ยนชุด ผมก็สบายใจ
“ใส่ชุดเดิมก็ได้นี่”
“ไม่เอาอ่ะ มันชุดเอาไว้ให้เธอชอบ ฉันเลยชอบใส่อย่างนี้มากกว่า”
“ก็ได้ ฉันไม่ได้ห่วงอะไร เพราะความปลอดภัยในฮาโมนี่มันดีและดีเกือบสุด”
“ฉันเชื่อแหละน่า”
หลังผมบอกอายะเธอก็กลับไป
“จะเข้ามามั้ย?”
เธอนั่งแต่งหน้าและชวนผมเข้าไป
“วันนี้ไม่ ฉันนัดไว้กับลูน่าและคิเซกิ ช่วงนี้มีเรื่องใหญ่”
เธอพยักหน้าและเข้าใจผม
เธอคงรู้ว่าวันนี้ผมงด
ผมไปชวนวีกับวิวที่ห้อง และวีกับวิวไปหน้าบ้านกับผม
ผมรอคิเซกิกับลูน่าที่หน้าบ้าน
ไม่นานคิเซกิกับลูน่าก็มาพร้อมทีมงานที่มีโดรนสำหรับวิจัยที่เราเพิ่งสร้างเยอะๆเมื่อเดือนที่แล้ว
เรามีคนขับโดรนบรรทุกคนเยอะๆ ที่สร้างท้ายเดือน 4
ผมพาคนทั้งหมดบินไปกรงงูยักษ์บ้าง
ผมบินไปหาลานจอดที่กรงงู แล้วพาคนลง
ผมเดินเข้าไปแถวกรงงู โดยมีคิเซกิกับลูน่า และวีกับวิว
ผมหันไปหาคิเซกิและลูน่าที่เดินตามหลังผมมา แล้วปล่อยวีกับวิวไปดูงู
“คิเซกิ ลูน่า ทำวิจัยเรื่องงูตัวนี้ ฉันอยากรู้ที่มาของมัน ฉันอยากรู้ทุกอย่าง และดูว่าเราหาประโยชน์อะไรจากมันมาช่วยมนุษย์ได้”
“ฉันเพิ่งเคยเห็นอะไรตัวใหญ่ขนาดนี้”
เมื่อผมบอกลูน่ากับคิเซกิ ลูน่าได้แต่มองงูตาโตและคิเซกิจ้องงูตาไม่กระพริบ
เมื่อทั้งคูกลับมามีสติ เขาและเธอหันไปสั่งเหล่าลูกน้องให้ออกโดรนวิจัยไปรุมวิจัย
มีโดรนและเครื่องคอมพิวเตอรฺ์โน้ตบุ้คหลายตัวที่นั่งเปิดและดูนอกกรง
ของพวกนี้ ที่เรามีทั้งหมดนี้ มันเตรียมมาเผื่อไว้ว่ามันจะมีภัยพิบัติร้าย
วาโรปรึกษามา และผมเป็นคนสั่งผักชีให้ผลิต
ทุกอย่างมันเป็นความลับ มันเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่เผื่่อไว้ว่าวันนึงวาโรจะโดนลักพาตัว
หรือไม่ก็เตรียมไว้สำหรับภัยพิบัติที่เราไม่ได้คาดฝัน
ดีที่เราเตรียมมันไว้ก่อน ถ้าไม่มีเทคโนโลยีพวกนี้ เราจะก้าวหน้าช้า
หรือไม่เราก็จะกลายเป็นแนวป่าเถื่อนที่ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่าด้วยอาวุธระยะประชิด
แต่เท่าที่ผมดูจากโลกนี้ เท่าที่ผมอยู่มา คนเลือกที่จะอยู่กับสัตว์ และสัตว์เลือกที่จะสื่อสารกับคน
อย่างลูน่าก็เคยบอกว่า ถ้ามีสัตว์ที่จะวิวัฒนาการกลายเป็นกึ่งสัตว์ตัวแรก มันก็น่าจะเป็นเบเรชนุ่ง หรือเต่าเครื่องคิดเลข
เพราะสัตว์ตัวนั้นมันอยากสื่อสารกับเรา แต่มันติดเรื่องภาษา
การมาของลูน่าทำลายกำแพงเรื่องภาษาระหว่างคนกับสัตว์
ผมถอนหายใจ มันเหมือนผมโดนภาระใหญ่ทุ่มเข้าใส่หัว
ผมมองงูยักษ์ดำด้านนอนยืดตัว
ผมเป็นแฟนของวาโร ผมก็ต้องรับผิดชอบด้วยส่วนหนึ่ง
ผมถอนหายใจอีกครั้งและสูดหายใจ
นี่แค่ระดับงูยักษ์ ผมไม่อยากจะคิดเลย
ตอนมันชูคอมันสูงประมาณ 5 เมตร และตัวมันยาวเกือบ 20 เมตร
โดรนใหญ่ที่ขนมันเตรียมมาลับๆตั้งแต่เดือนสาม
มันเริ่มต้นด้วยเอกสารลับที่วาโรเอาให้ผมอ่าน แผนสร้างเมืองยุคใหม่
เธอจะทำเพื่อนำหน้าทุกประเทศ
เธอเบื่อกับการต้องมารบกันเรื่อยๆไม่หยุดกับทวีปทิศเหนือ เธอเบื่อเต็มทีกับยุค ‘ดาบ’ ที่อยู่มา 122 ปี
เธอบอกว่ากุญแจสำคัญมันอยู่ที่ผม
มันเหมือนผมควบคุมมันไม่ได้
ผมไปต่อไม่ถูก
ผมหาที่นั่งแล้วจับคางคิด
เอาล่ะค่อยๆคิด
มันต้องเริ่มต้นยังไง
เปลี่ยนยุคเลยไหม? ให้วาโรขึ้นเป็นที่หนึ่งดีไหม?
ผมต้องคิดดีๆเรื่องปืนที่ผมผลิตมาให้หน่วยมังกรขาว
ปืนมันเปลี่ยนทุกอย่าง
ผมไม่อยากให้คนเปลี่ยนไปกลายเป็นยุคที่ยกพวกรบกันด้วยปืนยาวที่ยิงได้ไม่หยุด
ให้ตายสิ ยุคแบบนั้นน่าเกลียดที่สุดเลย
ลูน่ามานั่งข้างผม
ผมหันไปมองเธอ
แน่นอนผมมองร่างกายเธอเป็นอย่างแรกด้วยสัญชาตญาณของผู้ชาย มันเป็นนิสัยผมที่จะมองหน้าอกและก้นใหญ่ๆอย่างรวดเร็วก่อน
ผมไม่รู้ว่าทำไมผมเป็นคนที่ลามก แต่ผมเป็นผมและผมไม่เกลียดตัวเอง
ลูน่ายิ้มที่ผมมอง
“มองหน้าอกฉันอีกแล้วนะ จับให้หายเครียดมั้ยล่ะ ฉันเห็นเธอเหมือนคิดเรื่องใหญ่อยู่ ต้องการที่ปรึกษามั้ย?”
“ขอบคุณแต่ฉันขอผ่านก่อน มันเหมือนที่ฉันบอก การมาของเจ้างูยักษ์นี่มันเปลี่ยนทุกอย่าง ราชินีวล็อดซีเมียเหมือนรู้อะไรบางอย่าง เธอยังไม่บอกฉัน ฉันอยากรู้ว่าจะไปต่อยังไง เจ้างูนี้เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน ฉันห่วงคนที่ฉันรัก”
หลังลูน่าชวนให้ผมไปจับ ผมปฏิเสธแล้ว พูดเรื่องเจ้างูเจ้าปัญหานี้
“เธอรู้มั้ย? สัตว์น่ะ มันต้องการอยู่กับคน แต่มันเป็นนักล่า และเราเป็นเหยื่อมาตั้งแต่โบราณ เท่าที่ฉันดูคร่าวๆ มันน่าจะเป็นสัตว์ที่อยู่มาเป็น 1,000 ปีแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันมาจากไหนจริงๆ ฉันก็ดูไปพร้อมกับเธอเนี่ยแหละ แต่อย่าเพิ่งท้อ”
ลูน่าพูด ยิ้ม แล้วจับไหล่ผม
“คนและความรักจะชนะ”
เมื่อเธอยิ้มจับไหล่ผมและปลอบโยนผมให้ผมหายเครียด ผมยิ้มให้เธอ
“ขอบคุณนะ มันช่วยได้หลายอย่าง”
“ไม่มีปัญหา ว่างก็มาหาฉันบ้างล่ะ อย่าลืมกันก็พอ ฉันอยากมีลูกแล้วเหมือนกัน หลังเห็นเหล่าเพื่อนสมัยเด็กที่เธอเล่านักหนาท้อง”
หลังผมขอบคุณเธอ เธอก็พูดเรื่องการสืบทอดเชื้อสาย
เท่าที่ผมเรียนมาที่โรงเรียนแพทย์ คนรักการสืบทอดมากในยุคนี้
มันเพราะเราตีกันและฆ่ากันมาเป็น 100 กว่าปี คนลดลงเรื่อยๆ แต่มีคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมไม่อยากให้ลูกหลานผมต้องไปรบ ผมอยากให้กลายเป็นยุคแห่งธุรกิจมากกว่า
การรบราฆ่าฟันกันมันไม่มีอะไรดี ยกเว้นกับพวกที่เป็นพวกคนชั่วหรือพวกองค์กรชั่วร้าย
แต่วันนี้ยังไม่จบ และพรุ่งนี้ก็ยังมาไม่ถึง
ช่วงนี้มันยังเพิ่งช่วงบ่ายๆ และมันอีกนานกว่าจะพรุ่งนี้
ผมต้องพร้อม เพราะผมเป็นคนที่เป็นหัวของบ้าน
และวาโรก็หวังพึ่งผมอยู่
สิ่งที่เธอเห็นในผมน่าจะไม่ใช่ความหล่อเหลาอะไร แต่เป็นศักยภาพมากกว่า
ผมมองงูสีดำด้านไปเรื่อยๆ พยายามคิดเรื่องอนาคต
กุญแจอยู่ที่ผม
ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากุญแจมันคืออะไร ที่ผมสร้างปืนไว้มันก็เพราะเราเอาไว้สู้กับพวกคนร้าย
ถ้ามันมีสัตว์เลื้อยคลานตัวใหญ่ มันต้องมีสัตว์บินตัวใหญ่
ไหนจะพวกสัตว์ตามตำนานที่น่ากลัวต่างๆทั้งหลาย อย่างมังกร, กิ้งก่า, ปลายักษ์
ยิ่งถ้ามันพากันมาเป็นฝูง เราจะสู้ยังไง
แต่ผมว่ามันยังไม่ถึงระดับหายนะ ผมเชื่อว่าคนยังชนะได้
เพราะผมสร้างปืนแล้ว ถ้ามีงูยักษ์ ผมแค่ต้องสร้างรถถังที่มีปืนใหญ่ เรือรบ เครื่องบินเจ็ท เรือดำน้ำ
ถ้ายุคต้องเปลี่ยนกลายไปเป็นยุครบกันด้วยเครื่องยนต์ฺ ผมก็ไม่ห่วง
ยิ่งถ้ามีศัตรูตัวใหญ่เหมือนเจ้างูยักษ์นี้ ถ้าคนยิ่งเห็นมันยิ่งทำให้คนหันมาสามัคคีขึ้น
แต่วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน
วาโรต่างหากที่เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ใช่ผม
แต่ผมกลัวเธอจะทำงานหนักไป
ผมส่งแรงใจไปให้วาโร
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
*แนะนำ plotteller เพราะมาชวนนิยายเล็กๆอย่างผม
Plotteller (แนะนำ มีแอพ)
https://www.plotteller.com/book_reading_novel/01J6K59JBZFBKF5WR1DS8Y86Q2
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ถูกใจเชิญโดเนทได้ที่เว็ปไซต์ tipme
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ:
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
https://facebook.com/100087843892571/
https://discord.gg/cP8yT4J8
line: @326jilhj (wayuwayu)
*nekopost โดเนท 10 บาทเผยแพร่ตอน 7 วัน โดเนท 100 เขียนตอนใหม่ เผยแพร่ฟรี 90 วัน