กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 65 ศิโร
ต้นเดือน 5 วารี 22 ปี
ผมตื่นมาในห้องของผมพร้อมวี, วิว, และพี่อลิส
เมื่อวานเราพาเธอกลับมาบ้านแล้วมานอนในห้อง
ผมไม่เลือกให้เธอนอนในห้องคนเดียวเพราะผมกลัวเธอตื่นมาไม่เจอใครแล้วตกใจ
แต่เมื่อคืนเมื่อตอนนอนเธอก็ยังไม่หลับ
ผมลุกขึ้นแล้วปลุกสาวทุกคนที่นอนกับผม
วีกับวิวตื่นขึ้นมายิ้มให้แล้วลุกไปหาผ้าเช็ดตัวทันที
พี่อลิสตื่น
“ทำไมฉันอยู่ที่นี่ อ้าว! นั่นวารีนี่”
หน้าเธอโกหกได้เปิ่นๆมากและมันดูรู้ง่ายๆว่าเธอโกหก
เธอยิ้มเหมือนคนเป็นแม่คนแต่เธอเหงื่อตกที่หน้าผาก
มันดูเหมือนเธอกำลังกลัวว่าจะถูกจับได้ว่าโกหก
“ใช่ มันเป็นผม เราจับตัวแฟนพี่แล้วเอาเขาไปให้ทหารแล้ว พี่รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”
หลังผมพูดผมก็คิดถึงเมื่อวานที่ผมให้พี่อายะทำแผลพี่อลิสเพราะเธอทำเป็นและผมสอนนิดหน่อย
ที่ผมไม่ทำเพราะผมกลัวเสียมารยาท
ผมชอบเธอจริงๆ ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
ผมเหมือนกลับเป็นวัยรุ่นอีกครั้งก่อนวันที่ได้ตัดสินใจคุยกับพี่อายะ
แต่พี่อลิสก็อายุมากแล้ว แต่หน้าตายังดูเหมือนวัยรุ่นเพิ่งโตได้ซักพักเอง
เธอดูไม่แก่เลย
ผมอยากเอื้อมมือไปลูบแก้มเธอ แต่ผมรีบล้มเลิกความคิดนั้นเพราะมันเสียมารยาท
“เรื่องของไอ้คนนั้น ปล่อยมันไปเถอะ ช่างมัน ฉันทำใจอย่างเดียว เพราะฉันโง่เองไปคบคนอย่างมัน”
ความคิดเธอเหมือนผู้ใหญ่จริงๆ และผมชื่นชมเธอ
ผมไม่อยากถามเรื่องแฟนของเธอต่อ ผมไม่ฆ่ามันก็โชคดีแค่ไหนแล้ว
“ไปอาบน้ำเถอะพี่”
ผมเตรียมผ้าเช็ดตัวผมให้เธอ
เธอทำหน้าลังเลไม่กล้าหยิบให้ผมยื่นผ้าเช็ดตัวเก้อๆแล้วมองวิวกับวีเหมือนอยากให้ช่วย
แต่วีกับวิวเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เหมือนความเขินอายที่ต้องใช้ของผู้ชายเพราะพวกเธอใจถึง
“ใช้มันเถอะ มันเป็นผ้าเช็ดตัวใหม่”
หลังพี่อลิสได้ยินผมพูดแบบนั้นพี่เขาถึงหยิบผ้าเช็ดตัว
ผมหันไปมองที่อื่นแล้วให้เธอถอดเสื้อผ้านุ่งผ้าเช็ดตัวของเธอไป
ผมหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ เพราะผ้าเช็ดตัวมันใหม่ตลอด
ผมต้องชื่นชมแม่บ้านที่ซักผ้าตากบนหลังคาทุกวัน
ผมรอให้เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวเสร็จแล้วออกไปจะออกไปรอหน้าห้อง
“วี วิว พาพี่อลิสไปห้องน้ำด้วย ฉันไปอาบก่อนเพราะฉันต้องไปหาวาโร”
“ได้สิ”
วิวตอบรับหน้าตายิ้มแย้มแต่วีเหมือนหงุดหงิดนิดหน่อย
อาการมันไม่เหมือนช่วงผมเป็นแฟนวาโรแรกๆ
ผมออกจากห้องแล้วไปอาบน้ำ
ผมถึงห้องน้ำและมันยังไม่มีใคร
ผมลงอ่าง
“ฟู่ว”
เมื่อวานมันเหมือนได้ออกแรงเพราะเรากลัวคนเจอ
ผมต้องคิดเรื่องอาวุธใหม่เพราะหน้าไม้มันช้าไปนิดหน่อย
วีกับวิวเข้ามาพร้อมพี่อลิสอยู่ตรงกลาง
ผมรีบลุกแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัว
ผมเดินสวนสามคนแล้วพี่อลิสเหมือนมีอะไรจะพูด
“ว่ะ, วารี”
“หืม? พี่อลิส?”
“หละ, หละ, หล่อขึ้นนะ”
“ขอบคุณครับ พี่ก็สวยขึ้น พี่ยังยิ้มสวยเหมือนเดิม”
หลังเธอไม่ค่อยกล้าชมผม ผมก็ชมเธอกลับแบบมั่นใจเพราะมันเป็นเรื่องจริง
เธอหน้าแดงแล้วรีบเดินไปลงอ่าง
ผมไม่เห็นตอนเธอไม่นุ่งผ้าเช็ดตัวแต่ผมไม่คิดอะไร
ผมเดินออกจากห้องน้ำแล้วเดินกลับห้อง
เรดจำปาจะมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอผม
“วันนี้ไปไหน วารี”
“วันนี้น่าจะไปศิโรน่ะ รีบอาบน้ำ เดี๋ยวฉันไปคุยกับวาโรก่อน”
“ได้สิ”
หลังผมบอกว่ามีธุระ เธอก็พยักหน้าตอบรับ
ผมรีบไปแต่งตัวทำธุรกิจแล้วรีบเข้าวัง
ผมเดินไปห้องวาโรทำงานของวาโร
มันเป็นโฮเบรินที่เปิด
ผมเดินเข้าห้องวาโรหลังเขาเชิญ
“ฉันมีเรื่องจะปรึกษา”
“หืม? มีอะไร”
“ฉันอยากให้ฉันกับเธอช่วยกันซื้อศิโรมาเป็นเมืองขึ้น”
“เอาอย่างนั้นเลยเหรอ?”
หลังผมบอกแล้วเธอถาม ผมทำหน้าแน่วแน่
“ที่นั่นมีแต่ข้าวสาลีกับผักผลไม้ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษที่น่าปกครอง ถึงเราเอามาบริหารมันก็ไม่ได้จะเป็นประเทศที่ดี”
ผมส่ายหน้าหลังเธอพูด แล้วเธอวางปากกาเหมือนสนใจ
“ศิโรแค่บริหารไม่ดี แค่มีพื้นที่ให้คน มันก็จะมีธุรกิจ เมื่อมีธุรกิจ เงินมันก็จะเดินของมันเอง ฉันจะปรับมันเป็นเมืองทำธุรกิจ”
เธอเหมือนนึกภาพไม่ออกแล้วเกาหัว
“ถ้าเธอว่าอย่างนั้น ฉันเชื่่อก็ได้”
โฮเบรินหลับตาและพยักหน้า
ผมไม่ได้คิดแผนบริหารศิโรมาก่อน อะไรดีที่จะเปลี่ยนคนไปให้พร้อมทำงานและเสริมอาชีพอื่นไปด้วย
แต่เมื่อผมคิดอย่างนั้นผมก็นึกแผนบางอย่างออก
เอาล่ะเท่านั้นศิโรก็น่าจะเป็นเมืองที่ทำกำไรได้แล้ว
“ป่ะ ไปศิโร รีบไปคุยกับราชากันเถอะ เราต้องรีบไปให้เขารับผิดชอบเพราะมีส่วนทำให้พี่อลิสบาดเจ็บ”
“เธอดูห่วงและหวงเธอเหลือเกินนะ พวกริ้วรอยเธอแก่กว่าฉันอีก”
“อย่าพูดเรื่องอายุเธอน่า เธอเป็นแม่เลี้ยงเก่าที่เธอเลี้ยงมานะ”
หลังเธอแซวแล้วผมป้องกันวาโรก็ยิ้มมุมปาก
วาโรเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องทำงานแล้วเลือกชุดรัดๆสีขาวแบบทหาร เธอวางมงกุฎ
“ให้คนอื่นดูประเทศได้มั้ย ฉันอยากให้โฮเบรินไปด้วย”
“ไม่จำเป็น”
หลังผมบอกเธอว่าผมอยากให้โฮเบรินไปด้วย เธอปฏิเสธผมแบบไม่คิด
แล้วเธอเดินออกจากห้องก่อนผม
เธอทำอะไรเร็วจริงๆ
ผมรีบตามเธอไปแล้วเดินอยู่ข้างเธอเราเดินไปโดรนแล้วทุกคนมาพร้อม
หน่วยมังกรขาวทุกคนแต่งตัวดูดีพร้อมไปเข้าเฝ้าระดับราชาของประเทศ
ผมขึ้นโดรนแล้วเปิดใบพัด
“พร้อมนะ”
ผมหันไปมองทุกคน
ทุกคนดูพร้อมและทุกคนพยักหน้า
ผมเตรียมกระเป๋าเงินที่จะเอาไปให้พี่โดโรเธียไปด้วย
ผมออกบินไปศิโร
ผมบินอยู่นานเพราะมันเป็นการเดินทางข้ามประเทศ
พี่อลิสมองหน้าต่างอย่างตื่นเต้น
เธอดูเหมือนเด็กๆได้ของเล่นใหม่
“สะดวกดีจริงๆ”
ผมยิ้มให้เธอหลังพี่อลิสพูด แล้วรีบหันมาตั้งใจบินต่อ”
มันนานกว่าจะถึงศิโรแต่ผมคิดว่าเหมือนไม่นาน
ผมเปิดแผนทื่ไว้ข้างๆ แล้วส่งให้ข้างหลัง ก่อนถึงเขตศิโร
“ช่วยกาตำแหน่งของวังศิโรหน่อยสิ ใ ครก็ได้”
ผมเห็นวาโรยื่นมือมารับแบบยิ้มๆ
ไม่นานเธอก็ส่งกลับมาให้ผมได้เห็น
มันกาอยู่ไกลจากบ้านกำพร้าหลังที่ 4 ของศิโร
“วังสุขสบายมันอยู่ตรงนั้นแหละ”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณนะวาโร เธอเก่งจัง”
“ฉันเป็นราชินีนะ อย่าลืมสิวารี”
เธอพูดปนหัวเราะกลับมา แล้วผมยิ้มให้บรรยากาศ
แม้เราจะไปให้ศิโรหรือราชาของศิโรรับผิดชอบ แต่บรรยากาศไม่ได้ตึงเครียดและไม่มีใครกลัวว่าศิโรกับวาโรซีเมียเรียจะรบกัน
เรื่องนั้นคงไม่เกิดขึ้น
ผมต้องคิดแผนไว้เผื่อราชาของศิโรไม่ยินดีมอบประเทศให้เราด้วย
ผมสังเกตจากชื่อวัง และเมื่อได้รับรู้ว่าเขาชอบอยู่สบายผมก็คิดแผนการ
ผมมาจากข้างบนและเห็นคนชี้วังข้างล่างเล็กๆมากมาย
เขตวังมันเป็นวงกลมและมีป้อมอยู่ริมรั้ววัง มันมีบ่อน้ำอยู่ในเขตวังและวังมันสูง
เมื่อผมเข้าเขต ผมเห็นทหารเล็กๆข้างล่างดูตื่นตกใจ
ผมหาที่ว่างลงจอดแล้วคนหนีกันจ้าละหวั่น
คนฮือฮาแล้วตื่นตกใจเพราะเห็นวัตถุแปลกประหลาดขนาดใหญ่บินได้
ผมเปิดฝากระจกที่ครอบไว้กันลมแล้วลงกันพร้อมกับเหล่าหน่วยมังกรขาว
ตอนพี่อายะทำแผลเมื่ออยู่กับสาวๆของผมพี่อายะถามว่าผมจะทำอย่างไรต่อ
เธออยากมาด้วยเพื่อให้ผมโกรธน้อยลง แต่ผมไม่ได้เอาเธอมาด้วย
ผมอยากให้ศิโรต้องเสียอะไรซักอย่างไป
ผมคิดๆดีๆเพื่อห้ามตัวเอง มันจะมากไปมั้ย?
ใจหนึ่งผมก็คิดว่าราชาไม่ได้เกี่ยวอะไรนี่ มันจะอะไรนักหนา อีกใจหนึ่งผมก็คิดว่าเขาเป็นถึงราชา เรื่องความปลอดภัยของผู้คนมันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ตก
ผมคิดว่าที่คนไม่ก่อกบฎกันอาจเพราะคนกินยังไม่อิ่มท้องเลยด้วยซ้ำ
ตอนผมเกิดมาบ้านกำพร้า มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราได้ค่ากับข้าวมาจากท่านหญิงพร้ากเต้อเข แล้วเรากินอิ่มท้องแทบทุกวันยกเว้นช่วงที่เราทำงาน
แต่เมื่อผมได้ดีแล้วผมก็ไม่ลืมบ้านนั้นและส่งเงินเหลือๆต่อเดือนที่คำนวนค่ากับข้าวและค่าจ้างไว้ตลอด
ที่พี่โดโรเธียจ้างคนเพิ่มได้ก็น่าจะเพราะเงินนั่นด้วยส่วนหนึ่ง
ผมตะโกนบอกทหารที่วิ่งชักดาบมา
“ราชินีวล็อดซีเมียแห่งวาโรซีเมียเรียจะเข้าเฝ้าราชาด่วน!”
ทหารหยุดชะงักไม่มาที่นี่แล้ว โดยมีหน้าเหมือนกลัวแล้ววิ่งกลับเข้าไปในวังสองคนเร็วกว่าตอนมาหาผมอีก
ไม่นานก็มีคนสุภาพแต่เหมือนเหงื่อตกมา
วังมันเล็กนิดเดียวไม่เหมือนวังใหญ่มากของวาโรซีเมียเรีย แต่มันยังหลายชั้น
ที่มันไม่เหมือนวังวาโรซีเมียเรียคือเขตรั้วที่กั้นวังจากเหล่าบ้านสลัม
ในเมืองคนแออัดและวังมันใหญ่ที่สุดแล้ว
คนสุภาพชี้เชิญเราเข้าไปเงียบๆ
แต่เขาก้มอย่างนอบน้อมที่สุดและแทบไม่เงยหัวมาเลยแม้แต่น้อย
เราเข้าไปในตัววังและสิ่งแรกที่สังเกตุคือมันมีคนเยอะ
มันเป็นที่เหมือนบ้านเช่าซอยเป็นแถวๆอยู่ข้างในวัง
และทหารทักผู้หญิงข้างในประปราย
เขาเอาครอบครัวทหารของเขามาอาศัยอยู่ภายใจวังหรือ?
มันไม่มีแดดข้างในและไฟมันสลัว
ตามบ้านใช้ลิช และมันเหมือนเมืองกลางคืน
นี่มันเกินไปแล้ว ผมรู้ว่าศิโรเป็นเมืองเล็ก แต่ผมไม่เข้าใจที่เอาครอบครัวทหารมาไว้ในวัง
เขาอาจจะขี้กลัวมากเกินไปและใช้ครอบครัวทหารเป็นตัวกั้นเมื่อมีคนบุกศิโรจริงๆ
เป็นไปได้
เราเดินขึ้นบันไดกันอยู่นาน แล้วหลังจากเราขึ้นบันไดกัน ผมก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมต้นขาคนสุภาพถึงใหญ่
คนสุภาพเคาะประตู
“เข้ามา”
เสียงคนแก่ลึกๆต่ำๆตอบกลับมา
คนสุภาพเปิดประตู และเราเข้าไปในห้อง
สิ่งแรกที่ผมเห็นคือบัลลังก์มันดูราคาถูกมากๆ
มันไม่เหมือนบัลลังก์ทองอลังการเหมือนของราชินีวล็อดซีเมีย
เมื่อผมมองหน้าเธอ เธอทำหน้าตาไม่หวั่นเกรงอะไรทั้งนั้น
ดี
เธอพร้อม
ภรรยาราชาก็อยู่ด้วยและเธอหุ่นเหมือนท่านหญิงพร้ากเต้อเขหรือนางงามโลกนี้
ถ้าอย่างนั้นเขาก็เป็นราชาที่เดทผู้หญิงระดับนางงาม
หน้านางงามเหมือนคนศิโรและมันก็ดูดีอยู่
ผมหยุดมองพิจารณามากเกินไป และราชากลืนน้ำลายเหมือนเตรียมตัว
“รู้เหตุผลที่พวกเรามามั้ย?”
ผมทำหน้าโกรธๆแล้วถามเขา
เขาส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเหมือนปลงกับชะตา
ถ้าอย่างนั้นเขาตามข่าวผม เขารู้ว่าผมเป็นใคร
“ที่เรามาเพราะคนที่ผมสัญญาว่าจะไปรับเพราะรักบาดเจ็บจากแฟนคนคุกเก่า ระหว่างที่เธอถูกลักพาตัว ทหารหรือผู้มีอำนาจไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย และบอกแต่ว่ามันเป็นเรื่องของแฟน ระบบของศิโรล้มเหลวและการบริหารมันไม่ได้เรื่อง คุณ! ไม่ได้เรื่องแล้วดูแลให้ทหารทำงานเพื่อคนธรรมดาที่เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอให้อยู่รอดปลอดภัยไม่ได้! แผลเป็นที่หลังเธอเยอะอยู่แล้ว แต่ไอ้คนบัดซบนั่นเพิ่มแผลเป็นที่หลังให้เธออีก! คุณจะรับผิดชอบยังไง แล้วถ้าเรามีทางออก คุณพร้อมทำอะไรเพื่อผู้หญิงตาดำๆคนหนึ่ง”
เขากลืนน้ำลายถึงสองครั้งติดกับที่ผมพูดยาวๆเพื่อหาคนรับผิดชอบ
เขาทำหน้าตตามุ่งมั่นเหมือนพร้อมเถียงเพื่่อให้ตัวเองรอด
“มันเป็นเรื่องของสามีภรรยาและเราทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราได้ยินข่าวลือเรื่องนี้มาบ้างแล้ว และไอ้คนบัดซบนั่น ติดคุกตลอดชีวิตแล้ว”
ถ้าอย่างนั้นเขารู้เรื่องและเขาเถียงเพื่อเอาตัวรอด
เขาไม่น่าเป็นคนแบบนั้น แต่เขาเป็นราชาผู้ที่ไร้ซึ่งอำนาจ
“คุณกำลังบอกว่ามันเป็นความผิดผู้หญิงและไม่ใช่เรื่องของคุณเหรอ?”
หลังวาโรพูดสั้นๆอย่างเจ็บแสบ เขาตาเปิดกว้างและเหมือนไม่เชื่่อสายตาที่ราชินีของวาโรซีเมียเรียลงแลกเองเพื่อหาคนรับผิดชอบ
การที่วาโรพูดแค่นั้นมันก็ทำให้เขาจนมุมแล้ว
ยิ่งเขาเถียงต่อ มันจะทำให้เขาเสียทั้งขึ้นทั้งร่อง
“ผมไม่ได้จะหมายความเป็นอย่างนั้น”
เขาพูดเหมือนตัดพ้อ
เขาแก่และมันดูน่าสงสาร
“แต่เราไม่ใช่ไม่มีทางออกสำหรับคุณ คุณราชา ถ้าคุณเลือกขายประเทศมาเป็นเมืองขึ้นของวาโรซีเมียเรีย เราจะจ่ายเงินให้คุณก้อนหนึ่ง และคุณจะบริหารประเทศต่อ แต่ประเทศของคุณจะตกเป็นของวาโรซีเมียเรีย เราจะดูแลด้านความเจริญก้าวหน้าแทนคุณ แล้วเราจะดูประเทศให้คุณ อย่ากลัวว่านี่เป็นการยึดประเทศแล้วคุณหมดอำนาจบริหาร อำนาจคุณยังเท่าเดิม เพียงแค่ราชินีวล็อดซีเมียกับผม จะดูประเทศแทนคุณเท่านั้น เอาล่ะคุณจะเอาเงินก้อนเท่าไหร่?”
เขาทำหน้าไม่พอใจเพราะผมดูถูกเขาเต็มๆ
“ถ้าคุณรวยขนาดนั้น…”
เขาพูดเชิงขู่เหมือนจะทำให้ผมกลัว แต่มันเหมือนเขาชมผมอยู่ว่าผมรวยมากกว่า
“คุณก็ควักเงินมา 100,000 ทอง ให้เห็นๆเลยซี่!”
เขาพูดเสียงดังแต่เขาหารู้ไม่ว่าผมมีเงินจำนวนนั้นพร้อมอยู่
มันไม่จำเป็นต้องใช้เงินของวาโรด้วยซ้ำ
ผมซื้อเองคนเดียวไปเลยได้
มันเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านอีกแล้วและราคามันราคาเดียวกันกับความบริสุทธิ์ของราชินีวล็อดซีเมียที่สวยงาม
ผมไม่ตกใจอะไรมากและผมกะประมาณจำนวนเงินที่เขาต้องการไว้มากกว่านี้
มันไม่ถึงแต่มันไม่มีปัญหาอะไรมากมาย
“ตกลง เอาล่ะ เรื่องเงินจะแลกเปลี่ยนอย่างไรเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง เราต้องคุยเรื่องโครงสร้างประเทศก่อน แล้วช่วยกันหาจุดบกพร่องที่ทำให้ธุรกิจของประเทศนี้ไม่เดินหน้ามากเท่าที่คิด ทางเราประเทศวาโรซีเมียเรีย สัญญาจะสร้างขนส่งมวลชนเพื่อให้การเดินทางไปกลับประเทศวาโรซีเมียเรียและศิโรสะดวกมากยิ่งขึ้น เราไม่รู้เวลาว่าเมื่อไหร่ที่มันจะเสร็จ แต่กะประมาณระยะเวลาไว้ที่ประมาณ 1 ถึง 2 ปี”
เมื่อผมพูดรายละเอียดวาโรพยักหน้าเห็นด้วยกับที่ผมพูดหมด แม้ตัวเธอก็ยังไม่รู้รายละเอียดเช่นเรื่องของขนส่งมวลชน
เพราะผมยังไม่พูดถึงเรื่องรถไฟ แต่ผมมีแผนที่จะต้องสร้างรางรถไฟฟ้าเร็วสูงราคาถูกจากศิโรถึงวาโรซีเมียเรียเพื่อการเดินทางไปทำงานแบบไปกลับของสองประเทศ
“เดี๋ยวสิ เอ๋? คุณมีเงินจำนวนนั้นเรอะ?”
“ใช่ผมมี มีปัญหาอะไร?”
“อุ่ ม่ะ, ไม่มีครับ ผมยอมแล้วก็ได้”
เมื่อผมถามเขาตรงๆ เขายอมทุกรูปแบบขึ้นมาทันที
มันทำให้ผมสบายใจขึ้นที่เราคุยกันแบบง่ายๆ
เท่านี้ศิโรก็ตกเป็นเมืองขึ้นของวาโรซีเมียเรียแล้ว
“เดี๋ยวสิ เธอจะซื้อประเทศให้ฉันเหรอวารี?”
“มันเป็นเมืองขึ้นไม่ได้ซื้อทั้งประเทศให้เธอซักหน่อยน่า อย่าคิดมากเลย”
“มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละน่า!”
เมื่อผมบอกเรื่องเมืองขึ้น วาโรเหมือนไม่อยากรับของฟรีขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“อย่าคิดมาก อย่าคิดมาก”
“ก็ได้ ถ้าเธอว่าอย่างนั้น”
เมื่อผมบอกให้เธออย่าคิดมากอีกครั้งด้วยหน้าตายิ้มแย้มไร้กังวลเธอก็ยอมเหมือนกัน
เท่านี้ปัญหาเรื่องของฟรีที่ต้องให้เธอก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ผมต้องเปลี่ยนโครงสร้างเมืองสลัมที่แออัดของศิโร ผมต้องเปลี่ยนหลายเรื่อง และมันเป็นเรื่องยากที่ต้องเอามารับผิดชอบ
แต่มันเป็นประเทศศิโร ประเทศที่เป็นบ้านเกิดผมอย่างหนึ่ง ผมเลยมีใจอยากให้ประเทศนี้ดีๆขึ้นเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่มีเลย
เราคุยรายละเอียดกันถึงเกือบเย็นแล้วเราออกจากวัง
ดูจากสภาพราชาของศิโร เขาเหมือนยอมทุกอย่างแล้วและไม่คิดแข็งขืนอะไรอีกแล้ว
มันดีและมันทำให้การดูประเทศศิโรง่ายมากขึ้น
เราขึ้นโดรนกันเตรียมกลับบ้านแล้วเปิดใบพัด
“เดี๋ยวออกนอกเมืองศิโรสักครู่นะ เพราะฉันจะแวะไปบ้านกำพร้าหลังที่ 4 ก่อน”
ผมอยากแวะไปที่บ้านกำพร้าซักหน่อยเพราะมันมีทองที่ต้องไว้ให้บ้านกำพร้าอยู่ในกระเป๋าเพราะผมเตรียมมาตั้งแต่เช้า
เมื่อผมหันไปดูทุกคน ทุกคนพยักหน้าเหมือนไม่มีปัญหาอะไร
ผมขึ้นบินและรีบบินออกนอกศิโรเพื่อไปที่บ้านกำพร้า
มันข้ามประมาณเขตเล็กๆสองสามเขตและไม่นานมันก็มาถึงเมืองศิโรบ้านนอกที่ผมไม่รู้จักชื่อเมือง
แต่มันไม่มีปัญหาแม้ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนที่ไหนของศิโร
มันเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กๆและผมไม่คิดจะรู้
ผมจอดหน้าบ้านและวันนี้ไม่มีเด็กออกมาเล่นเหมือนวันอื่น
ผมถือกระเป๋าเงินเคาะประตูหน้าบ้าน
มีคนเปิดประตู
เมื่อเปิดมาผมเจอสาวครึ่งงูที่ท่อนล่างเป็นงูใหญ่หรือลาเมีย
ตัวงูมันสีม่วงเหมือนสีผมเธอ และดวงตาเธอสีเขียวเหมือนมรกตที่สวยงาม
หน้าเธอน่าหลงใหลและมันทำให้ผมเหม่อกับความสวย
“สวัสดีค่ะ คุณเป็นใครคะ?”
“ผมชื่อวารีครับ เป็นนักธุรกิจของวาโรซีเมียเรีย พี่โดโรเธียคงเล่าเรื่องของผมบ้างแล้ว ผมเป็นเด็กของที่นี่มาก่อน”
“อ๋อ วารีคนนั้นเอง เข้ามาสิคะคุณ ยินดีตอนรับสู่เมืองราบสุขขี”
เธอมีเสน่ห์แรงมาก และมันทำให้ผมอยากรักเธอ
ผมได้รู้ชื่อเมืองนี้ด้วย
มันทำให้ผมต้องห้ามใจเพราะถ้าผมรีบรักใครง่ายๆ มันจะทำให้ผิดใจกับวีและวิว
และตอนนี้การจ้องมองของสองคนนั้นมันทิ่มแทงหลังผมอย่างเจ็บปวด
ผมทำใจและปล่อยไปทำทำนองแห่งรัก
ถ้าต้องรักก็รัก แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า
แต่พี่โดโรเธียบอกจะแนะนำแล้วด้วย!
ผมเข้าบ้านกำพร้าพร้อมกระเป๋าทองที่จะเอามาให้พี่โดโรเธีย
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ตอนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ถูกใจเชิญโดเนทได้
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ:
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
https://facebook.com/100087843892571/
https://discord.gg/cP8yT4J8
line: @326jilhj (wayuwayu)
*nekopost โดเนท 10 บาทเผยแพร่ตอน 7 วัน โดเนท 100 เขียนตอนใหม่ เผยแพร่ฟรี 90 วัน