กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 5 แกงไบชุนฟุ
5 แกงไบชุนฟุ
2 ปีผ่านไป
*จิ้บจิ้บ จิ้บจิ้วจุ๊บจุ๊บ*
นกร้อง
ผมตื่น ผมเริ่มออกกำลังที่เตียงและในห้องไปบ้างแต่มันไม่ได้เยอะ ตอนนี้ผมขยับทุกอย่างในร่างกายได้อย่างคล่องตัว แต่มันไม่มีลานดีๆให้ออกกำลังอย่างถูกต้อง ผมจึงไม่เคยได้ทำ
ผมมองเตียงเลข 1 กับเลข 2
หนึ่งกับสองเริ่มโตแล้ว ในใจผมเรียกเด็กแมวว่าวี แล้วเรียกเด็กแมงมุมว่าวิว
ส่วนตัวผมนั้นชื่อวารี มันเหมือนไม่คิดเท่าไหร่ แต่ผมไม่ค่อยสนใจหนักหนา
ผมมองพวกเธออีกครั้ง พวกเธอหลับอย่างสบาย ผมยิ้ม
พวกเธอเริ่มตีสนิทกับผม แต่ไม่ได้เข้าสนิทสนมมากขนาดนั้นยังทำตัวห่างๆอยู่ แล้วทำไมผมนึกถึงแต่พวกเธอ…ไม่รู้สิ
ผมถูกใจมั้ง
วี เด็กแมวตื่น
เธอลืมตา ขยี้ตาแล้วพลิกตัวคว่ำหน้า จากนั้นชูบั้นท้ายขึ้นสูงแล้วก้มตัวแนบพื้นยืดหลัง เธอทำแบบนั้นทุกเช้า จากนั้นเธอชำเลืองมาทางผม
ผมโบกมือเบาๆ
เธอยิ้มนิดๆแล้วกลับไปนอนต่อ จากนั้นวิว เด็กแมงมุมหมายเลข 2 ตื่น เธอนั่งอย่างเร็ว ลุกอย่างเร็ว กระโดดลงเตียงอย่างเร็ววิ่งออกจากห้องแปดขาไปอย่างเร็ว
*ต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อก*
เสียงฝีเท้าแปดขาอันไม่แข็งเดินแปดขาไป
ผมลงจากเตียง
วีดีดขึ้นมาแล้วมองตามผมตอนผมผ่านผมขยี้หัวเธอเบาๆ ไม่ไปจับหูเธอ เธอแค่ยกหัวขึ้นลงอย่างช้าๆ ทำหน้าสงสัย แล้วกลับไปไร้สีหน้าแล้วมองต่อไม่กระพริบตา
จากนั้นผมเปิดประตู หมายเลข 1 เด็กแมว วิ่งผ่านผมไป มันไร้ซึ่งเสียงสักหนึ่งน้อย ผมตกใจเปิดตากว้างนิดหน่อย จากนั้นก็เดินตามเธอไป พวกเราไปที่ห้องน้ำ
—————————————
ห้องกินข้าว
เราอยู่ในห้องกินข้าว อาบน้ำต่างโลกมัน… ผมบอกได้แค่ว่า สบู่มันประหลาด ยิ่งนึกถึงมันก็ยิ่งไม่อยากพูดถึง ผมยังทำใจไม่ได้แต่มันไม่ได้มากขนาดนั้น ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น มันหอม และสะอาดแต่…
“เอ้ากินๆ”
“””ครับ/ค่ะ”””
มันคือแกงไบชุนฟุ แกงกะหรี่สีชมพู แกงนี้มาบ่อย ผมไม่เคยตั้งคำถามมัน แต่วันนี้ผมจะเริ่มถาม เพราะหลักๆแล้ว มันคือแกงกะหรี่
ผมถามอลีสที่กำลังยื่นจานแกงกะหรี่ให้เด็กๆ
“พี่อลิสครับ ทำไมพี่ทำแต่แกงกะ-…ไบชุนฟุล่ะ”
“หืม เพราะมันถูกสุดแล้ว! และพี่ทำมันบ่อยด้วยแล้วพี่ทำ…เก่ง…มันอร่อย
“ครับ”
เธอพูดเก่งเบาๆ ผมตักแกง คนๆส่วนหนึ่งปนน้ำแกง ผมเห็นเนื้อวันนี้เป็นเนื้อวัว มันดีมากที่สุด แต่…อีกแล้วเหรอ
“แล้วนี่เนื้ออะไรครับ ทำไมพี่ทำบ่อย”
“นั่นเนื้อวัว เพราะคนไม่ชอบกินกัน มันเหนียว แล้วถ้าทำไม่… ไม่เก่ง มันจะเหม็นด้วย”
“แต่ของพี่นุ่มมากเลยนะ มันอร่อยมาก”
ผมยิ้มร่าให้เธอ
เธอยิ้มแค่เบาๆ ทำหน้าตาลำบากใจ
“เอ๋ ทำไมล่ะ ไม่ใช่คนจะทำกันเต็มไปหมดเหรอมื้อนี้น่ะ”
“ไม่หรอก คนมีเงินเขากินไข่ต้มกัน”
“เอ๋!!”
ผมทำหน้าตกใจแล้วรีบพูด
“ทำไมล่ะ”
“เพราะของยิ่งอร่อยยิ่งไม่อร่อย กินแล้วไม่ดีหรอก มีแต่คนจนกิน คนรวยๆเขาไม่กินกัน”
“เอ๋…”
เธอยิ้มให้เบาๆ ผมสงสัยอยู่เยอะ แต่ตัดสินใจจะกินต่อ
ผมตักมันฝรั่งที่เหมือนมันฝรั่งกับข้าวและแกงสีชมพู กำลังจะนำมันเข้าปาก
“ที่เขาชอบกินไข่ต้มนั้นน่ะ พื้นฐานแล้วคนมีเกียรติเขาไม่ทำอาหารกัน”
ผมชะงักช้อน แล้วตอบ
“เอ…”
“ไม่กินของอร่อย-”
“เอ๋…”
“และผู้ชายไม่ทำ”
“เอ๋!!…”
“ดังนั้น ไข่ต้มซึ่งผู้ชายทำได้ พวกนักสู้กินกันแต่ไข่ต้มทั้งนั้นแหละ”
“อย่างนั้นเหรอครับ…”
ผมนำเข้าปากเคี้ยว อื้ม อร่อย หอมแกง มันสุดอร่อยทั้งหมด แต่มีผักอันหนึ่งที่ผมไม่แตะ มันเป็นเม็ดเรียวๆคล้ายพริก ผมไม่รู้ว่ามันใช่พริกเพราะมันสีเขียวใช่มันมีพริกสีเขีว แต่… ผมเคยกันก้นมันเบาๆ แล้วมีน้ำกับเม็ดคล้ายแมงลักไหลออกมา มันเผ็ดแสบลิ้นผมคิดว่ามันทำร้ายร่างกายแล้วไม่กินมัน แต่นี่มันต่างโลก ผมอยากเปลี่ยนแปลง
ผมนึกถึงเรื่องไข่ต้ม ถ้าให้ผมเดา เพราะอาหารของคนมีเงินคือไข่ต้มที่แคลอรี่น้อยไร้ไขมันจึงไม่มีมาใช้เผาพลาญตอนฝึกหนักๆอย่างนั้นหรือ
แล้วไม่มีการชอบกินโปรตีน กล้ามจึงไม่แข็งแรง เพราะร่างกายแย่ การต่อสู้ก็แย่ตามไปด้วย แล้วไขมันในร่างกายก็ไม่มีอีก เวลาโดนทำอะไรแรงๆก็จะเจ็บเยอะ ยอมง่าย ไขมันไม่ใช่ไม่ดี มีเยอะเกินไปกับมีน้อยเกินไปต่างหากที่ไม่ดี ดีที่สุดคือ 10-12% สำหรับผู้ชาย สำหรับผู้หญิงคือ 12-26% กำลังดีที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านผ่านๆมา
ผมกินต่อ เมื่อครู่ผมกินแครอท ผมตักมันฝรั่งอีกครัง
“พี่อลิส นี่อะไรครับ”
“นั้นผลมั้นมัน”
“ครับ!”
มันฝรั่งคือมันฝรั่ง
“แล้วนี่ล่ะครับ”
“หึๆ นั่นหัวแคเราะ”
“ครับ!”
แครอทคือแครอทแม้จะเรียก่าแคเราะ สีทั้งมันฝรั่งกับแครอทพื้นฐานแล้วก็ยังเหมือนเดิม ต่อไปเป็น เจ้าเม็ดประมานนิ้วผู้ใหญ่สีเขียวเจ้าปัญหา ปมด้อยของผม
“แล้วนี่ล่ะครับ
“คิกๆ”
เธอหัวเราะคิกคัก ปิดปาก
“นั่นเม็ดซี้ดซี้ด มันเผ็ดนะแต่ถ้าคนชอบก็ชอบมากเลยล่ะ จริงๆแล้วเด็กไม่ค่อยกินหรอก แต่มื้อนี้มันต้องใส่ถึงจะ…”
จากนั้นเธอพูดเบาๆ ทำหน้าเศร้า
“อร่อย…”
“ครับ! มันดีมากเลยล่ะ ขอบคุณที่ทำให้กินครับ”
เธอเปิดตากว้างแล้วหัวเราะกับแสดงให้เห็นฟัน
ถ้ามันคือพริก มันน่าจะดีกับร่างกาย มันเผ็ดเพราะมันเผ็ด จะกินก็กิน ไม่กินก็ไม่กิน
ผมนึกถึงเหตุผลว่าทำไมผู้ชายไม่ทำอาหาร มันเพราะผู้ชายเลือกเป็นนักสู้ส่วนใหญ่หรือ แล้วการต่อสู้ถือเป็นสิ่งมีเกียรติสูง เพราะผู้ชายชอบบ้าอำนาจกับเกียรติยศ อย่างนั้นหรือเลยไม่ทำ เพราะการทำอาหารอร่อยถือว่าไม่มีเกียรติอย่านั้นหรือ…
ผมเตรียมพร้อม กัดตูดพริก เทน้ำมันลงข้าว เม็ดลูกซี้ดซี้ดที่เหมือนแมงลักไหลลงแกงไบชุนฟุ ผมคลุก แล้วกิน วีมองผมทำสีหน้าสงสัย
พอนำเข้าปากมันเริ่มหอมเครื่องแกงก่อน ผมกินพร้อมแครอท รสชาตหวานๆของแครอทนำตามมา จากนั้นมันเป็นความหอมและเผ็ดนิดเดียวของเครื่องแกงตอนหายใจออก ไม่นานหลังจากนั้น
“ซี้ดด…”
อลิสยิ้มกว้าง
“นั่นไง ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องกินนะ”
ผมยิ้มให้เธอ แม้น้ำตาเริ่มซึม
“มันอร่อยครับ!”
ผมกินต่อไปคำสองคำ น้ำตาไหลเป็นเม็ดๆออกมา ผมพยายามทนสุดหัวใจที่จะไม่ร้องซี้ดออกมา มันได้บ้างไม่ได้บ้าง จากนั้นผมหันไปดูหมายเลข 1 กับหมายเลข 2 เด็กแมว กับ เด็กแมงมุม หรือวีกับวิว
วีเด็กแมว เขี่ยๆ ตักแต่เนื้อกิน วิวกินแต่ข้าวกับมันฝรั่ง แต่ค่อยๆกินดูเหมือนไม่อยากทำ
ผมดูเด็กๆคนอื่น พวกเขาก็ไม่ค่อยอยากกินด้วย เบอร์ 11 หรือเด็กดรอฟ กินแค่ฝั่งที่ไม่โดนแกงสามสี่คำก็วางช้อนแล้ว
ผมหันไปพูดกับวีเด็กแมวหมายเลข 1 และวิว แมงมุม หมายเลข2
พวกเธอลุกขึ้นยืน
“เธอต้องกินไม่อย่างนั้น ซี้ด… เธอจะอยู่ต่อไปไม่ได้ เธอรู้มั้ยว่าความหิวโหยมัน ซี้ด… แย่แค่ไหน”
พวกเธอขมวดคิ้ว
“แล้วพี่รู้เหรอไง”
“เธอจะแสบท้อง ซี้ด… เธอจะอยากกิน มันทรมานจนอยากร้องไห้ ซี้ด… ทุกอย่างดูอร่อยที่สุดในโลกตอนนั้น อันเธอจะไม่มีวันได้กิน มันน่าเศร้ามากเลยรู้มั้ย…”
พวกเธอทำหน้าตกใจ
“ทำไมพี่รู้เล่า”
ผมทำหน้าไม่ถูก
“ตอนเป็นเด็ก ซี้ด… อลิสเคยมาช้า พี่จำได้”
“เอ๋!”
อลิสเปิดตากว้าง แต่จากนั้นก็ไม่พูดอะไรแล้วกินข้าวต่อจานเธอใส่เม็ดซี้ดซี้ดสามเม็ด
“อึก”
วีกลืนน้ำลาย หน้าซีดสีหน้าเธอกลัวนิดหน่อย ผมหันไปดูวิว
วิวเพียงแค่มองเฉยๆ จากนั้นมองผม จากนั้นมองข้าว จากนั้นยิ้ม จากนั้นนั่งลง
วีนั่งกลับลงตามมาแล้ววี เด็กแมว กัดตูดพริกอย่างอารมณ์เสียแล้วเท คลุกข้าวให้ทั่ว ทำเหมือนผม วิวเด็กแมงมุม กัดตูดพริกเทออกข้างๆ แล้วยิ้มไปกัดเปลือกเม็ดซี้ดซี้ดเล่นไป
นั่นดี
ผมมองดูเด็กๆคนอื่น พวกเขาเริ่มยอมกินกัน บางคนกินพริกแบบกล้าๆกลัวๆ บางคนกินอย่างเอร็ดอร่อย เด็กดวอร์ฟเริ่มกินข้าวกับแกง
ผมสนใจกินจานผม ตักขึ้นมา นำเข้าปาก
คราวนี้มันเป็นมันฝรั่ง กับข้าว มันรสชาตมันเหมือนข้าวกล้อง มันแบนกลมแล้วโค้งทั้งสองฟังเหมือนรูปทรงขนมช็อกโกแลตโลกเก่าของผม
โดยรวมมันออกจืดๆหอมๆ แต่ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน มันอยากเคี้ยวให้แรงอีก แต่ก็อยากรีบกลืนเหมือนกัน ผมตักคำต่อไป หั่นเปลือกซี้ดซี้ดนิดหน่อยแล้วตักกมั้นมันกับแคเราะ นำเข้าปากทั้งสามอย่าง สุดอูมามิ เผ็ดพอประมาน แต่ผมน่าจะเป็นเด็กเลยเผ็ดมาก
ผมเคี้ยว กลืนอย่างเร็ว กินไปเรื่อยๆ จากนั้นมันหมด ผมขูดน้ำแกงที่ยังติดๆก้นจากกินทั้งน้ำตาไหล จากนั้นผมถามอลิส
“อีกสักครึ่งจานได้มั้ยครับ…”
ผมกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรทำหน้ายิ้มๆไว้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ได้จ้าเอามามา”
จากนั้นเธอหยิบจานไปแล้วไปตักในหม้อข้าวกับหม้อแกงที่นำมาเตรียมไว้สำหรับวันนี้
“วันนี้จะแกงไบชุนฟุทั้งวันเหรอครับ”
อลิสหันมายิ้ม
“ใช่จ้า มันวันละอย่าง นะ ไม่อย่างนั้นมันเปลือง”
“ครับ”
จากนั้นเธอนำจานกลับมา คราวนี้มันเนื้อเยอะหน่อย ดีมาก!
ผมยิ้ม ตักเนื้อสองชิ้นในคำเดียวกับข้าวแล้วนำเข้าปาก
ผมเคี้ยว
“อื้มมม… ซี่ด…”
ผมยังไม่ได้กัดเม็ดซี้ดซี้ด คราวนี้มันครึ่งจาน มันจะเผ็ดไปไหม ผมครุ่นคิด แล้วกัด เท คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จะได้ฝึกความอดทน
“งั่มๆ”
ผมมองวี ของเธอใกล้หมดแล้ว น้ำตาไหลแต่ไม่ร้อง เธอไม่ ‘ซี้ด’ สักครั้งเธอเก็บความอดทนเก่ง วิวกินหมดแล้ว เว้นช่วงบริเวณที่น้ำเม็ดซี้ดซี้ดกับเมล็ดคล้ายแมงลักอยู่
ผมกลับมากินจานตัวเอง ตักคำหนึ่ง เคี้ยวอย่างเร็ว กลืนอย่างเร็ว สักพักมันเผ็ด… แล้วมากกว่าเดิมด้วย… โอ้ เจ็บ แสบสัน แต่ต้องอดทน
“ซี้ดดดดดดดด”
ผมตั้งมั่น ซี้ดให้เต็มที่ครั้งสุดท้ายแล้วไม่ทำอีก กินต่อไปเรื่อยๆ ไม่นานก็หมด เนื้ออร่อยมาก ชิ้นที่มีมันตรงที่เป็นมันนั้นหวานและหอมมันเนื้อกินเคล้าความหอมของไบชุนฟุหรือแกงกะหรี่มันสุดอูมามิ กินไปพอเริ่มเลี่ยนนิดๆก็กินพริกเข้าไปตัด จากนั้นกลับไปกินชิ้นติดมันได้อีก แสนเพลิดเพลิน
“ดูมีความสุขจังนะหมายเลข 8”
“ครับ! มันดีมากเลย”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ผมตอบอลิส ยิ้มให้เธอ
วีเด็กแมวหมายเลข 1 กับวิวเด็กแมงมุมหมายเลข 2 ก็มองแล้วยิ้ม
“เอาล่ะทุกคน! เสร็จรึยัง เราจะไปห้องรวมกันต่อ มันเวลาพักจ้า”
“””เยยยย้”””
ผมรีบกินสองคำสุดท้าย ขอบคุณมื้ออาหารในใจ
“ซี้ดดดดดด ฟฟฟฟฟู่…”
ซี้ดอีกครั้งสุดท้ายหลังกินเสร็จ
จากนั้นอลิสพาพวกเราเดินกันมาห้องรวม โดโรเธียอ่านหนังสืออยู่ วาเนสซ่ากำลังบริการน้ำชาสีเขียว มันชื่อชาเหมือนเดิมกับโลกเก่า
โดโรเธียหันมา
“มากันแล้วเหรอ?”
“ค่ะ”
อลิสตอบ
วาเนสซ่าขมวดคิ้วแล้วเก็บแก้วชา จากนั้นโดโรเธียลุกขึ้นยืนแล้วออกจากห้องไปพร้อมหนังสือ วาเนสซ่าถือชาตามไปหลังจากนั้น…
อลิสไปนั่งที่โต๊ะ
“เอาล่ะ หยิบของเล่นกันคนละชิ้น แล้วห้ามทะเลาะกัน เล่นกันดีๆ พี่จะอ่านหนังสือ”
“””คร้าบ/ค่าาาา”””
อลิสเดินไปเลือกหนังสือ
วิวเด็กแมงมุมหมายเลขสองวิ่งออกไปที่กล่องตุ๊กตาเร็วที่สุดก่อนใครทั้งนั้น ผมรีบตามไป จากนั้นเด็กแมว วี ตามมา
วิวไปถึงกล่องแล้วเลือกตุ๊กตาผู้หญิงซึ่งสวยที่สุด เธอเล่นตัวนั้นประจำ แต่โดนขอไปเล่นบ่อย เธอหยิบ กอด ยิ้ม วิ่งไปนั่ง
ผมไปหยิบตัวประจำของผม ตุ๊กตาตัวนี้ไม่มีใครชอบเล่นเพราะหน้าตามันประหลาด
ผมมองดูตุ๊กตา งานเย็บมันไม่คอยดี แต่นั่นไม่ใช่เจตนาผม มันชูสองมือมาข้างหน้าเหมือนหุ่นฝึกทุ่มโลกที่แล้ว ผมใช้นี่เพื่อทดลองการจับ ดึง เหวี่ยงได้
ลองท่าทุ่มพื้นฐานได้
จากนั้นวี เด็กแมวแทรกเบียดเข้ามาแล้วหยิบตุ๊กตาคนหูแมว แล้วตามวิวไป
ผมไปพาตุ๊กตาไปหาที่นั่ง คนอื่นๆพากันหยิบ อลิสอ่านหนังสือ
ผมจับหุ่นทุ่ม จับ ผลัก ดึง ยก วางแล้วทับ ทำไปเรื่อยลองท่านั้นท่านี้แปลกๆ ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง
จริงๆแล้วผมอยากฝึกร่างกายเลยแต่มันจะแปลกเด็กไปถ้าทำที่นี่
“ปัั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อ้ะ ของพี่ตายเลย”
พวกวีเด็กแมว กับวิว เด็กแมงมุมเล่นจับชนกัน พวกเธอสู้กันหรือ?
ผมมอง
“นี่แน่ะๆ”
“อ๊ะ ของน้องตายเลย”
“ฮ่าๆ”
วีจับชนแล้วของวิวตาย ผมยิ้ม แล้วกลับไปสนตุ๊กตาผม ผมจะลองจับทุ่มของนักมวยปล้ำ มันต้องยังไงแล้ว จับล่างละโพกนิดหน่อยมั้ง ผมจับล่างสะโพก
ยก จากนั้นเหวี่ยงไปข้างๆ ตุ๊กตายกขึ้น ใต้สะโพกเบี่ยงออกข้างแล้วตกลงอย่างเร็ว
จากนั้น กดลงแล้วปล่อยมั้ง ผมกดลงนิดหน่อยแล้วปล่อยมือ มันตกลงไปแล้วเด้งเบาๆหนึ่งครั้ง จากศูนย์กลางน้ำหนักของตุ๊กตา มันน่าจะประมาณนี้ ที่เหลือคือต้องทดลอง
ผมมองหมายเลข 1 เด็กแมว กับหมายเลข 2 เด็กแมงมุม
พวกเธอเล่นกันอย่างสนุนสนาน หน้ายิ้ม สีหน้ามีความสุข
เด็กดวอร์ฟเดินมาหาพวกเธอ
“ให้ฉันเล่นมันบ้าง”
วิว 2 ดึงตุ๊กตาไปกอดไว้แล้วบิดตัวออกข้าง
จากเด็กดวอร์ฟหมายเลข 11 พูด
“เอามา ฉันจะเล่น เอาตัวนี้ไปแลกกัน”
เขาเอาตุกตาสัตว์ประหลาเหมือนสุนัขมีเขาสีดำๆมาให้ให้วิว เด็กแมงมุม ดู วิวส่ายหัวอย่างแรง สีหน้าเหมือนอย่างไรก็ไม่ให้
เด็กดวอร์ฟขมวดคิ้วแล้วเข้าหาวิว
“เอามา!”
ผมรีบเข้าไปแล้วบอกเธอ
“หมายเลข 2 ให้เขาไป”
“พี่แปด… ไม่เอาอ่ะ หนูรักตัวนี้…”
“ตัวนั้นสวยที่สุดเท่าที่พี่เห็น ถ้าเขาอยากเล่น แบ่งเขาบ้าง”
เธอขมวดคิ้วหันตัวหนี ยกขาหน้าฝั่งที่ไม่ได้มองขึ้นขู่
“ไม่เอาหนูไม่ยอม”
“วิว เชื่อพี่เถอะ”
ผมเข้าหา
“ไม่เชื่อ!”
วิวสะบัดหน้า เธอผลักผมออก ผมเปิดตากว้างแล้วปล่อยตัวถอย มันขนาดนั้นเลยหรือ
“ยัยดื้อ! ยัยแปดขาน่าเกลียด เอามานี่ฉันจะเล่น!”
ผมตกใจอีกครั้ง
“อย่าปากเสียเลยน่า…”
ผมรีบพูด ขมวดคิ้ว
“พี่อย่ามายุ่ง!”
เขาหันมาแยกเขี้ยวใส่ผมแล้วรีบไปดึงแขนตุ๊กตาผู้หญิง พวกเธอยื้อกันได้สักครู่ แล้วผมรีบเข้าไป จับข้อมือเขา
“ปล่อยก่อนเดี๋ยวฉันขอให้”
สีหน้าเด็กดวอร์ฟโกรธจัดจากนั้น หมายเลข 11 ตะโกน
“พี่จะมายุ่งอะไร!”
“เชื่อฉันเถอะน่า”
ผมทำหน้าเข้าใจ
จากนันผมง้างมือเขาออก มันยังคงกำแขนตุ๊กตาผู้หญิงสวยที่สุดอยู่
“ปล่อยน้าาาา”
วิวเริมน้ำตาเล็ด จากนั้น….
*แคว่ก*
ตู๊กตาผู้หญิงสวยที่สุดขาดแต่ไม่หลุดออกแค่ขาดตรงใต้วงแขน
“ถ้าฉันเล่นไม่ได้ให้มันขาดไปเลย!”
เด็กดวอร์ฟยิ้ม
“…พอ”
ผมกำแน่น แน่นให้มันเจ็บ เพราะผมโกรธ จากนั้นน้อยๆสักพักๆเขาปล่อยแล้วรีบกระชากมือกลับ ถูข้อมือตัวเอง
“ขอโทษ แต่นายไม่ปล่อย”
“ไม่ต้องมาปากพล่อยหรอก พี่จะขอให้ใช่มัย มันขาดแล้วแต่นิดหน่อย อุ้ย ไม่สิมันขาดไปครึ่งแขน ฮ่าฮ่าฮ่า พูดแล้วก็ ขอมาให้ฉัน ฉันยังจะเล่นอยู่ดี”
ผมขมวดคิ้วต้อไป โกรธนิดๆ เด็กดวอร์ฟคนนี้นี่นิสัยเสียจริง แต่ว่าอะไรไม่ได้ หมายเลข 11 เป็นเด็ก
“แป้ปนึงละกัน”
ผมหันไปหาวิว
“หมายเลข 2 ฟังพี่นะ-”
“พี่ดูสิมันขาดแล้วอ่า กระซิก มันจะพังแล้วอ่าา”
ผมทำหน้าเศร้า วิวก็น้ำตาซึม
“มันเกิดขึ้นเพราะหนูไม่ยอม เขาทำไม่ถูกนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เธอต้องรู้จักแบ่งปัน เพราะมันถือว่าเป็นของดีที่สุด การไม่ให้เลยมันก็เห็นแก่ตัวเกินไป เข้าใจนะ ใจเย็นๆ แล้วคิด”
“แต่…กระซิก แต่… แต่แต่ ก็ได้ไอ้พี่บ้า!”
เธอปาของเล่นใส่ผมแล้วก้มลงปิดตาร้องไห้ไม่มีเสียง เธอรั้งความเศร้าใจเก่งตั้งแต่เด็ก
แม้ผมหยิบทันแต่มันไม่ใช่เวลาผมจึงปล่อยไป ดังนั้นผมต้องก้มหยิบ
ผมนำตุ๊กตาผู้หญิงสวยสุดที่ใต้วงแขนขาดไปให้หมายเลข 11 เด็กดวอร์ฟ
“อ่ะ นี่”
“เออ ดี”
เขากระชากไปแล้วยิ้ม จับชนกันแล้วเล่นไปหันไปแล้วกำลังจะเดินไป
“เดี๋ยว เอาตัวสีดำๆมีเขานั้นมา นายบอกว่าจะแลก”
ผมจับไหล่เขาอยู่ เขาหันกลับมาแล้วกระฟัดกระเฟียดแล้วโยนมันลง
“อยากได้ก็เก็บเอา!”
จากนั้นเขาไป ผมไม่ได้รั้งไว้
“อย่านานนักล่ะ”
เขาหยุด ไม่ตอบ แล้วเดินต่อหากลุ่มเพื่อนไม่กี่คนของเขา
ผมหยิบตุ้กตาสัตว์ประหลาดเหมือนสุนัขสีดำมีเขาที่เด็กดวอร์ฟ หมายเลข 11 โยน ปัดตุ๊กตา ถอนหายใจ
เอาล่ะ ต้องปลอบใจวิว