กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 4 ทวีปตะวันออก
4 ทวีปตะวันออก
มันเป็นประมานบ่าย
ผมนั่งอยู่ในห้องรวมพร้อมเสียงธรรมชาติ
โดโรเธียมา แต่แม้เธอเห็นผมอยู่กับหนังสือ เธอแค่ทำหน้างงนิดหน่อยแล้วก็จากไป
ได้เลยผมน่าจะใช้เวลากับมันได้เต็มที่
ผมเปิดหนังสือ
‘ภูมิศาสตร์ทวีปตะวันออก’
“ลาลัลล้า”
อลิสเข้ามา
“ทำอะไรน่ะหมายเลข 8 เอ๊ะ นั่นหนังสือภูมิศาสตร์ทวีปตะวันออก อย่าไปอ่านเลยมันมีแต่วิชาการ ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับทวีปทิศตะวันออกพี่สอนให้ฟังได้ เอาไหมเล่า”
เธอหยิบหนังสือไป
“เอางับ”
“ไหนพี่ขอดูแผนที่จากหนังสือก่อนนะ”
ผมยื่นหนังสือให้อลิส
“พร้อมยัง เอาล่ะนะ”
“งับ!”
“ทวีปตะวันออกหรือ กัล ประกอบไปด้วย 5 ชาติ โดยมีวาโรซิเมียเรียใหญ่ที่สุดเลย ทวีปตะวันออกมันติดกับทั้งสี่ทวีปและอ่าวนอร์ดอสทางทิศเหนือกับอ่าวซูโดสทางทิศใต้
“ชาติวาโรซิเมียเรียน่ะ เป็นชาติที่มีสองเขตหลักๆคือเขตโคเบนกับวาโรเรีย
“เขตโคเบนเป็นเขตติดกับทวีปเหนือเต็มๆ โดยติดกับประเทศโพเบต้าผู้เป็นสันติ กับประเทศสหพันธรัฐ โคเม่ ประเทศที่ไม่ได้ใหญ่โตมากแต่ไม่สงบสุขภายใน พวกเขาตีกันประจำเลยล่ะ หลักๆเขตโคเบนนั้นเป็นเขตแนวหน้าไว้รับมือกับทวีปเหนือ แต่มีการค้าขายกับชาติโพเบต้าเป็นประจำด้วย
“ที่วาโรซิเมียเรียอ่ะน้องรุ่งเรืองม๊ากมากเนื่องจากติดกับทวีปตะวันตกติดกับอ่าว ติดกับทะเลและทรัพยากรจากเหมืองก็อุดมสมบูรณ์ดังนั้นเลยเป็นชาติที่ร่ำรวยที่สุดแต่ยังไม่ใครรู้หรอกนะ ว่าของโลกหรือเปล่า เพราะโลกยังไม่ได้มีกาารเดินทางข้ามทวีปมากมายน่ะ แล้วก็ เขาว่ากันว่าราชินีของวาโรซิเมียเรีย ราชินีวารซซิเมียร่า นะทั้งรวยทั้งเก่งกาจที่สุดไปเลยล่ะ”
น่าสนใจ ถ้าอย่างนั้น เธอคือคนที่เก่งที่สุดในโลกที่สำรวจได้ หน้าตาเธอจะเป็นอย่างไร
“งับ”
“ที่วาโรซิเมียเรียมีแม่ใหญ่น้ำวิ่งผ่านชู่ววว ซื่งนั่นคือแแม่น้ำมหาดยุค-”
“เอ๋”
“อะไรเหรอ?”
“ป่าวงับ”
(ถ้าอย่างนั้นแม่น้ำนั้นก็มีอยู่จริง)
“แม่น้ำมหาดยุคนะจะตื้นลงระหว่างวาโรซิเมียเรีย และไปกว้างออกจากนั้นไปเตี้ยที่กัลเลียอีกแคบๆ ไปถึงอ่าวซูโดสทางใต้ พวกเขาเลยเป็นประเทศใหญ่ได้
“ที่วาโรซิเมียเรีย มีอ่าวเล็กหนึ่งชื่อว่าอ่าวซีเมียและติดกับทะเลโอสซีทางตะวันออกซึ่งมีน้ำตื้นที่สำรวจได้อยู่กว้างใหญ่ไพศาลไปเล้ย นั่นก็เป็นอีกอย่างแหละ ที่ทำให้วาโรซิเมียเรียน่ะร้วยรวย
“แล้วทั้งโลกที่สำรวจได้นะ มีเทือกเขาใหญ่เป้งเลย ชื่อเทือกเขาเซียกอฟที่กั้นเขตตะวันตกกับเขตตะวันออกไว้ แล้วแทง ฉึก! เข้าไปถึงทวีปทิศใต้ และมาจบที่วาโรซิเมียเรีย ทำให้วาโรซิเมียเรียติดต่อกับทวีปตะวันตกได้อีกด้วยล่ะ”
(นั่นก็สาเหตุของความร่ำรวย หือ)
“ทางใต้ของวาโรซิเมียเรียมีชายแดนติดกับโครอลลัลเรย์เรีย ประเทศที่ใหญ่รองลงมาออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกัลเลียช่วยกลางทางใต้เยื้องตะวันตกและมาร์แลนด์ทางใต้กับกับคอสตาแลนด์กัลกัลตะวันออกเฉียงใต้แค่พื้นที่ไม่กว้างนักโดยทั้งสี่เป็นประเทศสงบกับวาโรซิเมียเรีย
“โครอลลัลเรย์เรียเป็นประเทศที่มีกิจการย่านโคมชมพู-”
“ย่านโคมชมพูคืออะไรงับ”
“เอ่ น้องยังเด็กเกิดไป เอาเป็นว่าน้องรู้กันแค่ว่าทุกคนชอบไปย่านโคมชมพูกันตอนดึกๆที่น้องหลับปุ๋ยหลุยไปแล้วนั่นแหละ”
อ่อย่านโคมแดง
“เออออ่ งับ”
ผมรู้แล้วแต่ผมโกหก
“นั่นแหละ พี่ต่อนะ”
“งับ”
“…กิจการย่านโคมชมพูที่ว่าน่ะเจริญสูงที่สุดไปเลย เพราะโครอลลัลเรย์เรียน่ะมีแต่ผู้หญิงสวยเยอะที่สุดไปเลยแล้วพวกเขาขายของเก่งๆกันทั้งนั้น เลยกลายเป็นเป็นประเทศที่ร่ำรวยรองลงมาในทวีปตะวันออก ติดกับทั้งทวีปทิศใต้ และมีช่วงบางไปจนถึงเดินข้ามใด้ของแม่น้ำมหาดยุคทำให้เดินจากกัลเลียทางตะวันออกมาได้ คนนะ บางคนถึงกับยอมเดินเท้าเปียกตั้งนานเพื่อไปถึงที่นั่น”
“งับ”
“ทางใต้ขอโครอลลัลเรย์เรียติดกับทวีปทิศใต้ซึ่งไม่มีการตีกัน พวกเขาเลยค้า… ค้าขายโคมสีชมพูที่คนไว้ชอบเล่นกันตอนดึกๆกันจนรวย แล้วคนที่ใต้ก็มาเที่ยวซื้อโคมนั้นกับบ่อยด้วยล่ะมากด้วยล่ะ
“พี่ก็เคยไปทำนที่โครอลลัลเรย์เรียอยู่สักพักนึงแหละ จนกระทั่ง-”
“เอ๋!!!”
“หืม?”
“พี่ไปทำอะไย”
“เอ่อ…คือว่า…”
เธอทำหน้าพูดไม่ถูก
“ไปขายโคมสีชมพูน่ะ! แต่ร้านพี่ไม่ได้ขายดีนัก ถึงอย่างนั้นพี่ก็ทำมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง……”
เธอเหม่อ แล้วเธอก็มองไปข้างนอก
หน้าเธอเหมือนจะร้องไห้
“เดี๋ยวพี่มานะ”
“งับ”
จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไป… น่าจะไปร้องไห้ ผมเดาว่า
ถ้าอย่างนั้นเธอเคยสูญเสียอะไรสักอย่างไป ณ โครอลลัลเรย์เรีย ผมอยากรู้ แต่เธอถึงกับร้องไห้เมื่อพูดถึงมัน ถ้ามันเป็นความทรงจำแห่งความสูญเสีย ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจโดยไปขุดคุ้ยมาก
ผมตัดสินใจปล่อยไว้ให้แก่จินตนานการ
เธอกลับเข้ามา ดวงตาแดง
ท่าทางมันจะหนักหนา
เธอมานั่งขัดสมาธิข้างหน้าผม
“พี่ถึงไหนแล้วนะ”
“เออออ…”
ผมคิดว่าถามต่อจากไหนดี ให้เธอเล่าไหม? ผมเป็นเด็กอยู่จึงน่าจะถามได้ แต่จิตผมเป็นคนอายุ 21 แล้วกับอีกน่าจะประมาณเกือบหนึ่งปี การถามมันก็ไม่ผิด แต่ผมเจ็บศีลธรรมที่จิตผม…
ผมตัดสินใจ
มันเป็นโลกใหม่แล้ว แต่การอยากรู้อยากเห็นอันทำให้คนอื่นเจ็บปวดหัวใจ สุดท้าย มันจะกลับมาแว้งกัดหัวใจผมบ้างเป็นการตอบแทน ตามกฎของการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
เพราะไม่มีอะไรฟรี และคนดวงดีมีอยู่แค่ไม่กี่คนหรอก
แต่พูดถึงแล้ว ผมได้มาต่างโลกของจริงทั้งๆที่ผมเชื่อว่าคนตายจะแค่ปิดจิตดับลับไปเฉยๆ
ผมเลยคิดว่าผมอาจเป็นคนดวงดีแล้วตอนนี้
“เอ ว่าพี่ไปไย๋ต่อ”
“อ้อ จากนั้นพี่ก็หนี…อ่าา… ย้ายมาศิโร ตอนแรกๆพี่ทำงานทำฟาร์มที่สวน แล้วแม่โดโรเทียก็มาเจอเข้า แล้วพอเธอรู้ว่าพี่เพิ่ง……เพิ่งมีน้ำนมเธอก็จ้างพี่มาทำงานที่นี่ แต่ไม่สิเนี่ย! พี่พูดถึงเรื่องทวีปตะวันออกต่างหาก”
“เอ งั้น กันเยีย มาแยน”
“โอ้ จำได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น
“กัลเลียกับมาร์แลนด์ก็ตีกันอยู่บ่อยครั้งทำให้เขตพรมแดนเปลี่ยนบ่อยครั้ง โดยกัลเลียกับมาร์แลนด์มีแต่ทหารรับจ้าง ที่กัลเลียนั้นทางขวาติดกับศิโรซึ่งเป็นที่ที่เราอยู่กันแหละ ช่วงกลาง ติดกับมาร์แลนด์ทิศเหนือ และติดกับคอสตาแลนกัลกัล ทางตะวันออกเฉียงใต้”
(ศิโร หืม)
“ศิโร ประเทศที่มีแต่สวนกับนาและฟาร์มและน้ำจืด ภูเขาก็มีบ้างประปราย แต่นอกจากขายผักผลไม้แล้วก็ไม่ค่อยจะมีอะไร ก็เลยไม่มีคนมากมาย แล้วก็ไม่มีใครอยากจะขโมยประเทศนี้ไปเป็นของตัวเองน่ะ”
ผมพยักหน้า
“เอ… แล้วก็ ชาติมาร์แลนด์-”
“เอ๋ ทำไมมันเป็นปาเทด กับ ชาด?”
“เอ่อ มีราชาคนเดียวกับมีราชาหลายๆคนน่ะ เอ่… แต่เดี๋ยวก่อนนะ นั่นมันจักรวรรดินี่… ใช่ๆ อาณาจักรก็เหมือนห้องหลายๆห้องเจ้าของสูงสุดเดียวกัน แล้วก็มีเจ้าของห้องแต่ละห้อง ชาติก็คือห้องนึงที่มี่เจ้าของคนเดียว สหพันธรัฐ… น้องจำสหพันธรัฐได้ใช่มั้ย”
“งับ ป๋มก็อยากยู้”
“สหพันธรัฐก็เหมือนห้องที่มีเจ้าของห้องหลายๆคนอยู่ด้วยกัน เป็นห้องที่เจ้าของห้องไม่ยอมแบ่งห้องกันเยอะๆใหญ่บ้างเล็กบ้างแล้วแต่”
“อ้อ”
“แล้วก็ต่อไป ทวีปก็เหมือนบ้าน ที่ต้องเปิดประตูก่อนถึงออกไปได้ แล้วก็แต่ละบ้านมีหลายประตูออกไปนอกบ้านใหญ่เล็กไม่เท่ากัน ต่อไปคือ จักรวรรดิ จักรวรรดิก็เหมือนห้องใหญ่เบ้งที่คนอยู่หลายคนแต่ละคนก็มีรั้วของตัวเองแต่มีเจ้าของห้องคนเดียว ประเทศคือห้องที่เป็นเจ้าของร่วมกันแล้วคนในห้องก็หาคนที่เก่งที่สุดมาเป็นเจ้าของห้อง บางครั้งก็ผลัดกัน บางครั้งก็ตลอดเวลา…น่าจะประมาณนั้นแหละนะ”
“งับ”
เธอไม่ได้พูดถึงระบบการปกครอง เพราะผมน่าจะยังเด็กเกินไป
“ถึงไหนแล้วนะ”
“ชาดมาแยน”
“อ่อ… ชาติมาแยน…*คิกคิก* ก็คล้ายกับกัลเลียนั่นแหละ แต่เป็นทะเลทรายเยอะแต่คนที่นั่นน่ะเก่ง ก็เลยมีทหารรับจ้างเยอะเหมือนกัลเลีย โดยมาร์แลนด์กับกัลเลียอยู่ติดกับประเทศคอสตาแลนด์กัลกัล ที่มีการแบ่งเขตตรงเด๊ะระหว่างสองชาติกับประเทศศิโร อันคล้ายๆทวีปทิศใต้ที่เป็นทะเลซะเยอะ หลักๆแล้วพวกเขาขายอาหารทะเลน่ะ มันจะเป็นพวกปลา พวกกุ้ง แล้วก็พวกหอย กับแมลงทะเลก็กินได้ แต่คนไม่ชอบกินกันพราะตัวมันน่าเกลียดน่ะ ถ้าหนูมีเงิน หนูก็อาจได้กินอาหารทะเลเพราะมันจะแพง”
“งับ”
“นี่แหละคือทวีปตะวันออกที่เราอยู่หลักๆ หนูเข้าใจบ้างไหมเล่าเนี่ย พี่ก็พูดซะเยอะเลย”
“เออออ่ งับ”
ผมทำเป็นงงๆ แต่จริงแล้วผมเข้าใจแล้ว แล้วก็ต่อไปคือวาดแผนที่เก็บไว้ดูคร่าวๆ
“ผมอยากวาดรูป”
“เอ๋…มีดินสอสีกับกระดาษอยู่ แต่น้องวาดได้แค่กระดาษใบเดียวนะเพราะมันแพง”
“งับ”
เธอลุกขึ้นจากนั้นเดินออกไปนอกห้อง
ผมหยิบหนังสือภูมิศาสตร์มาดู
ถ้าอย่างนั้นมันเป็นประมาณนี้ วาโรซิเมียเรียใหญ่จริงๆ โครอลลัลเรย์เลียก็ใหญ่เหมือนกัน
ผมจะวาดไหวไหมเล่าเนี่ย พื้นฐานแล้วฝีมือวาดรูปผมไม่ดีถึงขั้นแย่หนักแต่ถ้าแค่เอาไว้ดูคร่าวๆก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร
แต่ถ้ามีดินสอที่ทำจากถ่าน ถ้าอย่างนั้นก็ที่นี่น่าจะใช้ไฟเป็นหลักไม่ใช่เวทมนตร์… เวทมนตร์เป็นเรื่องลึกลับจริงๆด้วย ผมเดาว่า
อลิสกลับเข้ามา
“อ่ะนี่ ดินสอสี กระดาษ กับไม้ตีเส้น”
ผมรับของเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ แต่หนูห้าม ฟังพี่มั่นๆเลยนะ ห้ามขีดเขียนไปบนหนังสือเด็ดขาด”
“งับ”
ผมพยักหน้า
“เริ่มจะเย็นแล้ว พี่จะไปให้นมพวกเด็กๆ หนูจะกินเลยมั้ยล่ะ”
“กินงับ”
จากนั้นเธอเข้ามาใกล้ อุ้มผมและป้อนนม
*จุ่บจุ่ม*
กินได้สักพักผมก็กินเสร็จ
*ปุ่ฮ่า*
“เสร็จแล้วเหรอ”
“งับ!”
เธอจัดเสื้อผ้า
“พี่ไปก่อนนะ-”
“เด๋วงับ”
“หือ? มีอะไรหรือ”
“ทำพี่รู้จักทั้งทวีปเลย”
“อ๋อ…ตอนเด็กๆพ่อกับแม่พี่เป็นทหารรับจ้างน่ะ พวกเขามีรถม้าอยู่คันนึง หลักๆแล้วพี่กับแม่ก็อยู่กันในรถม้าเหมือนบ้านนั่นแหหละ แต่รถม้ามันไม่เร็วเท่ารถนกฟาเนิคหรอกนะ”
“นกฟาเนิ้กคืออะไย”
“อืม…มันเป็นนกที่วิ่งเร้วเร็วน่ะ หลักๆคือมันเร็วกว่าม้าสองเท่าน่ะ มันวิ่งชิ้วววแล้วแข็งแรงด้วย แต่มันบินไม่ได้หรอกนะ”
“อ่อ…งับ”
“ถ้าอย่างนั้น มีอะไรอีกมั้ยล่ะ?”
“ม่ายแย้วงับ”
“จ้ะ ไปก่อนนะ”
อลิสเดินออกไปจากห้อง
ผมมองหนังสือและกระดาษ
ถ้าอย่างนั้น ได้เวลาเด็กวาดรูป!