กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 32 รับเพื่อน
ผมเข้ามาข้างในบ้านกำพร้า ที่แรกที่ผมมาตอนย้ายมาโลกใหม่ พี่อลิสเข้าไปเรียกเพื่อนๆที่ตกงาน
ผมรอข้างหน้า ไม่เข้าไปในห้องเด็กตอนนี้ พี่อายะเดินตามพี่อลิสไป แล้วพี่อลิสแนะนำในบ้านให้พี่อายะดู
บ้านมันดูใหม่ขึ้น ดูน่าอยู่ขึ้น ผมไม่ได้พูดถึงรั้วที่ทำใหม่และสนามหน้าบ้านที่เขียวสวยเพราะได้รับการดูแล
ผมดูกล่องของเล่นเด็ก มีของเล่นเยอะขึ้น มีหนังสือให้เด็กอ่านที่ผมเคยซื้อไว้อยู่ข้างในเยอะ
เท่าที่ผมจำได้ ที่เหลือน่าจะอยู่ข้างหลัง ผมมีความรู้สึกอยากดูด้านหลังบ้าน แต่ผมต้องรีบกลับ
เพราะผมกินเวลาท่านหญิงเสือดำอยู่
ไม่นานเพื่อนก็มา
หมายเลข 9 ที่ชื่ออดัมเป็นชายเผ่ากึ่งไก่ อกเขาใหญ่โดยธรรมชาติและต้นขาใหญ่ตามเชื้อไก่ที่เขามี หน้าเขาธรรมดาหุ่นธรรมดาแต่อวบนิดหน่อย ผมเขาสีแดง หน้ามีป้านแดง
หมายเลข 5 แฟนเขาเป็นหญิงเผ่าจิ้งจก ผิวเธอดูใสกว่าทั่วไปแต่ผมไม่เห็นอะไรมาก เธอดูบ้านๆเหมือนกัน หางเธอใหญ่ปลายเรียว
หมายเลข 7 เผ่าสต้าร์คที่แข็งแรงเพราะเชื้อเผ่า เธอผิวเข้มมาก ผมสั้นติดหัวแต่เห็นได้ว่ามันหยิกแม้ผมน้อย เพราะความพยายามของเธอ เธอมีหุ่นที่ดีอยู่เพราะเธอออกกำลังกายเป็นประจำ
“แฟนอยู่ไหนล่ะ 7 ฉันจะรับพวกเธอไปทำงาน ไม่ต้องขอบคุณฉัน ขอบคุณพี่โดโรเธียเพราะเธอเป็นคนฝาก”
“พี่โดโรเธียเหรอ ดีจัง”
อีฟเด็กจิ้งจกชมพี่โดโรเธียทันที อดัมเด็กไก่ยิ้มๆ
“ตอนนี้ฉันงานอะไรก็ได้หมดแล้ว ขอให้เลิกรบกวนที่นี่ก็พอ”
อดัมพูดขึ้นมา ผมพยักหน้าพร้อมอีฟ กับหมายเลข 7
“หมายเลข 7 เรียกหมายเลขมันลำบาก ไม่คิดชื่อตัวเองหน่อยเหรอ?”
หมายเลข 7 ส่ายหัวหน้าเศร้าๆ
“ฉันจะให้พ่อแม่ตั้งให้”
“จนถึงตอนนี้?”
“ใช่”
เธอตอบหน้าตาเธอมุ่งมั่น แต่ผมเสียใจที่ต้องทำลายความหวังเธอ
“มันสายไปแล้วแหละ มันถึงวัยสร้างตัวแล้ว เธอต้องปกครองตัวเอง”
เธอจ้องหน้าผมเหมือนจะพูดว่าผมกล้าพูดอย่างนั้นได้อย่างไร
แต่ผมต้องพูด เธอโตแล้ว อายุไล่เลี่ยกับผมแต่น้อยกว่าผม
ไม่มีใครรับคนจะ 20 เป็นลูกแล้ว มันหวังในฝัน ที่ฝันยังไม่ค่อยจะได้ฝัน
“มากับฉัน เธอจะเลี้ยงตัวเองได้ ฉันได้ยินมาว่าชีวิตลำบากเพราะทำสิ่งที่ไม่อยากทำ ฉันจะโตไปกับเธอ”
เธอมองหน้าผมเหมือนสงสัยว่าผมพูดจริงไหม แต่ผมพูดอย่างจริงจังและตั้งใจ เรามองหน้ากันอยู่สักพัก
“ตกลง ฉันชื่อบุญมี เฮงดีมั้ย? แฟนฉันจะชื่อบุญมา”
“งั้นเธอสองคนเป็นคู่บุญกัน ขอให้โตอย่างสนุก”
เธอยิ้มเป็นครั้งแรก ผมดูเด็กจุ๊จุ๊กับเด็กไก่เขาก็ยิ้่มเหมือนกัน
“จะเอาฉันไปทำงานใช่มั้ย ให้ฉันไปเรียกผัวก่อน”
“เอารถไป เดี๋ยวฉันให้ทองติดตัว”
เธอโบกไม้โบกมือปฏิเสธ
“ไม่ต้องๆฉันจะเลี้ยงตัวเองแล้ว ฉันจะไม่เอาของนายฟรี”
ถ้าอย่างนั้นผมต้องหาอะไรทำก่อน ผมตัดสินใจไปหาเด็กดวอร์ฟ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปหาหมายเลข 11”
ผมบอกเพื่อนผม เพื่อนผมบอกทางผม
พวกเขาสามคนเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่างอีกแต่ไม่พูดออกมา มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่
ผมนั่งรถฟาเนิคไปร้านเหล็กสาขาหลัก ที่ผมต้องไปมันคนละที่กับร้านเก่า มันอยู่นอกตลาด
ผมแวะไปหาพี่อูลเค็น ทักทายเขาสั้นๆ เขาแก่ขึ้นและลูกศิษย์เยอะขึ้น
ที่ร้านเขามีเกราะโซ่แบบที่ผมใส่อยู่ แต่ไม่ได้เป็นเหล็กไร้มลทินหนักๆแบบที่ผมใส่เสียทีเดียว มันเป็นเหล็กอ่อน
ผมไม่ได้ซื้ออะไรแล้วออกมา แวะซื้อเนื้อแห้ง 30 กว่าชิ้นเพื่อเดินกินไป เขาเอาเนื้อใส่ถุงใหญ่ แล้วยื่นมา
“อ่ะหนุ่มน้ำหวาน โตแล้วดูดีนะเรา”
“ขอบคุณครับ”
ผมกัดเนื้อกิน
“อร่อยเหมือนเดิมครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุณ”
มันรสชาติเหมือนเนื้อจิ้มแจ่วบางๆเพราะมีข้าวคั่ว รสชาติมันเหมือนที่ผมจำได้
ผมเดินไปขึ้นรถไปจุดหมายของผม
เมื่อผมลง ผมเห็นร้านขนาดกลางๆ แต่ไม่เล็กไม่ใหญ่
เมื่อเข้าไปผมเห็นพวกเขาตีเหล็กทำดาบอยู่
เขาอยู่กับพี่กึ่งควายตัวคล้ำๆ แต่เสียงตีเหล็กเขาแรงกว่าเหล็กกล้าเด็กดวอร์ฟ
กึ่งควายดูผมหัวจรดเท้าแล้วตีเหล็กต่อ เหล็กกล้าจับไหล่กึ่งควายก่อน มองตากัน แล้วเดินมาหาผม
“วารี มาทำไม?”
“อย่าเพิ่งเกลียดฉันเลย ถ้าอยากมีงานมั่นคงฉันหาให้ได้”
เขายิ้มๆ
“ไปมั่นคงให้ฉันได้ยินเองมาก่อน ฉันไม่ไป ฉันมีร้านอยู่แล้ว”
เขาพูดเหมือนแขวะผมนิดๆว่าผมคิดเกินตัว ผมแค่อยากดึงตัวเขาจริงๆ เมื่อไม่ได้แถมโดนว่า หน้าผมก็ร้อนขึ้นมา
แต่ผมไม่โกรธเขาเลย
ผมต้องหาทางผูกเขาสักอย่างให้เขาสนใจผม
เขาไม่ได้ชอบผมตั้งแต่ที่แย่งตุ๊กตากับวิว แล้วเห็นแต่ผมแปลกที่ฝึกไม่เหมือนใครข้างนอก
เขามีสิทธิ์คิดได้
“ฉันให้คนที่ทำของกลมได้ 500 ทอง”
เขาเปิดตากว้างแล้วมองกึ่งควาย กึ่งควายไม่ได้ฟังเรา
จากนั้นเขายิ้มมุมปากให้ผม
“รวยขนาดนั้น?”
“พอมีเฉยๆแล้วโชคดี”
เขากอดอกคิดสักพัก หน้าคิกหนัก
“จ่ายจริง ที่ตัวเงินไม่มีกฎใช่มั้ย?”
“แน่นอน ใช้อะไรก็ได้ ที่ฉันอยู่สาวเยอะนะ”
เหล็กกล้าหัวเราะแล้วใช้นิ้วโป้งชี้ไปข้างหลัง ยิ้มปากแทบฉีก
“นั่นแฟนฉัน ล่อฉันไม่ได้หรอก”
เขาชอบเพศเดียวกันหรือ?
“ดีแล้ว ขอให้มีความสุข เอานกรักไว้ติดต่อมั้ย?”
“ถ้าฉันทำได้จริงได้ 500 ทองจริงรึเปล่าฉันยังไม่รู้เลย?”
ผมยิ้มมุมปากมั่ง
“ฉันไม่ได้จ้างคนเล่นๆ ฉันก็มีร้านมีชื่อเสียง”
“อย่างนั้นเรอะ?”
เขายิ้มกลับแต่จากมุมปากเปลี่ยนมายิ้มธรรมดาเหมือนยินดีกับผม
ความหยิ่งเขายังมีแต่มันลดลงมาก เขาไม่ใช่เด็กดวอร์ฟหมายเลข 11 อีกต่อไป เขาชื่อเหล็กกล้า
ผมสั่งนกรักให้รถนกฟาเนิคหาให้ รถนกออกไปหา
ผมไปคุยเรื่อยเปื่อยกับเหล็กกล้า
ไม่นานรถก็มาพร้อมนกรัก เราเชื่อมสื่อนกแล้วผมกลับไปบ้านเด็กกำพรัา
เมื่อเราเข้าบ้านสิ่งที่ผมเจอคือหนุ่มโตกว่าผมประมาณ 5 ปีและตัวล่ำใหญ่
เขาเหมือนคนเล่นกล้าม แต่เมื่อเห็นนิ้วเขาใหญ่ผมรู้ได้เลยว่าเขาเป็นคนทำงานหนักตั้งแต่เด็ก ผมทักทายเขา แล้วเข้าไปแจกเนื้อแห้งให้เด็กๆ มีเด็กใหม่อยู่เป็น 10 เหมือนรุ่นเรา
ผมไม่อยากสัญญาอะไรให้เด็กหวังเปล่าถ้าผมทำไม่ได้ แต่ผมบอกกับตัวเองในใจว่า ผมจะเปลี่ยนบ้านนี้ให้อยู่สบาย
แน่นอนว่าพร้อมกับรับพี่อลิสไปเป็นแฟน
เมื่อผมคุยกับพี่โดโรเธียเสร็จ บริจาคจำนวนหนึ่ง ถามถึงกิจการ เธอยิ้มไปตอบผมไป และตอนนี้เป็นครั้งแรกที่พี่โดโรเธียลูบหัวผม พี่วาเนสซ่าที่อยู่ห้องเดียวกันจับไหล่ผม
เมื่อเจอหน้าเธอเอาแผลเป็นให้ดูอย่างภูมิใจ บางครั้งพี่เขาก็ภูมิใจกับเรื่องแปลกๆ
ผมลา บอกเส้นทางกับจุดหมายและวันที่น่าจะถึงกับพี่โดโรเธียแล้วออกมา
พอมาข้างหน้าผมเจอพี่อลิส พี่อลิสคว้ามือผม ผมงง? แต่ผมตามเธอไป
เราไปเข้าห้องน้ำพร้อมกัน
“ได้ไง?”
“ขอบคุณเรื่องเล่าอายะเถอะ”
เธอถอดเสื้อผ้าแล้วลดตัวไปดูดของผม เมื่อผมพร้อม เธอเอามือพิงขอบอ่าง แล้วหันมา
“ฉันจะชิม ฉันให้กินทดสอบก่อน”
ผมเพิ่งเคยเห็นเธอต้องการผู้ชายเป็นครั้งแรก มันไม่เหมือนเธอเลย แต่ผมยินดีตอบรับไม่พูดมาก
คำเดียว ว่าวี้ฮิ้ว มันธรรมดาแต่ชิมคือชิม ผมไม่คิดมาก และด้านหน้าเธออูมสุดๆ หน้าอกก็ใหญ่ล่างก็ใหญ่
เรากำลังล้างกันอยู่
“ทำมาแล้วกี่คน?”
“คนนี้เป็น 3 อยากรู้ลึกกว่านี้มั้ย”
เธอคิดๆอยู่สักพัก
“ไม่ล่ะ พี่ต้องเปลี่ยนน้ำอ่าง ก้นมันจุ่ม”
ผมจับมือเธอสองมือแล้วจูบแก้มเธอ
“แล้วผมจะมารับ ขอบคุณ”
เธอยิ้มสวยมากให้ผมและไม่พูดอะไร เมื่อผมจับลูกบิดประตูผมรู้สึกว่ามีคนจับหัวผมให้หัน
ผมหันไปพบกับจูบแลกลิ้นและลูบๆข้างล่างผม
“ทำผู้ใหญ่รอนานไม่ดีนะน้อง”
“ผมจะรีบโต”
เธอหัวเราะเบาๆ
“อย่าลืมแปลกให้มั่งคั่งล่ะ”
“แน่นอน!”
ผมตอบอย่างมั่นใจ แล้วออกจากห้องน้ำ
ผมไปขึ้นรถกับเพื่อนๆและพี่อายะ รถฟาเนิค 4 คนว่าง เรานั่งรถฟาเนิค 6 คนกัน
เราเริ่มออกเดินทาง จุดหมายเราคือมาร์แลนด์ ผมนั่งข้างพี่อายะ มันคู่ละฝั่งหันหน้าเข้าตรงกลาง
“ฉันอยากได้ยินเรื่องทั้งหมด ฉันจะได้ปรับงานที่ฉันจะให้พวกนายทำ”
“อย่างนั้นเหรอ? มันเรื่องน่าเบื่อๆนะ”
หนุ่มไก่อดัมบอกผม ผมตอบรับ แล้วเขาเริ่มเล่า
“เมื่อฉัน 15 ฉันเลือกไปที่สวนผลไม้ต้นที่ฉันอยากกินมานาน”
เขาหน้าแดงๆ
“และฉันชวนอีฟที่ฉันเริ่มชอบไปด้วย เธอไม่รู้จะทำงานอะไรเธอเลยตกลง”
เขายังหน้าแดงหนักกว่าเดิม
“จากนั้นเมื่อฉันคุยกับอีฟเริ่มบ่อยเราเริ่มรักกันเองโดยไม่มีใครฝืน เราคบกันสองปี จากนั้น”
เขาดูไม่ค่อยอยากพูด
“ฉันเริ่มกินของตก ฉันเสียดาย พวกเขาจะทิ้งมัน! ดูสิว่าเปลืองขนาดไหน”
ผมหลับตาสูดหายใจ ผมบอกได้ว่าเป็นผมผมไม่ทำ แต่มันเป็นเขา
“จากนั้นเราโดนจับได้และฉันก็ตกงาน ฉันคัดผลไม้มาขาย แต่ฉันไม่กล้าไปขายที่ตลาด ฉันกลัว กลัวคนจำได้ว่าฉันเป็นจอมกินของตก”
ผมถอนหายใจให้เขาได้ยิน
“เรื่องของนายอ่ะ มันดูใหญ่โตสำหรับนายแน่นอน”
“ใช่! มันเป็นอย่างนั้น”
อดัมหนุ่มไก่พูดอย่างมั่นใจ
“ใช่ มันใหญ่ ฉันก็คิดเหมือนอดัม เราทำมาหากินไม่ได้หรอกถ้าเราโดนไล่ออก”
ผมถอนหายใจเบาๆอีกครั้งหลังอีฟตัดพ้อ
“โลกนี้มันมีคนที่ใจกว้าง ให้โอกาสคน ฉันไม่ได้พูดถึงตัวฉัน เจ้านายฉันก็เปิดธุรกิจให้ฉันเพราะฉันไม่กล้าทำ”
“เหรอ?”
อดัมถามขึ้นมา
อีฟสาวจุ๊จุ๊เอียงหัวสงสัยผม
“แต่ถ้าให้ฉันบอกตรงๆ เรื่องที่นายทำผิด มันเล็กมากๆ ไม่มีใครจะจำนายได้นอกจากเจ้านายของนาย เพราะฉะนั้นสบายใจเถอะ ถ้าฉันเป็นคนแปลกหน้าแล้วได้ยิน ฉันก็จะแค่คิดว่านายชอบกิน แต่ดันไปกินเวลางาน และเขาจะดีใจกับนายถ้านายขายที่ตลาดเพราะตั้งใจทำงานแล้ว”
““อย่างนั้นเหรอ””
หนุ่มไก่กับสาวจุ๊จุ๊พูดพร้อมกัน
พี่อายะหัวเราะคิกคักเบาๆ
“ว่าแต่เธอเป็นใคร?”
อีฟสาวจุ๊จุ๊ถามผมเรื่องพี่อายะ
“โสเภณีที่ฉันเพิ่งติด ฉันจ้างเธอมาเป็นครูสอนเรื่องแบบนั้น”
หนุ่มไก่กับสาวจุ๊จุ๊หรี่ตา บุญมีอดีตหมายเลข 7 ถอนหายใจเบาๆ
“นายเป็นคนแบบนั้นเหรอ? เห็นไม่สนเลย แล้ววีกับวิวล่ะ?”
“ฉันสน แต่ฉันเป็นเด็กอยู่ตอนนั้น ฉันเลยไม่สน แต่ตอนนี้ฉันจะเป็นวัยรุ่นวีกับวิวเป็นแฟนฉันแล้ว การงานดีทุกคน”
“ดีสำหรับนายนะวารี”
เธอไก่พูดหน้าเสียๆ
“ไม่ต้องห่วง นายจะเปลี่ยน ทั้งคู่เลย”
เขาเปลี่ยนเป็นยิ้มๆเหมือนเก็บใจไว้เจ็บครึ่งหนึ่ง มันแน่นอนว่าผมขอให้ใครมาเชื่อมั่นผมเลยไม่ได้ ตอนนี้ผมเพียงได้แค่พูดสัญญา
“นายกับเธอกินเก่ง ชอบชิมอาหารใช่มั้ย?”
“ฉันไม่อยากยอมรับหรอก แต่ก็ใช่”
สาวจุ๊จุ๊อีฟเกาหัวตอบผม อดัมมองลงล่างรู้สึกผิด
“ฉันจะให้นายเป็นนักชิม ฉันไม่รู้ว่าได้มีเวลาไปทั่วโลกมั้ย แต่ฉันจะให้นายไปฝึกขับรถฟาเนิคไปพร้อมกัน แล้วสลับกันออกเดินทางหาของที่ฉันตามหา”
ผมชี้นิ้วขึ้นไปข้างบนแล้วบอกเขา
“ฉันให้นายไปหาก็จริงแต่ถ้าเจออะไรแปลกๆให้เอามาด้วยแล้วส่งมา ไม่ต้องแวะมาหายกเว้นต้องการเจอฉันจริงๆ”
“จ้างฉันไปกินทั่วโลกอย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ ที่ฉันคาดหวังคือตอนแรกนายช้าๆ ไปไม่มีจุดหมาย แต่พอเริ่มมีประสบการณ์แล้วฉันบอกว่าอยากได้อะไรนายเลือกที่ไปวงแคบลงได้ แค่นั้นฉันก็พอใจแล้ว ถ้าทำได้ดีกว่านั้น ฉันจะดีใจ นายจะได้ 3 ทองต่อเดือน ค่าเดินทางค่ากินเบิกได้เรื่อยๆ”
““3 ทอง! แถมกินฟรี!””
พวกเขาสองคนพูดพร้อมกัน
“นายรวยเหรอ?”
อดัมถามผม ผมหันไปดูบุญมีเธอก็อ้าปากค้างเหมือนกัน
“พอมี เพราะโชคดีน่ะ”
“โชคเหรอ เราคงยาก ที่รัก”
อีฟบอกอดัม หน้าตาเศร้าๆ
“พร้อมนะ!?”
““พร้อม!!!””
พวกเธอสองคนตอบรับหน้าตากระฉับกระเฉง
“แต่ก่อนทำงานจริง ฉันต้องฝึกพวกนายก่อน”
“““เออออ๋!?”””
พวกเขาสามคนอุทานพร้อมกัน บุญมาสามีบุญมีแค่ยิ้มเจื่อนๆดูพวกเรา เขาเป็นคนที่นิ่งมากและไม่ค่อยพูดหรือยังไม่พูดเลยสักคำมากกว่า
“เราต้องต่อสู้เหรอ?”
อดัมถามผม หน้าเหมือนไม่อยากทำ
“เราต้องสู้กับนายเหรอ? ไม่เอาอ่ะ!”
อีฟปฏิเสธ
บุญมีไม่พูดอะไร เพียงแค่หน้าตาเหมือนไม่พร้อม
เธอฝึกตามผมจริง แต่เธอชอบมองผมแล้วเอาไปทำแบบที่ตัวเองชอบมากกว่าไม่ได้สู้แบบผม
“เพราะเธอต้องฝึกร่างกายก่อนล่ะนะพวกเธอยังไม่พร้อม เท่าที่ดู”
“อย่างนั้นเหรอ? ฉันรู้สึกเหมือนโดนตำหนิยังไงไม่รู้ดิ”
อดัมพูดเอะใจขึ้นมา
ผมหันหาสาวสต้าร์คบุญมี
“มันเป็นยังไงมาบ้าง?”
บุญมีถอนหายใจ สามีเขาจับไหล่และเมื่อเธอหันไป แล้วเขาส่ายหน้าแนะนำว่าอย่า เธอส่ายหน้าสวนปฏิเสธกลับไป แล้วเขาพยักหน้ากอดอก
“แรกๆมันเป็นงานใหม่ ทหารรับจ้างน่ะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มเห็นเลือดบ่อย”
เธอก้มหน้าพูดคนเดียวเบาๆ ผมเถิบเข้าไปใกล้เธอ
“จากนั้นฉันเริ่มคลื่นไส้กับเลือดฉันทนเห็นไม่ได้ ฉันไม่ได้กลัวเลือดหรอกแต่หมอก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร”
อย่างนั้นหรือ? เธอโชคร้ายที่เป็นอย่างนั้น พูดถึงแล้วผมก็ทำคนเลือดไหลบ่อยเพราะผมตีหัวแตกจนเลือดออก แต่ผมไม่เคยพูดถึงเลย เพราะผมก็รู้สึกผิด
แต่ผมไม่เคยตีคนไม่ใช่โจร แม้ว่าผมแค้นวิสเคาน์จากแต่ผมไม่ได้ทำร้ายเขา
“จากนั้นฉันเจอเขาที่นาใหม่ กำลังปลูกนา”
บุญมีหันไปจับมือบุญมาเผ่าสต้าร์คเหมือนกัน
พวกเขาจูบแก้มกันแล้วพูดต่อ
“จากนั้นฉันเลิกเป็นทหารรับจ้าง และมาฝึกสร้างบ้านสร้างนาสร้างสวน มันเป็นวิชาใหม่สำหรับฉันและมันเหมือนใช้สมองส่วนที่ไม่เคยใช้”
เพราะเธอต้องสั่งคนล่ะนะ ไม่ได้สร้างบ้านคนเดียว เธอตัดสินใจเป็นนายคน งานมันหนักกว่าเป็นธรรมดา
“แต่ไม่มีใครสนใจจ้างหัวหน้าช่างหน้าใหม่ที่แม้แต่ลูกน้องก็ไม่มี ฉันทำทุกอย่าง ไปทุกบ้าน งานเล็กๆไม่คุ้มฉันก็เอา บางทีทำวานแลกค่าข้าวด้วยซ้ำ”
ผมพยักหน้าให้เธอ
“แล้วก็มาถึงวันนี้แหละ รู้สึกยังไงล่ะ?”
“ฉันเหรอ?”
เธอถามความคิดเห็นผม
“มันเข้าใจได้ว่าเธอผ่านความลำบากของโลกมาแล้ว ฉันแน่ใจได้ว่าพวกเธอคุ้มค่าจ้าง และเธอจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง ฉันบอกได้เท่านี้แหละ”
“อย่างนั้นเรอะ ถ้าจริงก็ดี ถ้าไม่จริง มันดีกว่าไม่มีงานแหละ”
ผมฟังคำตอบเธอที่ยังไม่วางใจเชื่อผม
“เดี๋ยวกินให้อิ่มทุกมื้อ ทำงานกับฉันค่าอาหารฟรี นาเป็นผู้จัดการฉัน วีกับวิวเป็นแฟนและฉันหาเลี้ยงพวกเธอจะเริ่มสร้างตัวหลีงจากนี้”
“ผู้จัดการ? เลี้ยงคน? นายรวยนี่หว่า ผู้จัดการคืออะไร”
ผมรีบตอบบุญมีผู้สงสัยอาชีพนา
“ผู้ดูแลเฉพาะตัว เหมือนเลขา แต่สั่งฉันได้ไม่ใช่ฉันสั่งอย่างเดียว”
“เหนือกว่าเลขาเหรอ? นายจ้างเจ้านายมาคุมนายอีกที”
เธอพูดและครุ่นคิด
บุญมาแฟนเธอหนุ่มตัวล่ำก็นั่งคิดเหมือนกัน พี่อายะยิ้มๆไม่ยุ่งเกี่ยว แต่แสดงความอยากฟัง
เราลงกินอาหาร ผมเปลี่ยนรถมารถนอนกับพี่อายะแล้วปล่อยให้พวกเขานอนพักผ่อน
พวกเธอกินกันจนเต็มอิ่ม มันดีที่พวกเธอไม่เกรงใจ มันได้ประโยชน์สำหรับตัวพวกเธอเอง
น่าจะเป็นครั้งแรกๆนานแล้วที่เขาทำเพื่อตัวเอง และไม่ได้ห่วงเรื่องเงิน ทุกคนกินอย่างมีความสุข
บุญมีสต้าร์คหญิงกับบุญมาสต้าร์คชายแต่ละคนกินไปมากกว่าผมอีก แต่ผมไม่ได้แข่งกับพวกเธอหรอก แค่เห็น
เราเดินทางกันไปมาร์แลนด์ ตามหาข้าวเหนียวไม่แฉะ
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ตอนนนี้เปิดให้อ่านฟรี 90 วัน ขอเชิญโดเนทสนับสนุนผู้แต่ง ขอบคุณมากครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: https://x.com/wayutl
https://facebook.com/100087843892571/