กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 27 คนช่างสงสัย
ผมเข้าห้องน้ำ ทำธุระหนัก
ผมออกมาและไปนั่งที่เตียงด้วยหัวใจที่เต้นเร็ว จับคางคิด
ผมไม่ได้ธุระหนักมา 10 ปี ปรกติมันเป็นอย่างนี้ไหม?
ผมไม่รู้เลย
“ถามวีกับวิวดีกว่า”
ผมหยิบนกรักมาวาง สื่อนกหาวี
“วี”
“พี่วารี ว่ายังไงบ้าง”
ผมหนักใจ ว่าจะเริ่มอย่างไรดี แต่ผมสงสัยมากๆ
“พี่สบายดี เริ่มมีงานแล้ว เอิ่มวี ขอถามอะไรแปลกๆ ได้มั้ย”
“ได้สิ”
“เธอ เข้าห้องน้ำธุระหนักมั้ย?”
“เอ๋!?”
จากนั้นเธอเงียบไปสักพัก
เธอโกรธหรือ?
“วี”
เธอยังเงียบอยู่ไม่ตอบผม
จากนั้นผมได้ยินเสียงถอนหายใจ ผมดีใจเธอที่เธอยังคุยกับผมอยู่
“เราไม่ได้เจอกันนานถูกไหม?”
“มันเพิ่งไม่กี่วันเองนี่”
“มันนาน!!”
“นานก็นานครับ”
จากนั้นผมได้ยินเสียงวีถอนหายใจอีกครั้ง
“เราไม่ได้เจอกันหลายวัน แต่พี่ได้สื่อนกวันละครั้งถูกมั้ย?”
“ใช่”
“แล้วพี่สื่อนกมาเพื่อถามคำถามแรกว่าหนูธุระหนักมั้ยเนี่ยเหรอ?”
“เอิ่ม ใช่ แต่พี่อยากรู้”
วีเงียบไป
“อยากรู้เพราะอะไร?”
จากนั้นวีถามผม
“เอ่อ พี่ไม่ได้ธุระหนักเป็นสิบปี รู้มั้ย?”
“แล้วยังไง ก็ปรกตินี่ ใครเขาเอามาพูดกัน”
“มันปรกติเหรอ!?”
วีมองว่าสิบปีเป็นเรื่องปรกติ ผมยิ่งงงใหญ่
“แล้ววิวล่ะ”
“วิวทำบ้างบางครั้ง เธอไม่บอกแต่หนูรู้”
วีรู้เรื่องวิวได้อย่างไร ผมสงสัยแต่ผมไม่ถามเธอ ผมมีความรู้สึกเป็นลางร้าย
“ที่พี่อยากรู้เพราะพี่ไม่ได้ทำมาเป็นสิบปี พอโตแล้วก็ไม่ได้ทำเลย”
“นั่นก็เหมือนคนปรกติ เหมือนที่บอก”
“แต่พี่เพิ่งทำเมื่อกี้”
“แล้วมาบอกหนูทำไมเนี่ย!? ถ้าพูดถึงอีกหนูจะตัดสื่อแล้วนะ”
“พี่ไม่รู้จริงๆ ช่วยพี่หน่อย”
วีเงียบไป
“จริงๆเหรอ?”
“พี่จะโกหกวีทำไม”
จากนั้นเธอเงียบไปอีกครั้ง
“ปรกติมันจะไม่ทำ แต่ถ้าคิดแล้วคิดว่าอยากหรือแม้แต่ตะหงิดใจมันจะทำ”
ผมนิ่งไป
“รู้ได้ยังไง?”
“พี่อลิสเขาสอนทุกคน”
“ทำไมเธอไม่บอกพี่?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
ผมสงสัย อลิสไม่ได้บอกผม
“เปลี่ยนไปคุยปรกติดีกว่า เป็นยังไงบ้าง”
“หนูสบายดีอยู่ ได้ไปลองงานแล้ว”
เธอขอลองงานตอนอายุ 13 เธออยากเริ่มทำงานพร้อมผม
“งานเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“มันเยี่ยมไปเลย แต่ทำไม่นานก็เริ่มเบื่อ พี่รู้มั้ย นักร้องอ่ะ ขึ้นแสดงทีไรร้องแต่เพลงเดิมตลอด”
อย่างนั้นหรือ?
“ทำไมไม่หาเพลงใหม่ๆร้องล่ะ”
“มันไม่ได้จำกันง่ายๆอ่ะดิ”
“แต่หนูมีพรสวรรค์ เชื่อดิ เดี๋ยวก็ทำได้”
เธอนิ่งไปสักพัก ผมเดาว่าเธอยิ้มอยู่
“อย่างนั้นเหรอ อืม หนูจะลองตั้งใจกว่านี้”
“ดีแล้ว ลองงานแปลกๆมั่ง”
“แต่หนูไม่ได้เจอพี่”
“เอาน่า เอาจริงๆ 2 ปีมันเร็วแหละ”
เธอนิ่งไปสักพัก
“เร็วที่ไหนกัน อยู่กับวิวสองคนมันเหงา เธอก็ไปขายของของเธอด้วย”
“วิวขายดีมั้ย”
“มากเลย”
“ดีจัง”
ผมบอกวี
“เธอบอกว่ามันมีข่าวลือว่าปลาร้านเธอเป็นปลาเกรดสูง สดใหม่ตาใสแหน๋ว คนมาเต็มไปหมด วิวพองอกแล้วบอกใช่ๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดีสิดี”
ผมยินดีกับวิว
“พี่อยากฟังวีร้องเพลง”
“ฮ๋า เพิ่งคุยนั่นแล้วให้หนูร้องเพลงเนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะ มันตะหงิดๆ ไว้วันหลังแล้วกัน”
“ได้สิ อย่าลืมล่ะ”
“ได้”
วีตอบรับผม
“คนที่บ้านเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีนะ พี่วาเนสซ่าชอบบ่นว่าแผลมันเจ็บแปลบๆ”
“อย่างนั้นเหรอ”
เธอเจ็บหลังแผลหายแล้วหรือ?
“นาล่ะ”
“นาอ่านหนังสือหนักอ่ะดิ ผิวเธอเข้มขึ้น มันน้ำตาลเข้มกว่าเดิมแล้ว ทำไมตากแดดแล้วผิวเข้มอ่ะ หนูก็อยากอย่างนั้นหนูต้องไม่ไปโดนแดดเหรอ?”
“พี่พอรู้อยู่ แต่เหมือนความคิดพี่มันผิดอยู่ พี่ยังยืนยันไม่ได้
“บอกมาเธอพี่ อย่าคิดมาก”
“อืม ได้สิ”
วีให้ผมบอกเธอเลย แม้ว่ามีโอกาสบอกผิดๆ ผมจะแก้ปัญหานี้อย่างไร?
“ในร่างกายคนจะมีสิ่งที่เรียกว่าเมลานิน”
“เมลานิน ชื่อมันแปลกๆ”
“มันเอาไว้ผลิตสีในร่างกาย ทั้งสีผมและสีผิวกับสีนัยน์ตา”
“อ๋อ”
“ยิ่งเมลานินเยอะ สียิ่งเข้ม”
“แล้วทำไมมันถึงเยอะ?”
วีถามผมอีก
“มันเกี่ยวกับยีน”
“กางเกงน่ะเหรอ”
“ไม่ใช่ยีนนั้น ไปเคยเห็นกางเกงยีนที่ไหน?”
มันมีกางเกงยีนด้วยหรือ? ผมถามเธอ
“ร้านเดิมนั่นแหละ เสื้อก็มี”
ถ้าอย่างนั้นมันเป็นร้านพี่ผู้หญิงสาวๆ ร้านที่เราไปกันประจำ
แล้วยีนขาสั้นๆเป็นที่นิยมเหมือนกันหรือ?
“ยีนคื้อเชื้อพ่อกับแม่”
“พวกเขาอย่างนั้นเหรอ? ไม่เคยเห็นอ่ะ”
“พวกเขาเป็นหลักน่ะ แล้วก็อดีตบรรพบุรุษตากแดดกันมากแค่ไหน มีสองอย่าง แล้วก็ตากแดดเองก็เข้มขึ้นด้วย”
“อย่างนี้นี่เอง”
ดูเหมือนวีเข้าใจเรื่องเมลานินแล้ว
“งานพี่เป็นยังไงบ้าง แบบละเอียด”
“พี่ต้องมาทำฟาร์มตัวอูริจิ”
“เอ๋? คืออะไรอ่ะ”
ผมยิ้ม หัวเราะเบาๆ
“มันเป็นตัวเหมือนเป็ดตัวใหญ่เดินสี่ขา เราขี่ตัวที่เชื่องได้ด้วยนะ พี่ขี่มันไปตลาดด้วย”
“โว่วโว่ว ขี่ได้ด้วย ให้หนูซ้อนมั่งดิ”
“อานมันเล็กอ่ะ ไม่รู้วีจะนั่งด้วยได้มั้ย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
ผมหัวเราะเบาๆอีกครั้ง
“แต่พี่เริ่มที่ซ่อง”
“อืม ใช่”
“แต่มาจบที่เลี้ยงสัตว์”
“ก็ถูก”
“พี่จะทำอะไร?”
ผมเงียบไปสักพักเมื่อวีถามผม
“พี่ก็ไม่รู้ แต่พอมีเรื่องที่พี่สงสัย พี่อยากรู้ให้ได้ รู้มันจากพื้นฐานมัน เพื่อให้เข้าใจมัน”
“พื้นฐานอย่างนั้นเหรอ? พี่ทำเหมือนฝึกเลย”
“ความรู้ก็เหมือนร่างกายนั่นแหละ ยิ่งพื้นฐานแน่น เรายิ่งไปต่อได้ไกล เหมือนเวลาใช้ท่าแปลกๆบ่อย”
“นั่นสินะ เข้าใจแล้ว”
วีเข้าใจอย่างเร็ว สงสัยอะไรเร็ว
“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนเดี๋ยวมันดึก”
“ได้สิ พอแล้วนก”
“แค่นี้ล่ะ นก”
ผมตัดสื่อนก
ผมนั่งคิดหนักอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้นปรกติมันไม่ได้เข้าทำ ต้องคิดถึงมันเป็นปรกติถึงจะเข้าทำปรกติ หรือมีความคิดเรื่องมันตะหงิดๆอยู่ในใจ
แล้วมีอะไรที่ไม่เหมือนกันอีก?
คิดไปตอนนี้โดยไม่มีความรู้อะไรอย่างไรก็คิดไม่ออก
ก่อนอื่นผมต้องหาทางแก้
ผมต้องรู้พื้นฐานของร่างกายทั้งหมดก่อน แล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ใช่ มันต้องทำนั่น
ผมสื่อนกหาท่านหญิงเสือดำ
“ท่านหญิงเสือดำครับ”
“วารี ว่าไง?”
“ผมต้องเรียนหมอ”
ท่านหญิงเสือดำเงียบไป
ท่านหญิงเสือดำเงียบไปนาน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
“นายทำงานได้กี่วัน?”
หลังจากเงียบไปนาน เธอถามอายุงานผมเป็นอย่างแรก
แล้วคำเรียกผมเปลี่ยนไปด้วย ท่านหญิงโกรธแล้ว
“ว่ะ, วันเดียวครับ”
ผมกลายเป็นไม่ค่อยกล้าแล้วสิ
“ใช่ วันเดียว”
จากนั้นท่านหญิงเงียบไปอีกสักพัก
แต่ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเฮือกใหญ่
“แล้วนายมาบอกฉันว่าอยากเรียนหมอ!!!”
ผมพูดอะไรไม่ออก
“ขอรู้เหตุผล?”
“ได้ครับ”
ผมรีบตอบ
“ผมมีความรู้เรื่องร่างกายตอนเด็กๆ แต่ความรู้นั้นมันผิดๆ ผมต้องเรียนเพื่อให้รู้เรื่องร่างกายให้ได้ ไม่อย่างนั้น ผมจะเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ทำให้คน”
ผมหยุดคิดครู่หนึ่ง
“ผมจะทำน้องผมเข้าใจร่างกายผิดๆ”
“บอกสาเหตุที่ทำให้รู้ว่ารู้ผิดๆมาด้วย”
“เอ่อ ผ่ะ, ผมไม่ได้เข้าธุระหนักมาเป็นสิบปี”
“จึ”
ท่านหญิงจึปากใส่ผม แย่แล้วสิ
“ต่อ”
ท่านหญิงให้ผมพูดต่อ
“แล้วผมเพิ่งเข้าไม่นาน”
ผมเงียบ ท่านหญิงเงียบ
“ละ, แล้ว ผมโทรไปถามน้อง น้องบอกไม่เข้าทำมันปรกติ แต่ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปรกติที่ต้องเข้าทำทุกวัน”
ท่านหญิงเงียบไปสักพัก
“สรุปมันเพราะแกเข้าส้วม! เลยต้องไปเรียนหมอ!?”
“ข่ะ, ครับ”
ผมรู้สึกอาย แต่ผมต้องรู้เรื่องร่างกายให้ได้!!! มันเป็นพื้นฐานของชีวิต ปรกติไม่ต้องเรียนหมอหรอก แต่เพราะผมเข้าใจผิดผมเลยต้องทำ
“จ่ายค่าแก้วที่ฉันปาแตกมาด้วย แล้วขอฉันคิดก่อน”
“ได้ครับ”
เธอโกรธจนทำแก้วแตก ให้ผมจ่ายด้วย
ท่านหญิงเงียบไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง แต่นกไม่ได้ไปไหน มันยืนจ้องหน้าผม
“เฮ้อ ถ้าจะเรียน จ่ายเงินไปเรียนเองหลังจบงานนอกดงปีนึงก่อน ให้ 15 ก่อนแล้วค่อยไป”
“ได้ครับ”
“แล้วเธอจะเอายังไงเรื่องน้องๆของเธอ จะให้พวกเธอลองงานที่ไหน น้องเธอเด็กกว่ากี่ปี”
“เด็กกว่าปีเดียวครับ”
“ลองถามน้องก่อนว่าอยากทำงานกับแกมั้ย”
คำที่ท่านหญิงเรียกผมไกลหนักกว่าเดิม
“ผมว่าจะให้เธอลองงานสักเดือนก่อนครับ”
“ไอ้วารีคิดว่าน้องแก เก่งเท่าแกมั้ย? ฉันเห็นแกรักนักรักหนา”
เมื่อผมบอกท่านหญิงท่านหญิงตอบกลับมาด้วยคำถามแต่เสียงดุๆ
“ครับ พวกเธอมีศักยภาพจะเก่งกว่าผม แต่พวกเธอยังอยู่ช่วงเติบโตกันอยู่”
“ถ้าแกคิดว่าเธอเก่งจริง อาทิตย์เดียวพวกเธอก็รู้แล้วแหละว่าชอบไม่ชอบงาน ฉันให้อาทิตย์นึงมากสุด แล้วบอกคำตอบของพวกเธอมาให้ฉันรู้ แล้วระหว่างหนึ่งปีนี้ ส่งความคิดมาให้เยอะที่สุด ถ้ามันได้กำไรดีพอส่งแกเรียนหมอเดี๋ยวฉันออกค่าเรียนให้เอง”
“เข้าใจแล้วครับ”
“แค่นี้แหละ พอแล้วนก”
ผมนิ่งไปสักพัก เธอไม่ได้เปิดโอกาสให้ผมบอกลากลับ
“แค่นี้แหละนก”
นกรักเดินไป ผมไปตามเอาเก็บเข้ากรง
เอาล่ะ ผมได้รับอนุญาตให้ไปเรียนหมอแล้ว
ผมมีหลายอย่างที่ต้องทำ แต่มันดึกแล้ว
ผมรีบนอน
ผมตื่นอาบน้ำออกกำลังข้างหน้า ผมทำกระสอบทราย ทำงานเช้า วิ่งไปตลาดซื้ออุปกรณ์ กินข้าว แปรงอูริจิ
พอว่างผมไปผลิตเครื่องช็อตไฟฟ้า ผมลองอยู่หลายแบบ ได้แผล เพราะหินแดงไป ผมคัดหินแยกไว้เป็นสีๆ พอเที่ยง ผมแปรงอูริจิอีก พี่อัลฮามาแล้วดูไม่นานก็กลับไป
“ไปพักร้อนล่ะ วู้ฮู้ จะจีบหญิงให้กระหน่ำเลย”
“ขอให้โชคดีครับ เดินทางปลอดภัย”
พอบ่ายว่างผมมาทำเครื่องช็อตไฟฟ้าอีก ในที่สุดมันก็ได้ตัวต้นแบบที่โดนน้ำไม่ได้ทำตกไม่ได้ ผมต้องหาทางแก้เรื่องสายไฟ
ผมขี่อูริจิอานขอบแดงไปสวนต้นคริสเตอร์ หาวิธีทำยาง หลักมันอยู่ที่ต้องใส่ใบคริสเตอร์เยอะถึงจะกันไฟฟ้าได้ พิพพ์สายไฟ หาวิธีผลิตด้ายยางยืดแต่ทำไม่ได้ ผมไปตามหาช่างตัดเสื้อที่เก่งที่สุดอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง จ้างเธอมาเป็นลูกน้อง พี่เขาหน้าเหมือนช่างตัดเสื้อร้านประจำ
เมื่อผมถาม พี่เขาบอกว่ามีฝาแฝด แต่ไม่ได้เจอกันนาน ผมเลยให้ที่อยู่ให้เธอไปติดต่อ เมื่อบอกที่อยู่เธอยอมเป็นลูกน้องของผม แต่ต้องให้เธอเปิดร้านด้วย
วันหนึ่งมันมีประมาณนี้
ผมให้พี่ช่างตัดเสื้อหรือพี่อเด็ป คิดด้ายยางยืดเพื่อเอามาทำเป็นกางเกงขาสั้นรัดรูป เธอต้องเริ่มฝึกต้มถุงอูริจิก่อนเพื่อให้ทำเป็น
ผมทำเครื่องช็อตไฟฟ้าแบบกันน้ำไม่ลึกเสร็จแต่ยังไม่ส่ง
ผมยังไม่ได้ทดลองระยะเวลาการใช้งาน ผมทำกล่องทดลองที่มีสัญญาณเป็นหลอดไฟทิ้งไว้ข้างนอก
จ้างคนมาทำม้านั่งแบบมีหลังคาแล้วกล่องทดลองระยะเวลาการใช้งานไว้ในนั้น
วีกับวิวเบื่องานเมื่อผ่านไปห้าวันแม้ตั้งใจกันเต็มที่แล้ว วีบอกเพลงมันซ้ำบ่อย เธอไม่ได้ชอบร้องเพลงเดียวกันซ้ำๆ มันไม่ใช่ท่า มันน่าเบื่อ มันรับไม่ได้
ส่วนวิวบอกว่าค้าขายมันยากเกินเธอ มันไม่ได้แค่เอาของไปวางขายแล้วจบ แล้วสิ่งที่เธอขายเธอทำมันได้คนเดียว เธอไม่มีเวลาฝึก
นายังคงอ่านหนังสือหนักต่อไป เธอเรียนอย่างเดียว แม้แต่ตอนคุยกับผมก็ยังอ่านหนังสือจนบางทีสื่อรักตัด ผมเลยไม่กวนเธอมาก
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ด้ายยางยืดเสร็จ หินไฟฟ้ายังไม่ดับเลยสักครั้ง ผมถามวีกับวิวว่า 14 แล้วจะมาทำงานที่เดียวกันมั้ย
พวกเธอตอบรับกันตอนผมยังพูดไม่จบประโยคทั้งคู่ นาบอก ‘อือ ได้สิ’
หลังจากนั้นผมทำงานข้างนอก งานข้างนอกส่วนใหญ่โรงงานอยู่ติดๆกันหมด เลยไปมาได้หมด
ผมให้พี่อเด็ปผลิตกางเกงสายโคโยตี้แบบกีฬา, แบบรัด, แบบติดลูกไม้, และแบบเกลี้ยงๆ คิดเสื้อผ้าแนวกีฬา ชื่อยี่ห้อ ฮาโมนี่
ท่านหญิงเสือดำบอกว่าเรื่องแฟชั่นเธอไม่สนใจ แต่ต้องใช้คนของผมเองอย่างเดียว ถ้าใช้สถานที่หรือวัตถุดิบของเธอต้องเสียเงิน
และชื่อจะไม่ใช้ชื่อท่านหญิงเสือดำ เธอเก็บค่าที่ 10%
ผมผลิตสร้อยข้อมือหินยางยืดลองเสนอท่านหญิง ท่านหญิงไม่เอาชื่ออีกแล้ว เธอย้ำว่าเรื่องแฟชั่นเธอไม่ให้ใช้ชื่อเธอ
จ้างร้านหินมาเป็นลูกน้องผม เป้าหมายคือทำเม็ดกลมมีรูตรงเท่ากันให้ได้ โดย 10 เม็ดมีก้อนหนึ่งรูใหญ่กว่าไว้ซ่อนปม ตอนนี้มันยังเป็นเม็ดเหลี่ยมอยู่
สอนคนร้อยสร้อยแล้วหาคนเก่งและเชื่อผมมากที่สุด เขาชื่อเนตรทิพย์ เป็นคนศิโร ไปเปิดร้านที่คอสตาแลนด์กัลกัล ติดโคมชมพู เขาประจบนิดๆ แต่ผมมองข้ามข้อเสียเขาไป และบอกให้เขาเลิกทำ อย่างแรกที่ให้เขาฝึกคือคัดสีและคุณภาพหิน
ผมทำงานข้างนอกอยู่ 1 ปี
มันมีหลายอย่างแต่ส่วนใหญ่มันเป็นที่ผลิตวัตถุดิบ เช่นนา, ฟาร์มไก่, และฟาร์มวัตถุดิบไบชุนฟุ
แปลงหน้าบ้านผมใช้ปลูกมันฝรั่งทำเฟรนซ์ฟรายส์ส่งท่านหญิงรับไปใช้ชื่อเธอ
ผมทำขนมไข่นกกระทา ส่งท่านหญิง
ผมทำพิซซ่า, หมูกับเครื่องในปิ้ง, และบาร์บีคิวส่งท่านหญิง บาร์บีคิวมีแล้วคล้ายๆกัน
ผมจ้างแม่ครัวมือหนึ่งที่เปิดร้านอยู่ให้เป็นลูกจ้างผม โดยเขามีข้อแม้ว่าเมนูที่ผมคิดต้องขายที่ร้านเธอได้ เธอชื่อคุมะ คนโครอลลัลเรย์เลีย เธอมีลูกน้องเอกอยู่แล้ว ผมต้องเสียเงินเยอะอยู่ แต่ให้เธอคิดเมนูให้ท่านหญิงแทน เริ่มจากเบเกอรี่
ถึงวันผมไปรับวีกับวิว ผมจ้างรถฟาเนิคกลับศิโร
เดินทางอยู่สองวันครึ่ง ผมมาถึงบ้านเด็กกำพร้าศิโรที่ 4 ตอนเย็น
หน้าบ้านมีต้นราชพฤกษ์เรียงกันอยู่สามต้น สองต้นเหมือนเพิ่งขึ้นใหม่ๆ ยังต้นเล็กอยู่
ผมเคาะประตู
พี่วาเนสซ่ามาเปิด
“สวัสดีครับพี่วาเนสซ่า ผมมารับวี, วิว, นาครับ”
“อืม เป็นยังไงบ้างล่ะงาน ที่ซ่อง 15 แล้วนี่ เสียตัวไปยัง”
“โอโห พี่ก็ ยังครับ งานก็ดีแหละครับ”
“อลิสสอนเด็กอยู่ พี่โดโรเธียอ่านหนังสือ อย่ารบกวนพี่ๆเขา”
“ได้ครับ”
“ทักกันเสร็จแล้วก็รีบนอน กลับพรุ่งนี้เลยหรืออยู่ที่นี่ก่อน”
“กลับพรุ่งนี้เลยครับ”
“อืมๆ ไปหาพี่โดโรเธียล่ะ”
เธอเข้าบ้านไปหลังเธอบอกผม ผมมองหน้าบ้าน
ผมเข้าไปในบ้าน ทักทายพี่อลิส เธอกอดผม น้ำตาไหล บอกผมโตมาก แล้วผมไปหาวีกับวิว
พวกเธอกำลังหัวชนกันชิงกันหาจุดจับทุ่มอยู่
“วี วิว!”
“พี่วารี มาแล้วเหรอ?”
“พี่วารี เป็นยังไงบ้าง ไปกันวันไหนหนูเตรียมของแล้ว”
“ว่าไงวารี”
วีทักผม วิวบอกผมว่าเตรียมของเรียบร้อยแล้ว ส่วนนาทักผมเสร็จก็อ่านหนังสือ
“เป็นยังไงกันบ้าง ไม่เจอกันตั้งปีนึง”
“หนูโตขึ้นแล้วนะ”
“จ้าวี”
“ส่วนหนูลองขายแล้วขายดีไป แทบไม่มีเวลาฝึก มันต้องไปคัดปลา”
“เป็นอย่างนั้นเหรอวิว”
“ฉันเก็บของแล้ว ฉันทำเหมือนที่เธอบอก ฉันหาความรู้แหลก”
“ดีแล้วนา”
จากนั้นผมออกกำลังกายอาบน้ำนอน เช้ามาเราไปฝึกเช้า ผมนัดรถเที่ยง
พวกเธอไม่เข้าจับแบบสื่อๆแล้ว แล้วสู้กันสิบครั้งผมชนะแต่ละคนครั้งเดียวเท่านั้น
ผมบอกลาเหล่าเด็กๆโดยฝากไว้ว่าถ้าไม่รู้จะทำงานอะไร มาหัดงานกับผมแล้วไปที่ดงเสือดอกเล่นน้ำ ไปโครอลลัลเรย์เลีย แล้วผมจะฝึกต่อสู้ให้ อีกประมาณ 3-5 ปีผมจะมารับ
เที่ยงเราก็ออกเดินทางกันสี่คน ผม, วี, วิว, และนา
มันเป็นการเดินทางที่สนุกสนาน เราคุยกันไปตลอดทาง ผมบอกของที่ผมเสนอให้ท่านหญิงไป เมื่อบอกเสร็จ
“แล้วเราจะไปทำอะไรกันที่ซ่อง พี่จะให้หนูทำงานนั้นเหรอ? หนูไม่ทำได้มั้ย”
“เรื่องนั้นน้องยังทำไม่ได้อยู่ดีวี ท่านหญิงมีแต่คน 18 ขึ้นไปเท่านั้น แล้วพี่ไม่แนะนำให้ไปทางนั้นด้วย ยกเว้นพวกเธออยากทำจริงๆ”
“ฟู่ว”
วิวถอนหายใจโล่งใจ
“ถ้าไม่รู้จะทำอะไร วีลองเปิดเวทีร้องเพลงมั้ย ส่วนวิวคัดปลาส่งท่านหญิงเสือดำ เธอมีครัวอยู่”
“นั่นชื่อเจ้านายเราเหรอ?”
“ใช่แล้ววี”
“อืม ไม่รู้ดิ คิดดูก่อนนะ หนูอยากได้งานลุยๆมากกว่า”
วิวบอกผม
เราคุยกันต่อ วีกับวิวตื่นเต้น แม้วีไม่แสดงอาการมากแต่หูของเธอตั้งอยู่ตลอดเวลา และหางแกว่งไปมา
ไม่นานเราก็ถึงดงเสือดอกเล่นน้ำ ผมนำทางพวกเธอไปข้างใน
พวกเธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่
เมื่อคุยกับท่านหญิงวีกับวิวขอเป็นคนคุมชั้น
ผมไปเรียนหมอ 4 ปี สอบสุดท้ายไม่ผ่าน
ท่านหญิงด่าผมอยู่เกือบครึ่งวัน แม้แต่วีกับวิวยังตำหนิผม
เธอไม่ด่าผมหยาบๆ แต่พูดเสียดสีให้เจ็บใจกันทั้งหมดเลย
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ขอเชิญร่วมโดเนทสนับสนุนผลงานโดยการโดเนท ความช่วยเหลือของท่านจะทำให้งานดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆขอบคุณทุกท่านจากใจมากๆครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu