กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 23 ดงเสือดอกเล่นน้ำ
มีคนมาเอาสัมภาระผมไป มันแค่กระเป๋า, กระบองแดง, และกรงนกรักแบบตัวเล็กกรงเล็กไม่กี่ ตัว
ผมมองคาเฟ่ใหญ่ที่อยู่ซ้ายมือเมื่อเดินเข้า มีผู้ชายและผู้หญิงหล่อๆสวยๆหลายแนวหลายเผ่าปนกัน มีอารัคเน่มาเก็บบันได ผมเดินเข้าซ่องตามท่านหญิงเสือดำไป
ในที่สุดผมก็เข้าซ่อง แต่มาทำงาน สิ่งแรกที่ได้รับคือกลิ่นเหมือนนั่น ของเคยผิดกฎหมายที่เพื่อนผมเรียกเหมือนของกิน กับกลิ้นคล้ายกุหลาบ
ข้างหน้าคือโต๊ะยาวพนักงานเยอะ ข้างหลังมีท่อกลมมาจากพื้นมีฝาปิด
หลังโต๊ะต้อนรับเป็นบ่อน้ำใหญ่มีสะพานพาดกลางสระที่มีคนใส่บิกินี่เล่นอยู่เต็มไปหมด แต่มีบางคนไม่ใส่อะไรเลยทั้งหน้าตาดีกับธรรมดาอยู่กันหลายเผ่า
ทางซ้ายเป็นห้องกระจกใสใหญ่หลังกระจกคาเฟ่ที่เดินไปเลยได้ มีคนยืนหน้ากระจกอยู่เยอะเหมือนเลือกอยู่ ที่นี่มีติดคาเฟ่กับสระน้ำสำหรับเลือก!
คนทำกลิ่นจากการดูดอยู่ทางขวา หญิงกึ่งแรดยืนดูภาพรวมที่นี่อยู่ ไม่นานก็มีคนพนักงานชายเอลฟ์มืดก็มาหาเธอ
“อย่าเพิ่งเตือน ฉันมีแผน”
ท่านหญิงพูดกับพนักงานที่กำลังจะเตือนลูกค้าดูดของลึกลึบพนักงานชายหันมาคำนับท่านหญิงแล้วไปหลังยืนกันโต๊ะต่อ
มีดวอร์ฟเข้ามาในร้านเดินผ่านเราไปและไม่สนใจเรา เขาไปคุยกับเคาน์เตอร์ต้อนรับ
“2277 ห้องไหนก็ได้ ชั้น 4 ก็เอาฉันจะไปรอที่เสือหิว”
ลูกค้าดวอร์ฟพูดแล้วเดินเข้าคาเฟ่ใหญ่ซ้ายมือ คาเฟ่เข้าไปเลือกได้ด้วย
ท่านหญิงเสือดำพูดกับผมก่อนผมมีโอกาสได้ดูอะไรข้างในมาก
“บอกเขาว่าที่นี่มีกฏห้ามดูดอุ้ยข้างใน ได้แค่ห้องระเบียงหรือหน้าร้านเท่านั้น”
ท่านหญิงเสือดำพูดมาหน้าตาจริงจัง ที่กลิ่นเหมือนนั่นคืออุ้ย
“ได้ครับพี่”
“เรียกท่านหญิง!”
เสียงผู้ชาย? เขาไม่ได้เสียงดุแต่สั่ง ผมหันไปดูเห็นคนข้างหลัง แต่ทุกคนหน้าเฉยๆ อะไรกัน?
“ไม่เป็นไร เดนีโร”
ผมคำนับกลุ่มคนคุ้มกัน หันไปหาท่านหญิง
“เรียกอะไรก็เหอะฉันไม่ถือ”
“ครับ”
ท่านหญิงเสือดำยืนยัน ผมเดินไปบอกลูกค้าที่ดูดอุ้ย
“ขออภัยนะครับคุณผู้หญิง ที่นี่เรามีกฎห้ามดูดในร้านครับ ถ้าอยากดูดขอเชิญเปิดห้องระเบียงแล้ว หรือดูดหน้าร้านก่อนแล้วค่อยแลกเปลี่ยนครับ”
“อ๋อ ได้ๆ ต้องดูดก่อนเล่นน้ำเหรอเนี่ย โทษ! ฉันเพิ่งเคยมาค่ะ! นี่ก็เพิ่งเคยเห็นฉันเลยสงสัย จะไปข้างนอกเดี๋ยวนี้แหละ”
เธอรีบก้มหัวให้ทุกคนและรีบออกไปหน้าร้าน สิ่งที่ผมเห็นจากอุ้ยคือมันไม่เป็นขี้เถ้าและไม่มีควันแม้จุดไฟไปดูดแต่กลิ่นออก มันระเหยหรือ?
ผมหันกลับไปหาท่านหญิงเสือดำเธอพยักหน้าให้ผม เราเริ่มเดิน
ถ้าอุ้ยเหมือนนั่น สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือถ้าใจป่วยอยู่แล้วใช้ อาการจะหนักขึ้น แพทย์ยังไม่รู้ว่าทำไม
ผมเคยสงสัยแล้วดูผ่านๆ มันถูกกฎหมายแล้วแต่ห้ามเด็กใช้ และเป็นที่นิยมมากในหมู่นักร้องแนวหนึ่ง
แต่ การใจป่วยมันแย่ ทางที่ดีคือไปหาจิตแพทย์บ้างหรือเป็นประจำ และโลกเก่าผมไปอยู่เรื่อยๆ
แต่ตอนนี้คือผมอยู่ที่โลกใหม่ ธรรมชาติใหม่ ร่างกายใหม่ เท่าที่ผมไปตลาด, เท่าที่ผมเดินตามทาง, ทั้งคนที่ผมเคยสู้ด้วย, คนที่ผมเคยเจอ, และคนที่มีเรื่องเศร้ามากๆ
ไม่มีคนใจป่วย ผมพูดถึงถึงขนาดเรื้อรัง เป็นนานติดกัน และตลอดเวลา แน่นอนมีคนมีอารมณ์พวกนั้น แต่มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ
อย่างพ่อค้าข้างร้านในตลาดที่ผมเคยขายตอนเช้า เขาเศร้าเพราะอกหัก และบอกเลิกแบบแย่มากตามคำพูดเขา และผู้หญิงที่ไม่สนเขาอีก เขามาปรึกษาผมเพราะไม่มีใครเลย เขาเสียใจเต็มวันอยู่วันหนึ่ง และวันต่อไปมันกลายเป็นแค่เสียดายนิดๆ
มันเป็นเรื่องดีที่ไม่มีใครใจป่วย แต่กันไว้ดีกว่าแก้ เมื่อผมเป็นผู้ใหญ่มันอีกเรื่อง แต่ตอนนี้ขอผ่าน
พูดถึงแล้วมีจิตแพทย์ไหม? ถ้ามีผมควรไปหาบ้าง
“อืม ไปต่อ ตอนนี้ ฉันให้เวลาน้อง 5 วัน เธอถามอะไรฉันก็ได้ หลังจากนั้นแล้วแต่อารมณ์ฉัน”
ได้โอกาสล่ะ!
“มีจิตแพทย์มั้ยครับ?”
เราหยุดเดินเพราะท่านหญิงหยุด ผมพูดต่อ
“ที่ปรึกษาทางใจแบบระดับหมอเลย ประเทศอื่นก็ได้”
เธอมองผม หน้าโกรธๆ แล้วพูดขึ้นมา
“เมื่อกี้เธอพูดว่าไร”
ท่านหญิงเสือดำกลายเป็นห้วน
“เอิ่ม ที่ปรึกษาทางใจระดับหมอ”
ท่านหญิงเสือดำยิ่งโกรธหนัก
“ก่อนหน้านั้น!”
เธอตะคอกใส่
“จิตแพทย์เหรอครับ?”
ท่านหญิงเสือเดินไปโต๊ะต้อนรับ
ท่านพูดกับโต๊ะต้อนรับ
“เรียกเอโกะห้องข่าว”
พนักงานหันหาท่อ ดึงเชือกข้างท่อหนึ่ง แล้วเธอเปิดฝาท่อพูดใส่ท่อสีทองดูเหมือนทองแท้ที่มีกระดิ่งติดแต่ละท่อ
น่าจะเป็นท่อไว้สื่อสาร มันมีนกรักที่มีประสิทธิภาพกว่า แต่นั่นอาจใช้พื้นที่เยอะเกินไปแม้แบบตัวเล็ก
ป้ายเล็กๆที่เธอเปิดฝาแล้วพูดไปเขียนว่า ‘ข่าว’ ดีที่โลกนี้ผมตาดี
แผนกข่าวมันแปลกแต่อาจเอาไว้ทำโฆษณา เหมือนผมลืมอะไรไปสักอย่าง เดี๋ยว แต่เดี๋ยวก่อน ถ้ามันเป็นข่าวกรองล่ะ?
ได้สองคำ ซวยแล้ว
“อ่ะ, เอิ่ม ถ้าสงสัยเรื่องจิตแพทย์ถามผมก็ได้นะครับพี่”
“นายเงียบไปเลยวารี”
“ครับท่านหญิง”
ผมรีบเงียบ เหมือนคำเรียกผมเปลี่ยนเรื่อยๆ
ไม่นาน ผู้หญิงสวยชื่อเอโกะหุ่นดีมากตัวสูงน่าจะถึง 180 กว่าวิ่งมาหาเรา เธอใส่แว่นกลมใหญ่ไม่หนา
“คำว่า ‘จิตแพทย์’ มาจากไหนและคืออะไร?”
ท่านหญิงเสือดำถามเอโกะ เอโกะหลับตากุมมือไว้ข้างหน้าต่ำๆหน้าเป้าแล้วคิดสักพักแล้วเปิดตาตอบ
“ไม่มีค่ะ จากข่าวและจากที่รู้อยู่แล้ว ไม่มีคำนี้อยู่ที่ไหนเลยค่ะ ทั้งในทุกประเทศและทุกทวีป”
ซวยหนักกว่าเดิม เธอเหมือนเว็บอากู๋เลย และเธอเป็นหน่วยข่าวกรองจริงด้วย ท่านหญิงมีหน่วยข่าวกรองด้วย!
ผมเหงื่อออกหน้าผากผมปาด รีบพูด
“มันจากที่ที่ผมมาน่ะครับ!”
“นายเป็นกำพร้า! อย่ามาตอแหล!! มีอะไรจะพูดมั้ย!”
“เอ่อ”
ผมคิด พอเริ่มเครียดผมก็รีบพูด
“ตอนเด็กผมมีความพิเศษอย่างนึง ผมเข้าใจคำพูดและคนได้ตั้งแต่แรกเกิดออกมา”
ท่านหญิงเสือดำเงียบ หน้ายังโกรธอยู่เธอแหงะหัวให้ผมพูดต่อ
“ผมไม่ได้อยู่ที่ศิโร ผมไม่เคยได้ยินว่าอยู่ที่ไหน แต่พ่อแม่ผมที่ตอนนั้นเลี้ยงผมอยู่ชอบพูดถึงว่าพวกเขาไปหาจิตแพทย์บ่อย”
“ต่อเลย! ไม่ต้องหยุดดูฉัน”
“ครับท่านหญิง”
ผมหายใจลึกๆ
“แล้วพ่อแม่ดีขึ้นยิ้มแย้มขึ้น แล้วบอกว่า เหมือนได้ปรึกษาทางใจเลย เรื่องทุกข์ไม่หายก็เข้าใจแล้วบรรเทาได้”
“ดีขนาดนั้นไม่หรอก เศร้าๆทุกข์ๆมาก ถ้าไม่หายเร็วก็เป็นพยามัจจุราจตายหมด”
ท่านหญิงตอบผม ผมรีบหันไปถามพี่เอโกะ
“รบกวนนะครับพี่ โรคพยามัจจุราจคนเป็นเยอะแค่ไหน”
เธอหันไปหาท่านหญิงเสือดำเหมือนถาม ท่านหญิงพยักหน้าให้เธอ แล้วเธอหลับตามืออยู่กุมกันไว้ข้างหน้าเหมือนเดิม จากนั้นเธอเปิดตาพูด
“แต่ละประเทศส่วนใหญ่จะนับมือได้ ไม่ก็มากหลักสิบเท่านั้น คนรู้จักทั่ว ถ้าเพ้อเจ้อมากจะเป็น อ้างอิงจากรายงาน”
ผมโล่งใจแต่ผมถามต่อ
“แล้วที่ขายนั่นอยู่มีผลอะไรด้านลบกับจิตใจมั้ยครับ-”
ผมชี้ห้องขายต้นอุ้ยใหญ่ ที่เห็นตรงแถวห้องกระจกใส
“ซึมบ่อย, ขี้กลัว, เชื่อคนยาก, หลอนเห็นนั่นนี่ที่ไม่จริง หรือที่สำคัญ ใช้แล้วอยากใช้ต่อตลอด, เลิกไม่ได้, เลิกยาก, ต้องงัดเงินส่วนสำคัญซื้อ”
เธอกุมมือหลับตา ไม่นานก็ลืมตา
“คนที่ใช้ของจากต้นอุ้ย ไม่มีอาการอะไรเปลี่ยนไปที่เป็นด้านลบเลยค่ะน้อง หลักๆแล้วเรารายงานทุกคนที่ใช้ เพราะเวลามีอยู่กับเสือดอกมันจะเปลี่ยน เราเลยเก็บข้อมูลเมื่อมีคนใช้ตลอด และไม่มีใช้แล้วเลิกไม่ได้ ทุกคนใช้แล้วปรกติกันหมด และคนที่ไม่ค่อยจะมีก็ซื้อบ้างนิดๆหรือไม่ซื้อเลย”
“แล้วที่นี่คนเยอะมากมั้ยครับ”
ผมต้องดูว่าฐานข้อมูลใหญ่แค่ไหน
พี่เอโกะยิ้มมั่นใจสุดๆ
“เยอะสุดๆไปเลยค่ะ มาจากทุกที่ เรารู้เรื่องทุกทวีป”
“ขอบคุณครับ!”
ผมรีบขอบคุณพี่เอโกะ
ถ้าอย่างนั้น มีโอกาสน้อยมากที่จะป่วย แต่ไม่ใช่ไม่มีเลย และต้นอุ้ยมันคนละอย่าง ผมโล่งใจ
“พูดสิวารี!”
“ขออภัยครับพี่”
เธอเร่งผม แต่มันหมดแล้ว
“เอ่อ เรื่องมันหมดเท่านั้นครับที่บ้านเกิดผมจริงๆมีจิตแพทย์และพวกเขารักษาจิตใจได้ และมีคนป่วยด้านจิตใจอยู่ และมีกลิ่นอุ้ยที่นั่นก็เหมือนกัน”
ท่านหญิงเสือดำหรี่ตามองหน้าสักพักใหญ่แล้วถอนหายใจ เกาหัวเหมือนเซ็ง หน้าเธอเริ่มนิ่งๆ
จากนั้นเราเดินอ้อมโต๊ะข้ามสะพานไปจะหาบันไดใหญ่ ข้ามมาครึ่งทางท่านหญิงก็รีบหันมา
“เดี๋ยวดิ ถ้า พ่อแม่เธอยิ้มแย้มแล้วเธอกำพร้าได้ยังไง?”
“ผมไม่รู้เหมือนกันครับ”
“ไม่รู้ได้ไง!?”
เธอเท้าเอว ผมตอบไม่รู้ เธอโกรธอีกแล้ว ผมรีบโกหก
“วันนึงผมจำได้ว่าป่วยหนักแล้วสลบยาว ตื่นมาอีกที่ผมก็นอนร้องไห้หน้าบ้านกำพร้าในศิโรพร้อมเพื่อนผมแล้วครับ และเจ็บจนร้องไห้ตอนเด็กอยู่ตลอดครับ”
ผมยิ้มสุภาพที่สุดและมองเธอ ผมปนเรื่องจริงไปด้วย
เธอกอดอกเงียบไปสักพัก
“จึ”
ท่านหญิงเสือดำจึปากแล้วหันหน้าไป
“เรื่องน้องมันพอคิดว่าจริงได้เพราะมีข่าวลืออยู่เรื่องที่น้องบอกว่า ‘พิเศษ’ มันมีลืออยู่”
เธอเงียบไปอีกสักพัก
“แต่สุดท้ายเรื่องน้องจบแบบ สุดท้ายไม่มีใครรู้ได้เลย มันเปิดปลายและมันเกือบเป็นจุดบอด แต่มันไม่ใช่ จะว่าน้องก็ไม่ได้เพราะน้องก็โชคร้ายเหมือนกัน”
มันทำให้ผมรู้สึกผิดที่โกหก
ท่านหญิงเสือดำถอนหายใจอีกครั้ง หันมามองหน้าผม หน้าเธอปรกตินิ่งๆ แล้วเธอหันหลังเดินต่อความเร็วเท่าตอนเธอเดินจากตลาดไปบ้าน เธอไม่โกรธแล้ว
ผมอยากตะโกนให้ลันว่า ‘ว่าวี้ฮี้ววว’ เหมือวีกับวิวแล้วตะโกนว่า ‘รอดแล้วจ้าาา’ ผมบอกได้แล้วว่าผมไม่ได้มาจากต่างโลก เรื่องนี้เอาไปใช้ซ้ำได้อีกต่างหาก ผมต้องจำให้ดี
ผมถอนหายใจหนักใจเพราะสุดท้ายก็โกหกคนที่ไม่อยากโกหก และจำไว้ว่าเธอเก่ง
ระหว่างเราเดินบนสะพาน ผมดูด้านใน อย่างแรกที่เห็นคือทองและดูเหมือนทองแท้ เมื่อดูทองดีๆมันสีทองออกชมพูเหมือนทองชมพูด้วย มีดำตัดนิดๆแน่ที่เห็นหลักๆคือชมพูตัดทองชมพูแซมดำน้อยๆ
ชมพูที่เห็นทั้งหมดเป็นสีอ่อนออกขาว ไม่แสบตาหรือมากไป
มันจะการออกแบบเกือบญี่ปุ่นแต่ปลายมันขึ้นลายคล้ายลายไทย แต่ไม่มีสัตว์เทพเลย ภาพรวมคือเรียบร้อยและกว้างโปร่ง
ที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ประตูเลื่อนเหมือนกระจกมัวๆ และกระจกมัวนั้นเห็นอยู่เยอะ บางทีเป็นห้องไปเลย
โดยไฟที่ออกส้มอ่อนมาก โถงใหญ่พออุ่นแต่มองเห็นชัดเจน ข้างหน้ามีบันไดใหญ่ที่บันใดใหญ่มีรูปคนจีบกันไม่ใส่เสื้อผ้ามีใบไม้แปะกับบันไดแยกไปชั้นบนสองทางใหญ่ บรรยากาศเหมือนเดินห้างปนวังเล็กๆ
เพดานสูงสองชั้น ที่ชั้นสองมีเหมือนห้องกระจกมัวอยู่ริมยื่นออกมาแต่มองไม่เห็นด้านในเแม้แต่เงา และกลิ่นเหมือนกุหลาบ
เราเดินไปถึงบันไดแยกแล้วท่านหญิงหันหัวไปข้างๆ บอกผมแบบไม่หันหน้า
“มีห้องใต้ดินอยู่ แต่ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า”
มันเป็นเรื่องผิดๆหรือ?
“ผมจำเป็นต้องถามครับ มันคือห้องอะไร? ถ้ามีห้องเหมือนที่ผมคิดผมจะได้ตัดสินใจไม่ทำ พี่และผมไม่เสียเวลา”
ท่านหญิงเสือดำหันมาตอบหน้าตาเฉยๆ
“มันห้องไว้เล่นแรง เล่นเฉพาะทางเช่นชอบล็อกคู่, ชอบโดนล็อก, ชอบเล่นไม้เรียวหรือมือตี, และอีกหลายอย่างแล้วแต่อยากเล่น ทั้งคู่จะทำสัญญายอมก่อนเล่น ไม่ได้มีอะไรรุนแรง ที่นีกฎว่าห้ามเลือดออก และปรับแพงมากถึงขนาดล้มละลายได้หรือไม่ก็ประหารถ้าร้ายแรงมาก และเรามีอำนาจใช้กฎนั้นด้วย”
ท่านหญิงเสือดำมีอำนาจประหารคนได้เลย ผมกลืนน้ำลาย เธอมองหน้าผมรอผมถาม จากนั้นพูด
“แล้วที่นี่ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้า ยกเว้นพนักงาน มันมากกว่าที่อื่น แต่เป็นกฎที่นี่”
อย่างนี้มันเล่นแรงหรือ SM และที่นี่ไม่มีเด็กทำงาน
“มันแค่มีห้องแบบนั้นอยู่ กับห้องทำงานเยอะ”
“ครับ!”
ผมยิ้มสุภาพ ท่านหญิงเงียบ ยิ้มนิดเดียวเท่านั้นแล้วพูด
“หลังจากนี้มันขึ้นอยู่กับผลงานน้องแล้วว่าทำได้แค่ไหน”
“ถ้าอย่างนั้นผมมีความคิดดีๆ!”
ผมรีบเสนอฟรีแม้ยังไม่ได้เป็นพนักงานทดแทนที่ผมทำตัวน่าสงสัย
“เพราะที่ปรึกษาทางใจมีอยู่ในบ้านเกิดผม ผมพอรู้อยู่บ้าง แต่ผมแค่พอรู้ไกลๆเท่านั้น ไมได้เป็นแพทย์”
“แต่เธอเด็กไม่ใช่เหรอ? พูดเรื่องนี้ทำไม?”
เธอเอียงหัวนิดหน่อยและไม่ยิ้มแล้ว ผมรีบพูดความคิดดีๆต่อ
“ถ้าคนของพี่ที่ทำงานรู้เรื่องนี้ไปด้วยล่ะ!? เป็นทั้งคนค้าประเวณีด้วยและปรึกษาทางใจด้วย มันน่าจะทำให้คนอยากมาเยอะขึ้น!”
เธอจับคางคิดสักพักแล้วชะโงกไปข้างหลังผมหันไปข้างหลัง
“เดนีโร วันนี้ประชุมทุกคนตอนโป้งชี้ซ้ายค่ำ เรียกให้ครบทุกคน เราจะปิดร้านประชุมก่อนไม่รู้นานแค่ไหน แล้วค่อยเปิดต่อ”
“ครับท่านหญิง”
เสียงคนที่สั่งให้ผมเรียกท่าน คนที่ตอบเป็นกึ่งม้า มันไม่เหมือนมนุษย์ม้าหรือเซ็นทอร์ที่ร่างล่างเป็นม้า ท่อนล่างเขาเป็นขาม้า เขายืนสองขาเข่ากลับ มีเท้า ล่างเท้าเป็นกีบเขาใช่บูทสีดำเงา
เขาเป็นชายอายุ 30 ต้นๆหน้าหล่อผมหยักศกมัดหางม้าสั้นๆไว้ข้างหลัง เขาน่าจะเป็นมือขวาท่านหญิง ชื่อเดนีโร
ผมคำนับเขาเบาๆแล้วขึ้นบันไดแยกเดินสบายได้ตามท่านหญิงไป เราขึ้นฝั่งขวา
เมื่อเดินออกมาที่ชั้น 2 เห็นผู้ชายกับผู้หญิงตัวใหญ่ยืนสองคนด้านข้างเมื่อขึ้นมา เดินได้ก้าวสองก้าว ผมเห็นว่าข้างหลังกำแพงข้างทางขึ้นชั้น 1 มา 2 เป็นบันไดไปชั้น 3
ผมเก็บความคิด แล้วดูห้องต่อ ห้องเรียงเป็นแถวยาวตรง
เราเดินต่อไปที่ห้องหนึ่งที่มีคนแต่งชุดออกนินจาสีชมพูอยู่ข้างหน้าจะกำลังจะเข้าห้อง แต่มีคนออกจากห้องสวนมา ผมไม่เห็นแม้แต่เงาตอนเขาใกล้ประตู ผู้หญิงชุดนินจาชมพูเดินเข้าไป ท่านหญิงเข้าไป ผมรีบเข้าไป
เมื่อเข้ามาความรู้สึกแรกที่ได้มาคืออุ่นใจและชัดเจน กับกลิ่นเกือบเป็นกุหลาบ มันสว่างขาว อีกฝั่งของกระจกมัวคือที่เห็นบ่อยๆ คือกระจกใสด้านเดียว ฝั่งนี้มองเห็นข้างนอกได้ มีราวให้เลื่อนเอาผ้าปิดอยู่
ผมมองไปข้างบนแล้วเห็นลิชสามตัวเรียงกันอยู่ และความโปร่งจากระเบียงไม้ที่เห็นด้านนอก
ห้องโทนออกขาวอมชมพูอ่อน ไม่มีทอง แต่มันรู้สึกเหมือนตอนแรกมันสะอาดแต่ตอนนี้เตียงสีเตียงเข้มขึ้นจากน้ำ แต่ไม่มีคราบเหนียว ดีที่ผมไม่ต้องไปเห็น แม่บ้านคำนับท่านหญิงเสือดำแล้วเริ่มเปลี่ยนผ้าปูเตียงของเธอไป
ท่านหญิงเสือดำหันมาพูดกับผม
“วารี รู้ใช้มั้ยว่าห้องนี้ผู้ชายกับผู้หญิง, ผู้หญิงกับผู้หญิง, และผู้ชายชายกับผู้ชาย มาทำอะไรกัน”
“พอรู้ครับ”
“ถ้าน้องสนใจ หรือมีคนชวน น้องต้องใส่ไอ้นี้ก่อนใช้”
ท่านหญิงเสือดำเดินไปที่โต๊ะหยิบของเหมือนกองถุงกระดาษเล็ก เมื่อเธอฉีกแกะออกมา มันเหมือนถุงยาง
“เอาไว้กันอะไรครับ?”
“กันไม่ถูกใจหน้าตาช่วงล่าง แล้วก็กันมีเด็ก กันเด็กแบบยาก็มีแต่มันทำให้เนื้อติดเนื้อ ที่ต้องตกลงและแพงกว่า”
ผมถามเธอแต่ได้คำตอบยาวแบบนั้นมา มันไม่มีโรคติดต่อหรือ?
“ไมมีโรคติดต่อเหรอครับ?”
“คืออะไร?”
ท่านหญิงเสือดำกอดอก
“โรคที่ติดง่าย ไม่ป้องกันแล้วจะลามใส่คนอื่น โลกเก่าผมมีที่มันระบาดเพราะไม่ใส่ถุง”
“มีถุงที่อื่นด้วยเหรอ?”
เธองงๆ เธอเงียบไปสักพัก ไม่ได้เรียกพี่เอโกะ
“ไม่มีเลย ไม่เคยได้ยินว่าใครมีด้วยฉันก็ทำมานาแล้วนะ ยิ่งถามยิ่งแปลกนะน้องนี้?”
เธอพูด มองหรี่ตากอดอก ผมไม่พูดอะไรแล้วเธอเกาหัว สาธิตต่อ
จากนั้นเธอเอาถุงยางต่างโลกมาใส่นิ้ว
“เอาถุงอู๊ไปใส่เจ้าหนูน้องก่อนทำ ถ้าถอดต้องถามก่อนและเสียเงินเพิ่ม”
“ทำไมชื่อแปลกจังครับ?”
“มันมาจากสัตว์ที่ชื่ออู๊ริจิที่เอาน้ำลายมาคนในน้ำร้อนต้มใบต้นคริสเตอร์ แล้วเอาไปใส่เบ้าหลอมทำถุง”
เธอรู้ละเอียดดีจัง จากนั้นเธอเอาไปทิ้งที่กล่องที่มีถุงสีชมพูอ่อนรองข้างใน ผมไม่ได้ดูข้างใน
แม่บ้านเดินไปเข้าห้องธรรมดาข้างหลัง แต่มีหน้าต่างสูงเลยหัวคนกับบันไดพิงกำแพงอยู่ด้านข้าง ห้องน้ำหรือ? ทำไมมีบันได
“แล้วจากอู๊ริจินานๆเข้ามันการเป็นถุงอูริจิ เหมือนคริสเตอร์ที่แต่ก่อนเป็นคริ๊สตุ่ร์”
จากนั้นท่านหญิงเสือดำเดินเข้าห้องธรรมดาที่แม่บ้านอยู่ข้างใน ผมตามเข้าไปเมื่อเข้ามาเห็นว่ามันคือห้องน้ำ แม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่หันมาสบตาผม ผมคำนับนิดหน่อยและดูห้องน้ำ
อย่างแรกที่ต้อนรับมันคือกลิ่นเหมือนกุหลาบที่เป็นกลิ่นของที่นี่ กลิ่นแรงแต่ไม่ฉุน มีหน้าต่างกระจกและม่านเห็นข้างนอก
ผมไม่รู้ว่ากลิ่นเรียกว่าอะไรแต่มีเซอร์ปุนอยู่สามตัววางในถึงน้ำใสเล็กๆ
เราออกและเลี้ยวไปเข้าห้องระเบียง
ที่เห็นคือมีอาคารสูงสองกับสามชั้นเยอะแต่ไม่บัง
ผมดูข้างบน มองผ่านระเบียงเยอะด้านบน ที่นี่สูงมาก และไม่มีตึกไหนสูงเท่าหรือพอกับที่นี่เลย
มากสุดแค่สามชั้นกว้างๆ ที่นี่น่าจะ 7 ชั้นได้
ริมระเบียงมีโต๊ะเก้าอี้เล็กๆกับถาดอุ้ยสามแบบมันมีแบบเข้มข้นที่เหนียวๆใส่ถ้วยเล็กๆสองสามถ้วย ผมหันไปหาท่านหญิงเสือดำแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ชั้น 2 มีแต่ห้องแบบนี้”
ท่านหญิงรอผมถาม ผมนิ่ง แล้วเธอเดินออกจากระเบียง ผมตามเธอไป เราออกห้องเลย แล้วไปขึ้นชั้น 3
เราดูชั้น 3 คร่าวๆเพราะเหมือนชั้น 2 ทุกอย่าง
เราเดินขึ้นชั้น 4 มีคนเดินสวนลงมาประปรายเมื่อถึงชั้น 4 สิ่งที่ต้อนรับคือเสียงกิจกรรมคนข้างในเยอะแต่เบาพอได้ยิน และคนเยอะพอดู
มันมีห้องเล็กๆหันหน้าหากันใส่ทางเดิน สุดทางเดินเล็กไปห้องเป็นหน้าต่าง มีห้องหันหากันแบบที่อยู่ทั่วชั้น
และมีพนักงานตัวใหญ่ชายหญิงยืนห้าคน มีอะไรที่เหมือนนกหวีดแขวนคอหน้าบันไดท่านหญิงเสือดำพูด
“ชั้นที่ 4 เป็นห้องเล็ก ถ้าไม่เคยไม่เคยเข้าธรรมดาขึ้นมาห้องไม่ได้ มีห้องเตียงเล็ก, ห้องเบาะ, กับห้องโซฟา สุดทางเดินฝั่งตรงนั้นมีห้องสื่อสาร”
เธอชี้ไปห้องสื่อสาร
“ครับ”
ผมดู มันเป็นห้องกระจกมัว
ผมไม่ได้สงสัยอะไร เธอเว้นให้ผมถามแล้วขึ้นบันไดต่อ แต่ก่อนเธอขึ้นเราได้ยินเสียงนกหวีดดังได้ยินทั่วชั้น แต่ไม่น่าไปชั้นอื่น เราหยุดเดิน แล้วผมเห็นพนักงานตรงบันไดรีบวิ่งไปทางเสียง ท่านหญิงเสือดำมองครู่เดียวสั้นๆแล้วเดินต่อ
เรามาถึงชั้น 5 พนักงานเผ่าหญิงกึ่งยักษ์ที่ยืนรอตรงบันไดมีคนเดียว เธอคำนับท่านหญิงเสือดำ มันเป็นห้องแถวเหมือนกัน แต่สิ่งที่เห็นได้คือห้องใหญ่กว่ามากและเป็นห้องกระจกมัวล้วน ท่านหญิงเสือดำพูดกับพนักงานยักษ์หญิงหน้าสวยบู๊ตัวใหญ่
“มีห้องว่างมั้ย?”
“มีค่ะ ทางนี้ค่ะ”
จากนั้นเราตามเธอไป
“ชั้น 5 เป็นห้องพิเศษ ราคาแพงกว่า และข้อตกลงก่อนขึ้นจะเยอะ มีหลายอย่างเช่น เตียงใหญ่กว่า, โซฟา, ระเบียง, ห้องน้ำมีอ่างใหญ่, และ-”
ท่านหญิงตามพนักงานบันไดเดินเข้าห้องกระจกมัว
“ของเล่น”
เมื่อผมเห็นภายใน มันมีอุปกรณ์ใหญ่ไว้เล่นไม่โหดอยู่สองสามอย่าง โทนสีออกชมพูอ่อนตัดทองชมพูอร่ามงาม มันเห็นแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในที่ที่แพงทุกอย่างยันถังเหมือนถังขยะทองชมพูอ่อน
“แต่แน่นอน ไม่ใช่ของเล่นเด็ก ห้องไว้ทำเหมือนกัน”
จากนั้น เธอเดินไปห้องน้ำกระจกใสเลย เมื่อเข้ามา มันเป็นห้องน้ำใหญ่ กลิ่นเหมือนกุหลาบอีกแล้ว
ผมเก็บความคิดดีๆ ท่านหญิงเสือดำกอดอกหน้าห้อง
“ไปดูห้องให้พอเข้าใจ”
ผมดู มีช่องตักน้ำราดให้เลือกึความร้อน กับอ่างน้ำอุ่นใหญ่
ผมเก็บความคิดฝักบัวกับที่ฉีดก้น
ผมเดินไปหาท่านหญิงเสือดำไม่พูดอะไรเธอรอผมถามแล้วออกประตู
เราเดินออก ไปห้องระเบียงด้านข้าง ระเบียงที่เป็นไม้มันกว้างมีเตียงคนเดียว, โซฟาและโต๊ะเล็กมีอุ้ย, ตัวระเบียงซี่ไม้มีโซ่กับกุญแจมือแบบไม่ใช่เหล็กแขวนอยู่ตรงกลาง
ผมมองข้างนอก ไม่มีที่ไหนสูงเท่าที่นี่จริงๆ และผมเห็นได้ทั้งเมือง
ผมดูตัวเมือง มันเรียบร้อยออกเอเชียเยอะกว่าจริงแต่มีแบบยุโรปกับตะวันออกกลางตลอดเรื่อยๆ มันให้ความรู้สึกว่าเมืองมีคนทุกแนวออกเอเชียส่วนใหญ่
มันเป็นเมืองที่เรียบร้อยมาก ถนนกว้าง ไฟสว่างหลากสีแต่ไม่มากจนไม่เห็นดาวผมมองขึ้นไปและเห็นไกลๆ ข้างล่างมีขี่นกฟาเนิคมีกล่องเยอะ และตึก 3 ชั้นไม่เยอะจนบังเมือง
มันสมัยใหม่แต่ใหม่ในโลกคู่ขนาน
ผมกลับเข้าไปข้างในและเดินไปหาท่านหญิงเสือดำ ท่านเว้นให้พูดแล้วเราเดินออกไปขึ้นบันได
เราไปที่ชั้น 6 เป็นห้องที่ใช้กระจกมัวน้อยมาก ที่พนักงานบันไดมีโต๊ะเก้าอี้นั่งคนเดียวอยู่
“ห้องทำงานทั้งหมด แต่เธอไม่ได้ทำชั้นนี้หรอก”
ท่านหญิงเสือดำเว้นให้พูด หันขึ้นบันไดที่ชั้นบนมีแสงแดด
เมื่อขึ้นมาชั้น 7 หรือดาดฟ้าอย่างแรกที่ต้อนรับคือมันแคบ และสิ่งที่เบียดให้มันแคบคือห้องกระจกมัวล้วนสองฝั่ง
ไม่สะท้อนแสงแดดหรือ? แล้วห้องกระจกดาดฟ้าแดดไม่แรงหรือ? ผมเก็บไว้ถาม
แต่ผมมาตอนแดดจ้าผมไม่เห็นอะไรจ้าอยู่ข้างบน
“ห้องใสด้านนี้เป็นห้องลูกค้าสำคัญ ตอนนี้คนนั้นอยู่มาอาทิตย์นึงแล้ว”
“ครับท่านหญิง”
หนึ่งอาทิตย์ ขนาดนั้นเลย เขาต้องรวยมากแน่ๆ
ท่านหญิงหันหลังเข้าห้องกระจกมัวอีกฝั่ง
เมื่อเข้ามา ผมเห็นหลังพี่เอโกะที่นั่งโต๊ะใกล้ประตูสุด เห็นว่าทางซ้ายมีระเบียง และมีชั้นวางแฟ้มกระดาษโปร่ง มีโต๊ะตั้งแถวห่างๆ
แดดข้างนอกมันส้มแล้ว แต่สีส้มจากแดดไม่เข้ามาทำให้ข้างในส้มตาม ข้างในใช้ไฟลิช
ที่โต๊ะทุกคนจะมีกองกระดาษเตี้ยๆอยู่
“นี่ห้องข่าว ฉันไม่มีแผนให้เธอยุ่งกับห้องนี้หรอก เท่าที่ดู”
ผมหมดสิทธิ์เป็นหน่วยข่าวกรองหรือ? แต่นั่นไม่เป็นไร
“ถ้ามีอะไรจะถามคนห้องข่าวต้องมาถามฉันก่อน นั่นเป็นกฎ”
“ครับ!”
ผมรีบตอบเธออย่างแข็งขัน
เราออกมาแล้วเดินไประเบียงที่อยู่ติดกัน ท่านหญิงเดินไปหลังลูกค้ามนุษย์ที่สูบอยู่
“ขอดูเลขด้วยค่ะ”
ชายกึ่งม้าลายตัวลายจางๆ หันมายื่นมือ
จากนั้นเธอจับดูหลังมือลูกค้า มันมีเลขแปะอยู่ เธอปล่อยมือ แล้วพูด
“ใช้ต้นอุ้ยบ่อยมั้ยคะ?”
“โอ้ย มาทีไรก็ซื้อประจำแล้วขนกลับบ้านเต็มไม้เต็มมือตลอด”
“ค่ะ ขออภัยที่รบกวน”
เธอคำนับเล็กน้อย
“เธอเล่นน้ำมั้ย?”
“ไม่ค่ะ ขอบคุณ”
ลูกค้าถามท่านหญิง เขาผิดหวังนิดๆ
“อืม ไม่เป็นไร”
เขาหันไปดูดต่อ
จากนั้นท่านหญิงเดินไปเข้าห้องข่าว เราตามเข้าไป
“เอโกะรายงานข้อมูลการใช้ของ 8547 ซ้ำอีกรอบว่ามีข้อเสียอะไรมั้ย แล้วมารายงานฉัน”
“่8547 คุณโบเรีย เป็นลูกค้าประจำค่ะ อาการปรกตินะคะ”
“ดูซ้ำอีกรอบก่อน อย่างละเอียด ดูของคนที่ใช้อุ้ยใหม่คนละรอบด้วย ให้แน่ใจว่าชอบต้นอุ้ยแล้วไม่มีข้อเสีย”
“ได้ค่ะท่านหญิง”
จากนั้นท่านหญิงเดินออก
พี่เอโกะเอี้ยวไปหากลางห้อง
“ใครทำของคุณ 8547”
เราออกมาข้างนอก ประตูปิดแล้วเสียงไม่ออกมา
ท่านหญิงเข้าห้องธรรมดาปนกระจกพอดีๆ ห้องมีลวดลายออกเหมือนญี่ปุ่น มีกระถางดอกไม้อยู่ข้างหน้าสองฝั่ง
ที่ห้องนี้ไม่มีลูกน้องรีบตามเข้าไปก่อนผมเหมือนที่เกิดขึ้นประจำ
ผมหันไปดู ผมเห็นคนชี้ประตูเยอะ
ผมลังเลนิดๆก่อนเปิดประตูเข้าห้องที่มีแค่ท่านหญิงเสือดำเข้าไปตามลำพัง
แต่งโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu
ขอเชิญร่วมโดเนทสนับสนุนผลงานโดยการโดเนท ความช่วยเหลือของท่านจะทำให้งานดำเนินต่อไปได้เรื่อย ขอบคุณทุกท่านจากใจมากๆครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu