กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 13 ความรักที่เราเข้าใจ
13 ความรักที่เราเข้าใจ
มันเป็นตอนเย็นของวันที่ท่านหญิงเสือดำจองตัวผม
เอาล่ะ ผมจะต้องออกไปทำงานตอนอายุ 15 แม้ผมเช่าที่นี่อยู่และหาเงินจากต้นราชพฤกษ์ต่างโลก แต่ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้ตลอด
วันหนึ่งต้องมีเด็กใหม่ๆมา และมันจะไม่ใช่ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมแล้วสำหรับการอยู่ให้สบายและผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเราจะอยู่จริงๆยาวๆได้ถึงเมื่อไหร่ หรือว่าไม่ได้
และเมื่อพูดถึงแล้ว สิทธิ์ของต้นราชพฤกษ์นั้นเป็นของที่นี่และพี่โดโรเธีย ผมใช้สิทธิ์ในการเจอคนแรก แต่ผมไม่ได้คิดจะอยู่กับมันตลอด
ผมต้องเปลี่ยนความคิดของพี่โดโรเธียให้ได้ และให้เด็กๆรุ่นหลังผมสบาย
และเพิ่มเติมเพื่อทำให้พี่โดโรเธียไม่ต้องส่งต่อเด็กๆให้คนอย่างบารอนจางผู้ที่ใช้เด็กจนตาย
“พี่วารี”
วิว เด็กครึ่งมนุษย์ครึ่งแมงมุมผิวแทน อดีตหมายเลขสอง มาหาผมพร้อม วี เด็กกึ่งแมวผิวแทนเหมือนกัน พวกเธอเป็นแฝด วีเป็นอดีตหมายเลยหนึ่ง
“มีอะไรเหรอ”
“อย่าไปเลยนะ”
หน้าทั้งคู่ปากตก รีบถามจนดูประหม่า มันเหมือนมีบางอย่างทิ่มแทงหัวใจผม ผมต้องหาทางติดต่อพวกเธอ โอ้ใช่ นกรักนั่นไง!
“เราจะติดต่อกันผ่านนกรักนั้น”
หน้าเธอดูโล่งใจขึ้นมา แต่รีบพูดตามมา
“แต่เราจะจากกันอยู่ดี”
“ใช่ หนูไม่อยากให้พี่ไป”
วีพูดแล้ววิวก็พูดตามมา
“น้องก็ตามพี่ไปสิ น้องมีเงินกันนี่”
พวกเธอไม่พูดอะไร
“ถ้าอย่างนั้นต้องรออีกปีตอนพี่ไมเมื่ออายุ 15”
“เอ๋เราไปเลยไม่ได้เหรือพี่วี”
“เรายังต้องเรียนอีกปีนึง พี่วารีเคยบอกว่าเราขาดการเรียนไม่ได้ ไม่งั้นเราจะไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว!”
“หนูจำได้ แต่ว่ามัน”
เธอนิ่งแล้วจะพูดแต่ไม่พูดซ้ำๆ หลายครั้ง
“เมื่อคิดถึงพี่ คิดถึงดาวนั้น ดาวเราสามคน พี่จะเป็นเหมือนดาวดวงนั้นให้พวกเธอ เราจะอยู่ใกล้กันตลอดไป”
“สัญญากับเรา”
ผมยื่นนิ้วก้อย วีที่พูดยื่นมาก่อนแล้ววิวรีบทำตาม
“สัญญา”
“พี่พูดแล้วนะพี่วารี”
“จ้ะ วิว อย่ากังวลนะ พี่จะกลับมารับน้องๆ”
วิวดูโล่งใจขึ้นแล้วและกลับไปที่เตียง แต่วีมองค้างไว้แล้วไม่พูดอะไรสักพักก่อนกลับไปสู่เตียง
มันมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้และการเตรียมตัวหลายอย่าง อีกอย่างคือผมต้องหาคนประสานงานเผื่อพวกเธองอนกันด้วย
มีความเป็นไปได้ว่าการอยู่กันมานานขนาดนี้แล้วจู่ๆจากไปกระทันหันอาจทำให้พวกเธอโกรธแล้วรับกับชะตาไม่ได้
ที่แย่กว่านั้นพวกเธออาจรับชะตาไม่ได้ คิดไม่ดีกับมันแล้วงอนมันเปลี่ยนไปเป็นไม่คุยกับผม ดังนั้นผมต้องการคนกลางสำหรับแก้ปัญหานั้น
แต่จะเป็นใคร?
พี่โดโรเธียเข้ามา
“มารวมกันใกล้ๆ”
มีอะไร? พวกเราพากันไปรวมกันหน้าเธอ
“เอาล่ะ เนื่องจากว่าได้เกิดมีการจองตัวกันเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าจากบุคคลผู้ไม่เคยมาที่นี่ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว”
หมายถึงผมหรือ? เธอกอดอกผมเด็กดวอร์ฟหมายเลขสิบเอ็ดกับเด็กเอลฟ์หมายเลขสี่เอียงหัว
“ฉันจะมาอธิบายว่า พวกเธอจะต้องทำอะไรบ้างตอนอายุเท่าไหร่”
จากนั้นเธอชูนิ้วชี้และเริ่มอธิบาย
“เมื่อพวกเธออายุ 15 กันเธอจะเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นเธอจะทำงาน แต่ก่อนมันไม่ใช่แบบนี้ แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปมันจะมีกฎแบบนี้ เพื่อเลี่ยงการส่งพวกเธอออกไปเมื่อพวกเธอยังไม่พร้อมเหมือน”
เธอไม่พูดต่อจากนั้นปากเธอตกเสี้ยววินาที
“แล้วเธอจะออกไปทำงาน และเมื่อถึงอายุ 18 เธอจะออกไปหาเลี้ยงตัวเอง หรือ ระหว่างช่วง 15 ถึง 18 ถ้ามีคนอยากจะรับเธอสักคนไปอุปถัมภ์ เธอมีสิทธ์ฟังบทสนทนานั้นและตัดสินใจเอง มันจะไม่มีการจ้างหรือซื้อแล้ว ยกเว้นพาไปทำงานสัญญารายปี”
อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นผมเลือกที่จะออกจากงานตอนครบปีได้
“สำหรับคนที่เป็นอิสระล่ะครับ”
ผมถามแทรกเข้าไป
“คนเป็นอิสระก็เหมือนกัน แม้เธอจะหางานทำได้ก่อน ฉันก็จะต้องหัดให้เธอทำงานที่ไม่ชอบสักปี มันอาจจะเป็นการเสียเวลาถ้าเธอมีเป้าหมายในใจอยู่แล้ว แต่มันเพื่อสั่งสอนเธอให้รู้จักชีวิต อย่างน้อยก็สักหนึ่งปี เพื่อเป็นบทเรียนไม่ให้พวกเธอเหลาะแหละ”
“แล้วถ้าผมได้ไปหาของป่าล่ะครับ”
“นั่นสิแล้วถ้าอย่างผมได้ไปทำงานที่สวนล่ะหรือแปลงผักล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นชะตาของเธอที่โชคดีหมายเลขสามหมายเลขห้า มันเพื่อให้เธอรู้จักชีวิตให้ทั่วถึง ถ้ามันเกิดขึ้นฉันจะพูดแค่ว่าคนเราสักวันหนึ่งอาจต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบ”
จากนั้นเธอกลายเป็นดูหน้าเศร้าๆ
“หรืองานที่เธอคิดว่าชอบมันโหดร้ายกับเธอจนเธอกลายเป็นเริ่มไม่ชอบมัน คนเราไม่ได้โชคดีทุกคน”
ถ้านั่นเป็นแนวคิดของเธอ ชะตาการทำงานที่นี่ก่อนหน้านี้ของเธออาจจะโหดร้ายกับเธอ จนเธอเริ่มเอารักออกห่างมัน
“แล้วก็ วันมะรืนนี้ พวกเราจะไปทัศนศึกษา”
“ทัศน?”
“ศึกษา?”
วีพูดแล้ววิวต่อให้จบจากนั้นพี่โดโรเธียพูด
“มันเป็นการออกไปดูโลกภายนอก หลักๆแล้วฉันจะให้พวกเธอได้ไปดูการทำงานของคนทั่วๆไป เพื่อให้เธอเรียนรู้คร่าวๆแล้วเอามาคิดว่าเธออยากเป็นอะไร เพราะธรรมชาติของคน เราอาจไม่ได้ชอบสิ่งที่เราคิดว่าชอบ”
นั่นเป็นความจริง ผมเห็นด้วย
“และอีกอย่าง ตอนนี้บ้านนี้ ต้องหาหน้าที่อันดีสำหรับเธอให้เธอในอนาคต”
ถ้าอย่างนั้นตอนนี้นั่นเป็นหน้าที่ของเธอ
“เท่านี้แหละที่ฉันจะพูด และสำหรับคนเหล่านั้นที่เป็นอิสระ มะรืนนี้อย่าไปไหน พวกเราจะไปตั้งแต่เช้า”
“ครับ” “””ค่ะ”””
นาสาวเอลฟ์มืดหมายเลขสามก็ตอบรับพร้อมพวกเราสามด้วย
“เท่านี้แหละ มืดเมื่อไหร่ก็รีบเข้านอน”
จากนั้นเธอกวาดตามองพวกเราทุกคนแล้วออกจากห้องไป นาไปหาวีกับวิว ผมเดินไปหาพวกเธอสามเพื่อได้ยินนาพูด
“ฉันตื่นเต้นจังเลยที่จะได้ไปเอิ่ม ทัดซาน้าศึกษา?”
“ทัศนศึกษาจ้ะนา”
ผมบอกเธอ
“อื้มนั่นแหละ เราจะได้ไปข้างนอกแล้ว!”
“แต่นาก็เป็นอิสระอยู่แล้วนี่”
“แต่ฉันไม่ค่อยกล้าออกไปไหนน่ะวิว”
ผมดูพวกเธอคุยตื่นเต้นกันที่จะได้ไปทัศนศึกษากันต่อ เมื่อผมดูดีๆเธอค่อนข้างสนิทกับวีและวิว และเธอเป็นคนพูดอะไรตรงๆจากที่ผมคุยกับเธอ นั่นแหละคนนี้แหละที่จะเป็นคนกลาง!
“นาเธออายุเท่าไหร่?”
“เอ๋? กระทันหันจัง? พี่วาเนสซ่าบอกว่าฉัน 12”
ถ้าอย่างนั้นเธอจะต้องไปทำงานพร้อมกับวีและวิว ผมต้องปรุงแผนอนาคตสำหรับเธอด้วย ถ้าเกิดเธอตกลงตอบรับข้อเสนอของผม
“นา เอิ่ม สนใจมาเป็นผู้จัดการฉันมั้ยฉันไหม?”
ตอนนี้ผมมีเงินอยู่มากเพราะผมขายราชพฤกษ์ไซรัปมาได้ประมาณ 4 ทองต่อวันมาแปดปีมันมีประมาณหมื่นทอง
มันเยอะมากจนคนที่ธนาคารก้มลงแทบจะติดพื้นเมื่อเจอกับผม และบอกว่าผมมีเงินเทียบได้กับระดับเคานต์
มันทำให้ผมอยู่ดีกินดีไปตลอดชีวิตโดยไม่ทำงานแล้ว เมื่อพูดกันง่ายๆ และถ้าเกิดอะไรไม่ดีกับวีและวิว และอาจจะนาด้วย ผมเลี้ยงดูพวกเธอได้ตลอดไปเสมอถ้าผมไม่ฟุ่มเฟือย
“ผู้จัดการของเธอเหรอ? ฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ?”
“เธอต้องคอยแนะนำอะไรดีๆให้กับฉัน และฉันโดนจองตัวไว้แล้ว เมื่ออายุ 15 ฉ้นต้องไปทำงานแล้วจากวีกับวิว”
ผมลูบหัววีและวิว วีเอียงหัว และวิวดูชอบใจจากอาการ
“ระหว่างนั้นเธอจะต้องคอยเป็นคนกลางแนะนำสิ่งดีๆให้กับพวกเธอ เป็นเหมือนมือและปากของฉันถ้าวันหนึ่งพวกเธอไม่อยากพูดกับฉัน”
“เอ แต่ฉันก็ไม่ได้ฉลาดมากขนาดนั้นนี่”
“เธออ่านหนังสือได้ สบายมาก อ่านเรื่องที่เธอสนใจอย่างเดียวก็ได้ ไม่ว่าความรู้ด้านไหนนั้นก็ดีหมด หรือแม้จะเป็นนิยายก็ตาม”
“แต่อ่านหนังสือมันอยู่ในร่มนี่ ฉันชอบแดด”
“เธอเอาหนังสือไปนั่นอ่านกลางแดดได้นี่ ไม่ยากเลยไม่มีใครบังคับเธอ ถ้าเธอเลือกเป็นผู้จัดการของฉัน ฉันจะซื้อหนังสือให้ เธอจะได้เดือนละสองทองเป็นค่าจ้างด้วย”
“โอ้โห สองทอง มันอยู่ได้หลายเดือนเลยนะ เอาสิๆ”
เธอเปิดตากว้างและพยักหน้ารัวๆ รอยยิ้มก็กว้างด้วย แต่ผมรีบพูดก่อน
“ตอนนี้เงินมันล่อใจ ลองคิดถึงสิ่งที่เธอต้องทำเมื่อเธอรับหน้าที่นั้นสักวันก่อน คิดดีๆ เพราะฉันอาจจะจ้างเธอนานกว่าที่เธอคิด”
“โห่ อะไรกัน ตั้งสองทองไม่ต้องคิดแล้วแหละ”
เธอไหล่ตก
“คิดก่อนน่าเดี๋ยวเธอไม่ชอบแล้วจะเสียใจเปล่าๆ ค่อยๆคิด ฉันไม่รีบ”
“อย่างนั้นเหรอ ได้เลย แต่ฉันรับแน่ เตรียมจ่ายสองทองไว้เลย! ถ้าไม่จ่ายฉันจะเอาจอบตีหัวแล้วรอเดือนหน้า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอน ไม่ใช้ดาบเหรอ ฉันฝึกสู้ให้ได้นะ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่หรอก ฉันไม่ชอบน่ะการเจ็บตัวมันน่ากลัว”
“อื้ม เก็บไว้คิดเผื่อสักวันก็ได้น่า”
“หืม? ได้สิถ้าอย่างนั้น!”
เธอยิ้มกว้างจากนั้นเดินกระเด้งขาไปก้าวหนึ่ง
“เดี๋ยวก่อน เธอย้ายเตียงมาใกล้วีกับวิวได้มั้ย?”
“อืม ได้สิ ไม่มีปัญหา สองทองสองทอง ฮี่ฮี่ฮี่”
จากนั้นเธอเดินกระเด้งต่อกลับไปที่เตียง
จากนั้นวีรีบพูดหรี่ตา
“พี่ชอบนาเหรอ?”
“เอ๋?”
วิวตกใจตาม หรี่ตาตาม
“ก็ชอบเธออยู่นะ เธอทำงานให้พี่เก่ง เธอไม่เคยมีปัญหาเลย แต่มันยังไม่ใช่ความรักหรอกนะ ไม่ต้องห่วง”
“พูดถึงความรักแล้ว ระหว่างเรา พี่รักใครเหรอ?”
“โอ้โห เข้าใจถามคำถามโหดร้ายนะวิว ฮ่าฮ่าฮ่า คำตอบคือ พี่ยังรักไม่ได้จนกว่าจะ 21 ไปครึ่งปี”
“”เอออออ๋!?””
“ทำไมอ่ะ นั่นมันนานโขเลย!”
“นั่นดิ พี่เลือกตอนนี้ก็ได้นี่ พี่อยู่กับเรามานานโขแล้ว”
“อืม สำหรับพี่ พี่ว่าความรักมันกว้างตามจิตใจของเรา เราสามารถรักหลายคนเท่าๆกันได้โดยที่มันไม่น้อยลงไปถ้ารักมาก”
“แต่นั่นมันหลายใจ!”
วีรีบพูด
“ต้องอธิบายยาวนะ เธอพร้อมจะฟังมั้ย หรือเธอไม่อยากฟัง?”
“เร็วๆเลยบอกหนูมา”
“หนูกลัวคำตอบอ่ะ”
วีเร่งผมส่วนวิวกลัวมัน
“เอิ่ม หลายใจคือเธอรักเพื่อครอบครอง แต่ความรักไม่ได้เพื่อครอบครองกัน คือความพอใจที่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป วันหนึ่งมันสามารถหายไปได้ ไม่มีใครรู้มัน แม้แต่คนที่คิดรักเองก็อาจเปลี่ยนไปได้ วิธีเดียวที่จะรู้หรือไม่รู้ ก็คือเธอรู้สึกมัน”
“มันน่ากลัวจริงๆด้วย พี่วี!”
“มันดีกว่าที่ได้รู้ตอนนี้ วิว”
“แล้วทำไม่เรายังไม่รักกัน”
“นั่นดิ ทำไมต้องรอนาน”
วิวพูดต่อจากวี ผมรีบพูดขึ้นมา
“ร่างกายเรามีส่วนที่เรียกว่าสมอง น้องๆรู้จักกันใช่มั้ย วี วิว”
“”รู้! มันเอาไว้คิด””
“สมองมันมีหลายส่วน มีส่วนเอาไว้คิด มีส่วนเอาไว้สร้างสรรค์ และอื่นๆ แต่มันยังไม่มีส่วนกลางก็คือส่วนควบคุมอารมณ์”
พวกเธอพยักหน้า ดีที่เธอเข้าใจง่าย
“ส่วนนั้นมีสร้างขึ้นเมื่อตอนอายุ 21 เมื่อวันนั้น พวกเธอจะเป็นผู้ใหญ่จริงๆ คิดเพื่อตัวเอง เพื่ออนาคตจริงๆ ตอนนี้เมื่อยังไม่มีส่วนนั้น พวกน้องจะตัดสินใจทำอะไรกันตามอารมณ์ เมื่อมีส่วนนั้นขึ้นมาส่วนนั้นจะคิดก่อนตัดสินใจได้ และเมื่อส่วนนั้นเกิดขึ้นมาพี่จะรักเธอได้เต็มหัวอก”
ผมลูบหัววีและวิว พวกเธอกำลังเอามือจับคางและหลับตา
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาแต่งงานกันได้ตอนอายุ 15”
“เรื่องนั้นพี่ก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะข้อมูลคนตั้งอาจยังไม่พอ หรือคนตั้งนั้นเคยเจอรักแท้ วี”
“มีรักแท้ไม่แท้ด้วยเหรอ”
“รักแท้คือรักนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนไป เขาอยากให้คนอายุ 15 ที่เจอรักแท้ได้รับความสุขเร็วๆ วิว”
“เอ๋ แล้วจะรู้ได้ไงว่าแท้ไม่แท้”
“ไม่มีใครรู้ได้หรอกนอกจากคนรักแท้ นั่นแหละมันเลยเข้าใจยาก คนอื่นจะไม่รู้ เลยคิดไปเป็นอย่างอื่น วี”
“ถ้าอย่างนั้นหนูรักแท้ๆ แน่นอน!”
วิวทำมันกลายเป็นรักแท้ๆ ผมลูบหัวเธอ
“พี่เชื่อ พี่ก็ด้วย”
“น่ะ น่ะ หนูก็รักแท้!”
“พี่ก็เชื่อเช่นนั้น”
ผมบอกวิวแล้วบอกวีผู้หน้าแดง
“”แล้วพี่ล่ะ?””
จากนั้นเธอตาส่ายไปส่ายมา เหมือนพวกเธอจะกลัว
“รักแท้ แน่นอน ตลอดไป”
“”ฟู่วววว””
พวกน้องๆเขาถอนหายใจ
“ถ้าอย่างนั้น เอิ่ม ทำไมพี่ไม่ฝึกกับเรา!”
“ใช่ๆ”
วิวเห็นด้วยกับวี
“เพราะว่า เอิ่ม พวกเธอจะไล่จับที่แปลกๆพี่ พี่รู้”
“ป่าวเลยนะ!”
“น่ะ น่ะ นั่นไม่ใช่เลยพี่!”
วิวรีบปฏิเสธ วีพูดขัดๆ
“แม้มันเป็นรักแท้ เรายังเด็กกันเกินไป ถ้ามันรักแท้จริงๆ เราจะรอกันได้ ระหว่างช่วงเวลาเราเติบโต จงเติบโตและศึกษากันดีๆ อย่าเพิ่งรีบทำอะไร มันจะดีกว่า”
ผมทำหน้าตาจริงจังที่สุด
“นานอ่ะ ไม่เห็นดีเลย”
“หนูเข้าใจแล้ว”
วิวบ่น แต่พองแก้มหน้าแดงน่ารักๆ วีเข้าใจ
“ถ้าอย่างนั้น หนูจะไม่จับแล้ว หนูอยากฝึกกับพี่ อย่างนั้นจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้!”
“เอ๋พี่วีไหนว่าเราจะจับให้ได้! ถ้าอย่างนั้นหนูด้วย”
“จ้า พี่เชื่อ แต่อย่าเปิดเผยความลับส่วนตัวของกันและกันเลยวิว ฮ่าฮ่าฮ่า”
“พี่ก็เป็นพวกเราด้วย มันไม่เป็นไร!”
วีพูดตามผมมาอย่างเร็ว ยิ้มกว้าง
“แต่”
“มีแต่ด้วย หนูกลัวอ่ะพี่วี!”
“นั่นก็ด้วย ถ้ายังไม่เข้าใจอย่าเพิ่งไปรีบกลัวมัน วิว มันจะกลายเป็นอคติ”
“เอ๋ มีแบบนี้ด้วย!”
“มีสิวิว ต่อจากแต่นั้นก็คือ แต่พี่ยังไม่พร้อม ขอเวลาพี่ 3 เดือน พูดกันตรงๆ ร่างกายของพี่กำลังจะหมดปัญญาไปสอนพวกน้อง พี่ต้องฝึกฝนหนัก เพื่อให้ร่างกายมีปัญญามาสอนดีๆ และเมื่อฝึกฝนหนัก ตอนนี้พี่ไม่เหลือแรงไปสู้พวกเธอ ข่าวดีคือ มันอาจจะเร็วกว่า 3 เดือนถ้าพี่สุดแสนจะตั้งใจ ซึ่งพี่ทำแบบนั้นอยู่ แต่ข่าวร้ายก็คือมันอาจจะช้ากว่านั้นเข้าไปอีก ได้โปรดรอพี่”
ผมพูดอย่างเศร้าๆ
“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง พี่จะแพ้อย่างเดียวแล้วก็ไม่บอก”
“ฮ่าฮ่าฮ่า มันเป็นอย่างนั้นแหละ”
วีถอนหายใจดูโล่งอีกคร้งใจจากนั้นคิด วิวพยักหน้า
“หนูมีคำถาม”
“ได้เสมอวี”
“ถ้ารักแท้ที่หนูมีกับพี่ มันเต็มหัวใจแล้วล่ะ”
“แล้ววิวล่ะ วี”
“เอ๋? หนูก็รักวิว นั่นก็เต็มหัวใจเหมือกัน”
“ถ้าอย่างนั้น นั่นแหละคือคำตอบ เห็นมั้ยว่าความรักมันใหญ่”
“แต่มันไม่เหมือนกัน?”
“ลองคิดดีๆว่ามันต่างกันตรงจะครอบครองรึเปล่า”
วีขมวดคิ้วดูคจับคางค้างไว้ วิวเอียงหัว
“อย่างนั้นเองเหรอ? พี่วารี หนูเข้าใจแล้ว”
วิวพูดก่อน
“อย่างนั้น นั่นก็ดี ขอแค่เราเข้าใจ”
“รัก เข้าใจ”
วีพูดเว้นระยะยาว
“เข้าใจแล้ว”
จากนั้นเธอเข้าใจ ผมลูบหัวพวกเธอแบบขยี้เกาๆทั้งคู่
“แล้วสรุป พี่รักนาป่ะ”
คำถามตอบลำบากจากวิวอีกแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้ยัง พี่สัญญาอนาคตไม่ได้ถ้าเราได้อยู่ด้วยกันนาน ถ้าเธอรู้เข้าพี่อาจทำเธอเสียใจ”
“เอ๋ ความรักมันเข้าใจยากจัง พี่ไม่ได้หลายใจจริงๆนะ?”
วีหรี่ตา
“พี่จะไม่มีวันเลิกรักเธอกัน วี วีว เราจะรักกันแน่นอน”
ผมยื่นนิ้วก้อยอีกครั้ง พวกเธอยื่นมาเกี่ยวตอบพร้อมๆกัน
“มีคำถามอีกมั้ยล่ะ พี่ยินดีตอบพวกน้องเสมอนะ”
“ตอนนี้ไม่มี แต่หนูสัญญาไม่ได้หรอกนะว่าจะไม่มีอีก”
“พี่พร้อมตอบน้องตลอด ทั้งคู่”
“หนูจะไปนอนแล้ว เผื่อพี่วารีเขาพร้อมพรุ่งนี้!”
วิวรีบวิ่งกลับไปที่เตียง ระหว่างที่ยังไม่ถึงวีตะโกน
“อ้ะ นั่นจริง รอด้วยวิว!”
วีตะโกนเรียกวิว
พวกเธอช่างน่ารักจริงๆ
ผมยิ้มค้างคนเดียวกับที่ได้เจอพวกเธอในชีวิตนี้
ผมลงไปนอนที่เตียง มือไว้หลังหัว
พรุ่งนีั้ผมต้องไปตลาด ซื้อนกรัก 2 ตัว ไม่สิ ต้อง 3 ตัวให้นาไว้ติดต่อด้วย
จากนั้นแก้ปัญหาเรื่องอาวุธที่ใช้ป้องกันดาบจริงไม่ได้ ผมต้องเปลี่ยนมันเป็นเหล็กที่ไม่คม มันเป็นแท่งเหล็กกลมไม่ได้ เพราะพี่ช่างดวอร์ฟทำเหล็กกลมไม่ได้
มันมีหลายอย่างที่ต้องทำตอนนี้ และผมก็แอบดีใจที่จะได้ไปทัศนศึกษาด้วย
ผมต้องวางแผนสำหรับพรุ่งนี้ให้ดีๆ เพื่อที่ผมจะได้มีเวลากลับมาฝึกหนักๆ
มีหลายอย่างที่ต้องทำจริงๆ แต่ผมพร้อม พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไป
ผมคิดแผนไม่นานนักแล้วเริ่มงัวเงีย
ซื้อนกรัก สร้างอาวุธใหม่ ไปที่ไหนก่อนดี? อาวุธใหม่สร้างกี่อันดีล่ะ? เผื่อไว้สักสามชุดจะเยอะไปไหม?
เอาน่า ผมมีเงินเผื่อไว้ช่วงไปทำงาน ท่านหญิงเสือดำน่าจะพาผมเป็นเป็นผู้คุ้มกันลูกค้าหรืออาคาร ผมไม่รู้ว่าที่ทำงานเป็นอย่างไร
แต่ดูจากลูกน้องพวกเธอที่มากมายแล้ว ผมเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ฟังเธอเพราะกลัว แต่เป็นความเคารพจากสีหน้าของพวกเขา
ถ้าอย่างนั้นผมเชื่อว่างานนั้นจะดี
ผมหลับพร้อมรอยยิ้ม