กำพร้า ณ ต่างโลก - ตอนที่ 10 อิสรภาพ
10 อิสรภาพ
มันเมื่อวานที่เราไปตลาดกัน ตอนนี้มันเย็นแล้วในวันนี้ เราคืนตุ๊กตาแล้วไปเตรียมตัวนอน ผมอยากไปตลาดอีก แต่ก่อนหน้านั้น
โอ้ใช่เมื่อวานตอนผมใส่ท่อเหล็กอ่อนเก็บราชพฤกษ์ไซรัปเพื่อเก็บน้ำให้เป็นแปดกาละมัง ผมได้แผลลึกมา แต่วันนี้ตอนเช้ามันก็หายสนิท แผลลึกนั้นหายในหนึ่งวัน
ผมนำกิ่งต้นราชพฤษ์มาแล้วเดินไปเตียงวิวก่อน
“วิวมากับพี่ เราจะเพิ่มการฝึกก่อนซ้อมต่อสู้”
เธอดูอยากรู้อยากเห็น แล้วเธอก็ตามผมมาไปเตียงวีกัน
“หมายลขหนึ่ง เพื่มฝึกก่อนซ้อมสู้ ที่ตอนนี้จะเรียกว่าฝึกอุ่นร่าง”
“อีกแล้วเหรอ ได้สิ แต่เราจะฝึกกันทันมั้ยล่ะ มันจะไม่เลยไปเที่ยงเหรอ?”
เธอดูมีคำถามเหมือนเคยๆ เธอเป็นแมวขี้สงสัยเหมือนเคย
“เอาไม้ขึ้นมา แล้วเอามาเคาะกระดูกไร้เนิ้อเช่นหน้าแข้งกับหมัด, ศอก, เข่า, และข้างหลังท่อนแขน อย่างนี้ เบาๆพอเจ็บๆ เน้นว่าไม่แรง”
“ไหนๆ”
ผมเอาไม้เคาะแข้งเบาๆเรื่อยๆแล้วระหว่างนั้น
“ก่อนเธอถามพี่จะบอกว่าเมื่อเคาะกระดูกจะได้รับบาดเจ็บ และมันจะสร้างใหม่ให้แข็งแรงกว่าเดิม แต่การเจ็บตัวทำให้เธออดซ้อม เราจึงต้องเคาะมันเบาๆแต่เรื่อยๆ ทำมันให้นานทำเมื่อไหร่ก็ได้ที่ว่าง”
“และแข็งขึ้นมันดียังไงล่ะ”
วียังคงหาคำถามมาได้เธอช่างใฝ่เรียนรู้ น่ารักจริงๆ ส่วนวิวไม่มีคำถามอะไรกับผมเลยเธอคิดว่าอะไรที่ผมบอก จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น
“ตอนเตะไปโดนกันเจ็บมั้ยล่ะ”
“”เจ็บ””
“ถ้ากระดูกเธอแข็งเวลาโดนกันมันจะไม่เจ็บ เธอจะสามารถเตะแรงขนาดที่ว่าการตั้งป้องกันจะกระจุยไปได้ และเธอจะไม่รู้สึกอะไรมากหลังจากนั้น ถ้าเธอทำมามากพอ หลักๆคือเคาะให้ตอนเคาะมันพอเจ็บแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่”
“อย่างนั้นเหรอ อื้ม ได้”
“ได้เลย”
วีกับวิวยิ้มแย้มเห็นฟัน ดูกระตือรือล้น พวกเธอทั้งสองชอนการต่อสู้กับการปล่อยท่ามากมาย ถ้าวันหนึ่งเธอเบื่อมันแล้วล่ะ? ถ้าวันนั้นเธอมีเรื่องที่พวกเธอสนใจกันมากกว่า ผมก็ยินดีกับพวกเธอและสนับสนุนเรื่องนั้น
“ตอนเช้าเพิ่มการเคาะมันประมานสองนิ้วชี้ ถ้าพี่ไปตลาดได้ใหม่พี่จะไปซื้อเป้ามาไว้ต่อยไว้เตะ”
“อิ้ม”
“ได้เลย!”
“กับเพิ่มตะโกนท่ากระโดดม้วนทุกทิศเข้าไปด้วย”
“”เอออออออ๋!!!””
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
ผมหัวเราะและผมกลับไปที่เตียง หลักๆแล้วเราสู้กันในบ้านไม่ได้ เพราะพี่วาเนสซ่าเคยมาเห็นแล้วเราโดนเทศกันชุดใหญ่ ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาของเรานั้นคือให้วิวโยงใยบางๆที่มองไม่เห็นไว้ระยะหนึ่งทึ่แถวหน้าประตู และเชื่อมมันเข้ากับกระดิ่ง
เมื่อมีคนเดินมามันจะเป็นกระดิ่งเตือน มันเป็นความคิดของวิว จากนั้นผมให้พี่อลิสซิ้อกระดิ่งให้เมื่อตอนนั้น
และดังนั้นเองผมต้องแก้ปัญหาการออกข้างนอกไม่ได้ ผมเห็นโดโรเธียเดินออกมาจากห้องน้าซ้ายมือ โอ้ใช่ พี่เขาไง!
ผมลุกจากเตียงแล้วเดินไปเคาะห้องโดโรเธีย
“หมายเลขแปดครับ”
“หมายเลขแปดเหรอ”
“มีอะไรกัน”
ผมได้ยินเสียงของป้าโดโรเธียถามและพี่วาเนสซ่าถามอย่างตกใจ
“เข้ามา”
เมื่อเสียงโดโรเธออนุญาตให้เข้าห้อง ผมเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่ผมเห็นคือแสงแดดสีส้มส่องผ่านหน้าต่างยามเย็น กับกลิ่นถึงอากาศที่ถ่ายเทมาน้อยๆจากลานหญ้ารอบบ้าน กับโดโรเธียที่อ่านอะไรเหมือนหนังสือพิมพ์กินสลัดไข่ ผมปิดประตูและหันกลับไป
พี่วาเนสซ่าดึงหนังสือพิมพ์ลงให้บังสลัดไข่
“พ่ะ-พี่โดโรเธียเขาอยากอ้วนจะได้ดูแลตัวเองให้อยู่ไปนานๆครบร้อยปี”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะแนะนำให้ใส่น้ำเยอะๆครับ”
พี่วาเนสซ่าอ้างให้โดโรเธียแล้วโดโรเธียก็วางหนังสือพิมพ์แล้วอ้าปากถามผม
“่แล้วน้องไปรู้มาจากไหน?”
“ตลาดครับ”
“อย่างนั้นเหรอ ฉันจะพิจจารณา ว่าแต่เธอมาทำอะไร?”
“นั่นดิ?”
โดโรเธียถามผมและพี่วาเนสซ่าก็พูดตามมา
“ผมจะเปลี่ยนจากอยู่เป็นเด็กกำพร้ามมาเป็นซื้อสิทธิ์อยู่อาศัยอันหมายถึงเช่า ผมหมายเลขแปด หมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองจะเปลี่ยนเป็นเช่าอยู่ โดยเราจะเป็นอิสระ และเราจะให้ค่าที่พัก, ค่าอาหารทั้งหมดของพวกเรา, ค่าบริการซักผ้า, และบริการเลี้ยงอื่นๆ”
“พี่โดโรเธียคะ ส่วนใหญ่มันเป็นงานยัยอลิสเมียคนคุกอยู่แล้ว ยกเว้นวันที่ยัยนั่นไม่ว่าง ภาระมันไม่เยอะมาก”
“อืม และเราจะได้รายได้ประจำด้วย น้องวาเนสซ่าฉันขอกระดาษหน่อย”
พี่วาเนสซ่าไปหยิบกองกระดาษข้างชั้นวางหนังสือใหญ่ที่มีหนังสือมากมาย เธอลงทุนหาความรู้เยอะ
“ว่าแต่ น้องจะเอาเงินจากไหน”
“ต้นไม้หน้าบ้านครับ”
“ต้นราชพฤษ์หน้าบ้านเหรอ สัญลักษณ์บ้านเด็กกำพร้านั่นน่ะเหรอ”
“ถูกต้องครับ”
ผมตอบโดโรเธีย เธอขมวดคิ้ว
“หาเงินจากมันเดี๋ยวนายก็โดนคนดูถูกเอาหรอก”
“เรื่องนั้นเรื่องเล็กครับ”
อืม เธอคำนวนเลข ณ กระดาษขาว
“กระดาษมาจากไหนครับ”
“ว่าเนสซ่าบอกน้องเขาไปทีสิ”
“เครื่องทำกระดาษ มันมีมาตั้งแต่โบราณแล้วตั้งแต่ยุคสร้างหลังพวกเขาสร้างภาษาและการตีพิมพ์”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“อืม”
ผมขอบคุณพี่วาเนสซ่า และผมก็รอสักพัก
“สิทธ์นั้นราคาห้าเงินต่อเดือนจ่ายก่อนอยู่ ถ้าเดือนไหนน้องไม่จ่ายรวมถึงเดือนนี้ด้วยจะยังไม่มีสิทธ์”
“ยินดีครับ ผมจะเอามาจ่ายเดี๋ยวนี้”
ผมเดินออกไปห้องผม วีกับวิวกำลังคุยเล่นกับอยู่กับหมายเลขสามเอล์ฟมืดหูแหลมตัวผิวคลัำ ผมไปหยิบถุงเงิน และเดินกลับไปห้องโดโรเธีย
ผมจ่ายห้าเงินให้โดโรเธียห้าเงิน
“ยินดีต้อนรับผู้เช่าสามคนแรก กฎคือนอนหลังมืดเลยชี้ล่างไปนิดหน่อย กับเช้าเลยชี้บนไปนิดหน่อยหลังกินข้าวเที่ยง ผิดกฏคือหักสิทธ์ กฏนี้จะอยู่จนเธออายุสิบห้า”
“เข้าใจแล้วครับ”
น่าจะเป็นตอนเรื่มมืดกับหลังข้าวเที่ยง
“มีอะไรอีกมั้ย?”
“ไม่มีครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอ-”
“ฉันขอถามอะไรหน่อย”
“เชิญครับ”
พี่โดโรเธียถามผมสีหน้าสงสัย
“ทำไมเธอไม่ไปเช่าโรงแรม สภาพมันดีกว่าที่นี่”
“เพราะผมเป็นเด็ก ผมยังต้องมีผู้ใหญ่”
จริงๆแล้วผมเห็นค่าการเรียนการสอนที่นี่กับต้นไม้ แต่ต้นไม่นั้นเป็นของที่นี่ดังนั้น พูดว่าการที่ผมต้องการที่นี่จะแม่นยำกว่า
“ถ้าอยากนั้นผมขอถามด้วยครับ”
“ได้สิ ว่ามา”
“ทำไมห้องนอนไม่มีหน้าต่าง มันทำให้กลิ่นอับ”
“เรื่องนั้นฉันรู้ ถ้าเด็กเห็นข้างนอกมากๆในห้องที่อยู่นานๆ มันจะเพ้อเจ้ออยากออกไป”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะซื้อสิทธ์ติดหน้าต่างให้น้องๆได้มั้ยครับ”
เธอเงียบไป กลับลังขมวดคิ้วเอียงหัวคิด ระหว่างนั้นผมมองรูปลักษณ์ของเธอ เธออายุประมาณสี่สิบว่าหน้าตาธรรมดา ผมหันไปดูพี่วาเนสซ่า เธอเป็นผู้หญิงสวยผมบลอนด์และมีหูแหลมที่หูขวาเธอที่มีต่างหูเด็กกำพร้าอยู่
“ระหว่างพี่คิดผมขอถอดต่างหูด้วยได้มั้ยครับ”
“ตามสบายสิ”
จากนั้นเธอนิ่งไปสักพักแล้วเลิกเอียงหัวมามองผม
“ว่าแต่ พวกเธอสามจะชื่ออะไรกัน เธอเลี้ยงตัวเองกันได้แล้วนี่ระหว่างเช่าน่ะ”
“ผมหมายเลขแปดชื่อวารี หมายเลขหนึ่งชื่อวี หมายเลขสองชื่อวิว-”
“วีกับวิวมันสั้นไปไม่มีใครเขาทำกัน”
“มันเป็นชื่อเล่นครับชื่อเต็มของวี คือ เวโรนิก้า ชื่อเต็มของวิว คือวิลเฮล์มีน่าครับ”
“แปลกดีนี่ ชื่อแรกเหมือนคนประเทศใหญ่จากทิศเหนือ ส่วนชื่อสองเหมือนคนจากเยอรกูรที่อยูทวีปทิศตะวันตกมันใหม่ดีแต่เป็นชื่อที่ผ่าน”
จากนั้นเธอลงไปคำนวนเลขที่กระดาษ
“พี่โดโรเธียชอบอ่านหนังสือเหรอครับ”
“น้องวาเนสซ่าตอบที”
“ได้เหรอพี่”
“มันไม่เป็นไร พี่ไม่อะไรกับมันแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอ”
พี่วาเนสซ่าดูหน้าตาเป็นห่วงพี่โดโรเธีย
“พี่เขาเคยโดนหาว่าโง่ออกไปทำมาหากินไม่ได้น่ะ”
ถ้าอย่างนั้นนั้นเป็นปมของเธอ
“ผมว่าพี่ฉลาดครับ เหมือนแม่เลี้ยงที่ดูแลลูกสิบคนได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
เธอหัวเราะ วางดินสอและเงยหน้ามาหาผม
“ฉันอยากตัวอ้วนๆ มีลูกเยอะ อายุครบร้อยปีเหมือนนางงามทุกคน”
“อย่างนั้นเหรอครับ กินน้ำมันเยอะๆครับ ดีจริง”
“อืมๆ”
อายุยืนมาจากความอ้วนหรือความมีสุขและเห็นค่าของตัวเองกันแน่ ผมสงสัย?
พี่โดโรเธียคำนวณต่อสักพัก
“หนี่งทอง”
“ได้ครับ”
ผมหยิบหนึ่งทองพี่โดโรเธียรับทองไป
“จะเริ่มทำให้พรุ่งนี้เลย”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว”
“เชิญ”
ผมขอตัวและคำนับให้วาเนสซ่าจากนั้น ณ เวลาที่ออกจากห้องมา
“ฟู่วววว”
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมคุยกับพี่โดโรเธีย มันมีความกลัวนิดหน่อยอยู่ตลอด แต่ดีที่พี่เขาตอบตกลงง่ายๆ
ผมมองหน้าต่าง ตะวันตกดินไปสักพักแล้วและมันมืดแล้ว
ผมกลับไปที่ห้องนอน เปิดประตูเข้าไปเห็นวีกับวิวยังคุยเล่นกันอยู่ที่เตียง ผมเดินไปหาพวกเธอ
“หมายเลขหนึ่ง หมายเลขสอง”
“มีอะไรเหรอพี่หมายเลขแปด”
วีถามหน้าตาดูสงสัย วิวมองแล้วยิ้ม
“เราเช่าที่นี่อยู่แล้วนะ”
“หืม? หมายถึงอะไร?”
“หนูต้องดีใจป่าว?”
วีถามเพิ่มเข้ามา ดูสงสัยหนักกว่าเดิม วิวสับสน
“เราจะเป็นอิสระ ออกไปตอนไหนก็ได้”
“เอ๋? ได้ไง?”
“เย้!”
ผมลูบหัววีผู้มีคำถามเพิ่มขึ้นกับวิวผู้ดีใจ
“เงินและการทำงาน”
“อย่างนั้นเหรอ?”
จากนั้นวีคิดสักพัก วิวหยุดดีใจแล้วคิดด้วย
“พี่เข้าใจป่ะพี่หมายเลข-”
“วิวจะชื่อเล่นชื่อวิว ชื่อเต็มชื่อ วิลเฮล์มมีน่า สวนเด็กแมวคนนี้”
ผมลูบหัววี เธอเงยหน้าลดหัวอย่างช้าๆ
“วี จะชื่อว่า เวโรนิก้า”
“วิลเฮล์มมีน่า”
“เวโรนิก้า”
พวกเธอตาเป็นประกาย
“เราเรียกชื่อกันในนี้ได้เหรอ”
“พวกเราเช่าอยู่ พวกเราทำได้”
“ว่าแต่พี่วีเข้าใจที่ว่า ที่ว่าเงินและการทำงาน”
“พี่ว่าพอนึกออก ต้องมีการทำงานและพอทำงานและก็จะมีเงิน อย่างนั้นเหรอพี่วารี”
“อ๋อ เข้าใจด้วยเหมือนกันแล้ว เย้ๆ”
“ถูกต้อง”
ผมลูบหัวพวกเธอทั้งสอง ผมไม่แน่ใจว่าลูบแมงมุมและพวกเขามีความสุขไป เพราะผมเคยอ่านมาว่าถ้าเลี้ยงแมงมุม มันจะไม่แม้แต่จะจำเราได้ และแมงมุมเป็นสัตว์ที่ไมสมควรนำมาเลี้ยง แต่เมื่อไหร่เธอผมลูบ แรกๆวิวดูงง จากนั้นดูชอบมัน
ผมลูบวิวเบาๆและเกาหัววีแรงๆดูก่อน มันทำยาก แต่ผมเคยปล่อยหมัดสลับสองข้างช้าเร็วไม่เท่ากัน จากนั้นผมดูการตอบสนองวิวดีๆ
วิวยิ้มเหมือนทุกทีที่ผมลูบเบาๆ และขยับขาร่างล่างทั้งแปดของเธอขึ้นลงและยิ้มเหมือนเคย เธอน่าจะชอบมันผมว่า ผมควรถามเธอเพื่อให้แน่ใจ
“ลูบหัวอย่างนี้รู้สึกดีไหมวิว”
“เอ หนูไม่รู้ดิ มันแปลกๆแต่หนูชอบ”
“อย่างนั้นเหรอ”
อย่างน้อยเธอก็ชอบมัน
“ทำไมพี่ถึงทำงานให้เรา”
วีถาม ผมคิด ผมลืมตาครั้งแรกมาเห็นพวกเธอ วันนั้นผมรู้จักพวกเธอ เมื่อรู้จักกับพวกเธอ พวกเธอไม่ได้รู้สึกเหมือนลูก แต่เป็นเพื่อนแท้ครแรกทั้งคู่อย่างนั้นหรือ?
“วีกับวิวเป็นเพื่อนแท้คนแรกทั้งคู่ของพี่”
“อย่างนั้นเหรอ”
“เอ๋พวกเราไม่ใชแฟนเหรอ พวกเราสนิทกันดี๊ดี”
“ฮ่าฮ่าฮ๋า เราเป็นแฟนกันได้ถ้าหนูไม่ได้เป็นแฟนใครกับตอนอายุสิบห้า เพราะสมองเธอยังตัดสินตามอารมณ์อยู่ มันยังไม่ถึงเวลา”
“อย่างนั้นเหรอ”
“เอ๋?”
วีเข้าใจ วิวดูงงๆ
“นอนก่อนเถอะ พักผ่อน วันนี้ได้เวลานอนแล้ว”
“อื้ม”
“ได้!”
ผมเดินจากเตียงวีกับวิวมาและมาที่เตียงผม แล้วผมก็นอน
ผมฝันว่าเรากำมลังซ้อมสู้กันในทุ่งหน้ากว้าง ยิ้มร่าแยกเขี้ยวกันทุกคน
7 วันผ่านไป
—————————————
ผมตื่นมาเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ผมไปปลุกวีกับวิว
ผมลูบหัววี เธอเปิดตากระทันหัน แต่พอเห็นว่าเป็นผมเธอก็หรี่ตาลงและเริ่มงัวเงีย
“หาววววว เช้าแล้วเหรอ?”
“อื้ม”
ผมบอกเธอจากนั้นเธอนั่งขึ้นและเริ่มยืดแขนยืดขา
ผมเดินไปเตียงถัดไป เราอยู่กันริมหน้าต่างตรงบานกลางจากสามบานทั้งหมด ผมขอพี่โดโรเธียย้ายมา เราสามเตียงอยู่ติดกัน
“วิว เช้าแล้ว”
ผมลูบหัววิว เธอลืมตาตื่นกระทันหันเหมือนวีแต่ลุกขึ้นมายืดแขนยืดขาเลย
พวกเราออกกำลังกายกันรอบเตียงและไปออกกำลังกายเช้าและกินข้าวกันวันนี้มันเป็นผัดผักอะไรที่คล้ายผักกาดใส่แคเราะและหมูสามชั้น หมูมันๆคู่ผักฉ่ำๆหวานเคี้ยวกรอบอร่อยนั้นเป็นมื้อที่ดี มันดีที่ผมเพิ่มค่าอาหารของเราให้กับเด็กๆใส่เนื้อเยอะๆ
ผมอาบน้ำถูเซอปุน สบู่แมงกระพรุนปล่อยน้ำของโลกของพวกเรา ไปใส่เสื้อผ้าสุภาพรองเท้าสุภาพ หยิบผ้าปู ถาดเหล็กไร้มลทิน สแตนเลสของโลกพวกเรา เห็นหมายเลขสามกำลังกรอกน้ำราชพฤกษ์ไซรัป ผมจ่ายเธอวันละสองเงินให้กรอกตอนเช้า
เมื่อเธอเสร็จแล้วเดินผ่านผม เธอโบกมือทักทายแล้วก็เข้าบ้านไป ผมเดินไปดูที่ต้นราชพฤกษ์ต่างโลก
มันมีราชพฤกษ์ไซรัปอยู่วันละประมาณเฉลี่ย 21 ขวดทุกเช้าผมหยิบใส่ถุงแล้ววิ่งเหยาะๆไปตลาด
“วันนี้ก็มาแต่เช้าอีกแล้วนะหนู”
“ครับ”
“เขามาเช้าตรู่ตลอดแหละเนาะ”
“ไม่เหนื่อยเหรอหนู”
ผมเดินผ่านพ่อค้าแม่ค้าผู้ทักทายผมอย่างเป็นมิตร และไปที่พื้นที่ว่างกลางตลาด ที่ว่างสำหรับวางถาดมันเป็นแบบสุ่ม มาก่อนได้ก่อน ไม่มีค่าเช่าที่ ผมได้ยินมาว่าตลาดนี้เป็นพื้นที่ของราชา
ผมหันไปดูข้างหลังผม
“สักครู่นะคร้าบ!”
เริ่มมีคนเดินตามผมมาต่อแถวกันประมาณ 50 กว่าคน คนอยู่หน้าๆยิ้มแย้มแจ่มใสดูยิ้มปรี่ดีใจ คนอยู่หลังๆชะโงกชะเง้อดูอย่างใจจดใจจ่อ
ผมกางผ้า วางขวด คำนับ
“20 เงินจ้ายี่สิบเงิน น้ำหวานหอมๆ ไม่มีที่ไหนในโลก ซื้อได้คนละขวดจ้าคนละขวด!”
คนแรกรีบหยิบเงินจากถุงเงิน จากนั้นคนที่สองจ่ายเป็นทอง คนที่สามเตรียมเงินมาพอดี
“วู้วววว วันนี้ฉันได้กิน!”
“คิกๆ” “ชิ ไม่ทันอีกแล้ว อุส่าห์มาทุกวัน”
คนที่สามดูดีใจมาก ผมขายต่อไป ไม่นานมันก็หมด ผมเก็บร้านเดินไปที่ร้านผ้าหน้าตลาดถนนที่วาเนสซ่าเคยรอ เจอแม่ค้าหุ่นนางแบบผมสั้นๆ
“ชุดที่สั่ง กับเบาะหกเบาะ เสร็จรึยังคร้าบ”
“เสร็จแล้วจ้า มันทำยากจริงๆนะนี่”
“เบาะส่งที่บ้านนะครับ ส่วนชุดผมจะเอาไปเลย”
“อื้มได้”
ผมหยิบชุดมาสามชุดที่แม่ค้ายื่นให้มาพาดบ่าไว้ แล้วเดินเข้ากลับไปในตลาดและเดินไปที่ร้านเหล็ก ช่างเหล็กกล้ามแน่นหนวดยาวกำลังบิดห่วงเหล็กไร้มลทิน ตัวเขาเกือบเตี้ย ผมไม่แน่ใจว่าเขาใช่ดวาร์ฟหรือไม่ ถ้าเขาเป็นดวอร์ฟถือว่าเขาตัวสูงมาก
“ชุดด้านในได้แล้วพี่”
“อื้ม วางไว้ที่โต๊ะนั้นแหละ”
ผมวางเสื้อสามตัวไว้ที่โต๊ะด้านหน้า
“แล้วเจอกันพี่”
“อืม”
เขาไม่พูดมากแต่ทำงานหนัก ผมออกมาและวิ่งเหยาะๆกลับบ้าน ผมต้องให้วีกับวิวมาหัดขายสักวัน และผมก็เห็นพวกเธอกำลังซ้อมกัน ผมเปลี่ยนเสื้อ, ใส่กางเกงขาสั้น, และเท้าเปล่า หายใจเข้าลึกๆรับอากาศสดชื่นที่ใหม่สำหรับห้องนี้ เด็กๆในห้องเริ่มตื่นกันประปราย
ผมออกไปฝึกเดินไปดูวีกับวิว วิวกำลังเข้าจับหลังเข่าวี วีกำลังง้างออกแต่ไม่ออก พวกเธองัดกันอยู่ ดาบกับโล่พวกเธออยู่กันบนพื้น
“วีศอกคาง วิวคิดให้เร็วกว่านี้ มีใยนี่!”
วีเอามือซ้ายจับหลังคอวิวแล้วง้างศอกเล็กน้อยกำลังจะฟาด วิวยิงใยลอดใต้หว่างขาวีและทุ่มไปข้างหลังพร้อมดึงตัวไป
วีเปิดตากว้าและลดศูนย์ถ่วงน้ำหนักอย่างเร็ว ใยวิวขาดวิวเลิกเกี่ยวดึงเข่าถีบตัวออกไกล แต่ระหว่างดีดตัวออกวีรีบพุ่งไปแล้วเตะซ้าย
“สวย!”
แต่ก่อนหน้าวิวจะถึงพื้นเธอก็หมัดโค้งข้างซ้ายเล็งใส่ตับวีเหมือนกัน เมื่อวิวลงพื้น พวกแข้งกับแข้งพวกเธอถึงพร้อมกัน
“แยก! เสมอ! อีกครั้ง!”
พวกเธอดีดตัวแยกกัน ตั้งท่าพร้อมหายใจเข้าลึกๆ
“ซื้ดดดด”
“ซื้ดดดด”
“เริ่ม!”
“ชุ่!”
วีข่วนคอวิว วิวถอยไม่ทัน ผมเกือบมองมันไม่ทันเหมือนกัน
“ข่วนคอสวย! แยก!”
“โห่ อีกท่านี้อีกละ”
“คิกๆ”
วิวบ่น วีหัวเราะคิกคัก ดวงตาแสดงความประทับใจในตัวเอง
ผมสลับกับวิว วีก้มไปหยิบดาบ ตั้งท่าพร้อมดาบพาดบ่ายกโล่ขึ้นกัน วีทำเหมือนกัน
“ฟู่ววว”
“ฟู่ววว”
“เริ่ม!”
ผมย่อพุ่งเข่าเข้าแล้วฟันข้าง ผมได้ยินเสียงลมบนหัว เมื่อดาบผมจะถึงเส้นเลือดด้านในต้นขาขวาที่วีก้าวเข้ามาฟันคอผมและเธอก็ต่อยดาบผมหลุด ผมหงายหลังต่อยดาบเธอหลุดตามมา ผมเห็นเธอทิ้งโล่ ผมลังกาหลังหนี และได้ยินเสียงลมตำแหน่งคอเก่าของผม
“พี่อย่าทิ้งโล่ๆ!”
หลังผมได้ยินเสียงวิว ผมพุ่งเข่าเข้าจับสุดต่ำเล็งไปที่เหนือข้อเท้าวี ผมได้ยินเสียงตัดลมข้างบนระหว่างพุ่ง วีน่าจะเล็งข่วนคอผมอีกครั้ง ผมจับข้อเท้าซ้าย
วีเอาเท้าขวาเหยียบหัวผมและกำลังถีบตัวออก ผมเอาท่อนแขนดันเท้าออกแล้วย้ายไปคว้าใต้สะโพกผม ผมยกหมุนเตะล่างเอนทิ้งตัวปล่อย
วีพลิกตัวกลางอากาศในพริบตา เมื่อผมเห็นผมรีบเอาแขนยันพื้นมายืนสี่ขา ผมต้องม้วนหลัง!
“ชุ่!”
ผมรีบดีดตัวม้วนหลัง และเมื่อหลังผมถึงพื้น ผมได้ยินเสียงตัดลมแหลมๆ เธอตบคอผมอีกแล้ว เมื่อเท้าผมยืนพื้นได้ผมพุ่งเข่าเข้าจับ เธอยืนแล้ว ผมง้างจะลงล่าง เธอเตะหน้าผม แล้วผมยกตัวเปลี่ยนไปคว้าหลังกับใต้วงแขน ยกขากัน
*ปึก*
เมื่อเสียงวีเตะแข้งผมดัง ผมรีบวางเท้าแล้วผมยกหมุนเตะงอหลังไปข้างหลัง
วีเตะขาเป็นวงกลมให้ตัวหมุนอยู่กับที่แรงๆ ที่ผมจับอยู่หลุดออก เธอควงสว่านตัวออกจากมันแต่มือผมยังอยู่ใกล้ๆ วีลอยขึ้นฟ้าหัวทิ่มลงล่าง
ผมย้ายไปจับหลังคอและกระโดดตีเข่าหนึ่งสอง เล็งไปที่หน้า วีชักเข่าจะม้วนหลังกลางอากาศแต่ไม่ทัน จากนั้น
“พี่วารี หนึ่งสอง!”
วีเปลี่ยนจากม้วนหลังมาเป็นสองขาถีบหน้า เธอไม่ได้เกร็งอุ้งเท้า มันนุ่มๆ
วีง้างดีดตัวหลุดออกและห่างจากผม ผมพุ่งเข่าเข้าข้างหน้า และเปลี่ยนเป็นเสยคาง
วีกระโดดเตี้ยสลับขาถีบตัวถอยหลังเมื่อขาหลังวางกับพื้นเธอเตะมันใส่คางผมแทบมองไม่ทัน
โอ๊ะ
“คางสวย! แยก!”
“ฟู่วววว”
“ฟู่วววว”
ผมยิ้มให้วี เกาหัวเธอ
“เก่งสุดๆไปเลย คราวหน้าอย่าทิ้งโล่เร็วนักล่ะ”
“มันหนักอ่ะ แต่ขอบคุณนะพี่ หนูนึกว่าจะแพ้แล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถือมันเรื่อยๆ ออกแรงกับมัน วันหนึ่งมันจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอ วี แล้วก็อย่าคิดอย่างนั้น สนุกไปกับมัน”
วียิ้มแล้วจากนั้นครางแบบแมวมีความสุขเบาๆ
ผมไปลูบหัววิวต่อ ขาทั้งแปดเธอย่ำอยู่กับที่ช้าๆ
“สู้ๆนะ มันจะสนุกแน่ๆ”
“ฮิฮิ ได้สิพี่!”
วิวดูมุ่งมั่นเธอกำดาบกับโล่แน่น
มันเป็นสัปดาห์อิสระแรกของยุคตีกันปี 105 ผม 5 ขวบ วีกับวิวก็จะ 5 ขวบปีหน้า เราใช้ต้นปีกันอย่างสนุกสนาน