การเดินทางของผมกับจอม(มาร)ปราชญ์ผู้อยากเที่ยวรอบโลก - ตอนที่ 6 เบาะแสในกำมือ
- Home
- All Mangas
- การเดินทางของผมกับจอม(มาร)ปราชญ์ผู้อยากเที่ยวรอบโลก
- ตอนที่ 6 เบาะแสในกำมือ
แสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านหน้าต่างของโรงแรมขนาดเล็กที่ทั้งสองเข้ามาพัก ลีโอนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ โดยมีแผนที่ที่พวกเขารวบรวมไว้กระจัดกระจายเต็มโต๊ะ อาร์วินยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง เขายังคงนิ่งเงียบขณะกำลังทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
ลีโอก้มหน้ามองบันทึกของเขา ขณะที่เสียงความคิดของเขาก้องอยู่ในห้อง “มันมีอะไรที่เรายังมองไม่เห็นหรือเปล่า…” เขาพึมพำกับตัวเอง
“ทุกสิ่งย่อมมีเหตุและผลในตัวของมันเอง” อาร์วินกว่า “แค่บางครั้ง เราก็ถูกจำกัดไว้ ด้วยข้อจำกัดในการรับรู้ของตนเอง”
ลีโอถอนหายใจเบาๆ “ข้าก็เจอหลายอย่างตั้งแต่เริ่มการเดินทาง ทั้งการโจมตีรถม้า และพวกโจรที่เจอในป่า… เป็นไปได้ไหมว่าเราจะคิดมากไปเอง ทุกอย่างอาจจะเป็นความบังเอิญ หรือมันอาจมีบางอย่างที่เราพลาดไป”
“บางทีเราอาจมองข้ามเบาะแสสำคัญที่อยู่ตรงหน้าเรา” อาร์วินกล่าว พลางหันกลับมามองลีโอ “เราพบศพของโจรป่าเพียงแค่คนเดียว”
เพียงแค่ได้ยินอย่างนั้น ลีโอก็เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก “พวกโจรในป่าที่หนีไป… พวกนั้นน่าจะไปเจออะไรบางอย่าง”
“ใช่แล้ว พวกนั้นคงไม่ได้หนีกระจัดกระจายกันไปเฉยๆ” อาร์วินยิ้มขึ้นมา “หลังจากที่ปะทะกับพวกเราในคืนวันก่อน พวกมันต้องไปรวมตัวกันเพื่อตั้งหลักใหม่ แต่ระหว่างนั้นคงเกิดอะไรขึ้น”
ลีโอนั่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ซากของรถม้า การเผชิญหน้ากับกลุ่มโจร และลีโอนึกถึง บาดแผลประหลาดบนศพที่พวกเขาพบ แผลที่ดูเหมือนจะเกิดจาก อาวุธประหลาดที่เขาไม่สามารถอธิบายได้
“พวกเขาอาจจะเจอกับอะไรบางอย่างระหว่างทางที่หนีไป” ลีโอเอ่ยขึ้นเบาๆ “อาจจะเกิดการปะทะกัน แล้วก็มีคนหนึ่งพลัดหลงและถูกไล่ตามไป จึงมีศพที่เราพบ”
“ข้าเห็นด้วย” อาร์วินกล่าว
“แต่ปัญหาคือ… พวกเขาเป็นโจรนี่แหละ” ลีโอบ่นขึ้น “ไม่ใช่ว่าจะหาตัวได้ง่ายๆ หรือต่อให้เราพยายามถูกปล้นอีกครั้ง ก็คงจะเป็นไปได้ยาก”
“พวกมันกลัวข้ามากจนหนีเตลิดไป” อาร์วินพยายามประติดประต่อเหตุผล “ถ้าจะให้พวกมันมาหาเราเอง ข้าว่าคงไม่มีทาง เราต้องหาพวกมันให้เจอเสียก่อน”
“แต่พวกเขาจะหลบไปที่ไหนกัน?” ลีโอกล่าวเสียงเบา “พวกโจรคงไม่อยาก จะกลับมาปล้นใครอีกพักใหญ่ๆ หลังจากเจอท่านในคืนนั้น”
“จริงของเจ้า… บางทีตอนนั้นข้าน่าจะเล่นแรงไปหน่อย” อาร์วินพูด พลางพิจารณาทางเลือก “แต่พวกมันก็ต้องมีอะไรกิน และต้องมีข้าวของเครื่องใช้ ที่ต้องการ… การปล้นพลาดแค่ครั้งเดียว คงไม่หายนะถึงขนาดทำให้พวกนั้น หมดหนทางมีชีวิตอยู่”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ยิ่งไม่แย่เข้าไปใหญ่หรือไงน่ะ?” ลีโอสงสัยกับแนวคิดที่ว่า “แบบนั้น พวกโจรก็น่าจะอยู่เฉยๆ ได้อีกนานเลย ถ้าพวกนั้นมีวิธีประทังชีพ หาอาหาร หรือว่าเอาชีวิตรอดในป่า”
“ใครบอกล่ะว่าพวกนั้นประทังชีพในป่าได้” อาร์วินหัวเราะในลำคอเล็กน้อย “เจ้าบอกเองนี่ ว่าพวกนอกกฏหมายที่เลือกจะเป็นโจร น่าจะมีทางเลือกน้อยมาก… ถ้าพวกนั้นมีชีวิตด้วยการหลบซ่อนในป่าได้ พวกมันจะมาปล้นนักเดินทางทำไม?”
เหมือนกับว่าคำพูดของอาร์วินจะจุดประกายบางอย่าง ขึ้นในในหัวของลีโอ “นั่นสินะ… พวกนั้นใช้ทั้งอาวุธครบมือ แล้วก็ยังมีคันธนูและลูกธนูอีก ถ้าสามารถทำอุปกรณ์ล่าสัตว์เองได้ ก็ไม่มีเหตุผลให้มาเป็นโจรเลยสักนิด” ลีโอค่อยๆ พิจารณาไปทีละขั้นตอน “แล้วอีกอย่าง ถ้าเป็นโจร ของที่ปล้นมาก็ใช่ว่าจะ เอามาใช้งานได้เองทุกอย่าง ก็จะต้องเอามาขาย เพื่อเปลี่ยนเป็นของที่มีประโยชน์”
“เจ้าคิดว่าพวกนั้นจะทำแบบนั้นที่ไหนได้บ้าง?” อาร์วินค่อยๆ เดินออกมาจากริมหน้าต่าง มายืนอยู่ข้างๆ แผนที่
“พวกโจรแบบนี้มักจะมีเส้นทางลับ ในการเข้าเมือง เพื่อเติมเสบียง หรือขายของที่ปล้นมา ข้าคิดว่าเราควรเริ่มจากจุดนี้” ลีโอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเอาแผนที่บริเวณรอบๆ เมืองลูเมนฟอร์ด มาดูอย่างละเอียด
“ข้าคิดถึงคนหนึ่งที่น่าจะรู้เรื่องนี้ คุณลุงที่ดูแลท่อระบายน้ำ เขาอาจจะรู้เกี่ยวกับเส้นทางที่พวกโจรใช้เข้าสู่เมือง” ลีโอหันกลับขึ้นมา แล้วบอกข้อมูลนี้ให้กับอาร์วิน “ปกติพวกนั้นน่าจะให้สินบน หรือมีข้อตกลงบางอย่าง กับคนที่ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว”
“อืม… น่าสนใจ” อาร์วินตอบพลางยิ้มเบาๆ “ถ้าลุงคนนั้นรู้จริง เราน่าจะตามหาโจรพวกนั้นได้ไม่ยาก”
ทั้งสองมองหน้ากันและเตรียมตัวออกจากโรงแรม ด้วยความหวังว่า การตามล่าครั้งนี้จะนำพวกเขาไปสู่คำตอบที่พวกเขาตามหาอีกสักก้าวหนึ่ง
ทั้งคู่กลับมาที่สำนักงานเก่าๆ ของ ‘กิลด์ของช่าง และหนูในท่อระบายน้ำ’ ลุงที่ดูแลท่อนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้เก่าในห้องสลัวๆ ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์มากมาย และแผนที่ท่อระบายน้ำเก่า เขามองมาทางลีโอและอาร์วิน ด้วยสายตาที่แฝงความระแวงอย่างชัดเจน
“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเจ้าอีก” คุณลุงเอ่ยขึ้นพร้อมถอนหายใจ “เรื่องปีศาจ เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
ลีโอสบตากับอาร์วินก่อนจะตอบ “เราเอากุญแจมาคืนน่ะ เรื่องปีศาจ คงไม่มีมากวนใจท่านอีกแล้วล่ะ”
“เราเผามันไหม้เป็นจุลเลยล่ะ” อาร์วันเสริมขึ้นมา ก่อนจะเรียกลูกไฟเล็กๆ ขึ้นมาในมือเพื่อเพิ่มความหน้าเชื่อถือ
“อืมๆ ดีแล้วล่ะ ข้าจะได้นอนหลับสบายสักที” คุณลุงกล่าวขึ้นมา ก่อนจะรับพวกกุญแจจากมือของลีโอกลับไป “ไม่มีอะไรแล้ว ก็โชคดีนะพ่อหนุ่ม”
“จริงๆ เรามีคำถามเรื่องหนึ่งน่ะ” อาร์วินรีบแทรกก่อนที่คุณลุงจะตัดบท “พอจะรู้ไหมว่าพวกโจร จะใช้เส้นทางไหนเข้าออกที่นี่น่ะ”
ลุงหรี่ตาลงเมื่อได้ยินคำว่า ‘โจร’ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปจากคุณลุงสติเลอะเลือน กลายเป็นอีกคนหนึ่ง “ข้าไม่ยุ่งกับพวกมันหรอก ข้าก็แค่คนดูแลท่อ จะไปเสี่ยงยุ่ง กับพวกโจรป่าข้างนอกนั่นทำไมกัน?”
“ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเป็นโจรป่าข้างนอกน่ะ” อาร์วินฉีกยิ้มกว้าง เขาดูจะสนุกกับการได้หลอกล่อ และจับผิดพิรุธของคุณลุงผู้ดูแลท่อ
“เรื่องนั้น… มัน… ก็…” คุณลุงดูจะกระอักกระอ่วนที่จะพูดต่อ
“คุณลุงรู้ว่าพวกนั้นใช้ท่อระบายน้ำแน่ๆ ใช่ไหมล่ะครับ” ลีโอถามย้ำอีกที “เราต้องการข้อมูลเท่านั้น ลุงไม่ต้องกังวลอะไร อีกอย่าง พวกเราก็ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ของเมืองด้วย”
ลุงลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง “ข้าบอกไม่ได้หรอก พวกมันมีข้อตกลงกับข้า ว่าข้าจะไม่พูดอะไรออกไป” เขากล่าวด้วยเสียงต่ำ ราวกับว่ากลัวใครจะแอบฟังอยู่ “ข้าไม่อยากให้พวกมัน กลับมาหาเรื่องข้าอีก แค่รับเงินของพวกมันมา ก็น่าปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว”
“คุณลุงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก” อาร์วินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เราจะไม่บอกว่าลุงเป็นคนบอกเรา ยังไงซะเราก็เคยลงไปสำรวจข้างล่างนั่น มีคำตอบยที่อธิบายง่ายๆ ว่าพวกเรารู้การเคลื่อนไหวของพวกมันได้อย่างไร”
ลุงยังคงนิ่งเงียบ แต่เขาเริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันจากอาร์วินและลีโอ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจหนักๆ แล้วหยิบแผนที่ท่อระบายน้ำเก่าๆ ขึ้นมาจากโต๊ะ เขาคลี่แผนที่ออกแล้วชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่
“พวกมันใช้ท่อระบายน้ำเส้นนี้” เขาพูดช้าๆ พร้อมชี้ไปยังเส้นทางที่คดเคี้ยว “มันเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำ ที่อยู่ใกล้กับตลาดในเขตทิศตะวันตก ข้างโรงเก็บของ พวกมันมักเข้ามาในเมืองช่วงกลางวันมากกว่ากลางคืน”
ลีโอเลิกคิ้ว “กลางวัน? ทำไมถึงเลือกเวลากลางวัน? ข้านึกว่าปกติพวกโจร จะเลือกเข้ามาเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้ถูกจับตามอง”
“พวกมันไม่ใช่โจรที่ทำงานในเมืองน่ะสิ” ลุงส่ายหัว “พวกมันจะแต่งตัว ให้เหมือนพวกพ่อค้าและนักเดินทางทั่วไป พอเข้ามาในเมืองช่วงกลางวัน พวกมันจะดูไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่มาซื้อของ หรือทำธุระต่างๆ”
“ฉลาดดีนี่… ถ้าไม่ได้จะทำอะไรลับๆ ล่อๆ ในเมือง ก็ไม่จำเป็น ต้องเข้ามาตอนกลางคืน” อาร์วินพยักหน้าเข้าใจ “พวกมันแค่ทำตัว ให้เหมือนคนปกติในเมือง ก็แค่ไม่ได้เข้ามาผ่านประตูหน้า ให้ถูกตรวจสอบได้เท่านั้น”
ลุงพยักหน้าตอบ “ใช่ พวกมันไม่ทำอะไร ที่ดึงดูดความสนใจ พวกมันเข้ามาแค่ซื้อของ หรือเติมเสบียง แล้วก็ออกไปจากเมือง โดยใช้เส้นทางลับในท่อระบายน้ำ”
ลีโอจดจำข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียด “แล้วพวกมันใช้เส้นทางนี้บ่อยแค่ไหน?”
“ตอบยากแฮะ…” ลุงเกาศีรษะ “พวกมันมักจะเข้ามาตามความจำเป็น ประมาณประมาณสามสี่วันครั้งได้ แต่ก็ไมได้เห็นมาสามสี่วันแล้ว… อาจจะต้องเข้ามาอีกในเร็วๆ นี้แหละ”
“ขอบคุณสำหรับข้อมูล ลุงไม่ต้องห่วง เราจะจัดการที่เหลือเอง” อาร์วินกล่าวพร้อมยิ้มบางๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ
ลุงถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะพูดจริงแล้วกันนะ”
ที่เขตทิศตะวันตกของเมือง ตรงทางออกของท่อระบายน้ำที่ลุงบอกไว้ ตำแหน่งนี้อยู่ข้างโรงเก็บของเก่า ซึ่งเป็นบริเวณที่ค่อนข้างเงียบและเปลี่ยว แม้จะใกล้ตลาด แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่เดินผ่านมายังจุดนี้
“ตรงนี้น่าจะเป็นที่เหมาะที่สุด ที่จะดักรอพวกนั้น” ลีโอกล่าวพลางมองไปรอบๆ สถานที่ นี้เป็นอาคารเก่าๆ ลึกเข้ามาในตรอกที่คดเคี้ยว ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่คนทั่วไป ไม่นิยมเดินผ่านไปมานัก
อาร์วินพยักหน้า “ใช่ สถานที่เงียบแบบนี้ไม่มีใครสนใจที่จะมาสังเกตการณ์ และพวกโจรคงเลือกที่แบบนี้ เพราะมันไม่มีใครมาสังเกตเห็นพวกมัน เวลาพวกมันเข้าออก”
ทั้งคู่หลบอยู่ในเงามืดข้างกำแพงโรงเก็บของ พวกเขามองเห็นทางออก ของท่อระบายน้ำที่เชื่อมกับเมือง มันเป็นปากท่อที่ก่อด้วยอิฐ ขนาดใหญ่พอให้คนสองคนเดินผ่านได้ พื้นดินรอบท่อเต็มไปด้วยดินโคลนแฉะๆ
ลีโอรู้สึกถึงความตึงเครียดในอากาศ เขาจับดาบของเขาไว้แน่น มือของเขาเริ่มชื้นด้วยเหงื่อ “ท่านคิดว่าพวกมันจะมาเมื่อไหร่?”
อาร์วินมองไปรอบๆ ด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะยื่นมือมากดด้ามของดาบ ที่เอวลีโอเอาไว้ “ไม่จำเป็นต้องเตรียมอาวุธ อีกอย่าง เราไม่รู้ว่าพวกนั้น จะเข้าหรือออกเมื่อไหร่ ทำตัวสบายๆ”
ลีโอพยักหน้าตอบรับ จริงของอาร์วิน พวกนั้นอาจจะไม่ได้เข้าออกในเร็วๆ นี้ก็ได้
เวลาผ่านไปช้าๆ จากช่วงสายๆ กลายเป็นเที่ยงวัน ก่อนตะวันจะคล้อยลง ไปทางตะวันตกในช่วงบ่าย ทั้งคู่ยังคงเงียบ และซุ่มดูความเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้น ลมพัดผ่านตามซอกอาคารนี้ไป ลีโอเฝ้ามองทุกมุมที่เขาสามารถสังเกตเห็นได้ แต่ที่นี่เงียบสงบเกินไป จนทำให้เขารู้สึกอึดอัด
“ถ้าพวกมันไม่มา…” ลีโอพูดขึ้นเบาๆ แต่ก็หยุดกลางคัน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา
ทั้งคู่เงียบลงทันที และหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของกำแพง ลีโอกลั้นหายใจ รอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ในที่สุด เสียงกระทบของโลหะก็ดังขึ้นจาก ทางท่อระบายน้ำ ทั้งสองหันไปดูและเห็นคนสองคนปรากฏขึ้นจากท่อ ทั้งสองคนแต่งตัวเหมือนนักเดินทางปกติ สะพายกระเป๋าขนาดใหญ่ ที่มีเสียงโลหะสีกันจากข้างในกระเป๋า
ลีโอก้มตัวลงพร้อมกระซิบเบาๆ “พวกมันมาแล้ว”
อาร์วินพยักหน้า และทั้งคู่เริ่มขยับตัวเข้าใกล้พวกโจรอย่างช้าๆ ใช้ความเงียบและความมืดของบริเวณรอบตัวเป็นที่กำบัง ส่วนพวกโจรก็พูดคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับของที่ได้มา
“รอบนี้จะพอไหม?” คนหนึ่งกระซิบขึ้นมา “หวังว่าจะพอนะ”
“อย่าตื่นตูมไปน่า เอาอะไรขายได้ก็ขายไปเถอะ” อีกคนเอ็ดขึ้นมา
ทันทีที่ทั้งคู่เข้ามาใกล้พอ อาร์วินก็เริมทัก “ทิวาสวัสดิ์ บุรุษจากท่อน้ำทั้งสอง”
พวกโจรสะดุ้งและหันมาทันที ““พวกเจ้าเป็นใคร-” คนหนึ่งจับดาบที่ข้างเอว ของเขา ก่อนจะตาเบิกโพลงเมื่อเห็นหน้าอาร์วิน “ชิบหายแล้ว ไอ้นี่มัน!”
“ไม่สำคัญหรอกว่าเราคือใคร” อาร์วินกล่าวเสียงเย็นชา “สิ่งที่สำคัญคือ พวกเจ้าต้องตอบคำถามของเรา”
โจรทั้งสองมองหน้ากันอย่างหวาดกลัว หนึ่งในนั้นพยายามหาทางหนี แต่ลีโอก็ขยับเข้ามาขวางทางไว้ “เดี๋ยวก่อน พี่ชาย… จะไปไหนกันน่ะ?” เขากล่าวพลางชักดาบออกจากฝักอย่างรวดเร็ว “เรายังคุยกันได้อยู่นะ ใช่ไหม?”
หนึ่งในนั้นมองไปที่เพื่อนอีกคน ก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมแพ้ ลีโอมองดูพวกเขาอย่างระแวดระวัง พลางถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “บอกข้ามา เกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่เจ้าหนีไปจากเราเมื่อวานซืน?”
โจรที่ถูกดาบชี้หน้าเอาไว้กลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อน “ข้า… ข้าจะเล่าก็ได้… แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่น่ะสิ”
“ลองเล่ามาก่อนเถอะ” อาร์วินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ทั้งๆ สีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม แต่แฝงไปด้วยความกดดัน ก่อนจะแตะไปที่ไหล่ของโจรคนหนึ่ง ราวกับเพื่อนที่สนิทสนมกัน “ไว้พวกเราจะตัดสินเอง ว่าเชื่อได้ไหมน่ะ”